OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF - ตอนที่ 45 มีแรงจูงใจที่ซ่อนเร้น
OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF
บทที่ 45 มีแรงจูงใจที่ซ่อนเร้น
เมื่อเห็นหลินชิงหัวอีกครั้ง หนิงเถาก็รู้ว่าอีกฝ่ายได้แย่ลงกว่าครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกัน แก้มของเขาได้ผอมผิดปกติ แต่เขากลับมีพลังแปลกๆปล่อยออกมามากขึ้น เขายังคงพูดกับตัวเองโดยอ้างว่าเป็นจักรพรรดิและกล่าวถึงนางสนมที่รักของเขาหรือทําอะไรทํานองนั้น ดูภาพรวมแล้วเขาดูเหมือนคนที่มีอาการปวยทางจิตขั้นรุนแรงมาก
และเมื่ออีกฝ่ายเริ่มจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว หลินชิงวู่ที่อยู่ไม่ไกลก็ได้ส่งนมที่ผสมยานอนหลับให้เขาดื่ม แน่นอนว่ามันเห็นผลแทบจะทันที
เมื่อมองไปที่หลินชิงหัวผู้หลับอย่างรวดเร็ว หนิงเถาก็เกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า “ บัญชีแยกประเภทใบไผ่บอกว่าเขาเป็นปีศาจชนิดใหม่ แต่ทําไมจนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่สามารถเชื่อมโยงเขาเข้ากับลักษณะของปีศาจได้ยกเว้นความบ้าคลั่งของเขาเท่านั้นที่รู้สึกว่าจะเป็นอะไรที่เหมือนปีศาจในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ ไม่ใช้ว่าทุกตัวตนต้องล้วนแต่น่าเกรงขามเหรอ? พวกมันต้องมีอํานาจมากจนสามารถทําได้ทุกอย่างสิ? สามารถบินและดําลงไปบนพื้นได้ แล้วทําไมหลินชิงหัวถึงไม่สามารถต้านทานยานอนหลับได้เลยกัน? แล้วแบบนี้เขาถือว่าเป็นปีศาจไหม? ”
อย่างไรก็ตามหนิงเถาก็เคยเห็นปีศาจในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์เท่านั้น เขาไม่เคยเห็นปีศาจตัวจริงมาก่อนเลย ในขณะนี้ “ปีศาจชนิดใหม่” ต่อหน้าเขานั้นบอบบางและธรรมดามาก ถ้าจะพูดให้ฟังเข้าใจง่ายหน่อยก็ดูเหมือนผู้ปวยมากกว่าเป็นปีศาจ
ดวงตาของหลินชิงวุ่เต็มไปด้วยความกังวลและเธอก็พูดว่า” หมอหนิง! พี่ชายของฉันอาการแย่ลงเรื่อยๆ ฉันเป็นห่วงเขา”
หนิงเถารวบรวมความคิดของเขา ก่อนที่จะพูดปลอบเธอว่า “ไม่ต้องห่วง! ผมจะรักษาพี่ชายของคุณเอง”
ตาของหลินชิงวุ่ตกลงบนใบหน้าของหนิงเถาด้วยความอ่อนโยน “ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี?”
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็แสดงรอยยิ้มน้อยๆออกมา และพูดว่า “ไม่ต้องหรอก”
เขาไม่ต้องการขอบคุณจริงๆ ที่เขาต้องการจริงๆมีเพียงหลินชิงหัว เพื่อให้อีกฝ่ายทําพันธสัญญาตามความบาปที่ตัวเขามี นอกจากนี้เขายังได้ใช้โอกาสนี้ไขความลับของปีศาจชนิดใหม่ที่เขาไม่เคยรู้
บนระเบียงหลินตงไห่และฟางเหมยหลิงกําลังกระซิบกันอยู่
“ฉันจะไม่อนุญาตให้ผู้ชายคนนั้นมารักษาหลินชิงหัวแน่ถ้าไม่ใช่เพราะข้อเท็จจริงที่ว่าเราไม่ได้รับข่าวใดๆจากสหรัฐอเมริกาเลย” หลินตงไห่ถอนหายใจพร้อมกับแสดงสีหน้าบึงตึงออกมา “ แต่เราเองก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ตามเงื่อนไขสภาพร่างกายของลูกเราเอง มันไม่สามารถล่าช้าออกไปได้อีกต่อไป ดังนั้นเราต้องลองให้เขารักษาดู”
“ ฉันไม่เข้าใจว่าทําไมผู้ชายอย่างเจียงหยีหลงจึงกลัวเด็กคนนี้มากนัก? เขายังเรียกอีกฝ่ายว่าอาจารย์หนิงและยอมขายที่ดินให้เราเพราะเขา” ฟางเหมยหลิงได้พูดพึมพํา
“เก็บเสียงของคุณลงหน่อย! ตอนนี้เราต้องการความช่วยเหลือจากเขา มันจะเป็นเรื่องแย่มากถ้าเขาได้ยินการสนทนาของเรา” การแสดงออกของหลินตงไห่ต่อหนิงเถานั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากครั้งแรกที่เขาได้พบกัน
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” ฟางเหมยหลิงได้เสนอขึ้นมา “ก่อนที่เขาจะเอาลูกชายของเราไป ฉันต้องการคุยอะไรกับเขาให้ชัดเจนก่อน“
หลินตงไฟที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ จากนั้นเปิดกระจกแก้วระหว่างระเบียงและห้องนอนออกก่อนที่จะเดินเข้ามา
ฟางเหมยหลิงแสดงรอยยิ้มขณะที่เธอเดินเข้ามา “หมอหนิง! เราคุยกันได้ไหม?”
