OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF - ตอนที่ 11 วิธีการฝึกตนเบื้องต้น
บทที่ 11 วิธีการฝึกตนเบื้องต้น
สิ่งแรกที่หนิงเถาทำเมื่อเขากลับมาที่คลินิกคือเปิดบัญชีแยกประเภทที่ทำจากใบไผ่และตรวจสอบยอดเงินค่าเช่าที่มี เมื่อเขาเห็นบาป 107 จุดอยู่ในนั้น เขาก็รู้สึกตื่นเต้นจนเกือบร้องไห้
คลินิกเงียบสงบมากในช่วงเวลานี้ และตรงหน้าของเขาก็ปรากฏควันสีดำขดตัวไปมา เห็นได้ชัดว่าควันนั้นมาจากกระถางธูปบนโต๊ะ
หนิงเถาปิดบัญชีแยกประเภทและเดินไปที่กระถางก่อนที่เขาต้องมองไปหน้าปีศาจ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้เข้าไปไกลมากขึ้น เขาก็รู้สึกได้ถึงความตั้งใจที่ชั่วร้ายที่พุ่งเข้าปะทะหน้าของเขา มันจึงทำให้การเดินเข้าไปใกล้กระถางธูปเป็นไปได้ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น เมื่อเขาเข้าไปใกล้มากพอเขาก็ได้สังเกตเห็นว่าด้านล่างของกระถางธูปนั้นมีของเหลวสีดำกองอยู่
ก่อนหน้านี้เจ้ากระถางธูปนั้นวางเปล่า แต่เมื่อในบัญชีแยกประเภทได้แสดงถึงความบาป 107 จุด มันจึงไม่แปลกที่จะมีของเหลวนอนกองอยู่ข้างล่างนั้น!
ทันใดนั้นกระถางธูปใบหน้าปีศาจก็มีเสียงดังขึ้นมา
แน่นอนว่าหนิงเถาต้องตกใจ เขาถึงกับก้าวถอยหลังเล็กน้อย ก่อนที่จะตั้งหลักสังเกตกระถางนั้นอีกครั้ง
หลังจากเสียงได้จบลง กระถางธูปก็เริ่มเปล่งประกายและสว่างขึ้นและสว่างขึ้น จากนั้นลวดลายที่อยู่ด้านล่างก็เหมือนดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืน!
ดูเหมือนว่าค่าบาปที่พึ่งได้รับมานั้นจะไปปลุกความสามารถอะไรบางอย่างขึ้นมา มันทำให้เขานึกเปรียบเทียบได้ว่าคลินิกนี้เป็นเหมือนรถยนต์ ส่วนค่าความดีและบาปนั้นเป็นเหมือนน้ำมัน เมื่อมีน้ำมันมันก็แน่นอนว่ารถยนต์จะทำงาน!
ในพริบตาเดียวก็มีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าของหนิงเถา
เมื่อเห็นของที่ปรากฏตรงหน้า หนิงเถาก็ถึงกับแปลกใจ เพราะของที่ปรากฏตรงหน้าของเขานั้นดูเหมือนเป็นตัวอักษรจีน!
จากการอ่านผ่านๆ เขาก็รู้ว่าเนื้อหาที่ปรากฏตรงหน้านั้นคือคู่มือวิธีการเพาะฝึกกำลังภายในในตำนาน
เมื่อเห็นเนื้อหาพวกนี้ แน่นอนว่าหนิงเถาต้องรู้สึกสับสน
ถ้าเขาฝึกตามข้อมูลนี้มันแน่นอนแล้วว่าจะต้องทำให้เขานั้นสามารถกลายเป็นจอมยุธได้ แต่เขาไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นของจริงหรือไม่? และมันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดว่าเขาฝึกแล้วธาตุไฟเข้าแทรก?
