Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1292
เปรี้ยง!
สายฟ้ากลางฟ้าดินน่ากลัวเกินไป มันระเบิดข้างๆ พวกเขา มิติถล่ม จักรวาลขาดสะบั้น อานุภาพรุนแรงยิ่งกว่าหายนะสวรรค์เสียอีก
สายฟ้าเส้นใหญ่พวกนั้น แต่ละเส้นเป็นเหมือนทางช้างเผือก พุ่งตรงมาจากจุดที่ลึกที่สุดของฟากฟ้า กระจายอยู่ทั่ว แสบตาจนน้ำตากลายเป็นสายเลือด
“จะบ้าตาย นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน เรามาโผล่ที่นี่ได้อย่างไร!” มดน้อยตะโกนลั่น หนวดของมันสั่นไหว เนื้อตัวเย็นวาบ เย็นไปถึงหัวใจ
สือฮ่าวเองก็ตัวชา ที่นี่อันตราย ห้ามเข้าใกล้ รู้สึกหวาดผวาเช่นนี้ตั้งแต่บริเวณรอบนอก หากบุกเข้าไปตรงกลางคงต้องดับสูญทั้งกายและจิตเป็นแน่
แม้สือฮ่าวจะมีความมั่นใจ แต่หลังมาถึงที่นี่ สัญชาตญาณก็บอกเขาว่า แม้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งอย่างยิ่ง แต่พลังยังไม่อาจต้านทานได้เมื่ออยู่ที่นี่
หากถูกสายฟ้าฟาด คงจะกลายเป็นไอเลือดในพริบตา!
“อ๊าก…ไม่นะ!” มดน้อยร้องลั่น มันดิ้นรนสุดกำลัง สำแดงญาณวิเศษที่รุนแรงที่สุดของเผ่าพันธุ์ พลังสะเทือนฟ้าดิน พลิกจักรวาลได้
เพียงแต่ว่า มีขอบเขตไร้รูปร่างกำลังแผ่กระจาย จะขจัดแรงต่อต้านของพวกเขา ทำให้ตอบโต้ไม่ได้
มิติกำลังบิดเบี้ยว เวลากำลังหมุนเวียน ชิ้นส่วนแห่งกาลเวลากำลังเบ่งบานดุจดอกไม้ ทำลายพลังทั้งปวงได้
โชคดีเพียงประการเดียวคือ ยามสายฟ้าเทกระหน่ำลงมา แม้จะทรงพลัง ปลิดชีพบุคคลสะเทือนโลกาได้ แต่ไม่โดนตัวพวกเขา ราวกับมีพลังประหลาดบางอย่างผลักออกไปโดยไม่รู้ตัว
พลังกาลเวลาอันหนาแน่น ความผันผวนของเวลา เป็นดั่งมหาสมุทร กระเพื่อมอยู่ข้างหน้า หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเส้นทางเหนือจินตนาการ ไม่รู้ว่าไปโผล่ที่ไหน!
“รีบคิดหาวิธี มิเช่นนั้นพวกเราต้องตายแน่!” มดน้อยหวั่นวิตก มันยังไม่เจริญวัย เพิ่งออกมาเผชิญโลกกว้างก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำให้หวาดผวาเสียแล้ว
ชิ้ง!
สือฮ่าวยกมือซ้ายขึ้น มีโซ่สีทองหลายสิบเส้นพุ่งออกจากฝ่ามือ ลอยออกไปไกลประหนึ่งใยแมงมุม จะพันรอบเกาะที่อยู่ไกลออกไป
มันเป็นวิชาของเทพหลิว เสียดายที่ใช้ไม่ได้ผลที่นี่ ราวกับท้องฟ้าทั้งผืนจะถล่มลงมา ทำให้โซ่สีทองหม่นหมอง บดขยี้เกาะนั่นจนแหลกละเอียด
“ทลายสิ!” มดน้อยร้องเสียงหลง มันตวัดหมัด ใช้เคล็ดวิชาสุดยอดพลังของเผ่าพันธุ์อย่างต่อเนื่อง อยากทำลายพันธนาการ โจมตีทุกอย่างให้พินาศ
“ผลุบ!”
