One Man Army - ตอนที่ 47 การกัดกระสุน (2) (บังคับตัวเองให้ทําในสิ่งที่ยาก…

One Man Army ตอนที่ 47 การกัดกระสุน (2) (บังคับตัวเองให้ทําในสิ่งที่ยาก…

 

ม้วนคําสาบานถูกเขียนระหว่างกิลด์สกายอะบัฟสกายและลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน

 

ข้อกําหนดนั้นเรียบง่ายมาก กิลด์สกายอะบัฟสกายจะซื้อไอเทมจะพ่อค้า NPC ที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนได้จ้างมาและลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนจะต้องขายไอเทมในราคาที่สูงกว่าให้กับกิลด์โกลด์รัช

 

กิลด์สกายอะบัฟสกายมักจะซื้อไอเทมที่ราคาประมาณ20-50 ทอง แต่ตอนนี้พวกเขาจะต้องซื้อไอเทมที่มีราคาประมาณ 280-700 ทอง และพวกเขาจะซื้อไอเทมครั้งละพันชิ้นดังนั้นพวกเขาจะต้องใช้เกือบ1 ล้านทองทุกครั้งที่พวกเขาซื้อไอเทม

 

นั่นเพียงพอที่จะทําให้เงินทุกฉุกเฉินที่พวกเขารวบรวมมานานหมดไป

 

ในบางครั้งแทมินก็บอกว่าพวกเขาจะล้มละลายก่อนที่สงค

รามจะจบลง

 

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่พวกเขานั้นยังคงยึดมั่นต่อไปในตอนนี้ก็คือ… กิลด์โกลด์รัชอยู่ในสถานกาณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าพวก

เขา

 

ไม่ว่าพวกเขาจะมีทองมากแค่ไหนก็ตาม หลังจากจ่ายไปเกือบ 4 ล้านทอง ทุกครั้งที่พวกมันซื้อไอเทมเพื่อให้ในสงครามก็ควรจะเป็นภาระที่หนักหนาสาหัสสําหรับพวกเขา

 

แน่นอนว่าหากพวกมันปฏิเสธข้อเสนอของลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน พวกมันก็อาจจะพ่ายแพ้ในสงครามทันที

 

การใช้ยาเพิ่มเลือดนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ปัญหาที่แย่ยิ่งกว่าก็คือหินมานา เมื่อเกิดสงครามกิลด์ก็จะมีการปะทะกันหลายครั้งในหลายพื้นที่ แต่หากพวกเขาไม่สามารถใช้มาร์กกิ้งบุ๊คเพื่อกลับมาหลังจากตายแล้ว พวกเขาจะพ่ายแพ้สงครามอย่างแน่นอน

 

เนื่องจากสงครามใหญ่ระหว่างกิลด์สกายอะ’ฟสกายและกิลด์โกลด์รัชทําให้หินมานาที่อยู่บนตลาดหายไป ดังนั้นแม้แต่ผู้เล่นปกติก็มีช่วงเวลาที่ลําบาก แต่ผู้ปกติก็สามารถเดินไปแทนได้

 

มีเพียงกิลด์โกลด์รัชเท่านั้นที่ไม่สามารถทําอะไรได้ หากพวกเขาไม่สามารถใช้มาร์กกิ้งบุ๊คได้

 

ในสถานการณ์นี้มันเหมือนกับว่ากิลด์โกลด์รัชจะต้องเลือกระหว่างการกินยาพิษเพื่อฆ่าตัวตายทันทีหรือค่อยโดนฆ่าตายในสัปดาห์ต่อมา

 

แน่นอนว่ามีทางรอดเช่นกัน พวกเขาแค่ต้องเอาชนะกิลด์สกายอะบัฟสกายก่อนที่พวกเขาจะตาย จากนั้นพวกเขาก็จะสามารถขโมยยาแก้พิษและช่วยตัวเองให้รอดได้

 

“นักต้มตุ้นบัดซ* นายกล้าขายไอเทมให้ฉันแพงขนาดนี้เลย

เหรอ?

