ลิขิตฟ้าชะตารัก - ตอนที่ 283 เงินเยอะแต่คนโง่ / ตอนที่ 284 สิทธิ์อะไร
ตอนที่ 283 เงินเยอะแต่คนโง่
“ยามที่หม่อมฉันออกมาจากจวนนั้น เพราะปิดบังเสด็จพ่อเอาไว้จึงรีบออกมา ทำให้หยิบเสบียงมาน้อยเหลือเกิน กลัวว่าระหว่างทางนั้นจะไม่พอทาน ไม่ทราบว่าในมือขององค์ชายใหญ่นั้นยังเหลืออีกเยอะหรือไม่ หากพอจะสามารถแบ่งให้หม่อมฉันได้บ้าง ภายหลังเมื่อกลับไปยังจวนหลิงอ๋องแล้วหม่อมฉันจะต้องทูลขอเสด็จพ่อตอบแทนองค์ชายแน่ๆ เพคะ” อวี้อาเหราก้มหน้าอย่างเป็นทุกข์ หากมองเพียงภายนอกก็จะเห็นว่านางมีท่าทีทุกข์ทนยิ่งนัก
“แค่เรื่องเสบียงเองหรือ ข้าก็นึกว่าเรื่องอะไรเสียอีก เรากำลังจะกลับเฟิ่งเฉิงแล้ว เสบียงที่ขนมาก็ยังเหลืออีกมาก หากคุณหนูรองต้องการข้าก็จะยกให้” จวินจื่อหร่านพูดขึ้นอย่างใจกว้าง
“ขอบพระทัยองค์ชายใหญ่เพคะ!” ใบหน้าของอวี้อาเหราเผยให้เห็นถึงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง
จวินจื่อหร่านให้คนนำเสบียงมามอบให้นาง “คุณหนูรอง ข้ายังต้องเดินทางต่อ ในป่ารกร้างแห่งนี้ไม่ค่อยปลอดภัยนัก เจ้าต้องระวังตัวเอาไว้ด้วย”
“เพคะ ขอให้องค์ชายทรงเดินทางปลอดภัย” อวี้อาเหราพยักหน้ารับ
เมื่อเห็นจวินจื่อหร่านนำพากองกำลังสองกลุ่มจากไปแล้ว เจาเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “คุณหนู ท่านแกล้งองค์ชายใหญ่เช่นนี้จะดีหรือเจ้าคะ เขาถูกท่านยกยอเสียจนนิ่งอึ้งไปเลย ช่างน่าขันยิ่งนัก!”
อวี้อาเหรายิ้มอย่างพึงใจ “เรียนรู้จากข้าให้ดีๆ เล่า เช่นนี้เรียกว่ามีเงินเยอะแต่คนโง่ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่ามีเสบียงเยอะแต่คนโง่ต่างหาก…”
“เจ้าค่ะ บ่าวทราบแล้ว” เจาเอ๋อร์รับปากอย่างจริงจัง
เสียงหัวเราะจากเหล่าองครักษ์ที่อยู่ด้านนอกดังเข้ามา ล้วนแล้วแต่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เหตุใดองค์ชายใหญ่ผู้นี้ถึงหลอกได้ง่ายนักนะ
เสียงหัวเราะค่อยๆ เลือนหายไป อวี้อาเหราออกคำสั่งให้คนขนเสบียงของจวินจื่อหร่านเข้าไปไว้ในรถม้า จากนั้นจึงค่อยเอ่ยปากขึ้นว่า “ต้าเว่ย ชิงอวิ๋น พวกเจ้าเข้ามาเถิด ด้านนอกลมแรงนัก ทิ้งเวรยามเอาไว้สองคนก็พอแล้ว”
ต้าเว่ยและชิงอวิ๋นตกใจขึ้นมาในทันที “จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรขอรับ คุณหนูมีสถานะสูงส่ง หากมีข่าวลือแพร่ออกไปว่าท่านร่วมนอนบนรถม้าคันเดียวกับบ่าวไพร่ คนจะเอาไปพูดกันสนุกปาก”
“ทำไมจะไม่ได้?” น้ำเสียงของอวี้อาเหราแสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจ “ไม่มีใครเห็นแล้วใครเล่าจะรู้ อย่าให้ข้าต้องพูดอีกเป็นครั้งที่สองนะ รีบขึ้นมาได้แล้ว!”