มันถูกแว้งกัด ทำให้กระอักเลือด สายฟ้ากะพริบแปลบปลาบ ไม่ฟาดลงบนเรือวิญญาณ แต่มีพลังน่ากลัวแผ่มา ประดุจจักรวาลพินาศ ผืนฟ้าถล่ม จะทำลายล้างสรรพสิ่ง
“ทลาย!”
สือฮ่าวตะโกนเสียงดัง ใช้ญาณวิเศษของตัวเอง สำแดงวิชาวัฏจักร แฝงด้วยชิ้นส่วนของกาลเวลา มันเกี่ยวข้องกับพลังของเวลา
แต่ยามไม่ใช้ยังดี เมื่อใช้กลับทำให้พวกเขาเหาะเหินได้รวดเร็วมากขึ้น พลังลี้ลับอันน่ากลัวกระชากพวกเขากับเรือวิญญาณเข้าไปในกระแสวนแห่งนั้นทันที!
“มันเรื่องอะไรกันแน่ คนอื่นนั่งเรือก็ไปถึงป่าหินทะเลเหนืออะไรนั่นได้โดยตรง ทำไมพวกเราเคราะห์ร้ายแบบนี้!” มดน้อยสีทองโอดครวญ
สือฮ่าวเองก็กำลังครุ่นคิด ไยจึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?
หลายคนเคยพึ่งเรือวิญญาณ ไม่เคยมีเหตุไม่คาดฝันอะไรเกิดขึ้น ทำไมพวกเขาถึงประสบกับเรื่องแบบนี้?
“หรือเป็นเพราะเจ้าเป็นทายาทของมดเขาสวรรค์ แตะต้องพลังบางอย่างเข้า ทำให้พวกเราถูกพันธนาการ จะถูกลากเข้าไปในเส้นทางของกาลเวลา?” สือฮ่าวคาดเดาเช่นนี้
“เกี่ยวอะไรกับข้า ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ากฎเกณฑ์แยกแยะสายเลือด ต้องมีของต้องห้ามบางอย่างกระตุ้นเส้นทางแห่งกาลเวลาของที่นี่แน่นอน!” มดน้อยสีทองโวยวาย
สือฮ่าวขมวดคิ้ว แท้ที่จริงแล้วเขาก็เคยคาดเดาเช่นนี้เหมือนกัน แต่แค่อาวุธบางอย่างก็ทำให้เกิดปรากฏการณ์น่ากลัวเช่นนี้ได้เชียวหรือ?
หากคิดใคร่ครวญล่ะก็ ของต้องห้ามบนตัวเขาก็มีหลายชิ้นจริงๆ ยืนยันได้ยากว่าเป็นของชิ้นไหนกันแน่
ฟิ้ว!
คลื่นทะเลซัดมา คลื่นลูกใหญ่นับพันลูกพุ่งสูงขึ้นฟ้า คลื่นแบบนี้สามารถซัดภูเขาให้ถล่ม ก้อนเมฆบนฟ้าแตกทลาย สะเทือนขวัญยิ่งนัก
แน่นอนว่า แต่ก็ไม่อาจแตะต้องยอดเขา ทุ่งหญ้าที่ตั้งกลับหัวอยู่บนฟากฟ้าได้
เพียงแต่ว่าน้ำทะเลก็ท่วมท้นพระอาทิตย์เจิดจ้าที่เกิดจากอีกาทองบนผิวน้ำ สาดแสงสีทองท่ามกลางละอองน้ำ ยังคงสว่างไสวเช่นเดิม
“เร็วเข้า จวนต้านทานไม่ไหวแล้ว!” แม้มดน้อยจะกระจ้อยร่อย แต่พลังจิตน่าตะลึงยิ่งนัก แต่ตอนนี้กลับมีเลือดซึมออกจากหน้าผาก
ยิ่งเข้าใกล้เส้นทางแห่งกาลเวลา แรงกดดันก็ยิ่งทวีความรุนแรง เสมือนคมดาบของกาลเวลาทิ่มแทงดวงจิตของพวกเขา
สือฮ่าวก็กังวลขึ้นมาแล้ว เพราะใกล้เหลือเกิน จวนจะเข้าไปในเส้นทางแห่งกาลเวลาแล้ว หากหลุดเข้าไปแล้วจริงๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าจะไปโผล่ที่ไหน!
