Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1249
ร่างนั่นมีขนาดไม่ใหญ่ นั่งขัดสมาธิอยู่หน้ากระดูกหน้าผาก แต่กลับสง่างาม เหมือนสือฮ่าวราวกับแกะ แต่เคร่งขรึมและน่ายำเกรงกว่าเขามากโข
เขาเป็นเหมือนเทพเจ้าปฐมกาล และเป็นเหมือนเซียน นิ่งไม่ไหวติง ปากกำลังสวดมนต์ เปล่งแสงสว่างออกมาเส้นแล้วเส้นเล่า เคล้าด้วยหมอกขมุกขมัว
จากนั้น พลังเซียนสามเส้นก็ไหลเวียน ห้อมล้อมร่างที่มีขนาดสูงเท่ากำปั้น ขับให้เขาแลดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม ไม่อาจรุกรานได้
สือฮ่าวดำดิ่งอยู่ในภวังค์สมาธิ วิชาหลอมจิตกำลังสำแดง ทำงานด้วยตัวมันเอง สร้างดวงจิตของเขา ชักนำพลังของผลน้ำพุเหลืองเข้ามา ขัดเกลาพลังจิตของตัวเอง
บทสวดมนต์ลึกลับ ตั้งแต่การหยั่งรู้ดั้งเดิมไปจนถึงวิชาวัฏจักร ค่อยๆ ไหลเวียน ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็กลายเป็นอักษร ประทับตราลงบนร่างนั้นทั้งหมด
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มหัศจรรย์ สือฮ่าวรู้สึกว่าตนกำลังบรรลุ กำลังหยั่งรู้ พลังทั้งหลายไหลผ่านหัวใจของเขา ชัดเจนยิ่งขึ้น เข้าใจลึกซึ้งกว่าเมื่อก่อน
หลายสิ่งหลายอย่างคิดว่าครอบครองมันแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่งพบว่า มันลึกซึ้งได้มากกว่านั้น บัดนี้จิตกำลังยกระดับ ทำให้พลังบรรลุธรรมของเขาก้าวหน้า ขั้นบำเพ็ญเพียรกำลังเพิ่มขึ้น
ไม่คิดว่าจะทำเช่นนี้ได้ด้วย!
นี่เป็นโชคชั้นใหญ่เหนือจินตนาการ แค่ผลน้ำพุเหลืองผลเดียว ก็ทำให้จิตของสือฮ่าวกำลังแข็งแกร่ง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตะลึง
ร่างสูงเท่ากำปั้นลอยอยู่กลางอากาศ นั่งขัดสมาธิอยู่หน้าสือฮ่าว หลุดออกจากร่าง กำลังหยั่งรู้หลักการและกฎเกณฑ์ท่ามกลางธรรมชาติ
เพียงชั่วพริบตา จู่ๆ วิชาหลอมจิตก็หยุดลง มีแค่ร่างนั้นกำลังสวดมนต์ตามสัญชาตญาณ ซึมซับพลังทั้งหลาย!
สือฮ่าวไม่ขยับตัว มีเพียงร่างสูงเท่ากำปั้นที่ก่อตัวจากจิตนั่งอยู่ตรงนั้น แท้จริงแล้วมันคือตัวเขา ตอนนี้เขากำลังสวดมนต์ต่างๆ นานา
แสงสว่างกะพริบแปลบปลาบ เขาจมอยู่ในภาวะประหลาดและอธิบายไม่ได้ ราวกับกำลังเวียนว่ายตายเกิด กำลังผ่านการเกิดใหม่อันยาวนาน เขาอีกคนกำลังเดินมาจากมิติอันเลือนราง จะมีชีวิตอยู่ในภพนี้!
การหยั่งรู้ดั้งเดิมกำลังสำแดง ชัดเจนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ที่ผ่านมาเขาบำเพ็ญเพียรไม่หยุด เมื่อพลังแก่กล้าขึ้นเขาถึงได้เข้าใจ แต่ตอนนี้มันกำลังเชื่อมต่อและบรรจบกัน ลึกล้ำ ลึกซึ้งกว่าที่จินตนาการไว้เสียอีก!
ในอดีตคิดว่าหยั่งรู้อย่างถ่องแท้แล้ว แต่ตอนนี้ดูแล้วยังไม่ถึงแก่นแท้ ห่างไกลมากโข กระทั่งบัดนี้ เขาถึงบรรลุคัมภีร์ม้วนนี้อย่างถ่องแท้!
