One Man Army - ตอนที่ 81 บัญชีผู้เล่น (2)

นิยาย One Man Army ตอนที่ 81 บัญชีผู้เล่น (2)

สมญานาม – ฉันคือตํานาน!”

ระดับ : เลเจนดารี่

คําอธิบาย : เป็นไปได้ยังไงกันที่สามารถได้รับอันดับ 1 ทั้งในห้องโถงกลาดิเอเตอร์และห้องโถงมอร์ทาลิตี้? มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกครั้งนี่เป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ค่าสําเร็จของคุณจะกลายเป็นที่จดจําตลอดกาล

เอฟเฟกต์ – [หน้าชื่อ : ความสามารถทั้งหมดในห้องโถงกลาดิเอเตอร์เพิ่มขึ้น 30%] [หลังชื่อ:ความสามารถทั้งหมดในห้องโถงมอร์ทาลิตี้เพิ่มขึ้น 30%] [ติดตัวกลายเป็นตํานานด้วยตัวเอง (S) หากคุณชนะในห้องโถงกลาดิเอเตอร์และห้องโถงมอร์ทาลิตี้คุณจะได้ระบชิ้นส่วนตํานานและเมื่อรวบรวมได้ครบ 100 ชิ้นคุณก็จะสามาร ถสร้างตราประทับตานานซึ่งตราประทับตํานานจะสามารถแลกเปลี่ยนกับอิลิกเซอร์แห่งจินตนาการที่สามารถเพิ่มความสามารถทั้งหมดของคุณขึ้น 1%]

สมญานาม – หมาป่าเดียวดาย
ระดับ : ยูนิค

คําอธิบาย : มันเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะเผชิญหน้ากับคนจํานวนมากเพียงลำพังการเอาชนะกลุ่มคนดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า แต่หากมันเกิดขึ้น 20 ครั้ง…. มันจึงกลายเป็นความสําเร็จที่น่าสรรเสิญ

เอฟเฟกต์ : [หน้าชื่อ : N/A] [หลังชื่อ : N/A] [ติดตัว : เดียวดาย (S):ดาเมจที่ได้รับทั้งหมดเมื่อเล่นโซโล่จะลดลง 14%]

สมญานาม – ล่าราวกับเครื่องจักร

ระดับ : ยูนิค

คําอธิบาย : ผู้ชนะ คนแรก ในห้องโถงมอร์ทาลิตี้ คนแรกนั้นพิเศษเสมอ

เอฟเฟกต์ – [หน้าชื่อ : เพิ่มพลังโจมตีขึ้น 10% ในห้องโถงมอร์ทาลิตี้] [หลังชื่อ:เพิ่มพลังป้องกันขึ้น 10% ในห้องโถงมอร์ทาลิตี้] [ติดตัว :เหยื่อติดเบ็ด! (A) เมื่อ ใดก็ตามที่สังหารมอนเตอร์ในห้องโถงมอร์ทาลิตี้ค่าความเหนื่อยและค่า HP จะฟื้นฟูขึ้น 3%

สมญานาม – ราชั้นดาบ

ระดับ : ยูนิค

คําอธิบาย : “ผู้ชนะ คนแรกในห้องโถงกลาดิเอเตอร์ คนแรกนั้นพิเศษเสมอ

เอฟเฟกต์ : [หน้าชื่อ : เพิ่มอัตราติดคริติคัล 10%] [หลังชื่อ : ดาเมจจากการโจมตีติดคริติคัล 50%] [ติดตัว : ค่าสอนของราชัน (A): ทุกครั้งที่คุณโจมตีและสังหารในห้องโถงกลาดิเอเตอร์ก็จะเพิ่มอัตราติดคริติคัลขึ้น 5% ในขณะที่ดาเมจจากการโจมที่ติดคริติคัลเพิ่มขึ้น 20% มันสามารถซ้อนทับกันได้สูงสุดถึง 50%/200%(สังหาร 10 ตัว)และหากคุณตายความสามารถก็จะถูกรีเซ็จกลับไปเป็น 0% (สังหาร 0 ตัว)]

