Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1285
เห็นกะโหลกกับเลือดที่นองเต็มพื้น สือฮ่าวจะไม่กลัวได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ผิวหนังของเขาเริ่มปริแตกแล้ว แม้แต่กระดูกก็หัก ที่นี่มีพลังน่ากลัวอย่างหนึ่ง มันบาดผิวกาย ทำลายจิต!
ผู้กล้าสูงส่งคืออะไร ก็คือเมื่อตายไปแล้ว เขายังคงมีอิทธิพลกว้างไกล เลือดและกระดูกของเขา แม้กระทั่งว่าขนก็ของเขาก็สามารถปลิดชีพได้ ทำให้ผู้กล้ารุ่นหลังแทบหยุดหายใจ!
สือฮ่าวมองกะโหลกขนาดใหญ่ด้วยความตะลึง ตัวแข็งทื่อไปแล้ว ไม่ขยับเขยื้อน ผิวหนังแตกระแหง มีเลือดซึมออกมา
“นี่มัน…ใต้เท้ามดเขาสวรรค์จริงหรือ?” เขาพึมพำราวกับละเมอ
หัวมดเป็นสีทองเจิดจ้า ประหนึ่งหลอมจากทองคำเซียน ผ่านไปหลายล้านปีแล้ว ยังคงเปล่งประกาย ลำแสงเป็นเส้นๆ แทบจะทิ่มแทงร่างกายมนุษย์จนพรุนแล้ว
มดเขาสวรรค์ ถูกขนานนามว่าสูงส่ง ไยถึงตายได้อนาถปานนี้? มันมีพละกำลังเหนือกว่ามังกรเสียอีก แต่กลับถูกบั่นคอ!
สือฮ่าวขนพองวสยองเกล้า เขามองเลือดสีทองบนพื้น จากนั้นก็มองเกล็ด ขนนกและเขาที่อยู่ไกลออกไป ยิ่งรู้สึกจิตใจสั่นไหวยิ่งกว่าเดิม
สงครามในวันนั้นโหดเหี้ยมเหลือเกิน!
รบกันถึงขั้นนี้ นี่เป็นจุดจบของการพินาศร่วมกันหรือ?
คราบเลือดพวกนี้ล้วนไม่ธรรมดา แฝงด้วยพลังอันน่าตะลึง เคล้าด้วยพลังเซียน ต่างก็มาจากบุคคลที่มีขั้นบำเพ็ญแก่กล้าทั้งนั้น
“นี่ เจ้าทำหน้าอะไรของเจ้า พ่อข้าน่าเวทนาปานนั้นเชียวหรือ?” มดสีทองตัวเท่านิ้วโป้งโวยวายด้วยความไม่พอใจ
“เจ้ามันลูกหลานทรพี เห็นผู้ใหญ่ตายอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่เสียใจเลยสักนิด?” สือฮ่าวยื่นมือออกไปแล้วคีบมันขึ้นมาทันที
มดน้อยสีทองดิ้นขลุกขลักด้วยความโมโห
หากเป็นคนอื่น จะคีบมันขึ้นมาได้ง่ายดายแบบนี้หรือ อย่าเห็นว่ามันตัวจิ๋ว มีพละกำลังมหาศาล ทำให้นิ้วมือของคนหักได้ทันที
แต่ตอนนี้มันกลับถูกสือฮ่าวพันธนาการ ดิ้นไม่หลุด น่าอายเหลือเกิน
“ปล่อยข้า ถ้าหากเป็นศพของพ่อข้า ข้าจะไม่เสียใจได้อย่างไร!” มดน้อยตะโกนลั่น
สือฮ่าวชะงัก จากนั้นก็ปล่อยมัน
มดน้อยสีทองเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ ซัดหมัดใส่เขาอย่างแรง ปรากฏว่าลมพัดกรรโชก มิติแยก ตัวกระจ้อยร่อยแต่มีอานุภาพถึงเพียงนี้ น่าตะลึงเหลือเกิน
“นี่เป็นแค่เปลือกของพ่อข้า ไม่ใช่ร่างจริง!” มดน้อยพูดอย่างโมโห
สือฮ่าวแปลกใจ มดก็ลอกคราบได้เช่นเดียวกับงูหรือ? เขาไม่รู้จริงๆ
แต่นี่เป็นมดเขาสวรรค์ ไม่ใช่มดทั่วไป แม้จะพิเศษแต่ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ บางทีอาจเป็นแมลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้!