“แน่นอน! คุณต้องการพูดเรื่องอะไร?” หนิงเถาถามกลับไป
“ คุณสามารถนําตัวหลินชิงหัวไปรักษาได้ แต่คุณต้องตกลงให้หลินชิงว์ไปกลับคุณด้วย” ฟางเหมยหลิงพูดเข้าประเด็นทันที
หนิงเถาคิดสักครู่ก่อนตอบว่า “แน่นอนว่านั้นเป็นไปได้”
“อีกหนึ่งเรื่อง” หลินตงไห่พูดขึ้นต่อว่า “คุณต้องสัญญากับฉันว่าคุณจะรักษาลูกชายของฉันให้หาย”
“ถ้าผมไม่สัญญาเรื่องนี้คุณจะไม่ยอมให้ผมพาหลินชิงหัวไปรักษาใช้ไหม?” หนิงเถาถามออกมาอย่างถี่ถ้วน
ใบหน้าของหลินตงไห่เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่น้ําเสียงของเขายังเป็นแบบเดิม “หมอหนิงโปรดเข้าใจความรู้สึกของเราด้วย! ในฐานะคนเป็นพ่อแม่การต้องส่งลูกตัวเองไปยังที่ไม่รู้จักนั้นเป็นอะไรที่ทําใจลําบากเกินไป ดังนั้นฉันเพียงหวังว่าคุณจะรักษาเขาอย่างเต็มที่ เรื่องเงินค่ารักษาเองก็ไม่ต้องกังวลไป ขอแค่คุณหมอหนิงบอกจํานวนมาก ฉันยินดีที่จะจ่ายให้”
” ผมสัญญาได้ว่าจะรักษาหลินชิงหัว แต่ไม่ใช่เพราะคุณแต่เป็นหลินชิงวุ่ ผมได้สัญญาเรื่องนี้กับเธอไปแล้วก่อนที่จะมาที่นี้” เขาหยุดไปซักพักก่อนที่จะพูดขึ้นต่อว่า ”และผมไม่ต้องการเงินของคุณ”
“คุณไม่ต้องการเงินของฉัน?” หลินตงไห่ถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“คุณไม่ต้องการเงิน แล้วคุณต้องการอะไร?” ฟางเหมยหลิงมองดูหลินชิงวุ่ที่ยืนอยู่ข้างเธอโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตัว
“ผมไม่ต้องการอะไรเลย” หนิงเถาพูดต่อว่า “นั่นแหล่ะที่ผมต้องการจะสื่อ! ถ้าพวกคุณไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว มันจะเป็นการดีกว่าที่ผมจะพาตัวเขาไปรักษา”
ก่อนที่หลินตงไห่และฟางเหมยหลิงจะพูดอะไรออกมาอีกคํา หนิงเถาก็ได้ไปที่เตียงของหยิบหลินชิงหัวก่อนที่จะยกตัวของอีกฝ่ายขึ้นและเดินออกจากประตูไป
ฟางเหมยหลิงหันไปมองทางลูกสาวตัวเองและพูดว่า “ลูกกําลังมองอะไรอยู่? รีบไปกับเขาได้แล้ว”
“ค่ะ” หลินชิงว์ตอบโดยอัตโนมัติ ก่อนที่จะรีบเดินตามหลังหนิงเถาออกไป
หลินตงไห่เองก็พูดตามหลังว่า “ถ้าถึงที่แล้วลูกก็โทรหาเราด้วย และเมื่อมีความคืบหน้าอะไรลูกก็โทรมาด้วยนะ”
“หนูรู้ว่าต้องทํายังไง ดังนั้นพ่อแม่มั่นใจได้” หลินชิงวุ่หยุดพูดก่อนที่จะรีบวิ่งตามหนิงเถาออกจากประตูไป
หลินตงไห่เองก็คิดจะเดินไปส่งลูกๆของเขาให้ถึงที่สุดแต่เขากับถูกภรรยาดึงเอาไว้ก่อน
หลินตงไห่ขมวดคิ้ว “คุณจะดึงผมเพื่ออะไร?”
