Perfect World โลกอันสมบูรณ์แบบ - ตอนที่ 1251
ท่ามกลางความมืด สือฮ่าวรู้สึกว่าศีรษะ ลำตัวและแขนขาแยกออกจากกัน ตกลงไปในลาวา แผดเผาจนเหลือเพียงกระดูก เจ็บปวดรวดร้าวยิ่งนัก
แต่เขาเชื่อมั่นว่ามันเกิดจากการขาดสติสัมปชัญญะ ไม่ใช่ความจริง!
ทั้งนรก ภูตผีร่ำไห้และภาพที่เซียนถูกแยกร่างอะไรพวกนั้น เป็นของปลอมทั้งนั้น ล้วนเป็นภาพลวงตา
เขาเชื่อมั่นว่ายังยืนอยู่ที่เดิม เพียงแค่จมดิ่งอยู่ในโลกของจิต จึงมีภาพต่างๆ นานาเหล่านี้ มาถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่ตกใจกับสรรพคุณของผลน้ำพุเหลืองไม่ได้
เพราะมันสมจริงเหลือเกิน แทบจะไม่มีช่องโหว่อะไรเลย ราวกับกำลังประสบกับความโหดเหี้ยม ไม่เหมือนภาพมายาเลย
เขาคำรามลั่น อยากตื่นจากฝันร้าย ได้สติกลับคืนมาและควบคุมทุกอย่างโดยสิ้นเชิง!
ต่อให้นี่เป็นการขัดเกลาดวงจิต เป็นบททดสอบจำเป็นต่อการสร้างพลังจิตอันยิ่งใหญ่ให้เขา เขาก็อยากเป็นฝ่ายควบคุม ไม่ใช่ถูกกระทำให้ติดแหง็กอยู่ตรงนี้
ความมืดปกคลุมที่นี่ จิตของสือฮ่าวเลือนรางกว่าเดิม เสมือนจะแหลกสลาย ตกอยู่ในความว่างเปล่าตลอดกาล!
“ทุกอย่างเป็นความลวง ยังไม่ได้สติ!” สือฮ่าวตะโกนลั่น
เพียงแต่ว่า ยามเขาอ้าปาก ลาวาร้อนระอุจะทะลักเข้ามา และไหลออกทางลำคอ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีเลือดเนื้อแล้ว มีแค่กะโหลกและกระดูกแขนขาลอยอยู่ในของเหลวสีแดงเท่านั้น
ไยจึงสมจริงแบบนี้? ทำไมยังตื่นไม่ได้
สือฮ่าวพยายาม ทดลองตื่นครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้วิธีการต่างๆ กระตุ้น แต่สติของเขากลับเลือนรางลงทุกที แทบจะสลายหายไปแล้ว
“ไม่ไหว ติดอยู่ในความมืดแบบนี้ ข้าจะไม่ตื่นตลอดไปหรือ?” จิตของสือฮ่าวพึมพำด้วยความอ่อนแรง รู้สึกพรั่นพรึงขึ้นมาบ้างแล้ว
ความทุกข์ของเขามีมากเหลือเกิน สิ่งที่เผชิญพิลึกสุดแสน หากจมอยู่ในทะเลลาวา อยู่ในสภาพไร้สติอย่างสิ้นเชิงแบบนี้ จะเกิดเหตุไม่คาดฝันหรือไม่?
แม้นี่จะเป็นโลกแห่งจิต อยู่ในความฝัน แต่หากได้รับอันตราย มันจะกระทบต่อการบำเพ็ญเพียรหรือไม่?