ตูม!
สายฟ้ากะพริบแปลบปลาบ เขาเสกชุดเกราะจักรพรรดิสายฟ้าออกมาก่อน แม้จะผุพังจนเต็มไปด้วยรูพรุน สนิมเขรอะ แต่ตอนนี้กลับคืนชีพทันทีเมื่อถูกสายฟ้าส่องสะท้อน เสมือนเซียนโบราณองค์หนึ่งคืนชีพ บ้าระห่ำอย่างที่สุด สาดแสงออกมาอย่างไม่สิ้นสุด
“เจ้านี่ เอาชุดเกราะปีศาจอะไรมา เกิดจากเจ้านี้หรือเปล่า?” มดน้อยดิ้นรน มันรู้สึกถึงอันตราย หากชักนำสายฟ้าบนฟ้าลงมา ต้องถูกฟาดจนดำเกรียมแน่นอน
สายฟ้าแบบนี้อยู่เหนือขั้นธรรมปลอม ต่อให้ผู้สูงส่งมาก็คงจะถูกย่างจนเกรียม ต้านทานไม่ไหว!
แต่ทว่า หลังชุดเกราะจักรพรรดิสายฟ้าเปล่งแสงชั่วครู่ ก็มอดดับลงอีกครั้ง ไม่ทำปฏิกิริยากับเส้นทางแห่งกาลเวลาแต่อย่างใด
“ชิ้ง!”
จากนั้น สือฮ่าวก็นำการหยั่งรู้ดั้งเดิมออกมา ถือภาพหมื่นเทพเจ้าไว้ในมือ กระดูกสีขาวเกลี้ยงเกลา แม้จะไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่เกิดปฏิกิริยากับปรากฏการณ์ของที่นี่
เคร้ง!
จากนั้น สือฮ่าวก็เสกกระบี่เล่มหนึ่งออกมา ตอนแรกมันหม่นหมอง แลดูธรรมดา แต่หลังฉาบแสงสายฟ้าแล้ว มันก็ส่งเสียงดังเคร้ง จะพุ่งออกไปแล้ว ปล่อยลำแสงกระบี่เจิดจ้า!
ตอนนี้กระบี่เซียนต้าหลัว จิตสังหารหนาแน่นเหลือเกิน ลำแสงหลั่งไหล มันไม่เคยกระหายเลือด เต็มไปด้วยจิตสังหารเช่นนี้มาก่อน แทบจะทำลายล้างปฐพีแล้ว!
ตูม!
กระบี่ขยับ สิ่งที่ปล่อยออกมาไม่เหมือนลำแสงกระบี่แล้ว แต่เหมือนภูเขาที่พุ่งทะลุฟ้า โผล่พรวดพราดมา บดขยี้ผืนฟ้า
สือฮ่าวตะลึงงัน จากนั้นเนื้อตัวก็เย็นเยียบ เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า กระบี่เล่มนี้จะมีพลังทำลายล้างสูงและน่ากลัวปานนี้ เป็นเพราะถูกพลังบริเวณนี้กระตุ้นงั้นหรือ?
