OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF - ตอนที่ 29 ปีศาจ
บทที่ 29 ปีศาจ
สามเดือนที่ผ่านมาหลินชิงหัวเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ แล้วนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่เขาเริ่มมีโรคแปลกๆเกิดขึ้น เขามักจะทำตัวเป็นจักรพรรดิและพูดคุยเรื่องไร้สาระเสมอ แต่นั้นไม่ใช้เรื่องที่น่ากลัวเท่ากับการที่เขาเริ่มที่จะผอมลงทุกวัน และนั้นทำให้หลินชิงวู่ได้รับแต่งตั้งให้แทนที่หลินชิงหัวในฐานะผู้จัดการทั่วไปในช่วงเวลาที่สำคัญและยากลำบากนี้ เธอต้องออกจากมหาลัยที่เธอกำลังเรียนอยู่ เดิมเธอเตรียมตัวที่จะเข้าเริ่มระดับปริญญาเอกอีกหนึ่งใบในมหาลัยสหรัฐอเมริกา เธอชอบการวาดภาพและการถ่ายภาพแทนการทำธุรกิจซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่พ่อแม่ให้ความสำคัญกับพี่ชายคนนี้ของเธอมาก
หลินชิงหัวเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย เขาไม่เพียงแต่เป็นนักเรียนชั้นนำที่สำเร็จการศึกษาจากภาควิชาชีววิทยาของมหาวิทยาลัยชิงก่อนเท่านั้น แต่ยังได้รับปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์อีกด้วย เขามีส่วนร่วมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สำคัญและการยกระดับเทคโนโลยีในบริษัทตลอดมา อาจจะพูดได้ว่าในขณะที่หลินตงไห่เป็นคนสร้างบริษัทขึ้นมา หลินชิงหัวได้ทำให้ที่บริษัทเติบโตขึ้น
นี่คือสิ่งที่หนิงเถาได้รับรู้มาจากหลินชิงวู่ แต่นี่ไม่ใช่ข้อมูลที่เขาต้องการ หลังจากการซักถามอีกเล็กน้อย หนิงเถาก็ได้พูดเข้าประเด็นจริงๆ“หลินชิงวู่! คุณยังไม่บอกผมเลยว่าทำไมพี่ชายของคุณถึงป่วยขึ้นมา มันใช้เกี่ยวกับงานวิจัยอะไรที่เขากำลังทำอยู่ไหม?”
หลินชิงวู่หยุดครู่หนึ่งแล้วถามว่า “อะไรนะ?”
งานวิจัยที่เกี่ยวกับดินและแผงวงจรที่พบใต้เตียงของซูหยาที่อยู่ในหีบยาของเขา หนิงเถาต้องการแสดงให้เธอเห็นจริงๆ แต่เขายอมแพ้หลังจากการพิจารณามันสักครู่ สองสิ่งนั้นแปลกมากและมันยังเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของซูหยาอีก นอกจากนี้เขายังรู้จักหลินชิงวู่น้อยกว่าหนึ่งวัน เขาไม่มันใจว่าจะสามารถเชื่อในตัวเธอได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
“คุณลองคิดดูให้ดีว่ามีงานวิจัยอะไรเมื่อเร็วๆนี้ ตัวอย่างเช่น พี่ชายของคุณได้ทำงานเกี่ยวกับยาใหม่หรือผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันก่อนที่เขาจะป่วยไหม?”
หลินชิงวู่คิดสักครู่ก่อนที่เธอจะตอบว่า “ฉันเคยได้ยินว่าพี่ชายของฉันเริ่มโครงการใหม่ที่เรียกว่า ‘ต้นกำเนิดบรรพบุรุษ’
ต้นกำเนิดบรรพบุรุษ? ใบหน้าของซูหยาซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆได้เกิดขึ้นในใจของหนิงเถา “หลินชิงวู่! คุณบอกผมได้ไหมว่ามันเป็นโครงการประเภทไหน?”
หลินชิงวู่ส่ายหัวของเธอแล้วพูดว่า “ฉันเองก็พยายามมองหาไฟล์ของโครงการนี้หลังจากที่พี่ชายของฉันป่วย แต่ฉันก็ไม่พบอะไรเลย ฉันลองไปถามคนที่เกี่ยวข้องกับมันในบริษัทแล้ว แต่คนพวกนั้นต่างก็บอกว่าพวกเขาเองก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้ “
“พี่ชายของคุณได้พบกับคนอื่นเป็นพิเศษไหม?”