 

คิมแดชิก หนึ่งในผู้จัดการระดับกลางของกิลด์โกลด์รัช หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “แบล็คด็อก” คํารามราวกับว่าเขาจะสังหารลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทน

 

“ฉันคิดว่านายจะขอบคุณฉันมากที่ขายไอเทมให้… นายไม่มีแม้กระทั้งไอเทมเพียงพอที่จะเอาชนะกิลด์สกายอะบัฟสกายนายควรขอกําลังเสริมมากมาย…”

 

ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนจบการสนทนาด้วยคําพูดที่คลุมเครือพร้อมกับรอยยิ้มที่ชั่วร้าย เขาไม่ได้รีบมาที่กิลด์โกลด์รัชทันทีแต่รอจนกระทั้งไอเทมสงครามที่พวกเขารวบรวมมาใกล้จะหมดเขาถึงมาหากิลด์โกลด์รัช

 

“บัดซ*

”

 

แบล็คด็อกทําตัวเหมือนกับอันธพาลมากกว่านักเล่นเกมซางฮยอคผู้ซึ่งกําลังเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนในตอนนี้รู้ดีที่สุด

 

“คนโง่คนนี้ยังทําตัวเหมือนเดิมเลย”

 

คนที่ทารุณซางฮยอคมากที่สุดในชีวิตก่อนหน้าของเขานั้นคือแบล็คด็อก มันมักจะจับผิดทุกการกระทําของเขา

 

ซางฮยอคจึงรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาทันทีที่เขาพบมัน

 

“ฉันไม่คิดว่านายจะตัดสินใจเรื่องนี้ได้ นายต้องรายงานหัวหน้าของนาย “กล็อคเกอร์” อย่าใช้สมองโง่ๆ ของนายตัดสินใจ”

 

ซางฮยอกล้อเลียนแบล็คด็อก

 

หากอีกฝ่ายคือแบล็คด็อก เขาไม่จําเป็นต้องเคารพเลย

 

“นายอวดดีมากๆ”

 

“แล้วยังไง? นายจะไล่ฉันออกจากที่นี่งั้นเหรอ?”

 

ชางฮยอครู้ว่าแบล็คด็อกไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของมันได้ดังนั้นเขาจึงล้อเลียนต่อไป

 

เขาต้องการเพียงเรื่องเดียว

 

นั้นคือการระเบิดอารมณ์ของแบล็คด็อก

 

“ใช้แล้ว! ฉันจะไล่นายออกจากที่นี่!”

 

หวีดดด

 

ในท้ายที่สุดแล้วแบล็คด็อกก็ระเบิดอารมณ์ ลูกน้องของเขาที่เฝ้าดูอยู่ข้างๆ รีบพยายามหยุดเขา แต่แบล็คด็อกนั้นเร็วเกินไป

 

เขาเหวี่ยงดาบใหญ่ของเขาตรงไปที่ซางฮยอค ในขณะที่แบล็คด็อกปล่อยจิตสังหารของเขาใส่ซางฮยอค ระบบป้องกันตัวเองของ EL ก็เริ่มทํางาน

 

ในตอนนี้ตัวของแบล็คด็อกกําลังเปล่งแสงสีเทา แน่นอนว่านี่เป็นมีแค่ซางฮยอคเท่านั้นที่มองเห็น แสงสีเทานี้หมายความว่าจะไม่มีบทลงโทษหากซางฮยอคโจมตีแบล็คด็อกเนื่องจากระบบป้องกันตัวเองที่เที่ยงธรรมของ EL

 

บูมมมมม!