เขาฝืนความเจ็บปวดของร่างกาย เดินไปข้างหน้า วนรอบกะโหลกนั่นหนึ่งรอบ พบว่าข้างในกลวง เป็นแค่เปลือกจริงๆ
“ไม่ใช่ร่างของมดเขาสวรรค์ แล้วใต้เท้าล่ะ?” สือฮ่าวถาม
“ตายแล้ว ดับสูญทั้งกายจิต ไม่ดำรงอยู่อีกต่อไป” มดน้อยพึมพำ ไม่ร้องไห้ ไม่เศร้าเสียใจ มีเพียงความหดหู่และสลดใจเท่านั้น
ตามที่มดน้อยกล่าว มดเขาสวรรค์ต้านทานศัตรูไว้ได้จำนวนมาก สู้กับข้าศึกเพียงลำพัง ประมือกับบุคคลขั้นสุดยอดของอีกฝ่ายอย่างไร้เทียมทาน
สุดท้ายก็สู้ศัตรูไม่ได้ หลังฆ่าบุคคลขั้นสุดยอดของต่างแดนไปจำนวนมากแล้ว ด้วยความที่บาดเจ็บสาหัส จึงตกลงไปในหุบเหวแห่งความตาย
ก่อนเขาจะสูญเสียพลังชีวิต ได้พาศัตรูจำนวนมากร่วมตายไปพร้อมกัน!
“ใต้เท้าท่านนี้น่านับถือนัก สุดท้ายก็ต้องมาตายในสมรภูมิรบ” สือฮ่าวถอนหายใจ
ไม่ต้องคิดมาก และไม่ต้องบรรยายสงครามในตอนนั้น เพราะสามารถสัมผัสได้ถึงภาพโลกาวินาศได้จากที่นี่ เลือดคงนองพสุธา กระดูกกองเป็นภูเขาเป็นแน่ มดเขาสวรรค์สู้รบกับศัตรู สะเทือนประวัติศาสตร์!
“ท่านลากร่างมา ไม่ได้ตายทันที กระเสือกกระสนจนถึงช่วงแรกของยุคนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นเถ้าธุลี” มดน้อยพึมพำ
มันทำให้สือฮ่าวตกใจอย่างมาก ใต้เท้ามดเขาสวรรค์ยืนหยัดมาถึงยุคนี้หรือ?
แต่ทว่าช่างน่าเวทนาเหลือเกิน ตอนสิ้นชีพนั้นอนาถสิ้นดี วิญญาณไม่ได้ลอยล่อง แต่กลายเป็นเลือดข้นก่อน จากนั้นลุกไหม้จนเป็นเถ้าถ่าน มันต้องทรมานขนาดไหนกัน?
นี่เป็นถึงผู้กล้าสูงส่งที่เคยศึกษาคัมภีร์อมตะ แต่สุดท้ายกลับตกอยู่ในสภาพแบบนี้!
สาเหตุสำคัญเป็นเพราะ มันบาดเจ็บสาหัสเหลือเกิน ตอนนั้นทำให้เกิดความร้ายแรงอย่างหาที่สุดมิได้ ถูกบุคคลยิ่งใหญ่ของต่างแดนทะลวงจุดสำคัญและดวงจิตอย่างต่อเนื่อง
น่าสงสารและน่าเวทนา!