” คุณไม่เห็นเหรอ?” ฟางเหมยหลิงถามออกมา
“เห็นอะไร?”
“ ผู้ชายคนนั้นไม่ต้องการเงิน” ฟางเหมยหลิงพูดต่อว่า เขาต้องมีเป้าหมายที่ลูกสาวของเราแน่นอน!!”
หลินตงไร่ที่ได้ฟังแบบนั้นก็ส่งเสียงอึกทึกคึกโครมและคร่ําครวญว่า “ เขาไม่สมควรได้รับลูกสาวของเรา! เมื่อเขารักษาหลินชิงหัวเสร็จ เราจะไม่อนุญาตให้เขาเข้าบ้านของเราอีกครั้ง!”
” ปล่อยให้เขาฝันกลางวันไปเถอะ” ฟางเหมยหลิงเองก็พูดเสริมขึ้นว่า “เราต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับอย่าปล่อยให้เขารู้ได้ว่าเราไม่ต้องการให้เขาอยู่กับลูกสาวของเรา ไม่อย่างนั้นมีความเป็นไปได้ที่เขาจะไม่ยอมรักษาหลินชิงหัว ”
เห็นได้ชัดว่าหนิงเถาไม่ได้ยินแผนของพวกเขา เขายังคงเดินพาหลินชิงหัวไปยังรถที่เขาจอดเอาไว้ เจียงเฮาที่เห็นแบบนั้นก็ลุกจากที่นั่งคนขับและช่วยเปิดประตูเปิดให้หนิงเถา ได้นําตัวหลินชิงหัววางเอาไว้บนที่นั่งเบาะหลังและติดเข็มขัดนิรภัยให้อีกฝ่ายเรียบร้อย
ในขณะที่เขาทําสิ่งนี้หลินชิงว์ได้มองเจียงเฮาและพูดด้วยเสียงแปลกๆว่า “คุณ … ดูหน้าคุ้นจัง?”
เจียงเฮายื่นมือออกไปหาหลินชิงวุ่และพูดว่า “ฉันชื่อเจียงเฮาและพวกเราเคยเจอกันที่ห้องแล็บของพี่ชายของคุณแล้ว”
“คุณคือ …” หลินชิงวุ่ดูเหมือนจะจําบางสิ่งบางอย่างได้ แต่เธอก็ไม่แน่ใจ
“ ฉันเป็นตํารวจ” เจียงเฮาตอบกลับ
“ไม่น่าแปลกใจที่ฉันถึงรู้สึกว่าคุณคุ้นๆ ฉันชื่อหลินชิงวู่ดียินดีที่ได้พบคุณเจ้าหน้าที่เจียง” หลินชิงวุ่จับมือของเจียงเฮา และพูดเสริมว่า “คุณกับหมอหนิงรู้จักกันได้ยังไงคะ?”
“ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วละ”
ดวงตาของหลินชิงวุ่เปลี่ยนไป แต่มันเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ก่อนที่จะกลับมาเป็นอย่างเดิม ดังนั้นคุณจึงเป็นเพื่อนในวัยเด็กกับหมอหนิงนี้เอง”
หนิงเถาได้จัดการธุระของตัวเองเสร็จแล้ว เขาจึงได้พูดขึ้นว่า “ฉันทําเสร็จแล้ว เราไปได้แล้ว”
เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นก็เดินไปที่ที่นั่งคนขับ พร้อมกับถามว่า ”นายต้องการที่นั่งด้านหน้าหรือหลัง?”
