OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF - ตอนที่ 31 การติดตาม
บทที่ 31 การติดตาม
ที่ประตูชัย
เจียงเฮาได้ยืนอยู่บนหอคอยประตูโบราณเพื่อดูน้ำสีเขียวของแม่น้ำเจียหลิงไหลผ่านไปข้างหน้า เธออยู่ในตำแหน่งจุดชมวิวที่ดีที่สุดในพื้นที่นี้
หนิงเถาเห็นตัวของเจียงเฮาตั้งแต่ไกล
“นายมาแล้ว” เจียงเฮอเป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นมาก่อน แต่เธอไม่หันกลับมามองตั้งแต่ต้นจนจบ
หนิงเถาไม่ได้คิดมากในเรื่องนี้ เขายังคงเดินไปหาเธออย่างช้าๆขณะเดียวกันสายตาของเขาก็จ้องมองไปยังจุดบันจบกันระหว่างแม่น้ำสองสายอย่างแม่น้ำฉานเจียงและแม่น้ำแยงซี ซึ่งมันเป็นการผสมผสานแปลกและน่าดึงดูดเป็นอย่างมาก
“นายพูดก่อน” ครั้งนี้เจียงเฮาได้หันหน้ากลับมาพร้อมกับจ้องตาของหนิงเถาก่อนที่เธอจะพูดออกมา
“ไม่ เธอพูดก่อน” หนิงเถาปฏิเสธ
คนลักพาตัวของซูหยาได้เตือนเขาว่าอย่าเรียกตำรวจ เพื่อความปลอดภัยของซูหยาเอง เขาต้องพิจารณาว่าจะบอกเจียงเฮาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม?
เจียงเฮาที่ได้ยินแบบนั้นเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะถามว่า “เมื่อคืนนายไปบ้านของหลินชิงวู่มาใช้ไหม?”
หนิงเถาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วก็พยักหน้าเป็นการยอมรับ
เจียงเฮาที่เห็นแบบนั้นก็พูดต่อไปว่า “ฉันได้รับภารกิจมาแล้วไม่ต้องถามฉันว่ามันคืออะไร ฉันบอกได้แค่ว่านายต้องทำอะไรกับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพได้เท่านั้น ตามรายงานข่าวกรองที่ฉันได้รับหลินชิงวู่ได้ขอให้นายรักษาพี่ชายของเธอหลินชิงหัวใช้ไหม? ไม่ต้องตอบฉันรู้ว่าใช้ ดังนั้นนายจึงมีโอกาสติดต่อกับหลินชิงหัวมากที่สุด ฉันจึงอยากจะขอความช่วยเหลือจากนาย “
ในความเป็นจริงหากปราศจากเจียงเฮาเปิดเผยรายละเอียดภารกิจของเธอ หนิงเถาก็เดาได้ว่ามันเกี่ยวข้องกับโครงการต้นกำเนิดบรรพบุรุษที่หลินชิงหัวกำลังทำอยู่ ในเสี้ยววินาทีนั้นเขาต้องการบอกทุกอย่างที่เขารู้ แต่ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรออกไป ภาพลักษณ์ของซูหยาที่เต็มไปด้วยเลือดก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในใจของเขา มันทำให้เขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมากในเวลานี้
“นายมีบางอย่างในใจ?” พลังในการสังเกตของเจียงเฮานั้นช่างน่าทึ่งยิ่งกว่าใครๆ
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็สงบลงในทันทีและพูดว่า “มันก็ใช้! แต่ฉันไม่สามารถบอกเธอได้ในตอนนี้ ดังนั้นรอให้ฉันจัดการเรื่องของตัวเองเสร็จแล้วจะบอกเธอทีหลัง”