มดเขาสวรรค์มีกายเนื้อไร้เทียมทาน พละกำลังมหาศาล สุดท้ายแม้แต่ร่างก็ไม่เหลือ
หากกล่าวตามตำนานของคัมภีร์อมตะ มันน่าจะยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์ มิเช่นนั้น คงไม่ปิดฉากแบบนี้
“ที่จริงแล้ว ท่านพ่ออยู่ได้นานกว่านี้ และไม่มีทางตายอย่างทรมานแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะช่วยข้า” มดน้อยน้ำตาไหลเงียบๆ
แม้จะไม่ได้สะอึกสะอื้น แต่ความเศร้าแบบนี้กลับดูน่าอาดูรยิ่งนัก มันเสียใจเหลือเกิน
ตอนนั้นแม่ของมันตายในสนามรบ พี่น้องหลายตัวก็ถูกสังหาร ส่วนมันในตอนนั้นยังอยู่ในท้องแม่ ได้รับบาดเจ็บปางตาย
เผ่าพันธุ์มดเขาสวรรค์ เห็นได้ชัดว่ามีข้อแตกต่างทางกายภาพจากมดชนิดอื่น วิธีกำเนิด การเจริญเจิบโตย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หากไม่ใช่เพราะมดเขาสวรรค์เหนือธรรมชาติ มันไม่มีทางรอด คงตายไปนานแล้ว
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ ก็อาศัยพลังปราณสุดท้ายของพ่อมัน เปลี่ยนแปลงชะตาให้มัน สุดท้ายจึงถือกำเนิด
“เจ้าเคยเห็นท่านไหม?” สือฮ่าวถาม
“ไม่เคย ก่อนที่ข้าจะเกิด ท่านก็ตายไปนานแล้ว กลายเป็นเลือดข้น มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน ทหารเก่าเหล่านั้นเป็นคนบอกทุกเรื่องกับข้า” มดน้อยเช็ดน้ำตา
สือฮ่าวไม่รู้จะปลอบอย่างไร ความรักของบิดายิ่งใหญ่ แม้จะไม่เคยเห็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง แต่มดเขาสวรรค์ก็ทุ่มเทมากพอแล้ว ใช้เลือดของตัวเองชุบชีวิตลูก แม้จะไม่ได้พบกันครั้งสุดท้ายก็ตาม
ขณะเดียวกัน สือฮ่าวก็สงสัย ในเมื่อมดเขาสวรรค์อยู่มาถึงยุคนี้ ทำไมไม่ทิ้งคัมภีร์อมตะไว้เล่า?
เขาพูดข้อสงสัยประการนี้ออกมา มดน้อยเอียงหัวครุ่นคิดแล้วพูดว่า “คงจะมีแค่สาเหตุเดียวคือ ข้ายังแข็งแกร่งไม่มากพอ จึงไม่มีทางได้มรดกมาครอง!”
ต่อมา สือฮ่าวกับมดน้อยก็พลิกแผ่นดินค้นหาที่นี่ อยากพบเจอเบาะแส คัมภีร์อมตะดึงดูดคนเหลือเกิน แม้แต่สือฮ่าวก็ไม่อาจสงบจิตสงบใจได้
เมื่ออยู่ที่นี่ สือฮ่าวต้องอดทนต่อความเจ็บปวด เลือดชุ่มโชก มันเป็นเพราะถูกพลังที่นี่ยับยั้ง!
เขาอดชื่นชมไม่ได้ มดเขาสวรรค์แค่ลอกคราบยังทำได้ขนาดนี้ หากตัวจริงโผล่มา จะน่ากลัวปานใด?
