Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1287
ความเสียดายของมดเขาสวรรค์ ไม่บรรลุเป็นกายอมตะ มิเช่นนั้น จุดจบของเขาอาจไม่ใช่แบบนี้ก็ได้
แต่แม้จะฝึกคัมภีร์อมตะ บรรลุขั้นสุดยอด มีประสิทธิภาพเช่นนั้นจริงหรือไม่ก็ยังไม่รู้ มันชวนให้สงสัย เพราะผลลัพธ์น่าเหลือเชื่อเกินไป
ไม่ว่าร่างกายจะถูกฟันอย่างไรก็ไม่เป็นไร อยู่ยงคงกระพัน อยู่เหนือขอบเขตที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ เช่นนั้นมันจะแข็งแรงยิ่งกว่าทองคำเซียนไม่ใช่หรือ?
ตีรันฟันแทงไม่เข้า สรรพวิชารุกรานไม่ได้ ดำรงอยู่คู่ปฐพี แม้กระทั่งว่าดวงดาวดับสูญ เจ้าก็จะคงอยู่ตลอดไป!
กายเนื้อกลายเป็นแหล่งกำเนิด สามารถหล่อเลี้ยงดวงจิตในอดีตได้ มันเป็นการคืนชีพอันน่าเหลือเชื่อ หรืออาจเรียกว่าเป็นการฟื้นคืนดวงจิตก็ได้!
ร่องรอยบางอย่างประทับลงในใจสือฮ่าวอย่างลึกซึ้งเป็นล้นพ้น ประเมินไม่ได้
ตอนนี้ เขารู้แล้วว่าทำไมมดเขาสวรรค์ถึงไม่สวดมนต์อมตะออกมาโดยตรง เพราะมดเขาสวรรค์สงสัยว่า อาจมีข้อผิดพลาดอยู่ อยากให้คนรุ่นหลังไปแสวงด้วยตัวเอง
หากมีวาสนา จะได้คัมภีร์ฉบับสมบูรณ์มาครอง เมื่อถึงตอนนั้น บางทีอาจสร้างตำนาน บุกเบิกเรื่องเล่าอันเป็นอมตะได้!
สือฮ่าวตกตะลึง คัมภีร์เล่มนี้มีอายุยาวนานเหลือเกิน เก่าแก่ถึงขั้นที่มดเขาสวรรค์ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เขียน แม้กระทั่งไม่รู้ว่ามาจากคนในยุคเซียนโบราณหรือไม่
เพราะอักษรมีความพิเศษอย่างมาก ขอเพียงหยั่งรู้ธรรมลึกซึ้งมากพอก็จะเข้าใจ สามารถใช้ได้ทุกยุคสมัย!
หมื่นวิชารวมเป็นหนึ่ง ร้อยเส้นทางบรรจบเป็นหนึ่ง ทุกเส้นทางเมื่อถึงปลายทาง มันล้วนเชื่อมต่อกัน เป็นเช่นเดียวกันในท้ายที่สุด!