“มันมีความแตกต่างกันยังไง?” หนิงเถาถามออกมาด้วยความสงสัย แต่เขาก็ตอบกลับไปว่า “เอาละ! ฉันจะไปนั่งที่เบาะหลังดีกว่า เผื่อว่าฉันต้องดูหลินชิงหัวระหว่างทาง”
ปากของเจียงเฮาขยับไปมาเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เดินไปนั่งในที่นั่งคนขับและรถก็เคลื่อนที่ออกไป จากประตูคฤหาสน์อันใหญ่ตัวนี้
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมารถยนต์เชิงพาณิชย์บูอิคก็มาถึงบ้านพักคนชรา บ้านพักคนชราอยู่ที่มาประมาณ 70 หรือ 80 ปีเป็นอย่างน้อย อาคารส่วนใหญ่เป็นอาคารก่อด้วยอิฐสีเทาในสไตล์สาธารณรัฐจีน ต้นไม้ในสนามมีขนาดใหญ่มาก และหลังคาขนาดใหญ่เหมือนร่มบนหลังคาซึ่งทําให้เกิดเป็นความเงียบอันเป็นเอกลักษณ์ที่นี่
หลินชิงหัวถูกวางไว้ในวอร์ดแยกต่างหาก ทันทีที่หลินชิงหัวเข้าพักแล้วเจียงเฮาก็พูดว่า “คุณหลิน! คุณอยู่ที่นี่ซักพัก พอดีว่าฉันกําลังจะพาคุณหมอหนิงไปพบใครซักคน”
“คุณจะไปหาใคร?” หลินชิงวุ่ถามออกมา
“ขอโทษด้วย! ฉันไม่สามารถบอกคุณได้ในขณะนี้” เจียงเฮา มองไปทางหนึ่งเถาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าเธอจะต้องการกระตุ้นให้เขาตามเธอไป
“หลินชิงวุ่” หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็หันกลับมาพูดว่า “คุณอยู่ที่นี่และดูแลพี่ชายของคุณสักพัก ผมจะต้องไปกับเจียงเฮาก่อน”
“ได้! คุณเองก็รีบกลับมาละ” หลินชิงวุ่ตอบกลับ
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าและเดินตามเจียงเฮาออกไป
หลินชิงวุ่เห็นหนิงเถาและเจียงเฮาเดินจากไปไกลแล้วก็ได้ปรากฏรอยยิ้มแปลกๆขึ้นมาบนใบหน้าของเธอ ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้พวกคุณต่างก็บอกว่าเป็นเพื่อนในวัยเด็กกัน แต่เมื่อกี้ฉันเหมือนจะได้ยินประโยคอย่างคุณหมอหนิง เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นมีเจตนาแอบแฝง!”
บนทางเดินข้างนอกหนิงเถาได้ถามเฉียงเฮาว่า “เธอจะพาฉันไปหาใครกัน?”
“เหลียงเคมิง” เจียงเฮาพูดขณะเดินไป “ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ชีววิทยาที่โดดเด่นที่สุดในประเทศของเรา และยังเป็นนักวิชาการที่อายุน้อยที่สุดในสถาบันการศึกษาวิทยาศาสตร์อีกด้วย เขามีความสามารถสูงและมีคุณค่าต่อประเทศของเราอย่างมาก”
” ทําไมผู้ชายอย่างเขาต้องการที่จะเห็นฉัน?” หนิงเถาถามกลับไปอย่างสงสัย
“ฉันเองก็ไม่รู้” เจียงเฮาพูดต่อว่า “แต่นายจะรู้ว่าเมื่อนายพบเขา” หลังจากหยุดซักพักเธอก็พูดขึ้นอีกว่า “อย่างไรก็ตาม ฉันมีของขวัญที่จะให้นายด้วย”
“ทําไมเธอถึงต้องการให้ฉันของขวัญ? มันคืออะไร?”
เจียงเฮาไม่พูดอะไรแต่หยิบเอาใบอนุญาตแพทย์จากกระเป๋ากางเกงของเธอขึ้นมา แล้วส่งให้หนิงเถา
หนิงเถาที่เห็นเป็นกระดาษแผ่นหนึ่งก็ไม่คิดอะไรมาก ก่อนที่จะรับมันมาและมันเกิดขึ้นมาดู มันมีรูปและชื่อของเขาอยู่ข้างในนั้น แน่นอนเขารู้ว่ากระดาษบนมือของเขาคืออะไร นั่นทําให้เขาถึงกับตกใจและพูดขึ้นว่า “ฉันยังไม่ได้ฝึกงานหรือทําแบบทดสอบคุณสมบัติแพทย์ ไอ้กระดาษนี้มันเป็นของปลอมหรือเปล่า?”
