OPEN A CLINIC TO CULTIVATE MYSELF - ตอนที่ 21 หมอแปลก
บทที่ 21 หมอแปลก
ในย่านที่มีบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงตั้งอยู่มากมายทางตอนเหนือของเมือง
หนิงเถาได้เดินไปในพื้นที่เหล่านั้นพร้อมกับมีป้ายโฆษณาผ้าใบกันน้ำติดอยู่บนหลัง ซึ่งเนื้อหาในนั้นเขียนคำขวัญที่ออกแบบโดยตัวเขาเองว่า “การวินิจฉัยที่รวดเร็วและการรักษาด้วยทักษะทางการแพทย์ของบรรพบุรุษ จะมีการชดเชยหากวินิจฉัยผิดพลาดเกิดขึ้น ไม่ว่าเป็นโรคอะไรก็รักษาให้หายได้ ถ้าไม่หายยินดีไม่คิดเงิน “
หนิงเถาแพทย์หนุ่มผู้อ่อนเยาว์ จึงเป็นธรรมดาที่มีความกระตือรือร้นที่จะทำงานแบบนี้ เขาได้ถือป้ายโฆษณาแปลกๆไปกับเขาทุกที่และมันสามารถดึงความสนใจของผู้คนที่เดินไปมาได้อย่างดีเลย
เกือบเที่ยงเมื่อหนิงเถาได้เดินมาถึงอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง
ได้ชายสองคนในชุดสูทกำลังสูบบุหรี่ที่จุดสูบบุหรี่ใกล้กับทางเข้าล็อบบี้ของอาคารสำนักงาน
“โอ้พระเจ้า! มีหมอเร่ร่อนอยู่ในสังคมสมัยใหม่ด้วย?!” ชายวัยกลางคนที่มีศีรษะล้านเล็กน้อยได้พูดขึ้นมาด้วยความสนใจ
“ เขาต้องเป็นคนโกหกแน่? ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นหมอจริงๆ” เพื่อนที่อยู่ด้วยกันเองก็ไม่เชื่อและยังได้พูดจาดูถูกเหยียดหยามออกมาอีกด้วย “ คนแบบนี้มันต้องโดนฉันเอาเลือดหัวออกมาบ้าง ไม่อย่างนั้นคงมีคนเคราะห์ร้ายมากมายที่ถูกหลอก”
ชายวัยกลางคนที่มีศีรษะล้านเล็กน้อยพูดว่า “มันจะแรงไปหรือเปล่า? ถ้าเราอยากจะรู้ว่าเขาเป็นหมอจริงไหมเราก็แค่ลองดูก็ได้แล้ว ไม่ต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือก็ได้ “
” งั้นทำไมเราไม่มาลองดูกันละ?”
ชายวัยกลางคนที่มีศีรษะล้านเล็กน้อยได้ร้องออกมาว่า “หมอ! คุณมานี่ได้ไหม!”
หนิงเถาหยุดเดินและดูไปที่ชายสองคนที่เรียกเขา แต่เขาไม่ไปหาพวกนั้นทันที เขาได้ใช้ความสามารถผ่านทางสายตาของเขาเองเพื่อมองไปยังชายทั้งสอง ก่อนที่จะปรากฏภาพอากาศที่ถูกห่อด้วยสีสันต่างๆปรากฏขึ้น นอกจากนี้เขายังเห็นป้ายประจำตัวของพวกนั้นแขวนอยู่บนหน้าอกเช่นกัน ชายที่มีศีรษะล้านเล็กน้อยชื่อหม่ายิงเค่ยและคนที่อายุน้อยกว่าคือเฉินเจ้า พวกเขาทั้งสองต่างก็พนักงานของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ
“หมอ! ผมขอให้คุณมาที่นี่ คุณไม่ได้ยินผมพูดเหรอ?” หม่ายิงเค่ยยังคงตะโกนเรียกหนิงเถาอีกครั้ง
“ คุณมีโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบในช่องท้องใช้ไหม?” หนิงเถาไม่เพียงแต่ไม่ไปตามที่อีกฝ่ายบอกเท่านั้น เขากลับเลือกที่จะพูดถึงโรคของอีกฝ่ายแทน “มันควรจะเป็นคุณมากกว่าที่ควรจะมาหาผม และผมจะเริ่มตรวจคุณให้ละเอียดอีกครั้ง”
หม่ายิงเค่ยมองหนิงเถาด้วยความประหลาดใจและถามว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันมีเยื่อบุช่องท้องอักเสบ?”