มันน่าเหลือเชื่อมาก แต่กลับเป็นความจริง หากกล่าวตามข้อมูลที่มดเขาสวรรค์ให้ ไม่ว่าใครเดินไปถึงปลายทางก็จะค้นหาความเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน
“ผู้อาวุโส ต้องทำให้มันได้สติหรือไม่ ทักทายมันหน่อยไหม?” สือฮ่าวสงบสติอารมณ์ พูดกับมดเขาสวรรค์ พลางมองลูกชายของเขา
“ไม่ล่ะ ข้าตายไปแล้ว เป็นเพียงกระแสจิต รังแต่จะทำให้มันเศร้าเสียใจ ลูกข้าจะร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ได้ ข้าจะให้มันผงาดง้ำค้ำฟ้า ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง แบกฟ้าไว้ทั้งผืนได้ด้วยตัวมันเองในวันหน้า!” มดเขาสวรรค์ปฏิเสธ ผิดแผกไปจากคนอื่น
สือฮ่าวเงียบงัน บางทีนี่แหละจอมราชัน บางครั้งลักษณะนิสัยของบุคคลสูงส่งก็เข้มงวด เลือดเย็นจนเกินรับได้
สิ่งพวกเขาให้ความสำคัญคือความผิดชอบชั่วดี ไม่มีความสมบูรณ์แบบทางด้านความรู้สึกส่วนตัวมากนัก และเป็นเพราะเหตุนี้เอง จึงมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ลาก่อน หลังหายไปครั้งนี้ บางทีอาจไม่ได้พบกันตลอดกาล!” มดเขาสวรรค์พูดจบ ก็กลายเป็นดวงไฟสีทอง พุ่งหายไปในคราบหัวมด
หัวมดสีทองหม่นหมอง ซ้ำยังมีรอยร้าวเส้นเล้นปรากฎขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน
มดเขาสวรรค์ทิ้งกระแสจิตไว้ จำต้องทุ่มเทมหาศาล ต้องใช้พลังปราณภายในร่างกาย
มันทำให้สือฮ่าวฉุกคิด ผู้ดำรงอยู่ที่เคยเย้ยหยันจักรวาลท่านนี้ ทิ้งกระแสจิตไว้เพื่ออะไร หรือยังมีความปรารถนา ไม่อยากดับสูญไปตลอดกาลหรือ?
ใจของเขากระตุก แววตาเป็นประกาย ครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาทันใด
“ควรตื่นได้แล้ว!” เขาตะโกนเสียงดัง อยากปลุกมดน้อยสีทองให้ตื่น
มดสีทองตัวใหญ่ปานขุนเขา นัยน์ตาแดงก่ำ ขาดสติ ดิ้นขลุกขลักอยู่ตรงนั้น นี่มันจะทำลายสรรพสิ่ง ทำลายล้างทุกสิ่งมีชีวิตชัดๆ
ตอนนี้หากร่างมหึมาขยับเพียงแผ่วเบา จะทำให้มิติแหลกละเอียด รอยแยกสีดำลุกลามไปทั่วทุกหนแห่ง
นี่แหละมดเขาสวรรค์ เมื่อคลุ้มคลั่ง ต่อให้ยังไม่เจริญวัย ก็มีอานุภาพสะเทือนปฐพีเช่นกัน!
เห็นได้ชัดว่า มันมีศักยภาพอันไม่สิ้นสุด มันไม่ใช่ทายาทเลือดไม่บริสุทธิ์อะไรเลย แต่เป็นทายาทของสิบอสูรขนานแท้ พรสวรรค์สะเทือนประวัติศาสตร์
“อ๊าก!”
เล็บสีทองตะปบลงมา มันไม่ได้สติ แต่กลับคลุ้มคลั่ง โจมตีสือฮ่าว
“ปัง!”
สือฮ่าวไม่กล้าบุ่มบ่าม กระตุ้นการหยั่งรู้ดั้งเดิม รอบกายถูกแสงสีเขียวห้อมล้อม กายเนื้อเจิดจ้า ยกมือแล้วยื่นออกไปปะทะกับมัน
ที่นี่ราวกับสายฟ้าฟาด ไม่ใช่แค่มิติที่แหลกละเอียด ยังทำให้วิญญาณสั่นสะท้านอีกด้วย!
“ยุ่งยากไม่น้อยเลย” สือฮ่าวขมวดคิ้ว เพราะนี่ไม่ใช่ร่างจริงของเขา เป็นเพียงดวงจิต ยากจะสำแดงเดชได้
ชิ้ง!
เขาควบภาพหมื่นเทพเจ้าออกจากที่นี่ จากนั้นกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว ยืนอยู่ข้างนอก รอมดน้อยตามมา
เป็นอย่างที่คิด ร่างสีทองมโหฬารไล่ตามออกมา แผ่นดินสั่นสะเทือน มันแผ่กลิ่นอายเฉพาะตัวของมดเขาสวรรค์ ทำเอาทหารเก่าทั้งหลายในถ้ำตกใจ
แกรก!