ซางฮยอคมองดูสมญานามที่เขาได้รับมาอย่างพึงพอใจ

“อิลิกเซอร์แฟนตาซี” ที่ได้รับผ่านสมญานามระดับเลเจนดารีนั้นเป็นอลิกเซอร์ระดับเลเจนดารี่เพียงเพราะสิ่งนี้ถูกคานวณแยกต่างจากเม็ดยาวิญญาณ” เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นมันหมายความว่าคุณจะสามารถเพิ่มค่าสถานะพื้นฐานขึ้น +200 หากคุณใช้ทั้งเม็ดยาวิญญาณและอิลิกเซอร์แฟนตาซี

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะได้รับอิลิกเซอร์แฟนตาซี

ดังนั้นสมญานาม ฉันคือต่านาน!” เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง

ซางฮยอคจะใช้สมญานามเหล่านี้ที่มีเอฟเฟกต์คล้ายกัน

“มีรางวัลสําหรับการทํางานหนักเสมอ”

ซางฮยอคหัวเราะอย่างมีความสุขพร้อมกับพยักหน้า

แม้แต่ซางฮยอค มันก็เป็นเรื่องยากที่จะกวาดล้างทั้งห้องโถงกลาดิเอเตอร์และห้องโถงมอร์ทาลิตี้มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้เนื่องจากขาดเวลา

มันเป็นไปได้ที่จะได้รับอันดับ 1 ในห้องโถงทั้งสองเพียงเพราะจํานวนผู้เล่นที่เข้าร่วมในลีกนั้นน้อยมาก

เมื่อจํานวนผู้เล่นที่เข้าร่วมเพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันมากขึ้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะกวาดล้างเอาอันดับ 1 ในห้องโถงทั้งสองแม้ว่าจะเป็นซางฮยอค

นั่นหมายความว่านี่เป็นเพียงโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะได้รับสมญานาม ฉันคือตา นาน!”

แน่นอนว่าซางฮยอคไม่รู้แน่ชัดว่าจะได้รับสมญานามนี้เมื่อชนะ เขาได้ตัดสินใจที่จะท้าทายมันด้วยความคลุมเครือโดยคิดว่าอาจจะได้รับสิ่งที่ดีหากเขากวาดเอาอันดับ 1 ทั้งหมดจากห้องโถงทั้งสอง

“ในตอนนี้ผนึกของเส้นทางแห่งความตายนั้นถูกปลดล็อคอย่างช้าๆ ดังนั้นจํานวนผู้เล่นในห้องโถงทั้งสองจึงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทําทุกอย่างเพียงลาพังใช่มั้ยนะ?”

ในขณะที่ซางฮญอคกําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ กิลด์อื่นเกือยจะจะผ่านเส้นทางแห่งความตายทุกกิลด์แล้ว…

“ฉันจะไม่ทํางานหนักเกินไปอีกสักพัก ฉันควรมุ่งเป้าไปที่เส้นทางแห่งการพิสูจน์และป่าแห่งเงาเท่านั้น”

เพราะความนิยมของพื้นที่สนามรบทั้งสองแห่งนี้จะไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานก็ตามดังนั้นการมุ่งเป้าไปที่พวกมันจึงมีประโยชน์อย่างมาก

รางวัลที่ซางฮยอคได้รับในฐานะผู้ชนะของซีซั่นที่ 1-1 นั้นไม่ได้มีเพียงแค่สมญานาม

เช่าได้รับคะแนนการจัดอันดับมากมายในฐานะผู้ชนะ

แม้ว่าคะแนนการจัดอันดับจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่สนามรบในท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ผู้เล่นเป็นกังวลมากที่สุดก็คือคะแนนการจัดอันดับโดยรวม

คะแนนโดยรวมจากห้องโถงกลาดิเอเตอร์ (กลาดิเอเตอร์) และคะแนนโดยรวมจากห้องโถงมอร์ทาลิตี้ (มอร์ทาลิตี้)

คะแนนโดยรวมทั้ง 2 นี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่นจะเป็นกังวลมากที่สุดในอนาคต

