One Man Army - ตอนที่ 34 ถ้ำของยักษ์ (1)
เมื่อซางฮยอคมาถึงหน้าปราสาทชั้นใน กิลด์ทั้งหกก็เอาชนะยามและบุกเข้าไปยังปราสาทชั้นในหลังจากที่ประตูถูกทำลาย
ผู้เล่นบางคนได้กลายเป็นคนร้ายเนื่องจากพวกเขาได้สังหารยาม อย่างไรก็ตามพวกเขาต่างพร้อมที่จะเป็นคนร้ายมาตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาตัดสินใจโจมตีปราสาทชั้นใน
เหตุผลที่พวกเขาพยายามขนาดนี้เพราะพวกเขาต้องการสมบัติในปราสาทชั้นในมาก อย่างไรก็ตามมันไม่มีสมบัติอยู่ในปราสาทชั้นในเลย
สิ่งที่อยู่ภายในมีแต่อัศวินวายุที่แสนน่ากลัวแห่งเมืองฟอลคอน และหัวหน้าอัศวินของพวกเขา สตอร์มนั้นเป็นปรมจารย์อัศวิน
ปรมจารย์อัศวินนั้นมีเลเวล 100
แม้ว่า NPC นั้นจะอ่อนแอกว่าผู้เล่นหากมีเลเวลเท่ากัน แต่เลเวล 100 นั้นมากเกินไป และกว่าที่ผู้เล่นจะมีเลเวล 100 นั้นต้องใช้เวลา 1 ปีกว่าๆ
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือในตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถขัดขวางสตอร์มได้
“ใครมันกล้าก่อความวุ่นวายที่นี่!”
เบิ้มมมมมมม!
สตอร์มปรากฏตัวออกมาพร้อมกับถืออาวุธคู่ใจของเขา หอกวายุคลั่ง เขาพุ่งใส่พวกมดปลวกที่กล้าเข้ามาในปราสาทชั้นใน
บู้มมมมมม!
สตอร์มพุ่งไปเผชิญหน้ากับผู้เล่นทั้ง 450 คนด้วยตัวคนเดียว ในความจริงอัศวินวายุคนอื่นยืนอยู่รอบตัวเขาซึ่งอัศวินวายุนั้นแข๋งแกร่งกว่ายามรักษาความปลอดภัยอย่างมาก
เลเวลเฉลี่ยของยามคือ 50 ในขณะที่เลเวลเฉลี่ยของอัศวินวายุนั้นคือ 65 แตกต่างกันเพียง 15 เลเวล แต่ในส่วนของพลังมันแตกต่างกันมาก
อย่างไรก็ตามอัศวินวายุพวกนั้นไม่ขยับเลย พวกเขาทำเพียงแค่ป้องกันที่ประตูทางเข้าของปราสาทชั้นในที่ถูกทำลายเท่านั้น
จุดประสงค์ของพวกเขาก็คือการป้องกันไม่ให้มีผู้เล่นเข้ามาที่ปราสาทชั้นใน มันมีผู้เล่นมากมายที่ตามพันธมิตรกิลด์ทั้งหกมาด้วยความอยากรู้
ซางฮยอคก็ไม่สามารถเข้าไปในปราสาทชั้นในได้ ไม่สิเขามีโอกาสที่ไปได้ แต่ตอนนี้เขายังไม่เข้าไป
หากเขาเข้าไปตอนนี้ เขาจะถูกสตอร์มสังหาร
ซางฮยอคมองดูสตอร์มต่อสู้อย่างใกล้ชิด มันทำให้เขาตกใจ
NPC เกือบทั้งหมดใน EL นั้นผู้เล่นสามารถจ้างเป็นทหารรับจ้างได้ แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าใครก็สามารถจ้างได้ ผู้เล่นต้องมีค่าความคุ้นเคยกับ NPC จนถึงระดับหนึ่งและทองมากมายถึงจะสามารถจ้าง NPC ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง NPC ระดับสูง ราคาในการจ้างพวกเขาก็แพงอย่างมาก และเงื่อนไขในการจ้างพวกเขาก็ยากที่จะทำได้ ดังนั้นจึงไม่มีผู้เล่นจ้างพวกเขา
มันเคยมีกรณีที่ผู้จัดการของ ‘เวิร์คชอป’ ในชีวิตก่อนของเขาได้จ้าง ‘สตอร์มและอัศวินวายุทั้งหมด
ในเวลานั้นผู้เล่นของเวิร์คชอปนั้นพยายามจะสังหารมอนเตอร์ที่มีชื่อที่แข็งแกร่งมากตัวหนึ่งในดินแดนแห่งวีรบุรุษ และผู้จัดการของเวิร์คชอปจึงจ้างสตอร์มและอัศวินวายุทั้งหมดเพื่อสังหารมัน
อย่างไรก็ตามไอเดมที่ดร็อปส่วนใหญ่ถูกขโมยไป(?) โดยสตอร์ม ตั้งแต่นั้นมาผู้เล่นเลยไม่จ้างทหารรับจ้างอีกต่อไป
เบิ้มมมมมมมม!