“น่าขัน นี่เป็นนรกของจริง ผลน้ำพุเหลืองเชื่อมต่อโลกความเป็นและความตายได้ มันอักขระประหลาดกลุ่มหนึ่งแฝงเร้นอยู่ ชั่ววินาทีที่ถูกเขมือบ เปิดพิกัดของมิติได้ ลากเจ้าลงสู่นรก”
ในความมืด มีเสียงเย็นเยือกดังขึ้น ปราศจากคลื่นอารมณ์ เสมือนเป็นผู้ตัดสิน
“ทำไมถึงเรียกว่าผลน้ำพุเหลือง นั่นเป็นเพราะมีพิกัดนรกซ่อนเร้นอยู่ เปิดประตูแดน พาเจ้ามุ่งหน้าสู่นรกได้ หากเจ้าตายอยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็สูญสิ้นชีวิต หากว่ารอดไปได้ จิตจะได้รับการขัดเกลา”
คนคนนั้นพูดโดยปราศจากอารมณ์ใด
สือฮ่าวมึนงง จิตของเขายิ่งใหญ่มาก แต่ความทุกข์เมื่อครู่ช่างทรมานเหลือเกิน กระชากตัวแยกร่าง มีลาวาที่แผดเผาปีศาจเทพเจ้าได้ทะลักเข้ามา มันทรมานเหลือเกิน
ตอนนี้เขาเริ่มสงสัยขึ้นมาบ้างแล้วว่า มันไม่ใช่ห้วงความฝันที่เกิดจากผลน้ำพุเหลืองหรือ? นี่เป็นประสบการณ์จริงอย่างนั้นหรือ อักขระที่ซ่อนอยู่ในผลน้ำพุเหลือง เปิดประตูมิติได้จริงหรือ?
สือฮ่าวประหวั่นพรั่นพรึง น่ากลัวเหลือเกิน
แต่เขาก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี ผลน้ำพุเหลืองเหนือธรรมชาติเกินไปแล้วกระมัง
ไม่ว่าอย่างไร เขาจะปล่อยให้สติดับวูบไม่ได้ ไม่ว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่จะเป็นความจริงหรือมายา คงสติเท่านั้นจึงจะเป็นประโยชน์กับเขา มิเช่นนั้นจะเป็นปัญหาใหญ่
“ผลุบ!”
จากนั้นก็รู้สึกเหมือนกระดูกแหลกสลาย ถูกลาวาเผาทำลายจนสิ้นแล้ว ดวงจิตของเขากำลังปริแตก แยกออกเป็นหลายชิ้นแล้วหม่นแสงอย่างรวดเร็ว
“ไยจึงสมจริงแบบนี้ ข้าจะตายแล้วหรือ?” สือฮ่าวยังคงไม่เชื่อ แต่ความเจ็บปวดที่ดวงจิตแยกสลาย และสังหรณ์ใจเหมือนกำลังจะตายมันสมจริงเหลือเกิน
กระทั่งสุดท้าย เขายืนหยัดไม่ไหว ความมืดมิดอันเวิ้งว้างปกคลุมเขา ดวงจิตแหลกสลาย รู้สึกเหมือนตนไม่ดำรงอยู่อีกต่อไป จะดับสูญตลอดกาลแล้ว
ตอนนี้ เขาไม่มีแม้แต่กำลังจะขบคิด ไม่ไหวแล้วจริงๆ กลับคืนสู่ธุลีดิน สูญสลายไปชั่วนิรันดร์
สุดท้ายก็เกิดเสียงดังตูม สติของเขาดับสูญ ความมืดมิดท่วมท้นที่นี่
“วิปริตเหลือเกิน!” ชั่ววินาทีสุดท้าย สือฮ่าวก็ปล่อยดวงจิตอ่อนแรงสุดท้ายของตนออกมา หากเป็นโลกมายา มันไม่เหมือน แยกไม่ออกเลยสักนิด