เขาบนหัวของมันเปล่งแสง ทำลายสรรพสิ่ง หมอกพุ่งออกมาพร้อมกับอักขระจำนวนมาก ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า มันเป็นเขาเซียนที่บดขยี้จักรวาลได้
สือฮ่าวพุ่งเข้ามาดังตึง ครั้งนี้เขาประสานอิน สำแดงวิชาคุนเผิง กำราบมดน้อย ต่างก็เป็นพลังของสิบอสูร
ท่ามกลางการประมืออันดุเดือด ร่างมหึมาก็ถูกสือฮ่าวกำราบให้อยู่ใต้อาณัติ จากนั้นเขาก็สยบสุดกำลัง มดน้อยคำรามในคอ หดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง กลับสู่สภาพเดิม
“ข้าเป็นอะไรไป เจ้าพบคัมภีร์อมตะแล้วหรือ?” มันได้สติกลับคืนมาแล้ว
“มีเบาะแสแล้ว แต่ไม่อยู่ที่นี่ ต้องไปค้นหา เจ้ายอมไปกับข้าไหม?” สือฮ่าวถาม ไม่เอ่ยถึงพ่อของมัน ไม่อยากให้มันเสียใจ
“เจ้าอยากหลอกให้ข้าตามเจ้าไปใช่ไหม?” มดน้อยสีทองนัยน์ตาลุกวาว ท่าทางลับๆ ล่อๆ เจ้าเล่ห์ ความหมายของมันคือ ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก
“ไปไม่ไปก็แล้วแต่เจ้า!” สือฮ่าวหันหลังจากไปทันที
“เดี๋ยวก่อน เจ้าได้เบาะแสของคัมภีร์อมตะจริงหรือ ข้าจะบอกให้นะ มันเป็นตำราประจำตระกูลข้า เจ้าจะเก็บไว้เองไม่ได้!” มดน้อยโวยวาย
“งั้นเจ้าไปกับข้าเถอะ เจ้ากลัวข้าทำร้ายเจ้าหรือ?” สือฮ่าวยิ้ม
“ขอข้าคิดดูก่อน!” มดน้อยขบคิด รู้สึกว่าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ผู้กล้าไม่มีทางเติบโตได้ในเรือนกระจกได้ ทหารเก่าทั้งหลายบอกเขาเสมอว่าอนาคตโหดเหี้ยมปานใด สงครามจะโหดร้ายอย่างไร หากตอนนี้ไม่ออกไปเปิดหูเปิดตา เมื่อวันนั้นมาถึง มันต้องเสียเปรียบเป็นแน่
“ได้ ข้าจะไป ออกไปท่องโลกคาวโลกีย์ที่ว่า ดูความวิเศษของยุคสักหน่อย มิเช่นนั้นคงจะพินาศสิ้นแน่” มดน้อยพูด
ยามทั้งสองเดินออกมา หลายคนก็พากันชะเง้อมอง นัยน์ตาเป็นประกาย อยากกลืนพวกเขาลงท้องเสีย
“ได้…คัมภีร์อมตะหรือไม่?” เฉาอวี่เซิงกลืนน้ำลาย พลางกระซิบถาม
ไม่นานเขาก็แก้ว่า “ไม่ได้แน่นอน ทุกคนเลิกคิดไปได้เลย รีบไปเสียเถอะ อย่าเพ่งเล็งเช่นนี้เลย”
เพราะเขากลัวว่าทุกคนจะลุกฮือขึ้นมาโจมตี เพราะมีผู้สูงส่งหลายคน หากร่วมมือกันขึ้นมาล่ะก็ ใครจะรับมือได้?