คะแนนการจัดอันดับของแต่ละพื้นที่สนามรบนั้นจะถูกรีเซ็ตเป็น 0 ในแต่ละซีซั่นแต่คะแนนการจัดอันดับโดยรวมจะไม่ถูกรีเซ็ตจนกว่าจะซีซันรวมใหม่จะถูกเปิด

ซีซั่นรวมนั้นจะสามารถบอกได้โดยเล็กข้างหน้า แน่นอนว่าซีซั่นรวมครั้งที่สองจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อดาวเคราะห์มิติที่สองปรากฏขึ้นมาหลังจากผ่านไป 3 ปีดังนั้นมันจึงเป็น 1-11-2 1-3 ไปเรื่อยๆ…

ถ้าเป็นแบบนั้นจะมีอะไรที่ดีเกิดขึ้นหากคะแนนการจัดอันดับโดยรวมเพิ่มขึ้นล่ะ?

ค่าตอบของมันคือ หอแห่งเกียรติยศ ที่อยู่ในห้องโถงกลาดิเอเตอร์และห้องโถงมอร์ทาลิตี้

หอแห่งเกียรติยศนั้นเป็นร้านค้าประเภทหนึ่ง

แน่นอนว่ามันไม่ใช่ร้านค้าธรรมดา ในหอแห่งเกียรติยศนั้นมีไอเทมหลากหลายระดับและหลากหลายชนิดตั้งแต่ไอเทมธรรมดาไปจนถึงไอเทมระดับมิรธิลแต่การซื้อไอเทมในหอแห่งเกียรติยศนั้นมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง

มันคือคะแนนการจัดอันดับโดยรวมของคุณ!

ผู้เล่นจะเรียกไอเทมใน หอแห่งเกียรติยศ’ ไอเทมเติบโต

ไอเทมทั้งหมดในหอเกีรติยศนั้นสามารถถูกซื้อด้วยทองและราคานั้นต่ามากกฏนี้ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคนแต่หากคะแนนการจัดอันดับเพียงพอมันก็สามารถซื้อได้ทุกอย่างโดยไม่มีปัญหา

และไม่ใช่ไอเทมทั้งหมดในหอแห่งเกียรติยศที่จะสามารถซื้อได้ทันที
ผู้เล่นที่มีคะแนนการจัดอันดับสูงสุดในห้องโถงทั้งสองในตอนนี้ก็คือซางฮยอคมันไม่ใช่แค่สูงเท่านั้นแต่มันสูงอย่างมากแต่ซางฮยอคสามารถซื้อได้เพียงไอเทมระดับเวทมนต์เท่านั้นในตอนนี้

นั่นหมายความว่ามันต้องใช้เวลาอีกนานสําหรับไอเทมในหอแห่งเกียรติยศจะมีประโยชน์สําหรับผู้เล่นทั่วไป

“คิดให้ดีนะ นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ ถ้าหากนายออกไปแบบนี้ พี่กลม่าจะลงโทษอย่างแน่นอน”

ดับแบล็คพูดความจริง แต่กายแบ็คที่ฟังเขาอยู่กลับไม่เปลี่ยนใจ

“เขาจะฆ่าผมงั้นเหรอ? ผมไม่สน ไม่ว่าพี่จะพูดยังไง ผมก็จะไม่เปลี่ยนใจไอ่บัดซ”นั้นปล่อยให้คนอื่นมาเอาความดีความชอบไป คนแบบนั้นไม่ใช่หัวหน้ากิลด์ของผมอีกต่อไป”

กายแบคพูดอย่างหนักแน่น เขาโกรธอย่างแท้จริง

“นับตั้งแต่เข้าร่วมกิลด์ดาร์คไลน์ในครั้งแรก เราบอกสมาชิกกิลด์ใหม่ทุกคนว่าเพราะพวกเขาไม่มีฝีมือหน้าที่ของพวกเขาก็คือโล่มนุษย์

“ผมเคยพูดว่าผมยอมรับเรื่องนั้น แต่ทําไมถึงมีแค่กิลด์ของเราที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ในเส้นทางแห่งความตายล่ะ?สมาชิกกิลด์ส่วนใหญ่ตายและมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่

เขาควรดูแลสมาชิกกิลด์ที่ตายไม่ใช่เหรอ? ทําไมกิลม่า และผู้เล่นชนชั้นสูงที่ผ่านเส้นทางแห่งความตายถึงไปหากิลด์อื่นล่ะ?”