เฉินเจ้าที่อยู่ไม่ไกลก็ได้พูดจาเย้ยหยันว่า “ฉันเดาว่าอีกฝ่ายคงเดาไม่มั่วๆนั้นแหละ และเผลอว่ามันตรงกับโรคของนายพอดี มันจะดีกว่าถ้านายจะไม่ถูกหลอกได้ง่ายๆ “
“คุณชื่อเฉินเจ้าใช้ไหม?” หนิงเถาได้ถามกลับไปอย่างไม่สนใจว่า “คุณมีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางเพศเมื่อเร็วๆนี้ใช้ไหม?”
เฉินเจ้าเปิดปากของเขาด้วยความไม่เชื่อ มันเป็นความลับที่เขาไม่เคยจะบอกใคร แม่แต่แพทย์เองเขาก็ยังไม่ได้ไปพบเลย แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงรู้เรื่องนี้กัน?
ไม่เพียงแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่ตกใจ เพื่อนอย่างหม่ายิงเค่ยเองก็ยังตกใจกับข่าวนี้เช่นกัน เขาถึงกับใช้สายตาสงสารมองไปยังอีกฝ่าย
เฉินเจ้าจู่ๆก็เดินไปที่หนิงเถาและพูดว่า “ฮืม! ฮ่าฮ่าฮ่า! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่เหรอ?” แต่เมื่อเขาเดินไปถึงด้านข้างของหนิงเถา เขาก็ได้วางมือบนไหล่ของหนิงเถาและกระซิบว่า “หมอ! คุณช่วยฉันได้ไหม?”
“ได้” หนิงเถาตอบกลับแบบห้วน ๆ
“ดี! งั้นเรามาหาสถานที่ที่จะคุยกันดีไหม?” เฉินเจ้าต้องการจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
แต่หนิงเถากับปัดมือของอีกฝ่ายออกจากไหล่ของเขา ก่อนที่จะพูดว่า “ผมบอกว่าผมทำได้ แต่ผมไม่ได้บอกว่าผมจะรักษาให้คุณ? ในเมื่อก่อนหน้านี้คุณยังพูดอยู่เลยว่าผมนั้นเป็นหมอกำมะลอ!”
ใบหน้าของเฉินเจ้ามืดลงทันที ในขณะเดียวกันเขาก็ถ่มน้ำลายลงที่พื้นและพูดว่า “ฉันก็อุสาทำตัวดีๆกับนายแล้ว? นายยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าต้องทำยังไง? ถ้านายรักษาฉันได้ฉันก็จะยอมรับว่านายเป็นหมอจริง แบบนี้นายยังไม่พอใจอีกหรือไง? “
ทันใดนั้นหม่ายิงเค่ยก็ได้เดินมาถึง ในขณะที่เขาฟังคำพูดของเฉินเจ้าดวงตาของเขาก็แสดงความสงสัยออกมา
หนิงเถาหันไปทางหม่ายิงเค่ยแล้วพูดว่า “คุณชื่อหม่ายิงเค่ยใช่มั้ย? ผมสามารถรักษาโรคกระดูกสันหลังส่วนเอวของคุณได้ภายในสามนาที คุณอยากลองไหม?”