การหยั่งรู้ดั้งเดิมไม่ใช่เคล็ดวิชา ไม่ใช่วิชาสวรรค์ เป็นวิชาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก หลักการที่ดั้งเดิมที่สุด เมื่อครอบครองมันจึงจะเข้าใกล้แก่นแท้ของจักรวาลแห่งนี้ได้
มันเปลี่ยนความสลับซับซ้อนเป็นสั้นกระชับ ทำให้ทุกความวิเศษก่อตัวเป็นรูปร่างได้ เห็นทุกความลี้ลับเป็นเรียบง่าย
เปลี่ยนซับซ้อนเป็นง่ายดาย หลักการกระชับอย่างยิ่ง!
มันไม่ใช่ปัญหาของการศึกษามันแล้วเข้าใจความหมายของมัน แต่เป็นการเข้าใจความหมายแก่นแท้อย่างแท้จริง ไม่ใช่เข้าใจเชิงอักษร!
ชั่ววินาทีที่จิตใจบรรลุ สือฮ่าวมีความรู้สึกกระจ่างใจพลัน ทุกอย่างชัดเจนปานนั้น เมื่อย้อนกลับไปมองสิ่งที่ตัวเองเคยศึกษา มันไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว
“คัมภีร์ที่ล้ำค่าที่สุด ของที่เลอค่าที่สุดอยู่กับข้าตลอดมา เพียงแค่ไม่เข้าใจอย่างสิ้นเชิงก็เท่านั้น” เขารู้สึกได้
บางทีอาจไม่ใช่แค่เขา ทุกคนในโลกล้วนไม่เคยรู้จักแก่นแท้ของการหยั่งรู้ดั้งเดิม มันทำให้คนคนหนึ่งมองโลก มองพลังทั้งหลายในปฐพีด้วยสายตาที่แตกต่างจากเมื่อก่อนได้
เปลี่ยนเสื่อมโทรมเป็นมหัศจรรย์! ในวันวาน สือฮ่าวเคยสัมผัสได้บางส่วน แต่เมื่อเทียบกับตอนนี้มันเป็นแค่ผิวเผิน!
ตอนนี้เขาเข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่า อะไรคือเปลี่ยนความเสื่อมโทรมเป็นความวิเศษ อักขระที่เรียบง่ายที่สุด สามารถสร้างญาณวิเศษที่อัศจรรย์ที่สุดได้เช่นกัน เคล็ดวิชาที่ธรรมดาก็มีวันที่เปล่งประกายได้เช่นกัน
ไม่มีอักขระที่ไร้ประโยชน์ และไม่มีเคล็ดวิชาที่อานุภาพเบาบาง เพียงแค่ยังไม่ถึงวันเจิดจรัสของมันก็เท่านั้น
แน่นอนว่าหากญาณวิเศษแข็งแกร่งมากพอ จุดเริ่มต้นอาจสูงกว่า
การหยั่งรู้ดั้งเดิมไม่ปฏิเสธญาณวิเศษสูงส่งเช่นวิชาคุนเผิงหรือวิชาจักรพรรดิสายฟ้า มีแต่จะทำให้วิชาเหล่านี้แข็งแกร่งมากขึ้น ขับเคลื่อนด้วยพลังที่ดั้งเดิมที่สุด
“ข้าจะแข็งแกร่งกว่าเดิม!”
สือฮ่าวมีความรู้สึกอย่างหนึ่ง เขามีการหยั่งรู้อย่างลึกซึ้ง ราวกับตื่นจากความฝัน บรรลุธรรมในพริบตา
ก่อนหน้านี้ เขาก็จองหองพองขน คิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในขั้นเทพเจ้า!