“ ฉันเองก็ไม่รู้ ฉันกลับมาหลังจากที่เขาป่วยไปแล้ว อาจจะพูดได้ว่าฉันไม่รู้เรื่องงานของเขามากนัก” หลังจากหยุดครู่หนึ่งหลินชิงวู่ก็พูดขึ้นว่า “หรือว่ามันจะเกี่ยวกับอาการป่วยของพี่ชายของฉัน?”
“ไม่แน่ใจ! ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมเขาถึงป่วยก็เท่านั้น เพราะถ้าผมรู้ต้นเหตุของมันผมก็สามารถหายารักษาที่เข้ากันได้” หนิงเถาตอบกลับมา
“งั้นฉันจะถามพ่อของฉัน”
“ไม่” หนิงเถาพูดต่อว่า “ตอนนี้ผมจะเริ่มรักษาเบื้องต้นให้กับพี่ชายของคุณ คุณช่วยออกไปรอผมข้างนอกได้ไหม? และถ้าผมยังไม่ได้เรียกหรือออกไปจากห้องนี้ คุณและทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา”
“ ไม่! ฉันต้องการเห็นคุณรักษาพี่ชายของฉัน” หลินชิงวู่พูดต่อว่า “คุณสามารถมั่นใจได้ว่าฉันจะระมัดระวังไม่ให้รบกวนการรักษาของคุณ”
“ผมมีกฎของตัวเองเมื่อผมรักษาผู้ป่วย” หนิงเถาได้พูดต่อว่า “ถ้าคุณต้องการให้ผมรักษาพี่ชายของคุณ คุณก็ต้องเชื่อฟังกฎของผมถ้าคุณทำผิดกฎผมจะกลับไป”
“เอาล่ะ! ฉันจะออกไปรอข้างนอก” หลินชิงวู่มีความลังเล แต่เธอก็ยังคงออกจากห้องและปิดประตูเมื่อเธอออกไป
หนิงเถามาถึงข้างเตียงหลังจากล็อคประตูจากด้านใน
หลินชิงหัวนอนอยู่บนเตียงและมองแต่เพดานพร้อมกับพูดกับตัวเองว่า “เจ้ากล้าฆ่านางสนมที่รักได้ยังไง! ข้าจะฆ่าเจ้า … ที่รักรอข้าด้วยสิ ข้าจะไปหาเจ้าในไม่ช้า … “
หนิงเถาไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายพูดอะไร ในตอนนี้เขาไดเปิดใช้ความสามารถของดวงตาและจมูกของเขาอีกแบบ ในช่วงเวลาหนึ่งเขาเห็นแสงสีฟ้าและหมอกที่ออกมาจากหลินชิงหัวอีกครั้ง
เนื่องจากเวลาและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทำให้การใช้ทักษะนี้อีกครั้งทำให้ผลออกมาแตกต่างจากเดิม
หลินชิงหัวยังคงจ้องมองที่เพดานด้วยสายตาที่ดูน่าเบื่อและพึมพำกับตัวเอง แต่ตอนนี้หนิงเถาไม่ได้ยินเขา
ตาและจมูกของเขาได้ตกลงไปที่หลินชิงหัวและจ้องมองมันอย่างจริงจัง เขาต้องการรู้ว่าสรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่ายกันแน่
แต่เขาก็ล้มเหลวอีกครั้ง
จากนั้นเขาพยายาม แต่ก็ยังล้มเหลว
หลังจากความล้มเหลวตลอดช่วงเวลาสั้นๆ ก็มีแสงสีฟ้าปรากฏบนหน้าผากของหลินชิงหัว ดูเหมือนไส้เดือนฝอยสีน้ำเงิน
“นั่นอะไร?” ใจของหนิงเถาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่เมื่อเขาพยายามมองมันอย่างชัดเจน สิ่งมีชีวิตที่มีแสงสีน้ำเงินก็หายไปอีกครั้ง
เขาลองทำมันดูอีกสองสามครั้ง แต่สิ่งที่ดูเหมือนแสงสีฟ้าเล็กๆนั้นดูเหมือนจะซ่อนตัวและไม่ยอมออกมาอีกเลย
ทันใดนั้นหลินชิงหัวก็เริ่มพูดว่า “ ข้านึกถึงเสื้อผ้าสีเงินของเจ้า เมื่อเห็นเมฆลอยบนท้องฟ้าและรูปลักษณ์ที่สวยงามของเจ้า เมื่อเห็นดอกไม้ลมฤดูใบไม้ผลิไหลผ่านทางเดินในขณะที่ดอกโบตั๋นถูกส่องประกายด้วยดอกโบตั๋นเอง ข้าหวังว่าจะได้พบเจ้าภายใต้แสงจันทร์ของบ้านอมตะ “
ทันใดนั้นหนิงเถาก็แสดงสีหน้าแปลกใจ “นี่คือบทกวีของคนโบราณ? จากที่รู้มาบทกวีนี้มันได้พูดถึงที่จักรพรรดิและนางสนมที่รักของเขา มันมีช่วงอยู่ในปลายราชวงค์ถัง ดูเหมือนว่าหลินชิงหัวจะเป็นคนคลั่งไคลบทกวีเหมือนกัน?” เขาได้กระซิบกับตัวเอง จากนั้นเขาก็ดูหลินชิงหัวและพูดว่า “แม้ว่าคุณจะคลั่งไคล้บทกวีมากขนาดไหน แต่คุณก็ยังคงต้องพัฒนาการอ่านมันอีกเล็กน้อย “