“รักษาโรคนั้นได้? และภายในสามนาที?” เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่หม่ายิงเค่ยไม่เคยคิดมาก่อน
เฉินเจ้าที่ได้ฟังแบบนั้นก็พูดจาเยาะเย้ยว่า “ว้าว! นายคิดว่านายเป็นหมอมหัศจรรย์ที่สามารถรักษาได้ทุกโรคหรือไง? นายคิดว่าการรักษาโรคกระดูกมันสามารถทำให้เสร็จเพียงแค่สามนาทีหรือไง? ถ้าเกิดว่านายทำไม่ได้ละก็ฉันคนนี้จะเป็นคนสั่งสอนนายเอง! “
หนิงเถายังคงทำหน้าตาธรรมดาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา เขายังคงมองไปยังหม่ายิงเค่ยเพื่อรอให้อีกฝ่ายตัดสินใจด้วยตัวเอง
หม่ายิงเค่ยใช้เวลาซักพักก่อนที่เขาจะตัดสินใจแล้วและพูดว่า “โอเค! ผมจะลอง! แต่ขอให้ผมพูดชัดเจนก่อนว่าถ้าผมไม่หายจากโรคกระดูกนี้ภายในสามนาทีจริงๆ ผมจะไม่ยอมจ่ายเงินเด็ดขาด”
“ได้! งั้นคุณช่วยเอามือของคุณไว้ด้านหลังและลองบอกผมที่ว่าคุณรู้สึกยังไง” หนิงเถาได้เริ่มเช็คอาการก่อนลงมือการรักษา
หม่ายิงเค่ยที่ได้ฟังแบบนั้นลองทำตามดู ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะแสดงออกด้วยความเจ็บปวด เขาทำมันไม่ได้เลย
“นายรู้วิธีรักษาโรคจริงไหม?” เฉินเจ้าที่เห็นแบบนั้นก็ใช้น้ำเสียงเสียดสีออกมา “นายเคยเห็นหมอคนไหนที่บอกให้คนไข้ของตัวเองเจ็บปวดกัน? หม่ายิงเค่ยแค่นี้นายยังไม่รู้อีกหรือว่าเขาเป็นหมอปลอม”
หนิงเถาไม่สนใจเฉินเจ้า หลังจากที่เขาได้ยืนยันอาการของอีกฝ่ายแล้ว เขาก็ได้เปิดหีบยาขนาดเล็กของเขาแล้วหยิบเข็มศักดิ์สิทธิ์สีน้ำเงินสองเล่มออกมา จากนั้นเขาก็หยิบเข็มขึ้นมาในแต่ละมือ ก่อนที่จะฝังพวกมันไว้ที่บนไหล่ซ้ายและขวาของหม่ายิงเค่ยแต่ละเล่ม ในเวลาเดียวกันเขาได้ดึงพลังจิตวิญญาณจากห่างคิ้วออกมา พลังจิตวิญญาณสีดำและสีขาวก็ได้พุ่งออกมาจากนั้นก็ได้แยกออกเป็นสองส่วน ก่อนที่จะไหลไปตามเข็มทั้งสองเล่มที่ฝังเอาไว้
หม่ายิงเค่ยที่ถูกพลังจิตวิญญาณไหลเข้าสู่ตัวนั้นก็ได้ตัวสั่นและใบหน้าของเขาซีดอย่างเห็นได้ชัด
เฉินเจ้าเองก็ตัวแข็งไปครู่หนึ่งทันทีที่เห็นภาพนี้ เขาถึงกับหลุดพูดออกมาว่า “แกกำลังทำอะไร?”
หนิงเถาที่กำลังใช้พลังสมาธิก็ถึงกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเย็นชาและไม่พอใจว่า “คุณช่วยเงียบหน่อยได้มั้ย? ตอนนี้ผมกำลังใช้สมาธิอยู่ไม่เห็นเหรอไง? ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นมาระหว่างการฝังเข็มคุณจะทำยังไง?”
“การฝังเข็ม?” เฉินเจ้าพูดซ้ำออกมา ก่อนที่เขาจะแสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “ แกกำลังบอกว่าจะรักษาโรคนี้ด้วยการฝังเข็ม? เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลย? ไม่เคยมีข่าวทางการแพทย์ไหนที่บอกว่าการฝังเข็มสามารถรักษาโรคกระดูกได้!”