สตอร์มเริ่มต้นการสังหาร นี่หมายความว่าผู้เล่นทั้งหมดจะตายและกลายเป็นอนุภาคแสงภายใน 10 นาที
‘ฉันคิดว่าฉันควรหาโอกาสเข้าไปนะ…….’
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในนั้นไม่สามารถมองเห็นได้จากด้านนอก แต่ก็มีเสียงกรีดร้องดังอยู่อย่างต่อเนื่อง
“อ๊าคคคคค! ช่วยฉันด้วย!”
“สัตว์ประหลาด มันคือสัตว์ประหลาด!”
“ทุกคนวิ่งแล้วเข้า มันไม่สามารถฆ่าทุกคนได้หมดหรอก!”
เหล่าผู้เล่นตะโกนด้วยความสิ้นหวัง และซางฮยอคยืนฟังเสียงพวกเขาอยู่อย่างเงียบๆ ที่ด้านนอก
‘วิธีลอบเข้าไป……. โอ้! ใช่แล้ว’
ซางฮยอคคิดวิธีที่ดีออกในทันที
‘ด้วยเอฟเฟกต์หน้าชื่อของสมญานามดยุคเงาแห่งเมืองฟอลคอน…… ฉันจะสามารถเข้าไปได้!’
ซางฮยอควางแผนที่จะเก็บไอเทมที่ดร็อปออกมาทั้งหมด
‘เมื่อการสังหารหมู่ของสตอร์มจบลง….. ฉันจะลอบเข้าไปในปราสาทชั้นใน’
ซางฮยอคเบียดไปอยู่หน้าแถวหน้าของฝูงชนที่กำลังรออยู่นอกประตูของปราสาทชั้นในและรอจนกระทั่งความวุ่นวายในปราสาทชั้นในจบลง
สถานการณ์ความวุ่นวายจบลงอย่างรวดเร็ว สตอร์มแสดงให้พวกเขาเห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าพลังของผู้ที่เป็นปรมจารย์
ผู้เล่นทั้ง 450 คน ไม่สิรวมผู้เล่นที่แอบตามกิลทั้งหกไปด้วยก็ 500 คนนั้นไม่สามารถแตะต้องตัวของสตอร์มได้และถูกสังหารจากออร่าหอกที่ปล่อยออกมาจากหอกของเขาซึ่งการสังหารครั้งนี้ทำให้ผู้เล่นทั้งหมดกลายเป็นอนุภาคแสงและเปลี่ยนวันนี้ให้กลายเป็นวันจันทร์หลั่งโลหิต
เวลาที่สตอร์มต้องใช้ในการสังหารผู้เล่นทั้ง 500 คนอยู่ที่ประมาณ 5 นาที
“ว้าววว……. NPC นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้จริงๆ.”
“น่ากลัวอย่างมาก! ฉันเคยเห็น NPC ชราเดินอยู่แถวนี้ แต่เขามีพลังที่น่าทึ่งจริงๆ!”
“ฉันต้องทำยังไงถึงจะเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับ NPC ตัวนั้นได้นะ? มันจะน่าทึงอย่างมาก ถ้าฉันสามารถจ้างเขามาเป็นทหารรับจ้างได้”
ผู้เล่นทุกคนต่างแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหลังจากที่เห็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของสตอร์ม
หลังจากที่สังหารผู้เล่นทั้งหมดได้ สตอร์มก็ถือหอกของเขาแน่นและตะโกนด้วยความโกรธ
“คนร้ายจะต้องถูกฆ่า! ตราบใดที่ฉันยังอยู่ในเมืองฟอลคอนจะไม่มีคนร้ายคนไหนได้รับการยกเว้น!”