จนตอนนี้เขาเพิ่งเข้าใจว่า ตอนนั้นอวดดีเกินไป มีเพียงการเข้าใจอย่างถ่องแท้ ณ ตอนนี้ เขาถึงได้รู้สึกว่าหนึ่งในไม่กี่คนที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว
และเขาเชื่อว่า เคยมีคนศึกษาพลังแบบนี้ แม้จะไม่ผ่านการหยั่งรู้ดั้งเดิม ผ่านวิชาอื่นก็บรรลุได้เช่นกัน ย่อมมีสักวันที่จะตื่นรู้
สำหรับสือฮ่าวแล้ว การหยั่งรู้ดั้งเดิมไม่ใช่คัมภีร์ไร้พ่ายแต่อย่างใด แต่เป็รนคัมภีร์ที่มีประโยชน์มากที่สุด กระตุ้นก้นบึ้งของหัวใจเขา ทำให้เขาบรรลุ
ทุกอย่างกะทันหันเช่นนี้ หลังกินผลน้ำพุเหลืองแล้ว ชั่ววินาทีที่ดวงจิตแก่กล้า และร่ายมนต์นั้น เขาก็อาศัยสิ่งนี้หยั่งรู้แก่นแท้จนถ่องแท้
ผลน้ำพุเหลืองไม่ใช่สิ่งสำคัญ เป็นแค่การกระตุ้น หากไม่มีโชคชั้นใหญ่ในครั้งนี้ สักวันมันก็จะถูกกระตุ้นด้วยสิ่งอื่น
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ประจวบเหมาะ ทำให้เขาหยั่งรู้ล่วงหน้าเท่านั้น สะสมมาเพียงพอแล้ว ขาดเพียงแสงแห่งปัญญาเท่านั้น
ดวงจิตหยั่งรู้ คัมภีร์ส่งเสริม อักขระประทับตราลงบนร่างสูงเท่ากำปั้นมากขึ้นเรื่อยๆ จนเบียดเสียดยัดเยียด ทำให้เขาดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขามมากขึ้น
วิชาหลอมจิตถูกขจัด ตอนนี้ไม่ทำงาน มีแค่สัญชาตญาณของสือฮ่าวที่กำลังสวดมนต์อยู่เท่านั้น
หลังการหยั่งรู้ดั้งเดิมถ่องแท้แล้ว จึงเริ่มสวดวิชาจักรพรรดิสายฟ้า วิชาหกสงสารวัฏ ราวกับเป็นวัฏจักร วนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เหมือนกำลังหมุนเวียน…” กระทั่งสุดท้าย สือฮ่าวเกิดความรู้สึกเหมือนกำลังเกิดใหม่ เคล็ดวิชาหรือวิชาสวรรค์ทุกชนิด เหมือนเคยผ่านการศึกษามาแล้ว เพียงแค่ลืมเลือนไปในชาติก่อนเท่านั้น ตอนนี้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
พลังเซียนที่ห้อมล้อมดวงจิตลอยขึ้นเหนือศีรษะโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นดอกไม้ หนึ่งในนั้นมีสิ่งมีชีวิตอยู่ข้างใน กำลังทำสมาธิ สวดมนต์ เคล้าด้วยชิ้นส่วนของกาลเวลา ไม่ใช่ของภพนี้ ไม่ใช่อนาคต แต่คงอยู่ในอดีตที่ผ่านไปแล้วตลอดกาล
ดอกไม้ที่ก่อตัวจากพลังเซียนสามเส้นของสือฮ่าว มีหนึ่งดอกแตกต่างจากดอกอื่นอย่างสิ้นเชิง มีสิ่งมีชีวิตถือกำเนิดอยู่ข้างใน
มันเหมือนตัวเขา ตัวเขาที่มีชีวิตอยู่ในอดีต วันวานที่ผ่านพ้นไปนานแล้ว
เพียงแค่ตอนนี้มันถูกเชื่อมต่อ เกิดการตอบสนองกับเขา เขารู้สึกถึงวัฏจักร ความรู้สึกเลือนรางเหมือนเขาเคยศึกษาสรรพวิชาในปฐพี ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากสิ่งนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เขาบรรลุการหยั่งรู้ดั้งเดิมเมื่อครู่ ก็เกิดประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในอดีตอย่างใหญ่หลวง
สิ่งมีชีวิตตนนั้นกำลังสวดมนต์ ถูกชิ้นส่วนของกาลเวลาห่อหุ้ม สูงส่งเกินเอื้อม เย้ยหยันเขาในภพนี้อย่างเยือกเย็นและไร้ความรู้สึก
มันทำให้เขาอกสั่นขวัญแขวน มีประสบการณ์ที่ยากจะอธิบายได้ ทั้งหวาดกลัว ตื่นเต้นและรู้สึกแปลกใหม่ หลากหลายเต็มไปหมด
“ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดที่แท้จริง มีเพียงการวิวัฒนาการของแก่นแท้ชีวิตเท่านั้น…” กระทั่งตอนนี้ สือฮ่าวก็ไม่เชื่อทฤษฎีของการเกิดใหม่มากเท่าใดนัก เขากำลังอธิบายด้วยความเข้าใจของตัวเอง
การบรรลุธรรม การหยั่งรู้ขั้นที่ลึกซึ้งเป็นล้นพ้น!