่ ่

ซางฮยอคก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อหลบดาบใหญ่ของแบล็คด็อก

 

“นายหลบได้งั้นเหรอ? เข้ามาไอ่บัดซ*1”

 

“หัวหน้า”

 

ลูกน้องของแบล็คด็อกพยายามหยุดเขา แต่แบล็คด็อกก็ยังคงเร็วกว่าพวกเขาเหมือนเดิม

 

แบล็คด็อกพุ่งไปหาซางฮยอคอย่างรวดเร็ว เขามีความรู้โบราณ “นักรบ” ดังนั้นการพุ่งโจมตีของเขาจึงแข็งแกร่งมาก

 

ลูกน้องของแบล็คด็อกตัดสินใจว่ามันเป็นเรื่องแย่มากหากแบล็คด็อกสังหารลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนและเรื่องนี้ถูกรายงานให้พวกระดับสูง

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องหยุดการสังหารของแบล็คด็อกจนกว่าพวกระดับสูงจะมาหยุดเขา

 

แบล็คด็อกเริ่มอะละวาดไปรอบๆ เหมือนวัวที่บ้าคลั่ง

 

และลูกน้องของเขานั้นพยายามหยุดเขาอย่างสุดความสา มารถ

 

และท้ายที่สุดซางฮยอคก็ยืนดู(?)วัวคลั่งอยู่ใกล้ๆ

 

ซางฮยอคหลบการพุ่งโจมตีของแบล็คด็อกอย่างฉิวเฉียดด้วยการหมุนร่างกายของเขาไปด้านข้างพร้อมกับ ถอยหลังครึ่งก้าว

 

นี่คือสกิลวิญญาณที่ถูกเรียกว่าย่างก้าวเฉียดฉิว

 

แน่นอนว่ามันคือหนึ่งในสกิลวิญญาณที่ซางฮยอคได้รับมาหลังจากที่ความรู้โบราณอันแรกของเขา “อัศวิน” ได้เพิ่มระดับเป็น “อัศวินดาบ” และเอฟเฟกต์ของมันจะช่วยเพิ่มอัตราการหลบหลีกอย่างมหาศาลในเวลาสั้นๆ (1 วินาที) ดังนั้นมันจึงเหมาะกับเขามาก

 

หวีดดดด! บูมมมมมม!

 

ซางฮยอคหลบการพุ่งโจมตีของแบล็คด็อกได้อย่างง่ายดายไม่ใช่แค่นั้นเขายังโยนการ์ดฟิวชั่นไปที่แบล็คด็อกและการ์ดฟิวชั่นที่เขาโยนไปก็คือ “หอกแห่งซุส

 

ฟริ้งงงง!

 

“อ๊าคคคคค!”

 

หลอกเลือดของเขาหายจํานวนมากพร้อมกับการถูกสายฟ้าช็อตเบาๆ

 

มันไม่มีความเจ็บปวดเมื่อ HP ลดลง แต่จะรู้สึกไม่สบายตัว

แทน

 

“ไอ่บัดซ*

”

 

แบล็คด็อกจ้องมองไปที่ซางฮยอคพร้อมกับกัดฟันแน่น

 

อย่างไรก็ตามเขาจะพุ่งไปโจมตีมากแค่ไหน ซางฮยอคไม่สิลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนก็หลบได้อย่างสบาย

 

“ทําไม? นายรู้สึกไม่ดีที่ไม่สามารถเอาชนะพ่อค้าได้ใช่มั้ย?”

 

“คุณเมาท์เทน! หยุดพูดเถอะครับ!”

 

“พี่ก็หยุดโจมตีเขาได้แล้ว!”

 

ในขณะนั้นลูกน้องของแบล็คด็อกก็เข้าไหห้ามและหยุดอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขา

 

“ออกไปให้พ้น! วันนี้ฉันจะฆ่ามันให้ได้เ”

 

“ว้าววว ช่างโอ้อวดจริงๆ นายจะทําได้จริงๆ เหรอ?”