แน่นอนว่า ไม่ได้เป็นเพราะแบบนี้ทั้งหมด ยังมีเลือด เศษกระดูก ขนและเขาของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นอีก ของเหล่านี้กระจายกระจายเกลื่อนพื้น ทำให้ที่นี่เป็นดุจขุมนรก
เมื่อเทียบกันแล้ว มดเขาสวรรค์ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะตัวมันมีกลิ่นอายของมดเขาสวรรค์ ได้รับการคุ้มครองจากเปลือกชิ้นนั้น
“นี่หรือพลังวิถีเซียน? ต่อให้เป็นแค่ควันหลง พลังส่วนใหญ่จางหายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ขน แต่กลับส่งผลกระทบต่อข้าได้ถึงเพียงนี้!” สือฮ่าวถอนหายใจ
สาเหตุหลักก็เป็นเพราะที่นี่มีความอาฆาต มีรังสีอำมหิตรวมตัวกัน ไม่เป็นมงคล จึงทำได้เขาได้รับผลกระทบ
พวกเขาค้นหาทุกซอกทุกมุม แต่ก็ไม่เจอเบาะแสของคัมภีร์อมตะ ไม่มีอะไรเลย สือฮ่าวเจ็บใจนัก แต่ก็จนปัญญา
สุดท้าย เขาก็หันเหความสนใจไปที่เขาและขนนกพวกนั้น อยากรวบรวมเพื่อหลอมอาวุธ
“ข้าว่าเจ้าอย่าฝันละเมอไปเลย พลังปราณของพวกมันถูกทหารเก่าใช้ค่ายกลขับออกมา ใช้ขัดเกลาร่างกายข้าไปแล้ว เพราะพรสวรรค์ของข้าไม่เพียงพอ จำต้องหล่อเลี้ยง” มดน้อยพูด
สือฮ่าวหมดคำพูด วัตถุล้ำค่ามากมายปานนี้ ล้วนเป็นของวิเศษสูงส่ง แต่กลับไม่มีประโยชน์เลยหรือ?
“ที่เหลือมีแค่รังสีอำมหิต ของที่นำออกมาได้มีไม่มากแล้ว” เมื่อพูดถึงตรงนี้ มดน้อยก็ชี้ขนนกสีเทาเส้นหนึ่งด้วยท่าทีหวาดระแวง “โน่น คงจะเหลือแค่เส้นนี้ที่ใช้ได้ เจ้าเก็บไปได้”
ขนนกงั้นหรือ?!
สีหน้าของสือฮ่าวบูดบึ้ง แต่สุดท้ายก็ลงไปสัมผัส พบว่ามีแค่มันที่ไร้รังสีอำมหิต แตะต้องได้ เมื่อหยิบมันขึ้นมาก็เบาหวิว ไม่หนักเลยสักนิด
เขาสะบัดเบาๆ ปรากฏว่ามิติไม่แตก ยามกระตุ้นพลังพบว่าไม่เปล่งประกาย ไม่ปล่อยอักขระ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
“ช่างเถอะ เก็บไว้ก่อน ตอนนั้นข้าอยากทำพัดห้าปักษา แต่กลับเสียเวลามาถึงป่านนี้ เมื่อถึงตอนนั้นลองใช้เส้นนี้ดูด้วยดีกว่า” สือฮ่าวพึมพำ
ไม่เจอคัมภีร์อมตะ สือฮ่าวคิดว่าไม่มีเหตุผล ใต้เท้ามดเขาสวรรค์จะไม่ดูแลลูกตัวเอง ไม่เก็บคัมภีร์ไว้ให้มันเล่า
“บางทีเมื่อข้าเจริญวัย ยิ่งใหญ่มากพอ จึงจะเปิดผนึกบางอย่างได้ และหาคัมภีร์เจอ” มดสีทองพูด
“ไม่มีเวลาแล้ว เจ้าเกิดช้าไป หากไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะก็ กองทัพต่างแดนจะมาแล้ว พวกเราต้องรีบยิ่งใหญ่ให้เร็วที่สุด” สือฮ่าวพูด
เมื่อพูดถึงต่างแดน นัยน์ตาของมดน้อยก็เปี่ยมด้วยความแค้น แดงก่ำจนน่าตกใจ พ่อของมัน แม่ของมัน ทั้งพี่ชายและน้องสาวของมัน ต่างก็ตายในสมรภูมิรบ คับแค้นใจอย่างมหันต์