ยังไงก็ตามหนิงเถาก็ไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากหนังสือทางการแพทย์นิรนามที่เชินพิงดาวมอบให้เขาก่อนหน้านี้แล้ว มันก็ไม่มีอะไรอีกเลย หากเขาต้องการที่จะมีชีวิตรอดต่อไป เขาก็จะต้องฝึกฝนคู่มือนี้ให้ได้
ตัวหนังสือและวิธีการฝึกนั้นมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
หนิงเถามองพวกมันอย่างตั้งใจ เขากลัวว่าเนื้อหาพวกนี้อาจจะหายไป เมื่อเขามีสมาธิเกี่ยวกับมันมากขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดีเช่นกัน มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่เนื้อหาทั้งหมดจะถูกจำเอาไว้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาต้องการเนื้อหานั้นก็จะปรากฏขึ้นมาในใจทันที
เห็นได้ชัดว่าเนื้อหาที่มีนั้นมันเป็นสิ่งที่เข้ากันได้ดีกับรูปร่างมนุษย์
มันแสดงให้เห็นว่าพลังงานต่างๆนั้นอยู่ทั่วไปหมด ไม่ว่าจะเป็นในร่างกาย เลือด อากาศ พลังงานพวกนี้มีอยู่ทุกที่ …
วิธีการฝึกเบื้องต้นเป็นชื่อที่เรียบง่าย แต่มันกับไม่ใช้เรื่องง่ายอย่างที่คิด
วิธีการฝึกกำลังภายในเบื้องต้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือวิธีการฝึกฝนในการรวบรวมพลังงานแห่งความดีและความชั่วเพื่อปรับแต่งพลังวิญญาณ ส่วนที่สองคือทักษะในการเปลี่ยนพลังทางจิตวิญญาณให้เป็นไฟที่จำเป็นสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ
หลังจากนั้นไม่นานเนื้อหาและรูปแบบที่ลอยอยู่บนกระถางธูปก็ได้หายไป กลับมาสู่ความสงบเหมือนเดิม ทุกครั้งที่หนิงเถาคิดเกี่ยวกับวิธีการฝึก เนื้อหาของคู่มือส่อนแรกก็จะปรากฏขึ้นในหัวของเขาทันที และถ้าเขาเลิกสนใจเนื้อหาที่ปรากฏในหัวก็จะหายไป
หนิงเถาได้ทำการทบทวนวิธีฝึกในใจของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก และจากนั้นดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น – “เฮ้อ! ดูเหมือนว่าตั้งแต่นี้ต่อไปฉันคงจะไม่สามารถกลับมาเป็นคนธรรมดาได้อีกแล้ว ฉันได้ถูกกำหนดให้เดินทางที่แตกต่างออกไป “
ในขั้นต้นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการฝึกตนก็คือค่าพลังงานบุญและบาป แต่ตอนนี้เขากับมีพลังงานบาปเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ ส่วนค่าพลังงานบุญนั้นดูจากสถานการณ์แล้วมันคงจะไม่มาเร็วๆนี้
เมื่อเขาเข้าใจวิธีการฝึกเบื้องต้นแล้ว มันก็ถึงเวลาที่จะเริ่มต้นฝึกครั้งแรกซะที
แน่นอนว่ามันไม่ใช้เป็นไปอย่างที่หวังมากนัก จากที่คิดว่ามันจะสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ฝึก มันกับเป็นอะไรที่ตรงกันข้าม เพราะครั้งแรกที่เขาฝึกนั้นมันล้มเหลว
ครั้งที่สองก็ยังคงล้มเหลว
ครั้งที่สามก็ยังคงล้มเหลว
และครั้งต่อมาเขาก็ยังคงล้มเหลวอีกครั้ง …
แม้จะล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก หนิงเถาก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้
จนในที่สุดเขารู้สึกถึงพลังงานที่เย็นสบายและสดชื่นที่มาจากความลึกของจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วของเขา!
ระหว่างคิ้วคือจุดสำคัญจุดแรกที่เป็นทางผ่านสำหรับพลังจิตวิญญาณ หลังจากที่บุคคลหนึ่งฝึกสำเร็จจุดนี้จะเป็นจุดแรกที่เปิดรับพลังงานจากข้างนอกร่างกาย ก่อนที่จะนำพลังงานส่วนนั้นให้ไปเป็นพลังงานที่จำเป็น!
พลังงานที่ยอดเยี่ยมนี้เองที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างคนธรรมดากับพวกนักพรตหรือผู้ฝึกตน
อย่างไรก็ตามร่องรอยของพลังทางจิตวิญญาณนั้นไม่ใช้เรื่องง่ายที่จะฝึกได้ จนถึงตอนนี้หนิงเถาก็ยังไม่สามารถจับสัมผัสมันได้ดีนัก
กระนั้นหนิงเถาก็ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน หลังจากนั้นเขาก็พยายามต่อไปราวกับว่าเขาถูกครอบงำ
ถึงแม้ว่าเวลาต่อมานั้นจะล้มเหลวอีกครั้ง
ฝึกซ้ำแล้วซ้ำอีก…
เขาไม่รู้ว่าเขาฝึกมานานเท่าไหร่แล้ว
ทันใดนั้นก็เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อยขึ้นตรงบริเวณกึ่งกลางคิ้ว จากนั้นพลังงานบาปที่ลอยอยู่บนกระถางธูปก็ได้พุ่งเข้าไปที่จุดระหว่างคิ้ว
ในขณะนั้นหนิงเถารู้สึกราวกับว่าเขาได้ตกอยู่ในหลุมศพที่มืดมิด ความรู้สึกของความเย็น ความเยือกแข็งอันน่ากลัว และความรู้สึกไม่สบายอื่นๆต่างก็พุ่งเข้ามาหาไม่หยุดหย่อน มันทำให้เขาตื่นตัวเป็นอย่างมาก สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคืออารมณ์ความเกลียดชัง ความโกรธที่สามารทำให้คนดีคนหนึ่งกลายเป็นคนชั่วได้ทันที เห็นได้ชัดว่าพลังงานบาปนั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ชั่วร้ายและมืดมิดที่สุด!