สตอร์มตะโกนด้วยเสียงอันดังกึกก้องให้ผู้เล่นที่รวมกันอยู่รอบนอกปราสาทชั้นในได้ฟังก่อนที่จะเดินเข้าไปในปราสาท นอกจากเขาจะเข้าไปในปราสาทแล้ว อัศวินวายุก็เข้าไปในปราสาทเช่นเดียวกับเขา
ในเวลาเดียวกับที่อัศวินวายุเข้าไปในปราสาท ยามเมืองฟอลคอนก็เข้ามาป้องกันทางเข้าปราสาทชั้นในแทนอัศวินวายุ
“อ่าา…… น่าเสียดายจังเลย ฉันอยากเข้าไปด้วยจังเลย”
“เราไม่รู้ว่ามีสมบัติอยู่ในปราสาทชั้นในหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็มีสมบัติบางชิ้นอยู่ในกำแพงปราสาทชั้นใน”
เหตุผลที่ผู้เล่นพูดแบบนั้นเป็นเพราะผู้เล่นทั้ง 500 คนตายอยู่ในกำแพงปราสาทชั้นในทำให้ไอเทมของพวกเขาดร็อปออกมา
เนื่องจากพวกเขาส่วนใหญ่กลายเป็นคนร้าย พวกเขาจึงดร็อปไอเทมสำคัญค่อนข้างมาก และไอเทมเหล่านั้นดร็อปอยู่บนพื้นในกำแพงของปราสาทชั้นใน
ไอเทมที่ดร็อปบนพื้นจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าหากไม่มีใครหยิบมันไป
NPC จะไม่แตะต้องไอเทมของผู้เล่น ดังนั้นไอเทมที่ดร็อปจากผู้เล่นทั้ง 500 คนนั้นจึงกองกันอยู่เต็มพื้น
ซางฮยอคนั้นกำลังรอโอกาสของเขา
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้เล่นที่อยู่รอบนอกกำแพงของปราสาทชั้นในก็ค่อยๆ หายไป แต่ก็ยังไม่ผู้เล่นบางคนที่รู้สึกเสียดายจึงรอต่อไป อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีทางเข้าไปด้านในได้ ประตูกำแพงของปราสาทชั้นในอาจจะเปิดอยู่ แต่ตราบใดเท่าที่มียามยืนเฝ้าประตูอยู่ พวกเขาก็เลยไม่สามารถเข้าไปได้
ไม่ว่าพวกเขาจะโลภแค่ไหน แต่พวกเขาพึ่งดูผู้เล่นทั้ง 500 คนถูกหั่นไปชิ้นๆ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าอีก
พอเวลาผ่านไปนานเข้า ผู้เล่นก็แยกย้ายกันไปในขณะที่เลียริมฝีปากด้วยความความผิดหวัง
ความมืดปกคลุมทั่วเมืองฟอลคอน แต่ยามยังคงยืนอยู่ที่เดิมราวกับว่าพวกเขาจะยืนจนกว่าประตูกำแพงของปราสาทชั้นในจะถูกซ่อมเสร็จ
ตอนนี้ผ่านไป 7 ชั่วโมงตั้งแต่ที่ผู้เล่นทั้ง 500 คนถูกสังหาร ทำให้ไม่ค่อยมีผู้เล่นเหลืออยู่แล้ว มีเพียงผู้เล่นเล็กน้อยที่กำลังดูไอเทมที่ดร็อปอยู่บนพื้นด้วยความเสียดาย อย่างไรก็ตามมันไม่มีทางที่เขาจะเข้าไปหยิบไอเทมได้
‘ฉันควรเข้าไปเลยมั้ย?’