“เจ้าทำอะไรสักอย่างได้ไหม ให้ตัวเองแข็งแกร่ง กระตุ้นสักหน่อย ลองดู” สือฮ่าวแนะนำ
“เคยลองดูแล้ว แต่การกระทำแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่พลังในตอนนี้ของข้าจะควบคุมได้ ข้าจะขาดสติ และที่นี่จะน่ากลัวอย่างยิ่ง แม้แต่ทหารเก่าเหล่านั้นก็เข้าใกล้ไม่ได้ ไม่มีใครเข้าประชิดได้ ภายใต้สภาพที่ข้าไม่มีสติ ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น” มดน้อยหน้าม่อยคอตก
“ไม่เป็นไร เจ้าลองดูอีกสักครั้ง ข้าจะเฝ้าระวังให้” สือฮ่าวพูด
“ไม่ได้ ร่างของเจ้าจะถูกฉีก แข็งแกร่งอย่างผู้สูงส่งก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ อันตรายมาก ทหารเก่าเหล่านั้นกลายร่างเป็นหุ่น สู้ก่อนตายไม่ได้แล้ว พวกเขาก็ยังต้านทานไม่ไหว”
“ร่างจริงของข้าจะถอยออกไป ทิ้งไว้เพียงดวงจิต อยู่ในของชิ้นดี คงจะไม่มีปัญหา” สือฮ่าวดึงดัน
เขานำภาพหมื่นเทพเจ้าของการหยั่งรู้ดั้งเดิมออกมา กระดูกขาวแวววาว ตอนนั้นมันสามารถต่อกรกับเขาที่สงสัยว่าจะเป็นของมดเขาสวรรค์ในมือชายลึกลับคนนั้น!
สุดท้ายเมื่อหารือกันแล้ว สือฮ่าวก็ถอยไป ดวงจิตเข้าไปในภาพหมื่นเทพเจ้า เฝ้าอยู่ที่นี่
ดวงตาของมดน้อยสีทองแววโรจน์ เนื้อตัวเปล่งแสง แสงทองโชติช่วง จากนั้นร่างกายก็ขยายใหญ่อย่างรวดเร็ว
อ๊าก!
เสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน สือฮ่าวที่อยู่บนภาพหมื่นเทพเจ้าตะลึงงัน มดน้อยไม่ได้มีขนาดเท่าเม็ดถั่วแล้ว ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่ากลัว
มันมีขนาดสูงปานภูเขาในพริบตา ยังคงเป็นสีทอง เป็นดุจขุนเขาบรรพกาล ตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น!
พลังตอนนี้ ต้องรับมือกับพวกมหาโสดา นักพรตชีกู้ได้แน่นอน ความสามารถยิ่งใหญ่จนน่ากลัว
ต้องรู้ว่า มดน้อยในตอนนี้ยังไม่เจริญวัย!
มันใช้พละกำลังเกินตัวหรือ?
ตอนนี้ นัยน์ตาของมันแดงก่ำ บ้าระห่ำอย่างสิ้นเชิง คำรามอยู่ตรงนั้น แผ่กลิ่นอายที่มีเฉพาะในมดเขาสวรรค์ แถมยังมีพลังอหังการอีกด้วย!
ตูม!
ตอนนี้ กะโหลกบนพื้น หรือจะเรียกว่าเปลือกก็ได้ มันสั่นระริกขึ้นมาทันที จากนั้นก็แผ่พลังอมตะ ม้วนตัวไปทั่วจักรวาล!
ตอนนี้ เศษกระดูก เลือดและขนบนพื้นเหล่านั้นต่างก็ระเบิด มีบางส่วนถึงขั้นแหลกละเอียด ไม่มีอะไรต้านทานได้
สือฮ่าวตะลึงงัน มันเป็นพลังแบบไหนกัน ต้องรู้ว่าพวกมันเป็นถึงวัตถุวิถีเซียน ต่างก็ได้รับความเสียหายเสียแล้ว!