 

ซางฮยอคไม่หยุดล้อเลียนแบล็คด็อก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากแบล็คด็อกอาละวาดมากขึ้นก็จะทําให้เขายิ่งได้เปรียบมากขึ้น

 

“ต้องขอบคุณมันที่ทําให้ฉันทําธุรกิจได้ง่ายขึ้น

 

เหตุผลที่ซางฮยอกล้อเลียนแบล็คด็อกก็คือการหาข้ออ้าง

 

แม้ว่ากิลด์โกลด์รัชจะมีรากฐานมาจากเวิร์คชอป พวกเขาก็จะเสียหายเยอะมาก หากพวกเขาพ่ายแพ้ในสงครามกิลด์ครั้ง

โดยเฉพาะตั้งแต่มี การจัดอันดับ” เวิร์คชอปในตอนนี้กิลด์โกลด์รัชใกล้จะอยู่ที่หนึ่งแล้ว แต่ก็มีเวิร์คชอปมากมาย ที่รอขึ้นแท่นที่หนึ่งเช่นกัน

 

หากกิลด์โกลด์รัชพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ เวิร์คชอปอื่นที่เป็นคู่แข่งของพวกเขาก็อาจจะมาซ้ําเติมพวกเขา

 

และเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น แม้ว่า จะเป็นกิลด์โกลดรัชก็จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เร็วร้าย

 

ความจริงแล้วผู้ที่ชนะสงครามครั้งนี้ในชีวิตก่อนของซางฮยอค และในเวลานั้นผลลัพธ์นี้ทําให้กิลด์สกายอะ!สกาย ไม่สิทั้งสกายไลน์ล่มสลายไป

 

กิลด์ไม่ได้ล่มสลายอย่างสมบูรณ์ แต่อิทธิพลของพวกเขาจะลดลงอย่างต่อเนื่องจนกิลด์หลักไลน์ทั้งห้าของ EL ลดลงเป็นกิลด์หลักไลน์ทั้งสี่ของ EL

 

จะมีเรื่องเปลี่ยนไปหลายเรื่อง ถ้าผลลัพธ์ของสงครามเปลี่ยนไปใช่มั้ย?”

 

ในความจริงหากผลลัพธ์ของสงครามเปลี่ยนไปมันไม่ใช่เรื่องที่สําหรับซางฮยอค อย่างไรก็ตามเขาคงจะโง่มากหากเขาไม่ทําอะไรเลย

 

ก็เหมือนกับสํานวนที่ว่าพ่อครัวจะไม่หยุดทําอาหารเพราะกลัวแมลง และที่สําคัญคือกิลด์โกลด์รัชคือศัตรูที่ซางฮยอคต้องการเหยียบย่ําให้จมดิน

 

“ปล่อยฉัน ฉันจะไปฆ่าไอ่บัดช”นั่น…”

 

“คิมแดชิก นายจะทําอะไร!”

 

การปรากฏตัวของชายคนนี้ทําให้แบล็คด็อกหยุดชะงักซางฮยอคก็รู้เลยว่าชายคนนี้เป็นใคร

 

* โกลด์บัค” กล็อคเกอร์! ในที่สุดเขาก็มาซะที

 

โกลด์บัค กล็อคเกอร์ เขาเป็นหัวหน้า กิลด์โกลด์รัชและเป็นหัวหน้าโกลด์ไลน์ เขาเป็นเจ้าของเวิร์คชอปของเกาหลีและจีน

 

เขาร่ํารวยมากในชีวิตจริง และแม้ว่าเวิร์คชอปที่ซางฮยอคทํางานให้ในชีวิตก่อนจะล่มสลายในชีวิตก่อนของเขา ชายคนนี้ก็ทําตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ในตอนนั้น ฉันไม่สามารถทําอะไรได้ แต่ในตอนนี้มันแตกต่าง

 

ซางฮยอคมองไปที่กล็อคเกอร์ด้วยความสงสัย

 

“ฉันจะมาเคลียร์กับนายที่หลัง”

 

กล็อคเกอร์พูดด้วยเสียงที่แข็งกร้าวในขณะที่มองแบล็คด็อกและแบล็คด็อกไม่สามารถตอบโต้ได้และยืนเหมือนหมาที่โดนเจ้านายดุ

 

“นายคือลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนใช่มั้ย? ฉันเห็นข้อเสนอของนายทางอีเมลแล้ว ”

 

กล็อคเกอร์มองลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนและเริ่มพูด เขาถือว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูดไร้สาระทําให้เขาพูดเปิดประเด็นทันที

 

“นายคิดว่าเราจะยอมรับข้อเสนองั้นเหรอ? ราคา 40 เท่าขอตลาดเลยนะ และฉันได้ยินว่านายขายให้กิลด์สกายอะบัฟสกายในราคา 14 เท่าใช่มั้ย? นายคิดว่าฉันจะยอมรับข้อเสนอที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้เหรอ?”