“ข้าน้อยรับบัญชาขอรับ” พวกของต้าเว่ยลังเลอยู่เป็นนาน แต่ในที่สุดก็ได้แต่ขึ้นรถม้าไป เหลือไว้เพียงคนยืนยามในยามค่ำเท่านั้น
หนึ่งคืนผ่านไป เช้าวันที่สองเมื่อฟ้าสางแล้ว เมื่อทุกคนทานอาหารจนเสร็จก็ออกเดินทางต่อ จนในที่สุดก็ถึงเมืองทางตะวันตกก่อนเวลาอาหารเย็น ก็พบว่ามีโรงเตี๊ยมอยู่สองสามแห่ง เช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะผ่อนลมหายใจออกมา โชคดีที่ก่อนหน้านี้พบกับจวินจื่อหร่านแล้วได้เสบียงส่วนหนึ่งมา มิเช่นนั้นคงต้องหิวตายก่อนถึงที่นี่เป็นแน่
อวี้อาเหรามองไปรอบๆ “พวกเราหาโรงเตี๊ยมเพื่อพักเอาแรงกันก่อนเถิด”
กลุ่มคนเดินตามหลังนางไปยังทิศทางที่มีโรงเตี๊ยมที่ดูค่อนข้างสะอาดสะอ้านแห่งหนึ่ง มุมเมืองตะวันตกนั้นเป็นสถานที่ที่ไม่เจริญหูเจริญตาเท่าเมืองเฟิ่งเฉิงอันกว้างใหญ่ คนค่อนข้างน้อยและยังเงียบสงบ เห็นเพียงเงาร่างของคนไม่กี่คนบนท้องถนน อวี้อาเหราหลุบตาลง แล้วเดินเข้าไปยังด้านหน้าของโต๊ะเก็บเงินในโรงเตี๊ยมแห่งนี้
ต้าเว่ยร้องปลุกหลงจู๊ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมที่นอนหลับอยู่บนโต๊ะขึ้น “ตื่นขึ้นมาได้แล้ว แล้วรีบหาห้องชั้นหนึ่งให้คุณหนูของเราด้วย”
“ห้อง…ห้องชั้นหนึ่งหรือ” หลงจู๊ของโรงเตี๊ยมลืมเปลือกตาขึ้น แล้วมองร่างของอวี้อาเหราอย่างพิจารณา เมื่อเห็นว่านางสวมใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย ใบหน้าก็เปลี่ยนไป น้ำเสียงไม่น่าฟังพูดขึ้นว่า “ห้องชั้นหนึ่งอะไรกัน? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นเชื้อพระวงศ์หรืออย่างไร ไม่มีห้องชั้นหนึ่ง มีแต่ห้องธรรมดาเท่านั้น”
“เป็นไปได้อย่างไร!” เจาเอ๋อร์ได้ยินน้ำเสียงไม่แยแสของเขาแล้วก็โกรธขึ้นมาในทันที “ตอนที่มาถึง ข้าเห็นว่าโรงเตี๊ยมของเจ้านั้นไม่มีคนอยู่เลย แล้วเหตุใดถึงจะไม่มีห้องชั้นหนึ่งเล่า”
“แล้วเจ้าจะทำไม จะพังโรงเตี๊ยมของข้าหรืออย่างไร” เถ้าแก่เจ้าของโรงเตี๊ยมหัวเราะเสียงเย็น
“เจ้า…” เจาเอ๋อร์โกรธเสียจนพูดไม่ออก
ตอนที่ 284 สิทธิ์อะไร
ชิงอวิ๋นกลับไม่ยอมอ่อนข้อแม้แต่น้อย นำกระบี่ในมือฟาดลงบนโต๊ะอย่างรุนแรงทันที “เชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถทำลายโรงเตี๊ยมนี้ได้จริงๆ”
แววตาของหลงจู๊สั่นไหวเล็กน้อย สายตาดูราวกับหวาดกลัวอยู่รางๆ “ข้าเปิดร้านนี้มานานปีแล้ว คิดว่าข้าไม่เคยเจอเรื่องเช่นนี้หรืออย่างไร เจ้าคิดว่าตัวเองถือกระบี่แล้วข้าจะกลัวอย่างนั้นหรือ น่าขัน!”