“หลินชิงวู่เชื่อในตัวนายและฉันมีความมั่นใจอย่างยิ่งในทักษะการแพทย์ของนาย ดังนั้นฉันต้องการให้นายพาหลินชิงหัวไปยังที่ที่เราสามารถควบคุมได้ ซึ่งสถานที่นั้นได้ทางเบื้องบนได้ตัดสินใจเลือกเอาไว้แล้ว นอกจากนี้ฉันอยากขอให้นายทำการสอบสวนถ้าเป็นไปได้ นายจะช่วยฉันหน่อยได้ไหม? “ เมื่อเจียงเฮาพูดคำเหล่านี้ออกมา เธอไม่ได้ละสายตาจากใบหน้าของหนิงเถาเลย แต่คราวนี้เธอไม่สามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดบนใบหน้าของหนิงเถาได้ – ใบหน้าของเขาสงบนิ่งราวกับน้ำที่ไร้คลื่น
จนถึงตอนนี้หนิงเถาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา
เจียงเฮาจึงได้พูดเสริม “ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวนาย เราจะทำให้แน่ใจว่านายจะปลอดภัยแล้ว”
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นคิดอยู่ซักพักแล้วตอบว่า “โอเค! ฉันเห็นด้วยถ้าหลินชิงวู่ขอให้ฉันรักษาหลินชิงหัวอีกครั้ง ฉันจะหาข้อแก้ตัวที่จะพาเขาไปยังสถานที่ที่เธอได้เตรียมไว้สำหรับการรักษา ส่วนเรื่องอื่นฉันจะพยายามทำมันให้ดีที่สุด “
รอยยิ้มที่หายากได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงเฮา ” ‘ขอบคุณ‘ ถึงแม้ว่าคำนี้มันจะไม่เพียงพอที่จะตอบแทนการกระทำของนาย แต่ในตอนนี้ฉันสามารถทำได้เท่านี้” เธอหยุดพูดไปเล็กน้อย ก่อนที่จะพูดขึ้นต่อว่า “ไม่ใช้ว่านายบอกว่ามีเรื่องที่จะคุยกับฉันไม่ใช้เหรอ?”
“เธอจะกลับไปที่บูเชียงเมื่อไหร่?” หนิงเถาถาม
“แค่นี้เหรอ?” เจียงเฮาถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย ฉันได้สัญญากับเธอว่าจะให้พ่อของเธอไปคุกเข่าต่อหน้าแม่ของเธอและขอโทษเมื่อฉันรักษาเขาให้หาย”
“ฉันวางแผนที่จะกลับไปบ้านเมื่อสองวันที่แล้ว แต่ฉันพึ่งจะได้รับคำสั่งเร่งด่วนนี้มามันจึงทำให้ฉันไม่รู้ว่าจะกลับไปได้เมื่อไหร่” เจียงเฮาพูดต่อว่า “ ฉันอาจจะไม่สามารถกลับไปได้จนกว่าภารกิจนี้จะเสร็จสิ้น และการกลับบ้านเองก็ไม่ใช้เรื่องเร่งด่วนอะไร ดังนั้นมันจึงสามารถเลื่อนออกไปได้ก่อน”
“ ฉันสัญญาว่าจะทำอะไรก็ตามที่เธอขอมาหนึ่งอย่าง เธอช่วยขอให้แม่ของเธอมาที่นี้ได้ไหม? ฉันต้องการให้เจียงหยีหลงเริ่มทำตามสัญญาให้เร็วที่สุด” หนิงเถาพูดออกมา
ดวงตาของเจียงเฮาเต็มไปด้วยความสับสนและความอยากรู้อยากเห็น “ เกิดอะไรขึ้น? เรื่องพวกนี้มันไม่มีอะไรรีบร้อนเลย ทำไมนายถึงยืนยันให้เรื่องพวกนี้มันเสร็จเร็วๆละ?”
“สิ่งที่ฉันสัญญาเอาไว้ฉันต้องทำตาม ดังนั้นเธอช่วยฉันได้ไหม?”
