Perfect Superstar - ตอนที่ 200 เฉินเชี่ยน
ตอนที่ 200 เฉินเชี่ยน
มีโต๊ะอาหารกั้นกลาง หญิงสาวที่ดูน่ารักสะอาดบริสุทธิ์นั่งอยู่ตรงข้ามลู่เฉิน
เธออายุไม่เกิน 19 ปี กำลังอยู่ในวัยอันงดงามที่สุดของหญิงสาว เป็นวัยสาวแรกแย้ม ดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอนราวกลีบดอกซากุระ ดูมีคุณค่า คู่ควรแก่การดูแลปกป้อง
เฉินเชี่ยนเป็นน้องสาวแท้ๆ ของซูไต้หว่าน
และเป็น ‘คู่เดท’ ของลู่เฉินในคืนนี้
หน้าตาของเฉินเชี่ยนละม้ายคล้ายกับซูไต้หว่าน ผิวพรรณขาวผ่อง คิ้วและตาเหมือนภาพวาด นัยน์ตาดำดูชุ่มชื้นสุกสกาวราวกับกำลังเล่าเรื่อง ตัดผมหน้าม้าเหมือนเจ้าหญิงบนหอคอยงาช้าง
ถูกพี่สาวแท้ๆ บังคับให้มารู้จักกับลู่เฉิน เธอดูเขินอายมาก ก้มหน้าก้มตาตลอดไม่พูดจา
ซูไต้หว่านดึงมือของเฉินเชี่ยน หัวเราะคิกคักบอกกับลู่เฉินว่า “เสี่ยวเฉิน เสี่ยวเชี่ยนเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เธอเรียนด้านดนตรี พวกเธอสองคนจะต้องคุยกันถูกคอแน่ รู้จักกันเป็นเพื่อนกันไว้ดีไหม”
ซูไต้หว่านพูดถึงขนาดนี้แล้ว ลู่เฉินมีหรือจะตอบว่าไม่ดี
เขารีบพยักหน้า “ได้ครับ พี่สะใภ้ ผมจะดูแลเสี่ยวเชี่ยนให้เหมือนน้องสาวแท้ๆ ของผมเลย”
ลู่เฉินสังเกตได้ในทันทีว่าพอเขาพูดประโยคนี้จบ เฉินเชี่ยนดูตัวหดเล็กลงอย่างชัดเจน
และเขาก็สังเกตเห็นเช่นกันว่า ซูไต้หว่านรักน้องสาวคนนี้มากจริงๆ
ซูไต้หว่านยิ้ม ลุกขึ้นแล้วบอกว่า “พวกเธอคุยกันไปเถอะ คุยเรื่องดนตรี เสี่ยวเชี่ยนต้องเรียนรู้จากเสี่ยวเฉินให้มาก”
เฉินเชี่ยนตอบรับเบาๆ ว่า “อืม”
ซูไต้หว่านปลีกตัวออกมาก่อน ให้โอกาสคนหนุ่มสาวได้พูดคุยกันโดยลำพัง
แต่พอเธอจากไป บรรยากาศเปลี่ยนเป็นอึดอัดทันที
หลังจากเงียบมาพักใหญ่ ลู่เฉินลูบจมูกถามว่า “เฉินเชี่ยน เธออยู่ต่างประเทศเรียนดนตรีแบบไหน ปัจจุบันหรือยุคโบราณ เรียนเครื่องดนตรีอะไรเหรอ”
เฉินเชี่ยนตอบอ้อมแอ้มว่า “ฉันเรียนดนตรีปัจจุบัน…”
เธอดูไม่อยากคุยต่อ เงยหน้าขึ้นมองลู่เฉินเร็วๆ “พี่ลู่เฉิน ที่นี่น่าอึดอัดมากเลย พี่ออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม”
ลู่เฉินอึ้ง แล้วตอบตกลง
ความจริงเขาก็ไม่ชอบงานแบบนี้ ทุกคนสวมชุดอลังการยืนอยู่ทั่วห้องโถง ราวกับกำลังสวมหน้ากากผูกมิตรกัน พูดแต่คำพูดที่ไม่จริงใจ
แต่คนจำนวนมากก็ยินดีทำอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
ลู่เฉินจึงไม่อยากอยู่ในนี้นาน และไม่คิดจะก้าวหน้าทางด้านธุรกิจ เขารู้ว่าตัวเองไม่มีพรสวรรค์ด้านการทำการค้า
เว็บไซต์ระดมทุนตั้งขึ้นเพียงเพราะอยากหาเงินก้อนให้ได้เร็วที่สุด เพื่อจ่ายหนี้ครอบครัวให้หมด