หลินชิงหัวยังคงไม่สนใจหนิงเถาและพูดบทกวีซ้ำๆ
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ได้ลองเปิดหีบยาและหยิบสมุดบัญชีแยกประเภทใบไผ่ออกมา จากนั้นเขาก็คว้ามือหลินชิงหัวและวางมันไว้บนบัญชีแยกประเภท
“เจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้ากล้าแตะต้องตัวข้าได้ยังไง?” หลินชิงหัวที่ถูกจับมือได้มีปฏิกิริยาขึ้นมา
ถึงจะเป็นแบบนั้นหนิงเถาก็เลือกที่จะไม่สนใจเขาและหันไปเปิดบัญชีแยกประเภท
วรรคหนึ่งของข้อความปรากฏบนบัญชีแยกประเภท “ไปสู่สวรรค์เพื่อสร้างร่างกายใหม่ เขาเป็นมนุษย์ที่ไม่ใช้มนุษย์และเป็นปีศาจที่ไม่ใช่ปีศาจ อาจจะพูดได้ว่าเป็นปีศาจกลายพันธ์แบบใหม่ มี 49 จุดแห่งบาป การที่จะช่วยได้จำเป็นต้องทำลายการวิจัยของ ‘ต้นกำเนิดบรรพบุรุษ’ และฆ่ารากของปีศาจ … “
เนื้อหาของบัญชีแยกประเภทใบไผ่ทำให้หนิงเถารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาพยายามตรวจสอบร่างกายของหลินชิงหัวแต่พบเพียงแค่แสงสีเงินเล็กๆเท่านั้น แต่ทันทีที่นำมือของอีกฝ่ายว่างเอาไว้บนบัญชีแยกประเภท มันกับมีรายละเอียดมากมายปรากฏออกมา แต่การสันนิษฐานของเขาเกี่ยวกับอาการของโรคนั้นถูกต้อง ดังนั้นหมายความว่าหลินชิงหัวต้องทำการวิจัยมันอย่างลับๆ ซึ่งมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาป่วย? และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายยังได้ทดลองใช้ยาที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากรัฐมาใช้กับตัวเองเช่นกัน!
หนิงเถาได้ยินคำว่า “ปีศาจกลายพันธ์รูปแบบใหม่” เป็นครั้งแรก เขามีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเกี่ยวกับคำนี้ในบัญชีแยกประเภทใบไผ่กว่าโครงการที่หลินชิงหัวทำเสียอีก
“ถ้ามีปีศาจตัวใหม่จริง งั้นแสดงว่ามันต้องมีปีศาจจริงๆนะสิ?… แล้วปีศาจตัวใหม่คืออะไร?” หนิงเถาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในใจของเขาตลอดเวลา และมันทำให้จิตใจของเขาเต็มไปด้วยจินตนาการมากมาย แต่มันก็เป็นแค่จินตนาการ เขาไม่เคยเห็น “ปีศาจ” แบบจริงๆมาก่อน แต่เขาคิดว่าถ้าปีศาจมีจริงมันก็คงเป็นเหมือนโรคจิตประเภทหนึ่ง
อีกฝ่ายยังมีค่าบาปเช่นกัน และมันเป็นเรื่องแน่นอนที่เขาสามารถนำอีกฝ่ายมาเป็นผู้ป่วยได้ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะทำมันในตอนนี้ เขายังต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ให้มากกว่านี้ และเขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันอาจจะเกี่ยวกับการหายตัวไปของซูหยา เขาจำเป็นต้องการตรวจสอบเรื่องนี้ให้รู้ให้ได้ก่อนที่จะลงมือทำอะไร
“เจ้าอยู่ไหน? น้ำผึ้งของข้า ข้าคิดคิดถึงเจ้าจริงๆ … ” หลินชิงหัวกระซิบออกมาพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม
ไม่มีใครคาดคิดว่าจากคนที่มีอนาคตไกลและสุขภาพดีจะต้องมาจบลงแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกเศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นมากขนาดไหน แต่เขาก็ยังต้องหาให้ได้ว่าเรื่องนี้มันมีความเป็นมายังไง
เขาได้นำดินสีน้ำเงินและแผงวงจรขนาดเล็บที่เขาพบใต้เตียงของซูหยาออกมา ก่อนที่จะยื่นมันไปตรงหน้าหลินชิงหัว“หลินชิงหัว! คุณรู้จักของสองสิ่งนี้ไหม?”