“ ฉันต้องถามแม่ของฉันดูก่อนว่าท่านตกลงไหม แต่ฉันไม่สามารถช่วยได้นะถ้าท่านไม่ต้องการมาที่นี้” เจียงเฮาตอบกลับมา สิ่งที่เธอไม่เข้าใจในตอนนี้คือว่าทำไมหนิงเถาถึงได้ดื้อรั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก
หนิงเถาหยุดไปเล็กน้อยก่อนที่จะพูดว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับฉัน มันเป็นเรื่องสำคัญมากถ้าเธอไม่ช่วยฉัน ฉันเองก็จะไม่ช่วยเธอในเรื่องที่พึ่งจะรับปากเหมือนกัน”
“นาย … ” เจียงเฮาต้องการพูดอย่างกับอีกฝ่าย แต่เธอก็เลือกที่จะไม่พูดมันออกมา
ในท้ายที่สุดหนิงเถาก็ล้มเลิกคิดที่จะบอกเจียงเฮาในสิ่งที่อยู่ในใจของเขา
มันเป็นภารกิจของเธอที่ทำให้เขาต้องยอมแพ้
แม้แต่ตำรวจพิเศษอย่างเจียงเฮายังก็ถูกเรียกตัวมาจัดการกับเรื่องนี้ ไม่ต้องพูดถึงตำรวจธรรมดาเลย พวกเขาคงจะถูกสั่งมาให้ยึดคดีนี้เป็นหลักเช่นกัน และอีกอย่างบุคคลที่ถูกลักพาตัวซูหยาไปนั้นก็ไม่ใช่คนที่จัดการได้ง่ายๆ เขาจะเสี่ยงชีวิตของซูหยากับความสะดวกในการแก้ปัญหาได้ยังไง?
“ดี! ฉันจำทำตามนั้น” เจียงเฮาเริ่มที่จะพูดจากประนีประนอม “ฉันจะไปจองเที่ยวบินของแม่ของฉันออนไลน์ตอนนี้ แต่นายต้องทำสิ่งที่นายสัญญากับฉันไว้”
หนิงเถาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่ฉันสัญญาไปแล้วฉันรักษามันเสมอ งั้นฉันจะกลับไปเตรียมตัวก่อน ถ้าได้เรื่องอะไรแล้วฉันจะติดต่อไปหาเธอเอง”
“นายจะไปไหม?” น้ำเสียงของเจีนงเฮาได้แปลกไปเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้ตระหนักถึงมัน
“รอสายจากฉัน” หนิงเถาพูดจบก็ได้ออกไปโดยไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติม
เขาไม่สามารถเสี่ยงที่จะบอกกับเจียงเฮาในสิ่งที่เขารู้ได้ ในห้องของซูหยาและในรถแท็กซี่เขาได้กลิ่นโคลน สนิม น้ำมันดีเซลและแร่ธาตุอย่างเหล็ก ซึ่งทำให้เขามีทิศทางที่คนขับรถนั้นอยู่หรือเคยอยู่ – คนขับรถแท็กซี่อยู่ในเหมืองและซูหยาน่าจะอยู่ที่นั่น!
พระอาทิตย์ยามบ่ายก็แรงมากจนดูเหมือนว่าจะทำให้แม่น้ำฉานเจียงแห้งไปหมด เรือขุดทรายหลายลำกำลังทำงานในแม่น้ำที่ไหลเบาๆ เสียงคำรามของเครื่องจักรและเสียงแม่น้ำไหลปะปนกันทำให้เกิดความหงุดหงิดได้ง่ายกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดแบบนี้
ในเวลานี้รถเก๋ง 730 ที่ดำเนินการโดยผิดกฎหมายได้แล่นไปตามถนนที่มีหลุมจำนวนมาก
“ หยุดตรงนั้น! ผมจะลงไปดูอะไรบางอย่าง” หนิงเถาพูดกับคนขับให้จอดรถใกล้กับเหมือง
คนขับรถที่ได้ยินแบบนั้นก็หันมาทำหน้าบูดบึ้งและบ่นว่า “คุณกำลังจะไปไหน? ที่พวกนี้มันร้อนยังก็อยู่ในนรก! เพื่อน! ฉันขับรถมาหลายชั่วโมงแล้วอากาศข้างนอกมันร้อนมากและเครื่องปรับอากาศในรถเองก็เจ๊ง … “
“ ผมจะจ่ายเงินให้คุณมากขึ้น มั่นใจได้เลยว่าคุณจะไม่ขาดทุนแน่นอน” หนิงเถาพูดจบก็เปิดประตูแล้วออกไป
คนขับมองไปที่หนิงเถาผู้ซึ่งเดินไปที่เหมืองในขณะที่กำลังดมกลิ่นและพูดกับตัวเองเบาๆว่า “เขาคิดว่าตัวเองเป็นสุนัขหรือไง?”