มันเป็นอะไรที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก!
หนิงเถารู้สึกกลัวเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่หลังจากที่ผ่านความเจ็บปวดและความสยองขวัญที่เกิดขึ้น ความรู้สึกกลัวก็ลดน้อยลงไปจนถึงหายไป
ในตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองได้เข้าใจถึงความหมายของคำ “ความดีและความชั่ว” ขึ้นมาบ้าง เขาถึงกับพูดพึมพำตัวเองว่า “ความดีและความชั่ว บุญและบาป พวกมันจำเป็นต้องรักษาความสมดุลกัน พวกมันต้องคอยถ่วงดุลกันไม่ให้มีส่วนไหนที่มากเกินไป และส่วนไหนที่น้อยเกิดไป เมื่อทำทุกอย่างให้สมดุลกันแล้วไม่ว่าจะทำอะไรมันก็จะเกิดผลสูงสุด”
“เฮ้อ! ถึงแม้ว่าฉันจะรู้เรื่องพวกนี้ แต่มันก็ยังไม่สามารถช่วยให้ฉันผ่านอุปสรรคนี้ไปได้อยู่ดี ไม่รู้ว่าพอหมดเดือนนี้แล้วฉันจะรอดไหม? มันจะเป็นการดีที่สุดถ้าของรางวัลครั้งต่อไปจะมีประโยชน์กว่านี้ “
ความเจ็บปวดได้หายไปอย่างสมบูรณ์และหนิงเถาก็สงบลง เขาหลับตาและพยายามรับรู้ถึงพลังวิญญาณที่เขาได้พัฒนาขึ้น ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับมัน แต่หลังจากความพยายามเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็คิดกลอุบาบางอย่างขึ้นมาได้ เขาได้ทำการดัดแปลงมาจากเนื้อหาในคู่มือการฝึกตน ในนั้นได้พูดถึงโลกภายนอกและภายใน ดังนั้นเขาจึงได้จินตนาการว่าร่างกายของตัวเองนั้นเป็นโลกอีกใบหนึ่งแทน
ในคำอธิบายของวิธีการฝึกตนเบื้องต้น ร่างกายภายในของบุคคลนั้นมีค่าเท่ากับโลก และจุดศูนย์กลางของแกนโลกนั้นคือจุดกึ่งกลางคิ้ว ในจุดนั้นมันสามารถนับได้เป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของผู้ฝึกตน
ตราบใดที่จุดนั้นยังไม่ถูกทำลาย พลังฝึกตนเองก็จะไม่มีวันหายไป
เมื่อคิดได้แบบนั้นการฝึกตนของหนิงเถาก็ไม่แย่อีกต่อไป ใช้เวลาไม่นานเขาก็สามารถปลุกจิตวิญญาณโดยธรรมชาติของตัวเองขึ้นมาได้ และนำไปสู่การตัดขาดจากโลกภายนอก
หลังจากพยายามหลายครั้ง หนิงเถาในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่โลกภายในของตัวเอง ที่นั้นเขาเห็นท้องฟ้าสีขาวและโลกสีขาวไม่มีที่สิ้นสุด และมี “พระราช” ตั้งอยู่ในใจกลางสวรรค์และโลก
เขาถึงกับตกตะลึงกับภาพที่เห็น
ไม่ใช้ว่าภาพที่ปรากฏตรงหน้าสวยงานหรือไม่อะไร มันกับเป็นสิ่งตรงกันข้ามเพราะสิ่งที่เขาจินตนาเอาไว้ก่อนหน้านี้นั้นมันจะต้องเป็นพระราชวังที่สวยงาม แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้านั้นกับเป็นวังก็ไม่ใช้กระท่อมกลางนาก็ไม่เชิง
และยังมีสัตว์สองตัวที่หนิงเถาไม่รู้ว่าพวกมันเป็นอะไร ระหว่างงูหรือปลา แต่ที่รับรู้ได้ตอนนี้คือพวกมันกำลังต่อสู้กันไปมา สีของพวกมันเองก็แปลกมากมันมีเพียงแค่ขาวและดำเท่านั้น ไม่มีสีอื่นผสมอยู่เลย
เมื่อหนิงเถาเห็นพวกมัน พวกมันก็เห็นเขาเช่นกัน ในตอนแรกเขาคิดว่าพวกมันจะตกใจและหยุดไป แต่เขาไม่คิดว่าหลังจากนั้นพวกมันก็ยังคงกลับมาสู้กันอีกครั้ง หลังจากที่พวกมันเริ่มสู้กันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าสัตว์ตัวสีดำจะเป็นฝ่ายชนะ