จากนั้นก็จะขายหุ้นออกไป แล้วเขาจะได้ถอนตัวออกมาสำเร็จ
เฉินเชี่ยนรู้มารยาทดี ก่อนออกมาได้ไปบอกซูไต้หว่านไว้ก่อน
ซูไต้หว่านไม่ขัดขวาง ยังดีใจด้วยซ้ำ เธอบอกลู่เฉินว่า “ถ้าอย่างนั้นเสี่ยวลู่พาเสี่ยวเชี่ยนออกไปเดินเล่นเถอะ เขาไม่ชินกับงานแบบนี้ รบกวนเธอมาส่งที่บ้านก่อนสี่ทุ่มก็พอ”
แม้ลู่เฉินจะเป็นตัวแทนทางกฎหมายของบริษัทระดมทุนออนไลน์มู่เฉิน แต่คืนนี้คนที่จัดงานตัวจริงคือหลี่มู่ซือ
ดังนั้นงานเฉลิมฉลองในตอนแรกเสร็จสิ้นลงแล้ว ตอนนี้เขาจะออกไปก่อนก็ไม่เป็นไร
ซูไต้หว่านเชื่อใจลู่เฉินมาก วางใจให้เขาดูแลน้องสาวของเธอ
ลู่เฉินถือโอกาสขอตัวออกมาก่อน พาเฉินเชี่ยนจากมา
ก่อนจะไป เขาบอกหลี่มู่ซือก่อน ฝ่ายหลังกำลังเดินมากับสาวสวยคนหนึ่ง
เมื่อรู้ว่าลู่เฉินจะออกไปกับเฉินเชี่ยน หลี่มู่ซือหัวเราะหัวเราะอย่างมีเลศนัย
เธอบอกอย่างมีนัยว่า “พี่เฉิน ดูแลสุขภาพด้วย!”
ลู่เฉินพูดไม่ออก ยกหมัดให้เธอหนึ่งหมัด
ลู่เฉินกับเฉินเชี่ยนใช้ลิฟต์ความเร็วสูงลงมาถึงลานจอดรถชั้นใต้ดินของโรงแรมลี่จิง
ด้วยฐานะเจ้าของบริษัทระดมทุนออนไลน์ ลู่เฉินต้องต้อนรับพูดคุยกับรับแขกไม่น้อย แล้วยังดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไปมาก
แต่ความจริงเครื่องดื่มที่เขาดื่มไม่ใช่เหล้า เป็นเพียงเครื่องดื่มปรุงผสมแอลกอฮอล์
นี่เป็นเคล็ดลับเล็กน้อยของวงการธุรกิจ ไม่เช่นนั้นฝ่ายเจ้าบ้านหากไม่ระวังดื่มจนเมาแอ๋ กลิ่นลมหายใจมีแต่กลิ่นเหล้า การพูดจาก็ไม่มีมารยาท
ดังนั้นลู่เฉินยังสามารถขับรถได้เอง ไม่ต้องกังวลเรื่องเมาไม่ขับ
เมื่อหารถเอสยูวี จงหวา เอ็กซ์เจ็ด ของตัวเองเจอแล้ว เขาเพิ่งกดรีโมทปลดล็อคก็ได้ยินเฉินเชี่ยนพูดว่า “พี่ลู่เฉิน พี่เมาแล้ว ให้ฉันขับรถให้เถอะ ดื่มแล้วขับโดนจับคงไม่ดี”
“เอ่อ…”
ลู่เฉินเกาหัว ไม่ควรจะบอกเธอว่าเครื่องดื่มที่เขาดื่ม ไม่ใช่เหล้าจึงไม่เมาหรือเปล่า
เฉินเชี่ยนใสซื่อมาก เธอไม่รู้เรื่องราวในวงการธุรกิจ
น่าจะเป็นเพราะซูไต้หว่านปกป้องเธอมากเกินไป
ราวกับช่อดอกไม้ในห้องกระจก ไม่รู้ว่าตอนแรกทำไมถึงเลือกส่งเธอไปเรียนต่างประเทศ
คืนนี้เธอสวมกระโปรงพลิ้วไหว ดูอรชรอ้อนแอ้นเป็นที่น่าเอ็นดูของคนที่พบเห็น
ลู่เฉินลังเลเล็กน้อย ถามว่า “เธอมีใบขับขี่ไหม”
เฉินเชี่ยนพยักหน้า “ฉันสอบใบขับขี่ที่อเมริกา เมื่อกลับประเทศแล้วถึงเปลี่ยนมาเป็นของที่นี่ พี่ลู่เฉินวางใจเถอะ ฉันขับรถแข็งมาก”
เธอกะพริบตา ประกายตาฉายแววเว้าวอน เจือด้วยความตื่นเต้น
นี่คือเด็กสาวน่าเอ็นดูที่อยากหาสีสันให้ชีวิต
เพียงแต่ผู้ชาย โดยเฉพาะชายหนุ่ม ไม่มีทางปฏิเสธท่าทีแบบนี้ได้
ก็แค่ขับรถเองไม่ใช่เหรอ
เรื่องเล็กน้อย!