“ถ้าเช่นนั้นก็ลองดู” ชิงอวิ๋นไม่คิดว่าเขาจะตอบออกมาเช่นนี้ จึงตะเบ็งคอแล้วร้องตอบ
ทั้งสองคนทะเลาะกันเหมือนกับไก่ตีกันไม่มีผิด
เมื่อเห็นหลงจู๊มีท่าทีดุดันเช่นนี้ ชิงอวิ๋นก็คิดจะดึงดาบออกมาในทันที
“หยุดนะ” ทว่าในตอนนี้เองอวี้อาเหราก็ค่อยๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ตัดบทคนทั้งสองลง เดินไปข้างหน้าแล้วผลักชิงอวิ๋นไปข้างหลัง หันไปยิ้มให้หลงจู๊ “องครักษ์ของข้าไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไร ทำให้หลงจู๊ต้องโกรธเสียแล้ว โปรดอภัยด้วย”
“หึ” หลงจู๊แค่นเสียงเย็นอย่างไม่พอใจ
“คุณหนู เหตุใดจะต้องไปขอโทษเขาด้วย นี่จะทำให้คุณหนูเสียเกียรตินะเจ้าคะ” เจาเอ๋อร์และชิงอวิ๋นรู้สึกโกรธไม่น้อย
คุณหนูของพวกเขาเป็นใคร เหตุใดจะต้องมาขอโทษหลงจู๊โรงเตี๊ยมเก่าๆ คนหนึ่งด้วย หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป คนทั้งจวนหลิงอ๋องจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน
“ออกไป” อวี้อาเหราโบกมือ
“คุณหนู!” เจาเอ๋อร์และชิงอวิ๋นไม่ยอมที่นางจะถูกรังแกเช่นนี้
“หรือพวกเจ้าไม่เห็นว่าข้าเป็นคุณหนูของพวกเจ้าแล้ว? ไม่ว่าข้าจะพูดอะไรก็จะไม่ฟังสินะ” น้ำเสียงเข้มงวดของอวี้อาเหรายิ่งเข้มขึ้น จนทำให้เจาเอ๋อร์และชิงอวิ๋นไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก ก่อนจะถอยหลังไป
“คนของข้าไม่รู้ความ ขอให้ท่านโปรดอภัยให้ด้วย” อวี้อาเหราหันไปมองที่หลงจู๊อีกครั้ง แล้วจึงพูดขึ้นอีกว่า “แต่ท่านว่าข้าไม่กล้าที่จะทำลายร้านของท่านใช่หรือไม่”
“แล้วไม่ใช่หรือ” หลงจู๊กลอกตา
อวี้อาเหราหยิบแท่งทองคำออกมาจากในแขนเสื้อ ก่อนจะวางลงบนโต๊ะ “ข้าขอซื้อร้านของเจ้า ทองคำเหล่านี้ก็คงพอที่จะซื้อร้านได้หลายร้านกระมัง รวมถึงตัวเจ้าเองด้วย เจ้าก็จงอยู่เป็นหลงจู๊ที่นี่ต่อไปเถิด”
“ซื้อที่นี่?” หลงจู๊ตกใจ จ้องมองทองสองแท่งที่ส่องประกาย ไม่น่าเชื่อว่าเงินทองขนาดนี้จะมาจากอวี้อาเหรา คนที่จะมีเงินมากถึงเพียงนี้ ไหนเลยจะเป็นคนธรรมดาได้ จึงรีบพยักหน้ารับในทันที “ได้ๆๆ ข้ามอบที่นี่ให้เจ้า”
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ได้เงินมากมาย ทั้งยังสามารถทำงานที่นี่ต่อได้อีกด้วย มิเช่นนั้นก็ยังสามารถเก็บเงินเอาไปเปิดร้านได้อีก หากยังทำการค้าอยู่ตามปกติก็คงไม่อาจเก็บเงินได้มากมายถึงเพียงนี้แน่ แต่เขากลับไม่ได้ได้สังเกตถึงความนัยที่หลบซ่อนเอาไว้ในดวงตาของอวี้อาเหรา
คนที่อยู่ด้านหลังนั้นมองมาที่คุณหนูของตัวเองอย่างไม่เข้าใจนัก นางโง่หรืออย่างไรกัน
ทองคำมากมายที่ซื้อร้านค้าได้ตั้งหลายร้าน แต่กลับมอบให้กับหลงจู๊ที่เห็นเงินก็ตาวาวเช่นนี้ นี่ก็ไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย!
เมื่อจัดการเรื่องเอกสารการจำนองอะไรจนเรียบร้อยแล้ว อวี้อาเหราก็หมุนกายเดินออกไปข้างนอก แล้วออกคำสั่งโดยที่ไม่ได้เงยหน้าขึ้น “เจาเอ๋อร์ ชิงอวิ๋น พวกเจ้าอยากจะทำลายร้านนี้มิใช่หรือ รีบทำเข้าเถิด ทางที่ดีควรจุดไฟเผาของที่อยู่ด้านในไปให้หมด แล้วก็อย่าลืมเผาหลงจู๊ของร้านไปด้วย มีปัญหาอะไรก็ขอให้ถาม”
หา? ทุกคนต่างตกตะลึง จ่ายเงินซื้อร้านไปมากมายเพื่อแค่เอามาเผาอย่างนั้นหรือ
สีหน้าของหลงจู๊เปลี่ยนไปในทันที “เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเผาข้า”
“สิทธิ์อะไรน่ะหรือ” อวี้อาเหราหันกลับมาหัวเราะเสียงเย็น น้ำเสียงเยียบเย็นค่อยๆ ออกมาจากลำคอทีละคำ “ในเมื่อเจ้าขายร้านนี้ให้กับข้าแล้ว ร้านนี้ก็กลายเป็นของข้า ข้าอยากจะทำอะไรก็ได้ อย่างไรเสียสิ่งที่ข้าไม่ขาดแคลนก็คือเงินพวกนั้น”