ระหว่างนั้นเองหม่ายิงเค่ยก็ได้พูดขึ้นมาว่า “ฉัน … ฉันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังไหลเข้ามาในร่างกายของฉัน มันร้อนและเย็น … มันช่างเป็นความรู้สึกสบายสุดๆ!”
เฉินเจ้าที่ได้ฟังแบบนั้นก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เขาได้ยินไปทันที ก่อนหน้านี้เขายังเห็นอีกฝ่ายแสดงสีหน้าเจ็บปวดอยู่เลย แล้วมันใช้เวลาเท่าไหร่กันก่อนที่อาการความสุขจะเข้ามาแทนที?
ภายในสามนาทีหนิงเถาได้ดึงเข็มที่เขาฝังไว้ที่หัวไหลของหม่ายิงเค่ยออก แน่นอนว่าเขาได้ดึงพลังจิตวิญญาณที่ปล่อยออกไปกลับมาแล้ว
“มันเสร็จแล้วเหรอ?” หม่ายิงเค่ยถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
“ ใช้! คุณลองเอามือแตะด้านหลังอีกครั้ง” หนิงเถาตอบกลับมา
หม่ายิงเค่ยที่ได้ฟังแบบนั้นก็ได้นำมือของเขาแตะด้านหลังอีกครั้ง และทันทีที่เขายื่นมือไปด้านหลังหลังในครั้งนี้ เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว และเขายังรู้สึกว่าข้อต่อของเขานั้นได้ยืดหยุ่นขึ้นมาก
“หม่ายิงเค่ย! นายเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกเจ็บอยู่ไหม?” เฉินเจ้าเองก็อยากรู้ผลลัพธ์เช่นกัน
มือของหม่ายิงเค่ยยังคงแตะด้านหลังไม่ยอมปล่อย เขาถึงกับหัวเราะออกมาด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า “ มันไม่เจ็บเลยฉันรู้สึกว่าไหล่ของฉันมีอายุน้อยลงกว่าสิบปี ฉันสามารถแตะด้านหลังตัวเองได้แล้ว ฮ่าๆ!”
เฉินเจ้าที่เห็นเหตุการณ์นี้ก็กลายเป็นคนโง่เป็นเวลาหนึ่งนาที
หนิงเถาไม่ได้สนใจการแสดงออกของอีกฝ่าย เขารู้ผลลัพธ์อยู่แล้วดังนั้นเขาจึงทำเพียงเก็บเข็มศักดิ์สิทธิ์สีน้ำเงินสองเล่มนี้กลับเข้าไปในหีบยาขนาดเล็ก ก่อนที่จะหยิบป้ายโฆษณาผ้าใบกันน้ำขึ้นมาอีกครั้ง
หม่ายิงเค่ยได้กลับมาจากความรู้สึกดีที่หายจากโรคทันที เขารีบถามว่า “ค่ารักษาเท่าไหร่ครับ?”