หลินชิงหัวดูที่ดินเหนียวสีฟ้าและแผงวงจรในมือของหนิงเถาแล้วบ่นอีกครั้ง “ข้าคิดถึงเสื้อผ้าเงินของเจ้าเมื่อเห็นเมฆลอย ลักษณะที่น่าทึ่งของเจ้าเมื่อเห็นดอกไม้ลมฤดูใบไม้ผลิไหลข้ามทางเดินในขณะที่ดอกโบตั๋นถูกขนาบ… “
หนิงเถายังคงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้“ จักรพรรดิซวนจงแห่งถัง ข้ากำลังพูดกับท่านอยู่ ท่านช่วยบอกได้ไหมว่าเจ้าของสองสิ่งนี้คืออะไร”
หลินชิงหัวยังพูดพึมพำกับตัวเองว่า “ข้ารู้สึกเหงาที่รัก … “
หนิงเถาที่เห็นสภาพของหลินชิงหัวตอนนี้ เขาก็ทำได้เพียงแค่ยอมแพ้พร้อมกับแสดงรอยยิ้มบิดเบี้ยวออกมา เขานำบัญชีแยกประเภทกลับไปที่เก็บในกล่องยาและเดินไปเปิดประตู
หลินชิงวู่ที่รออยู่หน้าประตูเห็นมีการเคลื่อนไหวก็รู้ทันทีว่าหนิงเถาได้เสร็จการรักษาแล้ว “หมอหนิง! พี่ชายของฉันเป็นยังไงบ้าง?”
“ มีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับอาการของเขา ผมไม่ได้รักษาพี่ชายของคุณในตอนนี้ แต่ผมก็พบสาเหตุของความเจ็บป่วยของเขาแล้วเช่นกัน” หนิงเถาตอบกลับ
“สาเหตุของความเจ็บป่วยของพี่ชายของฉันคืออะไร?”
“ ความเจ็บป่วยของพี่ชายคุณเกิดขึ้นเพราะงานวิจัยของเขา” หนิงเถาพูดต่อว่า “เขาได้ใช้ตัวเองเป็นคนทดลองยาที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง ดังนั้นถ้าต้องการรักษาเขาให้หายผมต้องการรู้เนื้อหาของโครงการนี้ทั้งหมด”
“ตอนนี้คุณก็ได้พบสาเหตุของความเจ็บป่วยของพี่ชายฉันแล้ว ทำไมคุณถึงยังไม่ลงมือรักษาอีก?” หลินชิงวู่รู้สึกตื่นเต้นกับข่าวที่เกิดขึ้น “คุณสัญญาว่าคุณจะรักษาพี่ชายของฉัน!”
“อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้สัญญาว่าจะรักษาพี่ชายของคุณให้หายขาดได้ แต่ผมจะทำให้ดีที่สุด “
“คุณจะบอกว่าคุณพยายามทำให้ดีที่สุดเมื่อคุณได้รู้เนื้อหาของโครงการนั้นใช้ไหม?”