มาถึงตอนนี้หนิงเถาก็เข้าใจทันที “พวกมันไม่ใช้พลังงานทางจิตวิญญาณที่ฉันเพิ่งพัฒนาขึ้นมาเหรอไง? สีดำและสีขาวนั่นต้องเป็นพลังงานทางวิญญาณที่เฉินผิงดาวมอบให้ฉัน”
จากนั้นพลังงานทางจิตวิญญาณที่ดำก็เหมือนจะรู้สึกพอใจในชัยชนะของตัวเอง มันจึงได้หยุดการกระทำไปและกระโดดลงกลับไปยังที่ที่มันจากมาทันที
เมื่อเห็นแบบนั้น หนิงเถาเองก็ได้กลับออกมาจากจิตใจของตัวเองเหมือนกัน ก่อนที่เขาถอนหายใจออกมา “เฮ้อ! มันเป็นอะไรที่บ้ามาก ถ้าฉันยังคงเป็นฉันในอดีต ฉันก็คงไม่เห็นสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้ตลอดช่วงชีวิตของฉัน “
หลังจากที่คิดเรื่องนี้จบแล้ว หนิงเถาก็เริ่มพยายามปลุกพลังทางจิตวิญญาณของตัวเองอีกครั้ง
หลังจากความพยายามหลายครั้ง เขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างชัดเจนในจุกกึ่งกลางคิ้วของตัวเอง หลังจากนั้นไม่นานพลังงานจิตวิญญาณก็ได้ไหลออกมาและวิ่งผ่านร่างกายของเขาไปทุกส่วน ก่อนที่จะวนกลับมายังที่เดิม
หนิงเถาได้ดึงพลังแห่งจิตวิญญาณไว้ในฝ่ามือของตัวเอง จากนั้นก็มีเส้นพลังงานสีดำปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือ เมื่อเขาเห็นแบบนั้นก็ได้ทดลองทำสิ่งต่างๆมากมาย จนแน่ใจแล้วว่าพลังงานนี้ปลอดภัยจึงได้มีความกล้าบางอย่างเกิดขึ้น
เขาได้เดินไปที่กำแพงหินของคลินิกและต่อยมัน
ปัง
“โอ๊ย!” หนิงเถาได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าด้วยพลังวิญญาณที่มี มันจะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น แต่ความจริงก็ได้แสดงให้เขาเห็นแล้วว่าพลังที่ตัวเองมีนั้นมันไม่ได้พูดขึ้นอะไรมากนัก ขนาดกำแพงบางๆยังไม่สามารถทำลายมันได้
“สรุปแล้วพวกนายทำอะไรได้บ้าง?” เมื่อมองดูพลังงานทางจิตวิญญาณที่แหวกว่ายอยู่รอบๆมือของตัวเอง มันก็อดไม่ได้ที่เขาจะถามคำถามบ้าๆแบบนี้ออกไป
นอกจากการว่ายไปมาแล้ว พลังงานสีดำนั้นก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา เมื่อไม่ได้รับข้อมูลที่ตัวเองต้องการ เขาก็คิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่ตัวเองจะต้องเลิกฝึก และกลับไปทำธุระข้างนอก
แต่เมื่อเขาไปเปิดหน้าต่างของคลินิกก็ได้มีแสงจันทร์ส่องผ่านมา
“โอ้พระเจ้า! ฉันใช้เวลาถึงหนึ่งวันหนึ่งคืนในคลินิกนี้!”
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากขึ้นก็คือตอนนี้เขายังเต็มไปด้วยพลังงานและไม่รู้สึกเหนื่อย มันเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
เห็นได้ชัดว่านี้เป็นผลพลอยได้จากการฝึกตน ด้วยการฝึกนี้ต่อไปในอนาคตความแข็งแกร่งที่เขามีก็จะมากขึ้นไปด้วย
“ เอาละ! ฉันจะต้องไปศึกษาการฝังเข็มในหนังสือการแพทย์นิรนามต่อ ไม่รู้ว่าในนั้นจะมีอะไรบ้าง ” หนิงเถาพูดจบก็ได้ตรงไปยังชั้นวางหนังสือต่อทันที