หากเป็นความจริง เช่นนั้นเขาต้องตายเป็นแน่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เกาะกระดูกผุดขึ้นกลางลาวา ผิวน้ำแดงฉาน เสมือนผ่านไปนานหลายปี ตรงนั้นมีเปลวไฟวูบไหว
ไฟวิญญาณปรากฏขึ้น สว่างโชติช่วงยิ่งนัก แตกต่างจากดวงอื่น
“ข้าเป็นใคร?” เขาปล่อยกระแสจิตอันเลือนรางออกมา
จากนั้นเขาก็เห็นกระบี่หม่นหมองเล่มหนึ่ง กับโครงกระดูกผุแตก และชุดเกราะจักรพรรดิสายฟ้าสนิมเขรอะ มันช่างคุ้นเคยเหลือเกิน
“ข้าจำได้ เมื่อมองพวกมัน ราวกับผ่านชีวิตของคนคนหนึ่ง” วิญญาณดวงนั้นพึมพำเช่นนี้ จากนั้นก็อุทานออกมาอย่างทนไม่ได้ เสมือนเจ็บปวดยิ่งนัก พยายามหวนคิดถึงอะไรบางอย่าง
ผ่านไปเช่นนี้หลายปี มีไฟวิญญาณบางส่วนปรากฏขึ้นบนเกาะกระดูกแล้วมอดดับ มีเพียงดวงนี้ที่พิเศษ วนเวียนรอบกระบี่และชุดเกราะ
กระทั่งวันหนึ่ง เขาเห็นกระดูกที่มีลักษณะพิเศษสองชิ้นท่ามกลางของเหล่านั้น เกิดความทรงจำใหม่ขึ้นมา
“การหยั่งรู้ดั้งเดิม ภาพหมื่นเทพเจ้า…”
เขากำลังระลึกความทรงจำอย่างเจ็บปวด จากนั้นก็ดิ้นรนสุดชีวิตด้วยความเจ็บแค้นใจ เจือด้วยความสิ้นหวัง
“ข้าเป็นคนที่มีชื่อว่าฮวง ข้าเป็นจักรพรรดิ ข้าชื่อสือฮ่าว?” ราวกับเขากำลังพึมพำ และเหมือนกำลังซักถามแก่นแท้ที่อยู่ในก้นบึ้งของวิญญาณ
เพียงแต่ว่า เขานึกรายละเอียดไม่ออก มีเพียงความทรงจำคร่าวๆ และเลือนราง เขาทรมานมาก อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีตกันแน่
เขาครุ่นคิด ดิ้นรนเช่นนี้ทุกวัน เผชิญหน้ากับวัตถุที่ไม่อาจทำลายได้ เขาพยายามฟื้นความทรงจำ มีชิ้นส่วนกะพริบเป็นครั้งคราว ทำให้เขาจำเรื่องราวในอดีตได้มากขึ้น
ผ่านไปปีแล้วปีเล่า เวลาสิ้นเปลืองที่สุดเมื่ออยู่ที่นี่ มันไร้ราคา ล่วงเลยผ่านไปไม่หยุด
เพียงพริบตาก็ผ่านไปหลายสิบปี วิญญาณวนเวียนรอบของเหล่านี้ จำเรื่องราวได้มากขึ้นเรื่อยๆ อดีตของเขาค่อยๆ ชัดเจนมากขึ้น
“ข้าชื่อสือฮ่าว กินผลน้ำพุเหลืองแล้วตกลงไปในนรก อดทนผ่านไปไม่ได้ จึงตายอยู่ที่นี่…”
เมื่อรู้ความจริงแล้ว วิญญาณดวงนี้ก็ตะลึงงัน ทั้งสุขทั้งทุกข์ที่เคยเผชิญ เรื่องราวต่างๆ ญาติมิตรในวันวาน ทุกอย่างผ่านไปแล้ว
เขาร้องออกมาอย่างทนไม่ได้ ประหนึ่งภูตผี ดังสะท้อนก้องที่นี่อยู่เนิ่นนาน!