ซางฮยอครู้สึกว่าประตูกำแพงของปราสาทชั้นในจะถูกซ่อมเสร็จแล้ว และคิดว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงกลางคืนและไม่มีผู้เล่นอยู่รอบกำแพงแล้ว
ซางฮยอคเปลี่ยนสมญานาม ‘ดยุคเงาแห่งเมืองฟอลคอน’ จากหลังชื่อมาเป็นหน้าชื่อ จากนั้นเอฟเฟกต์ของสมญานามก็เปลี่ยนไป รูปลักษณ์ของเขาก็กลับคืนมาสู่รูปลักษณ์เดิมทันที
ซางฮยอคดึงดาบสีเงินกับมีดจันทราออกมา และเขาก็หายเข้าไปในความมืด
ต้องขอบคุณเอฟเฟกต์ของประกายจันทราสีเงิน ซางฮยอคจึงสามารถหายเข้าไปในความมืดได้อย่างแนบเนียน และเขาก็เริ่มเดินตรงเข้าไปที่ปราสาทชั้นใน
ความจริงแล้วแม้ว่าซางฮยอคจะหายเข้าไปในความมืด มันก็แปลกอย่างมากที่ยามจะไม่พบตัวเขา
อย่างไรก็ตาม….. ยามที่ป้องกันประตูนั้นไม่สามารถพบตัวเขาได้
เหตุผลนั้นเรียบง่ายมาก เนื่องจากเอฟเฟกต์หน้าชื่อของสมญานามดยุคเงาแห่งเมืองฟอลคอน หากสตอร์มหรืออัศวินวายุเป็นคนป้องกันประตู พวกเขาจะค้นพบซางฮยอคได้อย่างง่ายดาย
ยามนั้นไม่ได้สังเกตเลยว่าซางฮยอคได้เดินผ่านตัวพวกเขาไปแล้ว และผู้เล่นเลเวลต่ำที่ยังคงรออยู่รอบกำแพงของปราสาทชั้นในก็ไม่พบเขาเช่นกัน
เอฟเฟกต์เงาที่ปกคลุมทั่วร่างและการหายเข้าไปในความมืดของเขาทำให้ผู้เล่นเลเวลต่ำไม่สามารถพบตัวเขาได้
‘แม้ว่าพวกมันจะดีแค่ไหนก็ตาม แต่ฉันก็ต้องเดินอย่างระมัดระวัง’
ซางฮยอคเดินไปอย่างระมัดระวังและสามารถเข้าไปที่ปราสาทชั้นในได้โดยใช้เวลา 20 นาที
‘ว้าวววว!’
ซางฮยอคตกใจกับจำนวนไอเทมที่ดร็อปอยู่ที่ปราสาทชั้นในมาก
มีกองไอเทมมากมาย ผู้ล่นทั้ง 500 คนหายไปหลังจากดร็อปไอเทมและไม่มีศพของพวกเขาเลย
NPC นั้นดูราวกับว่าพวกเขามองไม่เห็นไอเทมพวกนี้ ดังนั้นไอเทมจึงกระจายอยู่ทั่วพื้น
มีไอเทมระดับเวทยมนตร์จำนวนนับไม่ถ้วน และบางชิ้นก็เป็นไอเทมระดับแรร์ ในช่วงนี้ผู้เล่นสายการผลิตไอเทมเริ่มพัฒนาขึ้น ทำให้ไอเทมมีคุณภาพและจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นไอเทมที่กระจายอยู่ที่นี่จึงมีคุณภาพค่อนข้างสูง
‘ไอเทมระดับยูนิคอยู่ไหนนะ…….’
สิ่งที่ซางฮยอคกำลังหา ‘ชุดคลุมเงา’ ที่หัวหน้ากิลด์ไลท์นิ่ง ทันเดอร์โบลต์ดร็อปออกมา
เนื่องจากทันเดอร์โบลต์ได้เขียนบทความในฟอรั่มของ InGamez ในอีกไม่กี่วันต่อมา และมีการพูดถึงชุดคลุมเงาอยู่ในบทความของเขา
‘ชุดคลุมเงาอยู่ไหนนะ……. โอ้! มันอยู่นั่นไง!’
ในที่สุดซางฮยอคก็พบชุดคลุม
มันถูกทับจากไอเทมมากมาย ซางฮยอคหยิบมันมาใส่กระเป๋ามิติของเขาและเริ่มหยิบไอเทมระดับแรร์ใส่กระเป๋ามิติด้วยเช่นกัน
กระเป๋ามิติที่ซางฮยอคครอบครองอยู่เป็นกระเป๋ามิติที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฟอลคอนและเขาก็เคลียร์กระเป๋าก่อนที่จะเขามาที่นี่แล้วทำให้เขาสามารถเก็บไอเทมได้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามกระเป๋าเขาก็เต็มเพราะมันมีไอเทมมากเกินไป
เขาเก็บไอเทมได้ไม่ถึง 10% ของไอเทมทั้งหมดที่อยู่ที่นี่
อย่างไรก็ตามไอเทมที่เขาไม่ได้เก็บมานั้นเป็นไอเทมระดับต่ำทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่
‘นี่มันเยอะเกินไปแล้ว!’
ซางฮยอคตัดสินใจแล้วว่ามันไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่หากเขากลับไปเก็บไอเทมไว้ที่คลังเก็บของและกลับมาที่นี่เพื่อเก็บไอเทมอีกครั้ง
หลังจากที่กระเป๋าของเขาเต็ม เขาก็เดินออกไปจากปราสาทชั้นในอย่างเงียบๆ