ไม่มีใครปริปาก พวกหลานเซียน อวี่หง มหาโสดาและเทพจื่อรื่อต่างก็มองสือฮ่าวกับมดสีทองตัวนั้น หมายอยากจับพิรุธอะไรจากใบหน้าของพวกเขา
นอกภูเขามีหมอกกระเพื่อม แต่ตอนนี้มันไม่เป็นมงคลแต่อย่างใด มีรังสีอำมหิตกำลังตลบอบอวล
“ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ข้าไม่เจอคัมภีร์ในถ้ำ” สือฮ่าวพูดอย่างซื่อตรง
คนที่อยู่ข้างหน้าพวกนั้นไม่พูดไม่จา ไม่แสดงท่าทีอะไร ยังคงจ้องเขากับมดน้อยไม่วางตา
เฉาอวี่เซิง ปีศาจสาว ฉางกงเหยี่ยนกับชาวสำนักเทพสวรรค์พากันรุมล้อมเขา เพื่อร่วมสู้กับเขา
“ไม่ต้องทำเช่นนี้” สือฮ่าวส่ายหน้า จากนั้นก็ก้าวออกไป มองผู้สูงส่งเหล่านั้น แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าคนนี้พูดคำไหนคำนั้น ไม่ปิดบัง หากพวกเจ้าไม่เชื่อ พวกเจ้าก็คิดเสียว่าข้าได้คัมภีร์อมตะแล้ว ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ ใครกล้าเข้ามาชิงบ้าง?”
เพียงชั่วพริบตา พวกคนสำนักเทพสวรรค์ที่อยู่ข้างหลังก็เบิกตากว้าง เลือดพลุ่งพล่าน รู้สึกว่าเลือดลมเดินสะดวก ตื่นเต้นยิ่งนัก
ฮวงอหังการอย่างแท้จริง แข็งกร้าวปานนี้ ไม่เสียเวลาอธิบายแต่อย่างใด แต่วางท่าบ่งบอกว่าใครไม่พอใจก็เข้ามา
ช่วงนี้ สำนักเทพสวรรค์กล้ำกลืนฝืนทนมาตลอด ถูกคนรังแกถึงถิ่น แต่กลับทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับ ต่างก็อัดอั้นตันใจ
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร อยากท้าทายอำนาจของพวกเราทุกคนหรือ?” มีคนถามเสียงแข็ง
“เจ้าไม่พอใจหรือ? เข้ามา!” สือฮ่าวชี้หน้า ให้เขารับคำท้า ซ้ำยังเคลื่อนตัวแล้ว พุ่งเข้าใกล้ประชิด จะเป็นฝ่ายลงมือ
“ช่างเถอะ พวกข้าเชื่อ” มหาโสดาเอ่ย คลี่คลายการต่อสู้ที่จวนจะปะทุ
“สหายสืออย่าทำเช่นนี้เลย สักวันเราย่อมต้องได้ร่วมมือกัน ไม่ใช่ศัตรู อย่าได้เข่นฆ่ากันเลย” หลานเซียนยิ้มบางๆ
สือฮ่าวนิ่งเฉย ไม่พูดอะไร ก่อนหน้านี้คนพวกนี้ยังลงมือกับเขา กลับคำได้เร็วเสียจริง แต่เขาก็ไม่อยากแตกหักเช่นกัน
“ไป!”
สือฮ่าวเดินออกไป ผู้คนของสำนักเทพสวรรค์ก็ตามกันไป เหล่าผู้สูงส่งไม่มีใครขวาง ปล่อยให้พวกเขาจากไป
“ต๋อม!”