เจียงเฮามองไปที่หนิงเถาด้วยสายตาแปลกๆ และพูดว่า “ฉันจะให้ใบอนุญาตทางการแพทย์ปลอมกับนายไปเพื่ออะไร? อย่ามาดูถูกฉันเลย”
“แต่..”
“ไม่มีแต่! เอาไป! ฉันบอกนายแล้วว่ามันเป็นของขวัญ ดังนั้นไม่มีการรับคืน” เจียงเฮาแสดงท่าทางจริงจังออกมาเมื่อพูดเรื่องนี้
หนิงเถาที่เห็นการแสดงออกแบบนี้ก็ทําได้เพียงยิ้มออกมาแล้วพูดว่า ” ก็ได้”
ใบรอบรองทางการแพทย์นั้นไม่ค่อยมีประโยชน์กับเขาในฐานะเจ้าของคลินิกนภา อย่างไรก็ตามเนื่องจากคลินิกไม่สามารถหาเงินได้ เขาจึงต้องทํางานเป็นหมอเร่ร่อนอยู่ข้างถนน ด้วยวิธีนี้ ใบอนุญาตทางการแพทย์นี้จึงพอจะมีประโยชน์
เมื่อพวกเขาพูดจบ พวกเขาก็มาถึงประตูที่ต้องการแล้ว
เจียงเฮาเอื้อมมือไปเคาะประตูสองครั้ง
“เข้ามาได้!” เสียงชายวัยกลางคนได้ดังออกมาจากห้อง
เจียงเฮาที่ได้รับอนุญาตก็ได้ผลักประตูเปิดออก ก่อนที่จะเดินนําหนิงเถาเข้าไปข้างใน
ด้านหลังประตูเป็นที่ทํางานและด้านหลังโต๊ะนั่งมีชายคนหนึ่งในวัยสามสิบนั่งอยู่ เขามีผิวสีซีดสวมแว่นสายตาสีดํากรอบดําด้วยดวงตาที่ลึกล้ําทําให้เกิดเป็นความอ่อนโยนและสติปัญญา
บนโซฟาข้างโต๊ะนั่งก็มีชายชราคนหนึ่งซึ่งผอมและดูสงบ เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวและสร้อยข้อมือเพชรโพธิ์งามแวววาวบนข้อมือ นอกจากนี้เขายังหมุนวอลนัทโบราณสีแดงสดในมือไปมา หนิงเถาคิดว่าชายชราคนนี้ควรจะเป็นแพทย์ที่ได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือสูง
เจียงเฮาเดินเข้ามาและพูดว่า “นักวิชาการเหลียง นี่คือหมอหนิงที่คุณต้องการพบค่ะ!”
เหลียงเคมิงที่ได้ฟังแบบนั้นลุกขึ้น ก่อนที่จะเดินไปพร้อมกับรอยยิ้มแล้วยื่นมือออกไปทักทาย “ฉันไม่เคยคิดว่าคุณหมอหนิงที่ใครๆต่างก็พูดถึงกับจะยังเด็กมากแบบนี้ เมื่อฉันได้ยินเกี่ยวกับคุณฉันก็หลงคิดไปว่าคุณเป็นหมอจีนเฒ่าในวัยห้าสิบและอายุหกสิบเศษเสียอีก? แล้วมาดูคุณตอนนี้สิ? ฮ่า ฮ่าฮ่า”
หนิงเถาเองก็ได้จับมือกับเหลียงเคมิงและพูดอย่างสุภาพว่า “ ยินดีที่ได้รู้จักนักวิชาการเหลียงครับ!”
เหลียงเคมิงพูดต่อว่า “ให้ฉันแนะนําแขกอีกคนดีกว่า เขาคือเฉินจุนหัวหน้าแพทย์ประจําโรงพยาบาลทหาร เขาประสบความสําเร็จอย่างมากในการแพทย์แผนจีนและตะวันตก เขาเองก็เป็นคนที่น่าทึ่งมากคนหนึ่งเหมือนกับเธอ”
แม้ว่าหนิงเถาจะสงสัยว่าทําไมมีแพทย์จากโรงพยาบาลทหารถึงมาที่นี้ แต่เขาก็ยังยื่นมือให้เฉินจุนตั้งแต่แรกและพูดอย่างสุภาพว่า
“ผมได้ยินมามากเกี่ยวกับคุณหัวหน้าเฉิน ยินดีที่ได้พบครับ!”
อย่างไรก็ตามเฉินจุนนั่งอยู่บนโซฟาและตอบอย่างเฉยเมยว่า “เราไม่เคยพบกัน! คุณจะพูดว่าคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับผมมามากได้ยังไงกัน?”