ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ - ตอนที่ 585 - 2 ใครหึง
ด้วยโทสะอันพลุ่งพล่าน สาวน้อยจึงมีใบหน้าแดงก่ำ อกงามขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง ดวงตาวาวโรจน์ สบตาเขาอย่างกล้าหาญ ให้ความรู้สึกไม่ยอมอ่อนข้อ
นี่มันอะไรกัน ขอร้องหรือว่าข่มขู่? คิดว่าข้าไม่กล้ามัดเจ้าหรืออย่างไร?! หลินหว่านหรงเดือดดาลอยู่ในใจ เขายื่นมือออกไป เกาฉิวแอบหัวเราะแล้วส่งเชือกไปให้
หลินหว่านหรงแค่นเสียง จับแขนอันอ่อนนุ่มนิ่มทั้งสองข้างของอวี้เจียมัดไพล่หลัง วนเชือกครั้งแล้วครั้งเล่า มัดร่างนางราวกับบ๊ะจ่าง เมื่อถึงขั้นตอนสุดท้ายยังดึงเชือกราวกับยังไม่หนำใจอีก ความหงุดหงิดโมโหไม่ต้องเอื้อนเอ่ย เหล่าเกาเห็นแล้วก็ลอบตกใจ วันนี้น้องหลินเดือดแล้วจริงๆ ปราศจากความรักหยกถนอมบุปผาแม้แต่น้อยเลยนะ
สาวน้อยทูเจวี๋ยขบกรามแน่น เบือนหน้าหนีไปอย่างดื้อดึง ไม่มองเขาแม้แต่แวบเดียว ดวงตาอันล้ำลึกปรากฏความเปียกชื้นให้เห็นรางๆ
“เอ๊ะ นี่คืออะไร?!” เกาฉิวร้องคราหนึ่ง สายตาไปอยู่ที่มืองามเรียวยาวของเยวี่ยหยาเอ๋อร์ สาวน้อยทูเจวี๋ยถูกมัดจนไม่อาจขยับเขยื้อน มืองามกุมหญ้าเขียวแน่น ถึงตายก็ไม่ยอมปล่อยมือ
ยังมีแผนชั่วร้ายอะไรอีก?! หลินหว่านหรงตกใจสะดุ้งโหยง รีบสาละวนแกะมือนาง สาวน้อยทูเจวี๋ยกลับไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวแรงมาจากที่ใด สองแขนขยับไม่ได้ ทว่ามือเรียวยาวนั้นกลับเป็นเหมือนดั่งคีมเหล็ก กุมแน่นสนิท หลินหว่านหรงออกแรงอย่างเต็มที่จนเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก ถึงกระนั้นก็ไม่อาจแกะมือนางออกได้
หงุดหงิดจนถึงที่สุดแล้ว หลินหว่านหรงชักดาบทองเสียงดังขวับ! หัวเราะฮิฮะคราหนึ่ง กำลังจะฟันหญ้านั้นขาดสะบั้น
“อย่า!” อวี้เจียรีบร้องโหยหวน ร่างซึ่งถูกมัดอย่างแน่นหนาอ่อนยวบล้มพังพาบลงกับพื้นหญ้า ใบหน้าซุกอยู่ในหญ้าเขียว ไหล่งามอันบอบบางสั่นระริกเบาๆ ในมือสุดมือเรียวงามก็ค่อยๆ คลายออก
ในที่สุดก็ขจัดภยันตรายไปได้ครั้งหนึ่ง หลินหว่านหรงพ่นลมหายใจออกมายาวๆ รีบริบหญ้านั้นมา เมื่อกวาดตามองกลับต้องอึ้งเล็กน้อย
ของอันตรายที่คาดเดาไว้กลับเป็นมนุษย์ที่ซึ่งถักทอมาจากต้นหญ้า แม้จะถักมาจากหญ้า แต่ฝีมือของอวี้เจียก็หาใช่ธรรมดา มนุษย์หญ้าตัวนี้มีตามีจมูก มีเส้นผมมีอาภรณ์ เห็นชัดเจนยิ่งนัก