นี่เป็นการเก็บเกี่ยวที่ใหญ่ที่สุดของสือฮ่าวในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดอกไม้เชื่อมต่อกับดวงจิต ศึกษาความหมายของธรรมนับพับนับหมื่นอย่างต่อเนื่อง สัมผัสความผันแปรอันโชกโชน ว่อกแว่กเพียงเสี้ยววินาที ราวกับผ่านไปแล้วนับร้อยชาติ วิเศษเหลือเกิน
อักขระนานาชนิดกระเพื่อมเหนือดวงจิตของสือฮ่าว
แต่ท้ายที่สุด มันเหลือเพียงหนึ่งบทที่สำคัญที่สุด ซึ่งก็คือการหยั่งรู้ดั้งเดิม กลายเป็นธาตุแท้ สิ่งอื่นเป็นเพียงเครื่องประดับ ลอยอยู่ข้างบน
สรรพวิชาผ่านไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงความดั้งเดิมเท่านั้นที่แท้จริงยิ่ง!
กระทั่งสุดท้าย การหยั่งรู้ดั้งเดิมกลายเป็นอักขระที่ซับซ้อนที่สุด ลอยลงมาจากดวงจิต ประทับลงบนดอกไม้ที่มีสิ่งมีชีวิตลึกลับอาศัยอยู่
อักขระเหล่านี้จะสลักลงบนกายของสิ่งมีชีวิตตนนั้น
จากนั้น ญาณวิเศษชนิดอื่นก็สว่างไสวขึ้นมา ไม่ใช่แค่ปรากฏขึ้นบนผิวกาย แต่มันเริ่มสลักลงในดวงจิต กระทั่งสุด้ทายก็หลุดร่วง ลอยไปประทับตราลงบนดอกไม้ที่อยู่ตรงกลางเหล่านั้น
“เอ๊ะ?” สือฮ่าวประหลาดใจ เขาตื่นจากภวังค์แล้ว
การวิวัฒนาการอันวิเศษ สิ่งหนึ่งเป็นอดีต อีกสิ่งเป็นปัจจุบันหรือ? ดอกไม้สองดอกให้ความหมายที่ต่างกัน
ส่วนคัมภีร์พวกนั้นก็กำลังละทิ้งด้วยความเจาะจงหรือ?
สือฮ่าวรู้สึกเหมือนตนคว้าอะไรบางอย่างไว้ได้ แต่ก็พลาดอะไรบางอย่างไป น่าเสียดายที่เขาตื่นจากภวังค์แล้ว ทุกอย่างสิ้นสุดลง อันตรธานหายไปแล้ว
ไม่รู้ว่าครั้งหน้าต่อไปหากเข้าสู่สภาวะนี้อีก ต้องรอถึงเมื่อใด
การเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ เขาเข้าใจการหยั่งรู้ดั้งเดิมอย่างถ่องแท้ นี่เป็นธาตุแท้!
“ดอกไม้อีกสองดอกจะให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตเมื่อใด? บางทีเมื่อถึงตอนนั้น ทุกอย่างจะแปรเปลี่ยนเป็นชัดเจน ข้าก็จะสำเร็จ!” สือฮ่าวพึมพำ
นี่เป็นสัญชาตญาณของเขา เป็นนิมิตอย่างหนึ่ง
เขารู้สึกว่าขั้นตอนเมื่อครู่เป็นแค่การวิวัฒนาการบางอย่าง ไม่ใช่ทั้งหมด มีเพียงการหยั่งรู้ดั้งเดิมและสิ่งมีชีวิตที่เหมือนดำรงอยู่ในอดีตประสานเป็นหนึ่งถึงจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์
วิชาอื่นและดอกไม้อีกสองดอกยังไม่สมบูรณ์
ตอนนี้เสียงสวดมนต์หยุดลงแล้ว และวิชาหลอมจิตเริ่มทำงาน ทำจิตให้แข็งแกร่ง ดูดซึมประโยชน์จากผลน้ำพุเหลืองต่อไป
เป็นเช่นเดียวกับตอนที่อยู่หน้าต้นไผ่พ้นภัย การเก็บเกี่ยวของสือฮ่าวไม่ใช่ยาขั้นเทพ แต่เป็นการหยั่งรู้อันอัศจรรย์!