เมื่อนึกถึงส่วนหนึ่งในชีวิต เขาก็เจ็บแค้นใจ เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ ต้องมาตายเช่นนี้หรือ? ยังไม่ทันได้บอกลาคนที่รัก ฝังร่างตัวเองไว้ที่นี่คนเดียวเงียบๆ
“มันไม่ใช่ความจริง!” เขาตะโกนลั่น
กาลเวลาผ่านไป เขารู้สึกเหมือนผ่านไปปีแล้วปีเล่า กระทั่งผ่านไปหลายร้อยปี ดวงใจที่เจ็บปวดของเขาจึงจะสงบลง
“กาลเวลาไม่ปรานีใคร ร้อยปีผ่านไป สิ่งที่ข้าเผชิญเป็นเรื่องจริงหรือ?” เมื่อคิดถึงอดีต สือฮ่าวก็หยุดชะงัก ความโชคดีสุดท้ายในใจเขาก็ไม่คงอยู่อีกแล้ว ร้อยปีผ่านไป เวลาไม่ใช่ของปลอม ยังมีอะไรให้พูดอีก ช่างโหดร้ายเหลือเกิน
“ข้าอยากกลับที่โลกมนุษย์ ไปพบครอบครัว ไปหาคนคุ้นเคย!” วิญญาณดวงนี้กำลังเคลื่อนไหว ปล่อยคลื่นพลังอันรุนแรงออกมา
“หากความปรารถนาแก่กล้ามากพอ จะส่งเจ้าไปเกิดใหม่ได้” เสียงเรียบในทะเลลาวาดังขึ้นอีกครั้ง
จากนั้นก็มีวงแหวนปรากฏขึ้น พลังวัฏจักรตลบอบอวล ลอยขึ้นกลางลาวาอันร้อนระอุแล้วหมุนไม่หยุด ด้านบนมีพื้นที่หลายแห่ง ระบุภพภูมิที่ต้องเกิดใหม่
วิญญาณดวงนั้นถูกดูดเข้าไปในวงแหวนดังฟิ้ว จากนั้นก็ตกลงไปหลุมดำที่ถูกมันเปิด ถูกส่งไปเกิดใหม่แล้ว
อดีตทั้งหลายเมื่อชาติก่อน ปรากฏขึ้นในใจไม่ขาดสาย ทั้งทุกข์และสุข ทั้งใบหน้าและรอยยิ้มของผู้คน ความสุขและความอาลัยในชีวิต ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
สือฮ่าวถอนหายใจ ชาตินี้ผ่านไปแล้วหรือ? เจ็บใจนัก
“ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ข้ายังอยากกลับไปดูโลกใบนั้น ดูว่าคนเหล่านั้นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
เขารู้สึกขมขื่นและอาลัย ถูกหลุมดำเขมือบลงไป บดขยี้เขาเป็นวิญญาณอันบริสุทธิ์ดวงหนึ่ง จะส่งเขาไปเกิดใหม่แล้ว
ต่อมา เขาก็รู้สึกเหมือนเปลี่ยนเป็นทารกน้อย ยังไม่ถือกำเนิด อยู่ในครรภ์แม่ ถูกพลังปราณหล่อเลี้ยง ยังไม่แปดเปื้อนความชั่วร้าย
“เกิดใหม่พร้อมกับความทรงจำหรือ?” สือฮ่าวขบคิดเงียบๆ ใช้การหยั่งรู้ดั้งเดิม บำเพ็ญวิชาเทพหลิว ดูดซึมพลังปราณดั้งเดิมจากฟ้าดิน
เขามาที่นี่เพราะต้องการทำตนให้แข็งแกร่ง แต่กลับพบว่ายากเย็นยิ่งนัก
“ผลน้ำพุเหลือง…ช่างวิปริตเสียจริง!”
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ขณะที่ทารกกำลังจะเกิด จู่ๆ ก็มีแสงแห่งปัญญากะพริบ ราวกับบรรลุแล้ว เขาเชื่อมั่นว่า ไม่มีการเกิดใหม่แบบนี้
“แม้ข้าจะไม่เข้าใจ ร้อยปีจะผ่านไปรวดเร็ว สมจริงเช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าใช้สมาธิก็แยกจริงเท็จไม่ออก ข้าเชื่อว่า นี่เป็นความฝัน สิ่งที่ข้าเผชิญไม่ใช่ความจริง ข้าคือฮวง ข้าชื่อสือฮ่าว ข้าต้องตื่น!”