หมอกสีเลือดแผ่กระจาย ปกคลุมท้องทะเลในพริบตา
ชั่ววินาทีนี้ สือฮ่าวรู้สึกคันจมูก เพราะเขาได้กลิ่นคาวเลือดฉุนจมูก ล้วนเกิดจากกระบี่เล่มนี้ ราวกับจะกวาดล้างสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในปฐพี!
มันทั้งพิลึกและน่ากลัวเหลือเกิน!
ตอนนี้ เขาอยากทิ้งกระบี่เล่มนี้ยิ่งนัก มันแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างมาก แสงที่สาดออกมาจากกระบี่ยังคงเจิดจ้า แต่นอกรัศมีของกระบี่สามเซี๊ยะ ซึ่งก็คือห่างจากตัวสือฮ่าว ทุกที่แดงฉาน เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
“มันคือกระบี่อะไร ทำไมลี้ลับเช่นนี้?” มดน้อยทั้งตกใจและหวาดกลัว มันสับสนงุนงง ของที่อยู่กับเจ้าคนตรงหน้านี้ทำไมถึงมีพลังชั่วร้ายถึงปานนี้
กระบี่ไม่สุขสงบ เห็นได้ชัดว่ากำลังต่อสู้กับพลังลึกลับที่นี่ ต่อให้กาลเวลาหนุนนำ ก็จะฟาดฟัน สาดแสงสว่างท่วมท้นผืนฟ้า!
แต่สุดท้ายมันก็ค่อยๆ สงบลง เพราะชิ้นส่วนของกาลเวลากับสายฟ้าไม่ทำปฏิกิริยากับมัน ไม่ปะทะกันอีกต่อไป
“ยังคงไม่ใช่ มันใช่ของบนตัวข้าจริงๆ หรือ?” สือฮ่าวเหลืออดแล้ว
เขานำเกล็ดแผ่นหนึ่งออกมา มันยาวหนึ่งเซี๊ยะกว่า มีอานุภาพมังกร นี่เป็นของที่เขานำออกมาจากเรือสีดำเปื้อนเลือดที่ลอยอยู่ในมิติ ตอนที่เขาตามล่าเหตุการณ์ไม่คาดฝัน!
“พลังมังกร!” มดน้อยหรี่ตาลงด้วยความตกใจ
ยังคงไม่ใช่สิ่งนี้ ยังไม่สามารถสยบพลังแห่งกาลเวลาได้
อาวุธมากมายลอยขึ้นรอบตัวสือฮ่าวในพริบตา เขาคุ้ยของทุกชิ้นออกมาจนหมดแล้ว กองสุมเป็นภูเขา
แต่ตอนนี้มันสายไปเสียแล้ว พลังมหาศาลลากพวกเขา พุ่งเข้าไปในเส้นทางนั้นอย่างไม่อาจต้านทานได้ สายฟ้ากะพริบ กาลเวลาไหลเวียน
ยังไม่ได้สัมผัสอย่างแท้จริง ก็ทำให้จิตใจสั่นไหว เกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว
เวลาผันผ่าน เสมือนติดอยู่ข้างใน เพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปสิบล้านปีแล้ว มันเป็นประตูแห่งกาลเวลา เมื่อตกลงไปไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะไปโผล่ที่ไหน
ไม่มีใครอธิบายได้ว่า ประตูบานนี้โผล่มาได้อย่างไร เพราะตั้งแต่อดีตมามีอยู่ไม่กี่ตัวอย่าง ต่างก็เป็นปริศนาที่แก้ไม่ออก!
และตอนนี้ สือฮ่าวกำลังจะเผชิญกับมันแล้ว จะประสบกับปริศนาโบราณที่ไม่มีทางไขได้แล้วอย่างแท้จริง!