ที่ผนังด้านหนึ่งของเหมือง หนิงเถาได้หยุดเดินก่อนที่เขาจับกลิ่นที่เขามองหา เขาล้มตัวลงนอนกับพื้นและสูดดมอย่างหนักและตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่ากลิ่นของคนขับรถแท็กซี่นั้นอยู่ในพื้นนี้ มันใช้กลินเดียวกับที่เขาเจอในห้องของซูหยาและในรถ
“ซูหยาถูกขังอยู่ในเหมืองนี้แน่นอน! แต่มันอยู่ที่ไหนนั้นคือปัญหา?” หนิงเถาเริ่มมั่นใจมากขึ้น
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินกลับไปที่ที่นั่งคนขับของรถเก๋ง 730 ก่อนที่จะหยิบเงินออกมาสองร้อยหยวนแล้วส่งไปให้คนขับรถพูดว่า “นี่คือค่าโดยสารผม! “
คนขับจับเงินและต่อรองราคา “คุณลูกค้าครับ! อากาศวันนี้มันร้อนมากจริงๆ และเราก็ขับมาไกลมากด้วย ผมคิดว่าด้วยเงินจำนวนนี้มันไม่เพียงพอที่จะให้ผมกลับไปได้ ทำไมคุณไม่ช่วย… “
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้เอาเงินอีกหนึ่งร้อยหยวนออกจากกระเป๋ากางเกงของเขาและมอบให้คนขับ
“นั่นเป็นสิ่งที่ดีมาก! ถ้าคุณต้องการเช่ารถอีกในครั้งต่อ โปรดโทรหาผม” คนขับรถรับเงินมาและรีบขับจากไปทันที
หนิงเถาเดินไปรอบๆกำแพงระหว่างนั้นเขาก็ได้สังเกตสภาพแวดล้อมและจับกลิ่นตลอดเวลา ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาก็มาถึงด้านหลังของเหมืองที่ถนนสิ้นสุดลง ก่อนที่จะมีป่าทึบปรากฏตัวต่อหน้าเขาแทน ทรายและก้อนหินตั้งตระหง่านอยู่ในเหมืองที่ถูกขุดขึ้นมา มันจึงทำให้บริเวณเนินเขานี้กลายเป็นกำแพงธรรมชาติไปในตัว
หนิงเถาปีนขึ้นไปบนป่าภูเขาและเหมืองหินที่เชิงเขา เขาได้มองสำรวจพวกมันที่ละจุดในที่สุดเขาก็เห็นภาพรวมทั้งหมด
ในเหมืองมีเนินทรายและหินจำนวนมาก บางแห่งมีความสูงหลายสิบเมตร สายพานจำนวนมากกำลังส่งทรายและกรวดไปยังโรงงานที่อยู่ไกลถัดไป ก่อนที่จะมีรถฟอร์คลิฟท์หลายคันที่บรรทุกทรายเต็มคันขับผ่านไป
ใกล้กับริมฝั่งแม่น้ำมีบ้านเรือนมุงหลังคาขนาดใหญ่เล็กและบ้านสองชั้นจำนวนหนึ่ง มีคนงานกำลังทำงานในบ้านที่มุงหลังคาไฟเบอร์กลาสขนาดใหญ่เช่นการบัดกรีเชคเกอร์เสียการซ่อมและปฏิบัติการมอเตอร์ ประตูและหน้าต่างของอาคารเล็กๆพวกนั้นถูกปิดและมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นว่ามีใครกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างใน