“ ใช้! มันไม่ยากสำหรับผมที่จะรักษาพี่ชายของคุณ แต่ผมมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง” หนิงเต่ากล่าว “โครงการที่พี่ชายของคุณกำลังทำอยู่นั้นต้องถูกทำลาย”
“คุณพูดว่าอะไร? โครงการต้นกำเนิดบรรพบุรุษจะต้องถูกทำลาย” หลินชิงวู่รู้สึกประหลาดใจมาก
หนิงเถาพูดซ้ำว่า “ใช้! ถ้าคุณนำข้อมูลของโครงการทั้งหมดมาให้ผมและสัญญาว่าจะทำลายทุกสิ่งที่เกี่ยวกับโครงการนั้น ผมเองก็จะลงมือรักษาพี่ชายคุณทันที”
หลินชิงวู่ได้จ้องที่หนิงเถาและถามว่า “คุณกำลังล้อเล่นใช้ไหม? มันมีหมอคนไหนบ้างที่ร้องขอเรื่องบ้าๆแบบนี้ ตามคำสัญญาที่หมอเคยพูดเอาไว้ ไม่ใช้ว่าจะต้องรักษาผู้ป่วยทุกคนไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือมิตรไม่ใช้เหรอ? แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำตามคำสัญญานั้น ทำไมคุณถึงได้ขอเรื่องที่มันไม่เกี่ยวกับตัวคุณเองด้วย? “
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า เขาทำเพียงพูดออกมาเรียบๆว่า “ใช่ที่ผมเป็นหมอ แต่ผมก็มีกฎของตัวเอง คุณลองนำข้อเสนอของผมไปคิดดู ถ้าตัดสินใจได้ยังไงคุณก็รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน”
“คุณ … ” หลินชิงวู่รู้สึกโกรธอย่างมาก แต่เธอก็กลัวที่จะทำให้หนิงเถาโกรธมากกว่า
“อืม! ติดต่อผมเมื่อคุณคิดได้แล้ว ตอนนี้ผมต้องขอตัวก่อน” หนิงเถาพูดจบก็ได้เดินออกจากห้องพร้อมหีบใส่ยาขนาดเล็กของเขา
ในห้องนั่งเล่นหลินตงไห่และฟางเหมยหลิงกำลังพยายามพูดให้เจียงหยีหลงขายที่ดินให้กับบริษัทของตัวเอง
“ฉันบอกนายตรงๆนะว่าฉันจะขายที่ดินให้นายถ้าอาจารย์หนิงตกลง แต่ถ้าอาจารย์หนิงไม่เห็นด้วยฉันก็จะไม่ขายให้นายแม้ว่านายจะให้ราคาฉันเป็นสิบเทาตามเ” เจียงหยีหลงรู้สึกหงุดหงิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดประโยคซ้ำหลายครั้งแล้วก็ตาม
ในช่วงเวลานั้นเองหนิงเถาก็ได้เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น
“หมอหนิง! คุณกลับมาแล้ว!” ฟางเหมยหลิงเป็นคนแรกที่เห็นว่าหนิงเถาได้เดินเข้ามา ดังนั้นเธอจึงรีบทักทาย “หมอหนิง! ลูกชายของฉันเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ สถานการณ์ของเขาซับซ้อนเล็กน้อย” หนิงเถาพูดต่อว่า “พวกคุณสามารถไปสอบถามเรื่องพวกนี้จากลูกสาวของพวกคุณได้ เธอรู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมด”
ฟางเหมยหลิงถามต่อว่า “คุณเป็นหมอมันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้จักอาการของผู้ป่วยดีที่สุด แล้วทำไมคุณถึงอยากให้เราคุยกับลูกสาวกัน “
“ลาก่อน”. หนิงเถาเดินออกไปที่ประตูพร้อมกับถือหีบยาของเขาไปโดยไม่อธิบายอะไร
“คุณ … ” ฟางเหมยหลิงพยายามที่จะพูดห้ามเอาไว้ แต่คำพูดนั้นกับหยุดอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ
หลินตงไห่เองจ้องมองหนิงเถาจากด้านหลังพร้อมกับแสดงรอยยิ้มที่ไม่ดีออกมา เขาไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น เขาไม่รู้ว่าทำไมการเจรจาธรรมดาถึงออกมาในรูปแบบนี้ได้
“อาจารย์หนิง! รอผมด้วย!” เจียงหยีหลงได้ลุกขึ้นมาจากโซฟาและเดินตามหนิงเถา
หลินตงไห่รีบไปหาเจียงหยีหลงอย่างเร่งด่วน แต่เจียงหยีหลงกับผลักเขาออกไปอย่างรุนแรง
“เรื่องที่ดินต้องรอถามจากอาจารย์หนิง?” เจียงหยีหลงรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นมาก่อนที
“ตามที่คุณต้องการ!”