ต่อมาไม่นาน คนกลุ่มหนึ่งก็กระโดดลงทะเลสาบ ที่นี่มีไอน้ำขมุกขมัว กระจายไปทั่ว
“นี่ก็เป็นอ่างอาบน้ำของข้าเช่นกัน ข้างในมียาขั้นเทพหลายต้น” มดสีทองพูด มีหนอนบ่อนไส้เช่นมันนำทาง ช่างเป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวง
น่าเสียดาย มีแค่ยอดเขาสองลูกที่เปิด หนึ่งเป็นที่อยู่ของมดเขาสวรรค์ ซึ่งก็คือที่ซึ่งพวกเขาไปมาเมื่อครู่
ในเมืองมีภูเขาทั้งหมดเก้าลูก ลูกที่สองก็คือที่นี่ อยู่ติดกับทะเลสาบ
น่าเสียดายอย่างยิ่ง จุดลึกของบริเวณนี้อนุญาตให้สิ่งมีชีวิตเข้าไปแค่ตนเดียว นั่นก็คือกิเลนขาว มันเป็นทายาทสิบอสูร
เหล่าทหารเก่าบอกตั้งนานแล้วว่า ใต้เท้ากิเลนทิ้งของบางอย่างไว้ที่นี่ ควรให้ทายาทของมัน คนอื่นแย่งชิงไม่ได้
ส่วนภูเขาอีกเจ็ดลูก บางแห่งว่างเปล่า บางแห่งพิลึก มีค่ายกลวิถีเซียน ไม่ว่าใครก็บุกเข้าไปไม่ได้
เรื่องราวของยอดเขาทั้งเจ็ดนั้น เหล่าทหารเก่าพูดไว้คลุมเครือ ไม่บอกชัดว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ไม่แนะนำให้คนไปแสวงโชคที่นั่น
มรดกราชันเซียนที่ว่า จะมอบให้ทายาทที่สืบสายเลือดเซียนโบราณเท่านั้น!
“เอ๊ะ บ่อโคลนนี่ประหลาดนัก ทำให้หนังหลุดลอกได้ แทบจะถอดรูปแปลงร่างแล้ว” มีคนพบสถานที่วิเศษ อยู่ไม่ห่างจากทะเลสาบ
“ตอนนั้น มียาอายุวัฒนะเติบโตที่นั่น แถมยังมียาขั้นเทพนานาชนิด เป็นสวนสมุนไพร เคยมีสมุนไพรมากมายเน่าเปื่อย แปรสภาพของดิน แม้จะกลายเป็นโคลน แต่ก็มีประสิทธิภาพอันน่าตกใจ” ทหารเก่าคนหนึ่งพูด
ทันใดนั้น พวกเฉาอวี่เซิง เจินกู่กับเถิงยีก็พุ่งตัวออกไป ไม่แยแสภาพลักษณ์ เริ่มใช้โคลนป้ายตามตัว
ไม่พูดไม่ได้ว่า ที่นี่มีสรรพคุณวิเศษ หลายคนหนังกำพร้าหลุดลอก เผยให้เห็นผิวหนังใหม่เอี่ยมทันที
สุดท้าย แม้แต่นักพรตหญิงก็อดรนทนไม่ไหว พุ่งตัวออกไปแล้ว
นอกจากนี้ พวกหลานเซียน เทพจื่อรื่อกับหวางซี ลวี่ถัว องค์หญิงเยาเยว่ที่ตามมาทีหลังก็พากันเคลื่อนไหว จำนวนคนมากขึ้นเรื่อยๆ
สือฮ่าวก็ลองดูเช่นกัน พบว่าไม่เกิดผลมากนัก เพราะในสามปีที่เขาแปรสภาพ กายเนื้อถูกขัดเกลาจนวิปริตผิดคนไปแล้ว
ท้ายที่สุด ขณะที่ทุกคนสรวลเสเฮฮา สือฮ่าวก็ทักทายเหล่าทหารเก่า ขอให้พวกเขาช่วยดูแลคนของสำนักเทพสวรรค์ จากนั้นก็พามดน้อยไปจากที่นี่
เขาหันหลังให้ดินแดนโบราณที่มีมรดกของราชันเซียนอย่างเด็ดเดี่ยว ขึ้นมาบนผืนดินพร้อมกับมดเขาสวรรค์!
“จะไปไหน จะได้คัมภีร์อมตะจริงหรือ?” มดสีทองร้อนรุ่มในใจ ตื่นเต้นยิ่งนัก
“แน่นอน ซ้ำยังเป็นคัมภีร์อมตะฉบับสมบูรณ์ แต่ต้องอันตรายเป็นแน่!” สือฮ่าวตอบ