น่าเสียดายที่เขาไม่ฟื้นคืนมา ในเวลาต่อมา เขาก็เวียนว่ายตายเกิด ที่นี่ไม่มีพลังปราณเพียงพอ ตกอยู่ในยุคสมัยที่สิ้นกาล
มีเพียงการดูดซึมพลังปราณในครรภ์แม่เท่านั้นที่ได้ผล หลังกำเนิดแล้วก็ยากจะดูดซึมได้มากขึ้น
สุดท้าย เขามีอายุหนึ่งร้อยหกสิบปีแล้ว นับว่าอายุยืนยาว แต่เมื่อเทียบกับชาติก่อน ยุคสิ้นกาลนี้ช่างขมขื่นเหลือเกิน บำเพ็ญเพียรไม่ได้
ต่อมา สือฮ่าวก็เริ่มเวียนว่ายตายเกิด เกิดใหม่อีกครั้ง
ตอนนี้เขาไม่พูดไม่จา กำเนิดใหม่พร้อมกับความทรงจำ ผ่านความแก่ชราและความตาย เวลาส่วนใหญ่เขามักจะเงียบงัน ไม่พูดอะไร
กระทั่งมีภพหนึ่งที่เขาตกนรกอีกครั้ง ได้ยินเสียงไร้เมตตาอีกครั้ง “เกิดใหม่หลายครั้ง เจ้ามีความรู้สึกอย่างไร?”
“ผลน้ำพุเหลือง เจ้าพิสดารยิ่งนัก!” สือฮ่าวพูดแบบนี้
สุดท้ายปฐพีก็โกลาหล แผ่นดินแตกทลาย ลาวาพุ่งทะลัก ส่งสือฮ่าวออกไปจากขุมนรก
สือฮ่าวได้สติกลับคืนมา ยืนอยู่ละแวกต้นไม้เจิดจ้าสามต้น มีแสงสว่างสาดส่อง โชติช่วงและบริสุทธิ์ ผลน้ำพุเหลืองแขวนอยู่ข้างบน
“มันเป็นความฝัน!” สือฮ่าวอุทาน ขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจ เพราะพลังจิตของเขาเพิ่มพูน แข็งแกร่งขึ้นมากโข!
ดวงจิตเช่นนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในขั้นเทพสวรรค์ เขาพึงพอใจเหลือเกิน!
แต่ไม่นานนัยน์ตาของเขาก็แววโรจน์ จากนั้นรูม่านตาก็หด ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมาทันที
ชั่ววินาทีที่ก้มหัว เขาเห็นภาพกลางฝ่ามือ มันมีขนาดเล็กและสมจริงอย่างมาก ภาพสี่ชิ้น ล้วนเป็นอินสงสารวัฏ!
“นี่มันอะไรกัน?!” สือฮ่าวร้องลั่น!
มันไม่แตกต่างกับอินที่ประทับในวัฏสงสารเลยสักนิด หนึ่งรูปนับว่าเกิดใหม่หนึ่งครั้ง
ตอนนี้ บนฝ่ามือของเขามีทั้งหมดสี่รูป และเขาเกิดใหม่ในห้วงความฝันอันสมจริงมาแล้วสี่ครั้ง
ในตำรากระดูกภพนี้มีบันทึกอยู่เลือนราง ส่วนในตำราหยกของเซียนโบราณนั้นมีอธิบายไว้ เคยมีคนพูดว่า มีการเกิดใหม่ เพียงแต่ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำได้ มีแค่อัจฉริยะสะเทือนปฐพีส่วนน้อยที่มีโอกาสเกิดใหม่ จะมีอินวัฏสงสารประทับไว้เป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ว่า น้อยยิ่งนักที่จะมีอินสลักอยู่!