ตอนนั้น เขาบำเพ็ญเพียรจนเกิดเค้าโครงของเส้นทาง และเข้าใจการหยั่งรู้ดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิงที่นี่ ซ้ำยังเชื่อมต่อกับสิ่งมีชีวิตในดอกไม้ ประหนึ่งวนเวียนอยู่ในวัฏจักร
“ข้าแข็งแกร่งขึ้นแล้ว!”
สือฮ่าวรู้สึกถึงความวิเศษของการหยั่งรู้ดั้งเดิมได้อย่างถ่องแท้ รู้สึกว่าควบคุมวิชาทั้งหลายได้ตามใจชอบ ราบรื่นกว่าเมื่อก่อน สามารถสำแดงอานุภาพที่เกินจินตนาการได้
เขารู้สึกว่า หากออกไปต่อสู้กับคนอื่นในขั้นเทพสวรรค์ตอนนี้ มันต้องวิเศษมากเป็นแน่ ไม่เป็นอันตราย เขาปรารถนาอยากจะทดลองผลสำเร็จของตนยิ่งนัก
เพียงแต่ว่า เขายังไปไม่ได้
ต่อมา ผลน้ำพุเหลืองก็สำแดงอานุภาพที่พึงมี ดวงจิตของสือฮ่าวกำลังแปรสภาพ!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด เขาสะลึมสะลือ ดวงจิตกำลังแข็งแกร่ง เสมือนจมดิ่งอยู่ในภวังค์
แต่ทว่า ความเย็นเยียบในเวลาต่อมาทำให้เขาสะดุ้งตื่นจากภวังค์
ชั่ววินาทีที่ลืมตา เขาก็เห็นแม่น้ำสีทองเคล้าด้วยพลังความตาย พลังชีวิตดับสูญ หลั่งไหลยังเส้นขอบฟ้าอันกว้างใหญ่และเวิ้งว้าง
รอบข้างเต็มไปด้วยศพ ไม่รู้ว่ามีมากเท่าใด กระจัดกระจายเป็นแผ่นดินกระดูกอันน่ากลัว ล้วนเป็นกระดูกเก่าแก่ แทบจะกลายเป็นผุยผงแล้ว
มันทำให้สือฮ่าวประหวั่นพรั่นพรึง เกิดอะไรขึ้น ที่นี่ที่ใด?
“ผลน้ำพุเหลือง…”
เขากระจ่างใจในพริบตา รู้ทันทีว่า ทำให้ผลไม้ชนิดนี้ถึงมีชื่อนี้ มันมีเหตุผลของมัน!
ผลน้ำพุเหลืองที่ดูศักดิ์สิทธิ์ สาดแสงสว่างในตอนแรก เขามองข้ามธาตุแท้ไป เห็นเพียงด้านที่สว่างไสวของมัน กระทั่งตอนนี้เขาเพิ่งตื่นรู้ว่ามันคือผลน้ำพุเหลือง
ณ ปลายทางของแม่น้ำสีเหลือง มีหน้าผาขนาดใหญ่ ข้างล่างมีภูเขาไฟใหญ่โตมหึมา ปากปล่องดำสนิท ราวกับขุมนรก
น้ำไหลลงไปข้างล่างอย่างเงียบเชียบ
มันคือนรกหรือ? ข้างในมีอะไร เสมือนสือฮ่าวได้ยินเสียงปีศาจกำลังคำราม และมีภูตผีมากเหลือคณานับกำลังดิ้นรน
ประหลาดยิ่งนัก เดิมทีปลายทางของแม่น้ำอยู่ไกลแสนไกล แต่ตอนนี้สือฮ่าวกลับมองเห็นหน้าผา เห็นขุมนรกกลางปล่องภูเขาไฟ
………………………………………………………………………………………………………………