“นั่น นั่นเพื่ออนาคตที่ดีกว่า……….”

“อ่าบัดซ* พี่ก็เหมือนกันอย่าติดต่อฉันอีกต่อไปเพราะอย่างน้อยพี่ก็มีความเป็นมนุษย์ที่สามารถพูดคุยด้วยกันได้ ไม่ว่าจะลงโทษหรือให้รางวัลผมก็ไม่ต้องติดต่อผมพี่จะไม่สามารถติดต่อกับผมได้เพราะผมจะบล็อคทุกช่องทางการติดต่อ มีเพียงวันนี้เท่านั้นที่ผมจะให้เกียรติพี่อย่าคาดหวังว่าผมจะให้เกียรติพี่อีกในอนาคต”

“นายไม่อวดดีเกินไปเหรอนายแค่มีพรสวรรค์นิดหน่อยเท่านั้น?”

เมื่อกายแบคตอบกลับแบบนั้น ดับแบล็คก็โกรธขึ้นมาทันที

“แล้วไงล่ะ? แกพยายามที่จะสู้กับฉันงั้นเหรอ?”

ด้วยคําพูดพวกนี้ ดวงตาของกายแบคก็เปล่งประกายด้วยความเย็นชา

ดับแบล็คนั้นเป็นคนที่รู้จักฝีมือของกายแบคดีกว่าใคร ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทําอะไรได้

“บอกพี่น้องของฉันในกิลด์มอร์นิ่งดิวว่าสักวันหนึ่งกิลด์จะถูกทําลายเพราะการกระทําของตัวเอง”

กายแบคเป็นคนที่มองว่าความเป็นมนุษย์และความยุติธรรมนั้นสําคัญมากดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทํางานร่วมกับขยะที่ทรยศเขาได้อีกต่อไป

แน่นอนว่าการปฏิเสธข้อสเนอของกิลด์มอร์นิ่งดิวจะทําให้เขากลายเป็นศัตรูของกิลด์ดาร์คไลน์และหากสิ่งนั้นเกิดขึ้นชีวิตในเกมของเขาในอนาคตก็จะลาบากและเหนื่อยมากยิ่งขึ้น

แต่แม้ว่าเขาจะรู้เรื่องนั้นเขาก็ยืนยันที่จะปฏิเสธข้อเสนอของกิลด์มอร์นิ่งดิวอยู่ดีเขาไม่สามรถลืมความเป็นมนุษย์และความยุติธรรมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาได้

มันเป็นเหมือนกับการปฏิเสธชีวิตของกายแบค ไม่ยุนแดฮุน

กายแบคผู้ที่ซึ่งแยกจากดับแบล็คพยายามจัดระเบียบความคิดของเขาอย่างใจเย็น

“พวกบัดซ*ในกิลด์มอร์นิ่งดิวจะไม่นิ่งเฉยแน่นอน…… การฆ่าพวกมันไม่ใช่ปัญหาแต่หากฉันฆ่าโดยไม่มีเหตุผลมันจะมีปัญหามากมายตามมา”

กายแบคไม่กลัวการต่อสู้ แต่หากเขายังคงต่อสู้กับกิลด์มอร์นิ่งดิว ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกิลด์ดาร์คไลน์ก็จะแย่ลง

ไม่ว่ากายแบคจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม แต่การต่อสู้กับทั้งไลน์เพียงลาพังนั้นเป็นเรื่องที่ลําบากมากถ้าเขาพลาด เขาอาจจะต้องสร้างบัญชีใหม่เลยทีเดียว

“ฉันต้องซ่อนตัวก่อนตอนนี้

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาต้องทนทุกข์ทรมาณอย่างมากกว่าจะผ่านเส้นทางแห่งความตายมาได้ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะออกจากดินแดนแห่งวีรบุรุษและเขาต้องค้องหลบซ่อน…..มีเพียงที่เดียวเท่านั้นที่ตอบสนองความต้องการเงื่อนไขทั้งสองของเขา