หนิงเถาชี้ไปที่ป้ายและตอบว่า “จ่ายเท่าที่คุณต้องการ”
หม่ายิงเค่ยที่ได้ฟังแบบนั้นรีบหยิบกระเป๋าเงินออกมา และดึงธนบัตร 100 หยวนออกมา แต่หลังจากที่นั้นเขาได้หยุดสักครู่เขาดูเหมือนจะคิดว่าแค่นี้มันยังไม่เพียงพอ ก่อนที่เขาจะดึงธนบัตรอีก 100 หยวนออกมา “ตอนนี้ทั้งตัวของผมมีอยู่แค่นี้ หวังว่าหมอวิเศษจะไม่รังเกียจ”
หนิงเถาไม่ได้คิดแบบนั้นอยู่แล้ว เขารับเงินจำนวนนั้นมาอย่างสุภาพ และพูดว่า “ขอบคุณ”
“ไม่ ไม่ ไม่ คุณไม่ต้องขอบคุณเลย เป็นผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายพูด ผมได้ทรมานจากโรคนี้มาสองหรือสามปี ไม่ว่าจะเป็นหาหมอที่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่แค่การรักษามันด้วยการฝังเข็มเพียงครั้งเดียว โรคร้ายที่ผมต้องเจอมาตลอดสองปีก็ถูกรักษาจนหาย คุณเป็นหมอมหัศจรรย์จริงๆ!… ” หม่ายิงเค่ยได้พูดคำชมออกมามากมาย
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำเพียงยิ้มตอบเท่านั้น ในตอนนี้สิ่งที่เขารู้สึกดีไม่ใช้คำชมพวกนี้แต่เป็นเงินสองร้อยหยวนที่พึ่งได้รับมา เห็นได้ชัดว่าแค่การลงมือรักษาง่ายๆของเขาก็สามารถทำเงินได้มากขนาดนี้แล้ว และนี้ยังเป็นแค่ลูกค้ารายแรกเท่านั้น
“รอก่อน!” เฉินเจ้าได้เรียกให้หนิงเถาหยุด
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็กลับไปมองอีกฝ่ายแล้วถามว่าต้องการอะไร?
“ฉันจะจ่ายให้นายสี่ร้อยหยวนถ้านายรักษาให้ฉัน” เฉินเจ้าพยายามพูดต่อรอง
“สี่ร้อยหยวน?” หนิงเถาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ถึงนายจะให้ฉันสี่พัน ฉันก็ไม่คิดจะรักษานายอยู่ดี”
“แก … ” เฉินเจ้าถึงกับสำลักด้วยความโกรธ
“หมอมหัศจรรย์! คุณช่วยบอกหมายเลขโทรศัพท์ของคุณหน่อยได้ไหม?” ดูเหมือนว่าหม่ายิงเค่ยจะไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เขายังถามต่อว่า “หรือไม่ก็วีแชทก็ได้ ผมยังมีเพื่อนๆที่เป็นโรคนี้อีกหลายคน ในครั้งหน้าผมอาจจะติดต่อหาหมอเพื่อรักษาอีกครั้งได้ไหม? “
หนิงเถาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “โอเค! ผมจะให้ไอดีวีแชทของผมกับคุณ และให้เพื่อนๆของคุณแอดผมมา ส่วนเวลารักษานั้นพวกคุณก็ตกลงกันเองถ้าผมว่างช่วงนั้นพอดีผมก็จะไปรักษาให้ “
“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากคุณหมอจริงๆ ” หม่ายิงเค่ยพูดออกมาอย่างสุภาพ
หนิงเถาเปิดหีบยาขนาดเล็กอีกครั้ง ก่อนที่จะหยิบใบสั่งยาทั่วไปและปากกาออกมาเพื่อเขียนไอดีวีแชทของตัวเอง และส่งมันให้กับหม่ายิงเค่
“นี้แกยังเป็นหมออยู่ไหม? ทำไมแกถึงปฏิเสธที่จะรักษาฉันกัน? ทั้งๆที่แกเต็มใจที่จะรักษาคนอื่น?” เฉินเจ้าถามออกมาพร้อมกับสายตาเย็นชา
“ก็ไม่มีอะไรมาก ก็เป็นเพียงแค่ก่อนหน้านี้คุณได้พูดจาให้ร้ายผมก่อน ผมก็เลยไม่คิดจะรักษาคุณก็เท่านั้นเอง เห็นได้ชัดว่าคุณนั้นเป็นเหมือนปลาหมอตายเพราะปาก” พูดจบหนิงเถาก็ได้เดินจากไปทันที
เฉินเจ้าที่ได้ฟังแบบนั้นก็พูดคร่ำครวญว่า “ แกก็เป็นแค่หมอเถื่อนคนหนึ่ง ฉันอุสาให้หน้าแกไปแล้ว แต่แกไม่เห็นค่ามันเอง งั้นเราก็มาดูกันว่าผลลัพธ์สุดท้ายนั้นจะออกมายังไง!”