ลู่เฉินเป็นผู้ชาย เป็นชายหนุ่มธรรมดา
แต่เขาไม่ได้ตอบสนองความต้องการของเฉินเชี่ยน รีบเสียบกุญแจเข้าไปในรถโดยไม่รอช้า ยิ้มบางๆ พูดว่า “น้องเฉินเชี่ยน คิดว่าพี่ขับเองดีกว่า รถของพี่คันนี้ทนความรุนแรงจากแม่มดน้อยแห่งมัลลานไม่ไหว”
แม่มดน้อยแห่งถนนมัลลาน!
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของเฉินเชี่ยนเปลี่ยนไป
เธอเหมือนจิ้งจอกน้อยโดนเหยียบหาง ขนพวงหางตั้งพองฟู ท่าทางแบบฉบับหญิงสาวสวยสง่าของเธอหายวับไปกับตา ดวงตาราวกับส่องแสงเลเซอร์ได้ ทำให้คนอื่นรู้สึกใจสั่นด้วยความอันตราย!
ลู่เฉินไม่ได้ตกใจ เขายิ้มอ่อน
ถนนมัลลานเป็นถนนคดเคี้ยวอยู่นอกชานเมืองลอสแอนเจลิส ด้วยลักษณะพื้นที่ขรุขระอันตราย มักมีพวกลูกคนรวยที่ชอบไปขับรถวิบากอย่างบ้าคลั่ง จนเสียชีวิตไปแล้วหลายคน
ฉายาแม่มดน้อยแห่งถนนมัลลาน เป็นของน้องสาวตัวดีตรงหน้านี้เอง!
เฉินเชี่ยนถามเสียงเย็นว่า “พี่รู้ได้ยังไง”
เรื่องนี้พี่สาวของเธอซูไต้หว่านยังไม่รู้เลย ครั้งแรกที่ได้เจอลู่เฉินเขากลับรู้
มองภาพลวงตาที่เธอแสร้งทำขึ้นมาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง!
จะไม่ทำให้เฉินเชี่ยนอายได้ยังไง
ลู่เฉินยิ้ม “ฉันยังรู้อีกว่าเธอไม่ค่อยพอใจกับการจัดการของพี่สาว เธอไม่อยากมานัดเดทกับฉันเลยด้วยซ้ำ หรืออาจจะถึงขั้นเกลียดขี้หน้า เลยอยากขับรถเองเพื่อแกล้งกัน อยากให้ฉันทนไม่ได้จนตายใจไปเองใช่ไหม”
ถ้าไม่ใช่เพราะลู่เฉินได้รับรู้เรื่องของเฉินเชี่ยนมาบ้างแล้ว เขาคงติดกับ
การแสดงของเฉินเชี่ยนร้ายกาจมาก บอกได้ตามตรงเลยว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงดูไม่ออก
จนถึงตอนนี้ถึงเผยให้เห็นหางของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
เฉินเชี่ยนปิดปากเงียบ
ที่จริงเธอตั้งใจไว้แบบนั้น ขับรถของลู่เฉินอย่างบ้าคลั่ง ลู่เฉินไม่ตกใจตายก่อนก็ให้รู้ไป!
เฉินเชี่ยนขัดขืนซูไต้หว่านไม่ได้ จึงอยากมาระบายใส่ลู่เฉิน
ค่ำคืนนี้เธอแต่งตัวแบบนี้ อยากให้พี่สาวพอใจและให้ลู่เฉินไม่ทันตั้งตัว
ใครจะไปคิดว่าหญิงสาวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ กลับเป็นนักขับรถซิ่งที่ขึ้นชื่อแห่งถนนมัลลาน ลอสแอนเจลิส
ลู่เฉินหุบยิ้ม พูดอย่างจริงจังว่า “เฉินเชี่ยน ความจริงแล้วฉันไม่ได้คิดจะตามจีบเธอเลย ตอนนี้ฉันยังไม่อยากมีแฟน เพียงแค่พี่สะใภ้อยากจับคู่ให้เรา ฉันเองก็ต้องไว้หน้าเธอ”
“ดังนั้นพวกเราไม่ใช่ศัตรูกัน ตอนนี้พูดชัดแล้ว ฉันไปส่งเธอกลับบ้านเลยดีไหม”
เฉินเชี่ยนถลึงตาใส่ลู่เฉิน แต่ดวงตาดูอ่อนโยนลงเล็กน้อย
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า “ก็ได้”
นักซิ่งสาวแห่งถนนมัลลาน ยื่นมือออกไปให้ลู่เฉิน “เมื่อครู่ขอโทษด้วย ฉันขอโทษพี่ด้วย”
ลู่เฉินแอบโล่งใจ ยื่นมือไปจับกับเฉินเชี่ยน “เธอไม่ต้อง…”
แต่เขาคิดไม่ถึงว่า นิ้วมือของเธอออกแรงจับบีบอย่างรุนแรงในทันใด แขนยกขึ้นสูงไพล่ไปด้านหลัง ขณะเดียวกันก็พลิกตัวหันหลังชนกับหลังของลู่เฉิน แล้วไขว้มือของเขาไปอยู่ที่บ่า!