เปลือกของมดเขาสวรรค์ปล่อยริ้วคลื่นสีทอง ไม่ทำร้ายมดน้อยแต่อย่างใด แต่อย่างอื่นกลับไม่โชคดีปานนั้น
ภาพหมื่นเทพเจ้าเปล่งแสง ปกป้องดวงจิตของสือฮ่าว คุ้มกันไม่ให้เขาเป็นอันตราย
สือฮ่าวนับว่าเคราะห์ดี หากกระดูกแผ่นนี้ไม่พิเศษ เปลี่ยนเป็นเกราะป้องกันอื่นๆ คงรับมือไม่ไหว ต้องแหลกเป็นจุณแน่นอน!
ในตอนนี้เอง เขาก็เห็นฉากน่าตะลึง ภายในเปลือกของเขามดสวรรค์ มีร่างของชายวัยกลางคนปรากฏขึ้น มายืนอยู่กลางอากาศ เขาสูงใหญ่น่ายำเกรง เส้นผมสีทองแผ่สยาย สายตาคมกริบประหนึ่งกระแสไฟ!
สือฮ่าวขนลุกขนชัน รู้สึกขยับตัวไม่ได้ แทบจะหยุดหายใจแล้ว ต่อให้มีภาพหมื่นเทพเจ้าปกป้องก็ไม่ไหว ดวงจิตเกือบจะแข็งอยู่ตรงนั้นแล้ว
นี่เป็นบุคคลน่ากลัวขั้นใดกัน?
เขา…คงจะเป็นร่างจำแลงของมดเขาสวรรค์!
จำต้องพูดว่า ชายวัยกลางคนคนนี้องอาจเหลือเกิน มีพลังน่าเกรงขาม มีลักษณะของผู้เป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียวในเก้าสวรรค์สิบพิภพ แข็งแรงกำยำ เส้นผมสีทอง เจิดจ้าจนน่าตกใจ
แววตาเป็นประกาย เสมือนมองกาลเวลาจนทะลุปรุโปร่งได้!
ตอนนี้ มดน้อยคลุ้มคลั่ง แผดร้องอยู่ตรงนั้น มันขาดสติไปแล้ว ไม่เห็นคนที่ใกล้ชิดกับมันที่สุด
ชายวัยกลางคนยืนอยู่กลางอากาศ มีดาราจักรกว้างใหญ่ปรากฏขึ้นรอบตัว ราวกับมีจักรวาลเก่าแก่โคจรรอบเขา เขายืนอยู่ตรงศูนย์กลาง
ยามเส้นผมสีทองโบกสะบัด ด้านหลังมีดาราจักรดับสูญ อับแสง ดับสูญ ปรากฏการณ์นี้ทำให้สือฮ่าวตกใจเป็นที่สุด
นี่หรือมดเขาสวรรค์? ตอนนั้น เมื่อครั้งที่เขายังมีชีวิต ยิ่งใหญ่ถึงปานนี้!
ยามผมโบกสะบัด สามารถทำลายดวงดาวในจักรวาลได้ ยามเขากะพริบตา ดวงดาราก็หล่นร่วง สะเทือนปฐพี!
“นี่มัน…” สือฮ่าวไม่อยากเชื่อทุกสิ่งที่เห็นเลย
ชายวัยกลางคนองอาจห้าวหาญ ยิ่งใหญ่เกรียงไกร!
“ข้าเคยเห็นเจ้า เมื่อนานมาแล้ว…” ในตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนก็เอ่ยปาก
“อะไรนะ?” สือฮ่าวร้องเสียงหลงทันที มัน…เป็นไปได้อย่างไร!
“หากไม่เคยเจอกัน เข้ามาที่นี่ เจ้าจะอยู่กับข้าอย่างสันติได้อย่างไร” มดเขาสวรรค์พูดเสียงเรียบ น่ายำเกรงยิ่งนัก