หนิงเถาไม่รู้ถึงความคิดที่จะตอบโต้ของเฉินเจ้า ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เรื่องนี้แต่เขาก็เลือกที่จะไม่สนใจมันอยู่ดี ด้วยความสามารถที่มีในตอนนี้ คนธรรมดาไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้อีกต่อไป
“เจ้าจง! นายหยุดแค่นี้เถอะ” หม่ายิงเค่ยพยายามพูดห้ามอีกฝ่าย “นี้ก็หมดเวลาพักแล้ว เรากลับกันเถอะ.”
ใบหน้าของเฉินเจ้ายังคงเต็มไปด้วยความโกรธ “นายกลับไปก่อนเลย ฉันมีเรื่องที่ต้องทำก่อน”
หม่ายิงเค่ยที่ได้ฟังแบบนั้นก็ส่ายหัวไปมา ก่อนที่เขาจะหันกลับไปที่ล็อบบี้ของอาคารสำนักงานตั้งอยู่
เฉินเจ้าหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดไปที่หมายเลขหนึ่ง จากนั้นเขาก็ดูทิศทางที่หนิงเถาเดินไปขณะที่เขารอสาย ผ่านไปไม่กี่วินาทีต่อมาโทรศัพท์ก็เชื่อมต่อ “พี่หยง! ” เขาพูดต่อว่า “มีคนโกงคนหนึ่งแกล้งทำเป็นหมอและมันหลอกล่วงใกล้ๆกับบริษัทของผม พี่ช่วยพาคนมาที่นี่ซักสองสามคนได้ไหม? … “
ที่จริงแล้วตัวอาคารของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพไม่ใช้บริษัททังหมด มันยังมีพื้นที่อีกมากที่ถูกจัดสรรให้เป็นพลาซ่าขนาดเล็ก มันจึงทำให้ที่มีร้านอาหารและร้านกาแฟหรูมากมายมาเปิดรวมอยู่ด้วยกัน และยังถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย
หนิงเถาเดินไปที่ร้านอาหารเคลื่อนที่แห่งหนึ่ง และสั่งอาหารกลางวันจากนั้นนั่งลงบนม้านั่งเพื่อกิน ในขณะที่เขากำลังรับประทานอาหารอยู่นั้น เขาได้อ่านข้อความในวีแชทและพบว่ามีคนแปลกหน้าหลายคนต้องการเพิ่มเขาเป็นเพื่อนรวมถึงหม่ายิงเค่ย เขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้กดยอมรับคำขอเป็นเพื่อน แต่ไม่ตอบคำถามของพวกเขาเพราะเขาวางแผนที่จะตอบหลังอาหารกลางวัน
ส่วนทำไมเขาถึงได้มอบไอดีวีแชทของตัวเองให้กับหม่ายิงเค่ย นั้นก็เพราะเขาจะใช้โอกาสนี้ในการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะแพทย์เร่ร่อน เขาต้องการใช้โปรแกรมนี้เป็นเหมือนโรงพยาบาลเคลื่อนที่ จากนั้นเขาก็จะตระเวนไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อทำการรักษาผู้ป่วย ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีและสะดวกอย่างมาก
แต่ดูเหมือนว่าฝันกลางวันนี้ของเขาจะต้องหยุดลงแค่นี้ก่อน เพราะในเวลานี้กับมีเสียงหนึ่งเกิดขึ้น
โซ่!
เสียงของโลหะกระทบกระเบื้องปูพื้นได้ดึงหนิงเถากลับมาจากความฝันอันแสนหวานของเขา เขาหันหัวของเขาไปมาก่อนที่เขาจะเห็นกลุ่มชายแปลกหน้าจำนวนหนึ่งอยู่อยู่ไม่ไกลจากเขา สังเกตจากการแสดงออกมาแล้วพวกนั้นคงมาหาเรื่องเขาอย่างแน่นอน