“ยังไงมันก็เกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นฉันควรเข้าร่วมเส้นทางแห่งการต่อสู้
กายแบคนั้นเป็นผู้เล่นที่รักการ PvP เป็นชีวิตจิตใจ และฝีมือของเขาก็ดีมากนันเป็นเหตุผลที่เขาต้องการเข้าห้องโถงกลาดิเอเตอร์ตั้งแต่บีเจเกลออกอากาศแนะนําดินแดนแห่งวีรบุรุษ

หลังจากที่เขาลงทะเบียนนักสู้แล้วเขาสามารถเข้าร่วมการต่อสู้พื้นที่สนามรบไหนก็ได้ดังนั้นหากเขาต้องการซ่อนตัว พื้นที่สนามรบที่เหมาะก็มีเพียงเส้นทางแห่งการพิสูจน์เท่านั้นแม้ว่ากิลด์ดาร์คไลน์จะมุ่งเป้ามาที่เขาพวกมันก็ไม่สามารถทําอะไรเขาได้

“ถ้าหากฉันเล่นที่นั่นสองสามเดือน พวกมันคงจะไม่สนใจฉันแล้วใช่มั้ยนะ”

อันที่จริงแล้วแม้ว่ากิลด์มอร์นิ่งจะเข้าร่วมกับกิลด์ดาร์คดราก้อนซึ่งเป็นกิลด์หลักของดาร์คไลน์มันก็มีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะเกิดความวุ่นวาย

มันหมายความว่าความสนใจของกิลด์ดาร์คไลน์ในตัวเขาจะสูงมากในช่วงเวลานี้เท่านั้น

เมื่อเขารวมความจริงหลายข้อเข้าด้วยกัน การที่เขาเลือกเข้าร่วมห้องโถงกลาดิเอเตอร์จึงเป็นทางเลือกที่ดีมาก

[ L3 2 1 0 ถูกอัญเชิญไปที่พื้นที่สนามรบ]

ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงพรีซีซันที่ไม่มีการเพิ่มคะแนนการจัดอันดับ แต่เหตุผลที่โลนคิงเข้าร่วมเส้นทางแห่งการพิสูจน์นั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเพราะสมญานามระดับเลเจนดารี่ฉันคือต่านาน!”

แม้ว่าคะแนนการจัดอันดับจะไม่เพิ่มขึ้น เขาก็ได้รับชิ้นส่วนตํานาน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาจะสามารถรวบรวมมันเพื่อสรางตราประทับตํานานอย่างรวดเร็วและแลกเปลี่ยนกับอิลิกเซอร์แฟนตาซี

“ทําไมวันนี้มันถึงเปิดเร็วขนาดนี้ล่ะ?”

เมื่อวันก่อนเส้นทางแห่งการพิสูจน์นั้นกว่าจะเปิดได้ใช้เวลานานมากเพราะมันเป็นช่วงพรีซีซัน อย่างไรก็ตามในวันนี้มันเริ่มเกือบจะในเวลาเดียวกับที่เขากดเข้าร่วมเลยทีเดียว

คราวนี้นั้นเป็นทุ่งหญ้าที่มีฝนตกหนัก พื้นที่สนามรบที่มีหญ้าแบบนี้นั้นเป็นพื้นที่ที่โลนคงชอบอย่างมาก

โดยปกติแล้วสไตล์การต่อสู้ในพื้นที่สนามรบนี้จะถูกเรียกว่า เกมเร็ว” ยิ่งเขาจบเร็วเท่าไหร่เขาก็จะสามารถเล่นได้หลายครั้งมากขึ้นเท่านั้นพูดให้ชัดเจนก็คือเขาจะสามารถชนะได้มากขึ้น

แม้ว่าฝนจะตกหนักมา แต่สําหรับผู้เล่นระดับโลนคิงนั้นฝนแบบนี้นั้นไม่นับว่าเป็นอุปสรรคกับเขา

โลนคงวิ่งตรงไปข้างหน้าผ่านสายฝนที่โหมกระหน่

เขาต้องวิ่งนานเท่าไหร่กันนะ? ผู้เล่นทั่วไปมักจะไม่วิ่งตรงไปข้างหน้าแบบนี้ในพื้นที่สนามรบแต่ฝ่ายตรงข้ามของเขานั้นดูเหมือนจะวิ่งไปข้างหน้าเหมือนกับโลนคิง

อย่างไรก็ตามเมื่อโลนคงและอีกฝ่ายพบกัน การต่อสู้ก็เริ่มขึ้นโดยที่ไม่พูดพร่าทําเพลง

ทิ้งงง!