มือซ้ายของเธอจับแขนของลู่เฉิน ก่อนก้มตัวลงโยนร่างของเขาออกไป
นี่คือท่าทุ่มไหล่มาตรฐานที่ถูกต้อง คนที่เพิ่งเริ่มฝึกไม่นานจะทำไม่ได้สวยงามเช่นนี้ การเคลื่อนไหวของเฉินเชี่ยนไม่ได้มีท่าทีนำมาก่อน เรียกว่าไม่ทันให้ตั้งตัว!
เธอมั่นใจเต็มเปี่ยม ว่าจะสามารถล้มเจ้าหนุ่มที่น่ารังเกียจคนนี้ได้ราบคาบ!
เฉินเชี่ยนอาศัยจังหวะที่ลู่เฉินเผลอ เธอคว้าแขนของเขาแล้วทุ่มลงผ่านไหล่ แต่พอมาถึงตอนจบกลับมีปัญหา
ลู่เฉินยืนหยัดมั่นคงไม่ไหวติงเหมือนภูผาสูงใหญ่ เธอออกแรงจนสุดแล้วยังทำอะไรไม่ได้!
เจ้านี่แรงเยอะเหมือนกัน!
เฉินเชี่ยนตกใจ
แต่เธอไม่ลุกลี้ลุกลน ยกเท้าขวาขึ้นเหยียบลงไปบนเท้าของลู่เฉินที่อยู่ด้านหลังหนักๆ!
เธอสวมรองเท้าคริสตัลส้นสูง ส้นรองเท้าแหลม!
แต่แผนที่เฉินเชี่ยนคิดไว้ล้มเหลว เพราะเมื่อเธอยกเท้าขึ้นมาเตรียมจะกระทืบลงไป ลู่เฉินใช้มืออีกข้างจับที่เอวของเธอดันออกไปด้านข้างอย่างแรง
“อ๊า!”
เฉินเชี่ยนเสียสมดุล ทั้งร่างของเธอกลิ้งไปรอบใหญ่จนร้องเสียงแหลมออกมา
ปัง!
วินาทีถัดมา ก้นของเธอกับฝากระโปรงรถจงหวาเอ็กซ์เจ็ดก็แนบชิดติดกัน!
เธอถูกลู่เฉินยกไปวางไว้บนหน้ารถ
ผ่านไปครู่หนึ่งเฉินเชี่ยนดึงสติกลับมา ใบหน้าแดงเรื่อไปหมด
ลู่เฉินชักมือกลับ หัวเราะบอก “เล่นสนุกพอหรือยัง พอแล้วฉันจะไปส่งเธอกลับบ้าน…”
แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่ดวงตาของเขารำคาญเต็มทน
กับหญิงสาวซุกซนที่ไม่ประมาณตนอย่างเธอ ลู่เฉินไม่มีความรู้สึกดีด้วยเลยแม้แต่น้อย ถ้าไม่ใช่เพราะซูไต้หว่าน เขาจะทำให้เฉินเชี่ยนได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของจริงดูสักที
เหตุการณ์เมื่อครู่ ถ้าไม่ใช่เพราะลู่เฉินมีปฏิกิริยาที่ไว คงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
ไม่รู้ว่าเธอไปเรียนท่าที่ร้ายกาจนั้นมาจากไหน!
เฉินเชี่ยนมองเขาด้วยความโกรธ ชักสีหน้าดื้อดึง เห็นได้ชัดว่าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้
ลู่เฉินส่ายหน้า ก้าวถอยหลังไปควักโทรศัพท์ออกมา “ถ้าอย่างนั้นฉันจะโทรศัพท์หาพี่สาวเธอ…”
“พี่กล้าเหรอ!”
เฉินเชี่ยนร้องเสียงแหลม