Otonari asobi The Story Of How A Beautiful Foreign Student Who Lives Next Door Started To Visit My House After I Helped A Lost Little Girl - ตอนที่ 2.3: เรื่องไหว้วานจากเธอ
หมดจากเรียงโดมิโน่ เอมม่าเดินมานั่งตักผม เริ้มคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆโดยมีชาร์ล็อตมองดูพวกผมด้วยรอยยิ้มพลางเก็บโดมิโน่
ตอนแรกก็เหมือนจะสื่อสารกัน3คนคือผม เอ็มม่า ชาร์ล็อต เพราะถ้าคุยกันแค่สองคนโดยทิ้งอีกคนไม่ให้สนทนาคงดูไม่ดี
แต่พอผมจะหันไปคุยกับชาร์ล็อต เธอเลือกที่จะเงียบ ปล่อยให้ผมกับเอมม่าคุยกันสองคนเท่านั้น เหตุผลคือพอผมทำท่าจะคุยกับชาร์ล็อต น้องเอมม่าออกอาการอิจฉา
สุดท้ายเลยมีเพียงผมกับเอมม่าเท่านั้นที่คุยกัน นานๆครั้งชาร์ล็อตเหมือนอยากจะเสริมเรื่องที่ผมกับเอมม่าคุยกัน แต่เธอเลือกที่จะเงียบ คงเกรงว่าการคุยของเธอจะไปขัดจังหวะเอมม่า
เอมม่าก็คุยเจื้อยแจ้วเล่าเรื่องต่างๆที่เจอไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก หรือความประทับใจที่ได้ดูคลิปน้องแมว ในระหว่างคุย เอมม่าก็ยังคงนั่งอยู่บนตัก เงยหน้ามองผมด้วยรอยยิ้มพร้อมท่าทีขี้อ้อน มือเธอก็จับมือผมแกว่งเล่นไปด้วย ดูแค่นี้ก็รู้ชัดแล้วว่าเอมม่ามีความสุขมาก
หลังจากคุยได้สักพัก ด้วยความที่วันนี้เอมม่าใช้พลังงานเยอะมาก และเวลาก็ล่วงเลยดึกดื่น เธอเริ่มมีอาการง่วงเหงาหาวนอน ผมกับชาร์ล็อตสบตาในเชิงรู้กันว่าจะเงียบ ไม่ชวนเอมม่าคุย ผ่านไปได้สักพัก ผมกับชาร์ล็อคได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเอมม่า แปลว่าตอนนี้เธอหลับสนิทแล้ว
“ขอบคุณมากนะคะอาโอยางิคุง”
วันนี้ต้องบอกว่าผมได้ยินและรับคำขอบคุณจากคุณชาร์ล็อตเยอะมาก เธอมองเอมม่าที่กำลังหลับด้วยแววตาอ่อนโยน ให้ความรู้สึกเป็นพี่สาวที่รักและห่วงใยน้อง เพียงแค่เห็นความใจดีของชาร์ล็อตก็รู้ได้ทันทีว่าเธอรักและให้ความสำคัญกับเอมม่ามากขนาดไหน
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอกครับ”
“ไม่ได้หรอกจ๊ะ ชั้นดีใจมากที่เธอยอมเป็นเพื่อนเล่นให้เอมม่านะ”
“ฮะฮะฮะ ดีละครับ ทางผมเองก็สนุกที่ได้เล่นกับเอมม่าเหมือนกัน”
“สำหรับเอมม่าแล้ว อาโอยางิคุงไม่ต่างอะไรกับฮีโร่ ตอนน้องหลงทาง ไม่รู้จะสื่อสารกับใครแต่แล้วก็มีเธอเข้ามาช่วยเหลือ แถมยังอยู่เป็นเพื่อนเล่นน้องด้วยจ๊ะ”
ผมคิดว่าที่ช่วยน้องเอมม่า ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรขนาดนั้น แต่ก็ถูกชาร์ล็อตประเมินค่าและชมเชย ก็เล่นเอารู้สึกเขินจนไม่กล้าสบตาเธอ
ทว่า ในขณะที่ผมหลบตาเธอ ชาร์ล็อตยังคงกล่าวต่อ
“เอมม่าต้องย้ายมาอยู่ห่างจากประเทศบ้านเกิดเมืองนอน และไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ เธอคงคิดว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่ากลัวมาก ฉะนั้น หากไม่รังเกียจ อาโอยางิคุงสามารถเป็นเพื่อนเล่นให้เอมม่าจนกว่าเธอจะเริ่มปรับตัวเข้ากับญี่ปุ่นได้มั้ยจ๊ะ”
“เพื่อนเล่นเหรอครับ…?”
เป็นคำขอที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ผมฟังจบหันไปมองเอมม่าที่กำลังนอนบนตักผม
ผมเข้าใจความรู้สึกของเธอ
การที่คนเราไม่สามารถสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจ มันทำให้รู้สึกไม่อุ่นใจ ยิ่งเอมม่าเป็นเด็กตัวแค่นี้ ความกังวลของเธอยิ่งมากกว่าผู้ใหญ่คูณสอง
แต่ทางผมเองก็ไม่ได้ว่างตลอด
ปกติแล้ว กิจวัตรผมคือกลับถึงบ้านปุ๊บ เข้าห้องทบทวนบทเรียน เพราะผมมีเป้าหมายบางอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ ผมจึงไม่อยากใช้เวลาว่างโดยเปล่าประโยชน์
แต่ว่า… ผมลองสบตากับชาร์ล็อต เธอจ้องตอบผมกลับด้วยแววตาจริงจังว่าที่ขอร้องมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
แม้ว่าผมจะเพิ่งได้พบกับชาร์ล็อต ผมคิดว่าตัวเองรู้สึกเข้าใจในบุคลิกนิสัยส่วนตัวของเธอ
เธอเป็นเด็กที่อ่อนโยน และก็ไม่อยากจะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แต่หากเป็นการทำเพื่อน้องสาวสุดที่รัก แม้ว่าจะเป็นการรบกวนผม เธอก็ไม่ลังเลที่จะลองขอร้องดู
นอกจากความมุ่งมั่นที่ยากจะปฏิเสธ ยิ่งไปกว่านั้น ผมเองก็ไม่อยากให้เอมม่ารู้สึกไม่อุ่นใจในการใช้ชีวิตประเทศญี่ปุ่น
ถ้าการเป็นเพื่อนเล่น มันช่วยแก้ปัญหาได้ มันก็ย่อมดีกว่าจะปฏิเสธ
“อืม ตกลงครับ บางทีผมอาจจะเป็นเพื่อนเล่นให้น้องไม่ได้ทุกวัน แต่ผมจะพยายามจัดสรรเวลาว่างให้เยอะที่สุดเพื่อเล่นกับเอมม่านะครับ
“ขอบคุณมากจ๊ะ”
พอฟังคำตอบของผม ชาร์ล็อตดีใจมากกล่าวขอบคุณ เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ ผมคิดว่าการตอบตกลงเป็นเพื่อนเล่นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตัดสินใจผิดแน่
ได้อยู่กับสองสาว มีกิจกรรมเพิ่มขึ้นด้วยกัน ผมดีใจนะ มองยังไงก็คุ้ม ส่วนเรื่องเวลาเรียนกับเวลานอนที่หายไปเหรอ ช่างมันเหอะ หดหายไปนิดหน่อยไม่ทำให้ตายหรอก
จบ CH2