ในขณะที่โลนคิงดึงดาบนักล่าออร์คออกมา อีกฝ่ายก็ดึงอาวุธของตนเองออกมาเช่นกัน

กล่าวให้ถูกต้องคือเขาไม่ได้ดึงมันออกมา เขาอัญเชิญมันออกมา

อาวุธที่เขาอัญเชิญออกมาถูกเรียกว่า ลูกประค่าวิญญาณ” ซึ่งเป็นอาวุธเฉพาะตัวของนักเวทย์สงคราม

มีนักเวทย์มากมายหลายประเภทใน EL และหนึ่งในนั้นถูกเรียกว่านักเวทย์สงครามซึ่งก็เหมือนกับชื่อของมันซึ่งคือผู้ที่เรียนรู้เวทยมนต์ที่เชี่ยวชาญการต่อสู้

พวกเขามักใช้อาวุธเช่น ลูกประคําวิญญาณ” หรือ “ไม้เท้าวิญญาณ” และหนังสือวิญญาณ”เป็นอาวุธหลักของพวกเขา และพวกเขาจะมีความสามารถต่างกันไปตามอาวุธที่พวกเขาใช้

สําหรบนักเวทย์สงครามที่ใช้ไม้เท้าวิญญาณ พกเขาส่วนใหญ่จะใช้เวทย์สนับสนุนเมื่อพวกเขาเลือกความรู้โบราณของพวกเขา พวกเขาจะเลือกหนึ่งโพรุ่งวิญญาณให้นักเวทย์ในขณะที่อีกหนึ่งโพรงวิญญาณให้กับความรู้โบราณที่มีสไตล์การต่อสู้โดยใช้หอก

พวกเขาใช้คาถาในการเพิ่มประสิทธิภาพของสกิลกายภาพของพวกเขานั้นคือความสามาถพิเศษของพวกเขา

และนักเวย์สงครามทราใช้หนังสือวิญญาณนั้นส่วนใหญ่จะเป็นนักเวทย์ที่เชี่ยวชาญการโจมตีเป็นวงกว้าง ที่มีประโยชน์อย่างมากในการต่อสู้ขนาดใหญ่เวทยมนตร์ส่วนมากของพวกเขาไม่เหมาะกับการต่อสู้ขนาดเล็กเพราะใช้เวลาในการร่ายคาถานาน และพวกเขาต้องถือหนังสือวิญญาณ” ไว้ในมือในขณะที่ร่ายคาถา

สุดท้ายคือนักเวย์สงครามที่ใช้ลูกประคําวิญญาณนั้นมีการต่อสไตล์การต่อสู้ที่มีเอกลักษณ์โดยใช้คาถาที่หลากหลาย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาเป็นคนที่ควรถูกเรียกว่านักเวทย์สงครามที่แท้จริง

เมื่อลูกประค่าวิญญาณถูกอัญเชิญออกมา มันก็จะลอยไปรอบตัวของเจ้าของทําให้มือของนักเวทย์นั้นเป็นอิสระซึ่งทําให้พวกเขาสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างรวดเร็วผ่านลูกประค่า

แม้ว่าการใช้เวทมนตร์อย่างรวดเร็วนั้นจะลดความรุนแรงและรัศมีการทําลายล้างแต่มันก็เป็นสิ่งที่จําเป็นในการต่อสู้จริง

ตอนนี้ผู้เล่นที่เผชิญหน้ากับโลนคิง กายแบคเป็นนักเวทย์สงครามที่ใช้ลูกประคําวิญญาณ

เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่นักเวทย์สงครามธรรมดาเท่านั้น เขาเป็นนักเวทย์สงครามชั้นยอด