“อ๊าก ไม่นะ ข้ายังไม่อยากตาย ข้ายังไม่โตเป็นหนุ่ม ยังไม่ได้แต่งงาน ยังไม่ได้ให้กำเนิดทายาทไร้พ่ายให้แก่เผ่าพันธุ์ของเรา อย่าเอาข้าไป มดเขาสวรรค์จะสูญพันธุ์ไม่ได้!” มดน้อยร้องลั่น ดิ้นพล่านอยู่ตรงนั้น พยายามต่อต้านสุดชีวิต
สือฮ่าวก็กลัวขึ้นมาแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจะไปไหน หากย้อนกลับไปยังปฐมกาล หรือเข้าสู่ยุคที่แล้ว มันจะเป็นเรื่องน่าเศร้า ต้องตัดความสัมพันธ์กับยุคนี้จนหมดสิ้น!
ตอนนี้ สือฮ่าวสับสนวุ่นวายใจ คิดไปต่างๆ นานา เส้นทางนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกันแน่?
เป็นฝีมือมนุษย์ หรือก่อตัวจากธรรมชาติ หากเป็นฝีมือมนุษย์ มันต้องเป็นพลังที่น่ากลัวปานใดกัน จะมีสักกี่คนที่มีอานุภาพปานนี้?
หากเกิดจากธรรมชาติ ต้องใช้เงื่อนไขอะไรบ้าง ถึงทำให้ก่อตัวขึ้นมาได้?
“อ๊าก…”
หนึ่งคนหนึ่งมดร้องลั่น เพราะชนกับม่านแสง จะปะทะกับพลังของสายฟ้าและกาลเวลา หลุดเข้าไปในเส้นทางนั้นแล้ว
ปัง!
ฟ้าดินสั่นสะเทือน คลื่นกระทบฟ้า!
ตอนนี้ แสงสว่างปกคลุมทุกสิ่ง มองไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงคลื่นกับเวลาที่ไหลเวียน ถูกพลังแห่งกาลเวลาแผ่คลุม
เกิดเหตุการณ์อันน่าตะลึงขึ้นที่นี่!
เส้นทางแยกออก สายฟ้าแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ไม่ฟาดทั้งสองคนแต่อย่างใด สือฮ่าวกับมดน้อยหลุดเข้าไปในเส้นทางแล้ว
เพียงเสี้ยววินาที เขาก็รู้สึกถึงการกัดกร่อนของกาลเวลา เสมือนร่างกายแก่ชราแล้วหลายหมื่นปี รู้สึกเหมือนแก่เฒ่า ถูกรัศมีฉาบทับ
“ข้าไม่อยากแก่ตาย ในเมื่อเข้ามาแล้ว ก็รีบส่งพวกข้าไปเถอะ!” มดน้อยแผดเสียง
สือฮ่าวก็กำลังต่อสู้ แต่เป็นเหมือนเม็ดทรายที่ตกลงสู่มหาสมุทร พลังของเขาน้อยเหลือเกิน รอบตัวเต็มไปด้วยดวงดาวขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนไหว
“ไม่นะ!” ทั้งสองร้องลั่น
ตึง!
เกิดเสียงทุ้มดังขึ้น ตามมาด้วยแสงสว่าง ทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตร พวกเขารู้สึกเหมือนอ่อนเยาว์ลงแล้ว สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี
ขณะเดียวกัน สือฮ่าวก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาเห็นเรือกระดาษหลายลำ กำลังลอยเข้ามาใกล้ ต่างก็เปื้อนเลือด มีตัวอักษรเขียนไว้ ลอยล่องในเส้นทางแห่งกาลเวลา
“เหลือข้าเพียงผู้เดียวแล้ว…”
ยังคงเป็นอักษรที่คุ้นเคยในตอนนั้น และเรือกระดาษที่เหมือนกันไม่มีผิด
เปรี้ยง!
สายฟ้าสะเทือนปฐพีฟาดลงมา พร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้า มีร่างปรากฏขึ้น กำลังใกล้เข้ามา อาภรณ์พลิ้วไหว สง่างามยิ่งนัก นางกำลังเข้ามาใกล้แล้ว!