หลังจากสังเกตสภาพแวดล้อมทั้งหมดหนิงเถาก็คิดว่า“ เห็นได้ชัดว่าบ้านที่มีหลังคาขนาดใหญ่นั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีซูหยาอยู่ ดังนั้นคงมีแค่บ้านหลังเล็กเท่านั้นที่ดูจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด “
หลังจากกำหนดเส้นทางแล้ว หนิงเถาจึงทำให้โทรศัพท์มือถือของเขาอยู่ในโหมดสั่นแล้วลงมาจากเขาไป เมื่อเข้าไปในเหมืองเขาพุ่งเข้าไปหาอาคารเล็กๆนั้นอย่างระมัดระวัง
เนินทรายก่อตัวเป็นที่กำบังตามธรรมชาติ
หลังจากออกนอกเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงยานพาหนะที่บรรทุกทรายและกรวดหรือไม่ก็พวกเครื่องจักรในการก่อสร้าง หนิงเถาใช้เวลาไปเกือบชั่วโมงก่อนที่จะเข้ามาอยู่ด้านหลังของบ้านที่ต้องการได้
หน้าต่างของชั้นหนึ่งและสองของอาคารขนาดเล็กถูกปิดหมดและผ้าม่านก็ถูกดึงออกมาเพื่อไม่ให้มีใครจากข้างนอกเห็นข้างในได้
เขาสามารถจับกลิ่นของชายสองคนและผู้หญิงคนหนึ่งลอยผ่านรอยแตกในหน้าต่างได้
หนิงเถารู้สึกโล่งใจราวกับว่าหินก้อนใหญ่ถูกยกขึ้นจากหัวใจของเขา กลิ่นของผู้หญิงคนนั้นเป็นของซูหยา ซึ่งหมายความว่าเธอถูกขังอยู่ในห้องที่มีหน้าต่างนี้!
เมื่อรู้เรื่องนี้หนิงเถาได้ออกมาจากด้านหลังเนินทรายและก้มตัวลงเพื่อวิ่งไปทางเข้า
เสียงมาจากประตูทางเข้า
“ แม่*! ทำไมเราต้องมาอยู่ที่นี้ด้วยวะ แอร์ก็ไม่มี! ที่นี้ร้อนยังก็ตกอยู่ในนรก แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ออกไปจากที่บ้าๆนี้”
“รอข่าวจากหัวหน้าของเราก่อนนี่เป็นเรื่องใหญ่ หัวหน้าบอกว่าเราจะได้สนุกกับตัวเองหลังจากเรื่องนี้จบลง ดังนั้นนายช่วยรอเงียบๆ”
“ผู้หญิงคนนี้ดูสวย ทำไมเราไม่ … “
“แกกำลังคิดอะไรอยู่! ถ้าแกต้องการความตายละก็เชิญแกทำมันคนเดียวอย่างดึงฉันไปร่วมด้วยเข้าใจไหม? อีกอย่างเจ้านายก็บอกแล้วว่าหลังจากจบเรื่องนี้พวกเราจะได้เงินก้อนโต เมื่อถึงเวลานั้นนายจะไปสนุกกับสาวที่ไหนก็เชิญ”
“นายไม่คิดจะลองเด็กสาวดูเหรอไง? ดูตัวเล็กๆของเธอสิ? ฉันรับรองได้เลยว่าตัวเธอต้องอร่อยอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่า … “
“วู! วู … ” เสียงของซูหยาได้ดังออกมา ถึงแม้ว่ามันจะฟังไม่รู้เรื่องแต่มันเป็นที่แน่นอนว่าเธอกำลังสาปแช่งพวกนั้น
“แกหุบปากไปเลย! แกเชื่อว่าฉันสามารถ f ** k แกตอนนี้ได้” ชายคนนั้นได้ขู่ออกมาด้วยเสียงที่ดุร้าย
ซูหยาที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไป
ในเวลานั้นเองหนิงเถาได้หาก้อนหินห้อนเล็กๆขึ้นมาจากบนพื้น ก่อนที่เขาจะเตรียมขว้างพวกมันไปยังประตู …