 

กล็อคเกอร์มองไปที่ลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง เขาดูราวกับจะบ้าคลั่งได้ตลอดเวลา

 

อย่างไรก็ตามลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนไม่ได้สนใจเขาและยัง คงทําหน้าที่ของตัวเองต่อไป

 

“นายจะยอมรับแน่นอน ถ้านายจะยอมแพ้สงคราม นายกไม่ต้องยอมรับข้อเสนอก็ได้นะ”

 

“งั้นเหรอ ถ้าเรายอมแพ้สงครามจริงๆ นายจะสูญเสียกําไรมากมายไม่ใช่เหรอ? ในมุมมองของเรา แม้ว่าเราจะชนะสงครามเพราะซื้อไอเทมในราคา 40 เท่าของราคาตลาดก็เหมือนว่าเราไม่ได้ชนะเลย เราอาจจะยอมแพ้ก็ได้”

 

“นายพูดมากซะจริง งั้นนายก็ยอมแพ้เลยสิ เพียงแค่เปิดหน้าต่างกิลด์แล้วกดปุ่มยอมแพ้และชดเชยในกับกิลด์สกายอะบฟสกาย อับอายต่อสาธารณชน ถูกซ้ําเติมโดยเวิร์คชอปอื่นและสมาชิกกิลด์ก็ออกจากกิลด์…ว้าววว นายจะยุ่งมากๆ เลยนะ”

 

กล็อคเกอร์ไม่สามารถโต้แย้งคําพูดของลาร์จโกลด์เด็นเมาท์

เทน

 

“นายไม่สามารถซื้อไอเทมในราคา 40 เท่าของราคาตลาดได้งั้นเหรอ? กิลด์โกลด์รัชเป็นกิลด์ที่รวยที่สุดใน EL ไม่ใช่ เหรอ?”

 

“ใครเป็นคนพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นกัน? กิลด์โกลด์รัชนั้นมีระดับความร่ํารวยเท่ากับกิลด์ใหญ่กิลด์อื่นนั้นแหละ…”

 

“ไม่ นายไม่สามารถพูดแบบนั้นกับฉันได้ ฉันควรบอกชื่อเหมืองที่ใหญ่ของโกลด์รัชมั้ย? “เวิร์คชอปเหมืองร้าง” “เวิร์คชอปหลุมนรก” และ “เวิร์คชอปมหาสมุทร” ด้วยเวิร์ คชอปพวกนี้นายจะได้ 2 ล้านทองทองวันเลยไม่ใช่เหรอ? หรือว่าฉันควรบอกชื่อเหมืองย่อยด้วยใช่มั้ย? เอาละงั้นอย่าปฏิเสธข้อเสนอของฉัน ถ้านายปฏิเสธข้อเสนอ ฉันจะแชร์สถานที่และวิธีการทําเหมืองของพวกนายทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต

 

กล็อคเกอร์รู้สึกพ่ายแพ้ในทันทีหลังจากที่ถูกคําพูดของลาร์จโกลด์เด็นเมาท์เทนโจมตีมาอย่างกระทันหันข้อมูลนี้ไม่ใช่ข้อมูลที่เขาจะรู้ได้

 

ข้อมูลนี้นั้นมีเพียงแค่ผู้จัดการคนสําคัญของกิลด์โกลด์รัชเท่านั้นที่รู้ อย่างไรก็ตามกลับมีคนที่บอกชื่อเวิร์คชอปและรายได้เฉพาะเจาะจงได้อย่างง่ายดาย

 

นั่นเป็นการโจมตีครั้งใหญ่

 

การโจมตีครั้งนี้สามารถตัดสินผลลัพธ์ได้ในทันที