“เอ๊ะ เหมือนจะคุ้นตาอยู่บ้างนะ” หลินหว่านหรงลูบจมูกด้วยความสงสัย
ใบหน้าของมนุษย์หญ้านี้ใช้แปรงเขียนคิ้ววาดดวงตาและจมูก ตวัดเพียงไม่กี่เส้น ทว่ากลับชัดเจนราวกับมีชีวิต ถึงแม้จะถูกดึงกระชากจนคลายออกไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมองเห็นความเจ้าเล่ห์นั้นออกอยู่ดี เส้นผมซึ่งถักจากหญ้าจะว่ายาวก็ไม่ยาวจะว่าสั้นก็ไม่สั้น ทำเป็นรูปแบบของชนเผ่านอกด่าน สิ่งที่สวมอยู่บนร่างนั้นก็เป็นเสื้อคลุมยาวของทูเจวี๋ย เมื่อมองผ่านๆ ท่าทางนั้นก็แปลกประหลาดยิ่งนัก
“เหมือนจะเป็นชนเผ่านอกด่าน!” เกาฉิวจ้องเขม็งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าอีก “แต่เมื่อมองจากสีหน้าท่าทางก็เหมือนจะเป็นน้องหลินเจ้านะ! เหตุใดเจ้าถึงกลายเป็นชนเผ่านอกด่านไปได้ล่ะ?! น่าแปลกยิ่งนัก!”
คำพูดของเหล่าเกาปลุกผู้ที่อยู่ในห้วงความฝันให้ตื่นขึ้น หลินหว่านหรงตระหนักขึ้นมาทันที เห็นชัดว่านี่คือหลินซานที่ทำออกมาโดยมีทรงผมของชนเผ่านอกด่านและสวมชุดทูเจวี๋ยนี่นา มิน่าเล่าหน้าตานั่นถึงเห็นแล้วถูกชะตาขนาดนี้ หล่อเหล่าขนาดนี้
เกาฉิวก็พอจะมองออกอยู่บ้างเช่นกัน เขาประชิดข้างกายหลินหว่านหรงแล้วพูดอย่างมีลับลมคมในออกมาว่า “น้องหลินจะทำเช่นไรดี จะแก้มัดนางหรือไม่?!”
“แก้มัดอะไรกัน?!” หลินหว่านหรงมองเขาด้วยความหงุดหงิดโมโห “นี่จงใจล่อลวงข้าชัดๆ ยังคิดจะเปลี่ยนข้าให้เป็นชาวทูเจวี๋ยอีกหรือ เห็นข้าเป็นคนตกหลุมพรางและหลอกง่ายขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร?! ชาวทูเจวี๋ยหล่อเหลาขนาดข้าเลยหรือ?!”
“มีเหตุผล มีเหตุผล” เหล่าเการีบผงกศีรษะไม่หยุด
ยัดมนุษย์หญ้าเข้าไปในเสื้ออย่างเปะปะ หลินหว่านหรงหัวเราะฮิฮะหลายครั้ง หยิบดอกไม้ต้นหญ้าที่เปียกชุ่มนั้นขึ้นมา นำไปใกล้จมูกกระจุ๋มกระจิ๋มของเยวี่ยหยาเอ๋อร์อย่างแช่มช้า สาวน้อยทูเจวี๋ยรีบกลั้นลมหายใจ ทนไปได้ไม่นานก็ไอออกมา
“คุณหนูอวี้เจีย ยังบอกว่าข้ารังแกเจ้าอีกหรือไม่? กลิ่นนี้ข้าดมมาหนึ่งชั่วยามแล้ว!” สีหน้าของหลินหว่านหรงค่อยๆ เย็นชา “ยาที่เจ้าผสมเอง ตัวเองก็ยังทนไม่ได้?!”
เยวี่ยหยาเอ๋อร์แค่นเสียงคราหนึ่ง สุดท้ายก็ไม่โต้เถียงอีก หลินหว่านหรงถอนหายใจ “ใช้สมุนไพรหลายชนิดผสมกัน ละลายลงไปในน้ำ ส่งกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะออกมา ไม่แน่ว่าผ่านไปอีกไม่กี่ชั่วยามน้ำก็จะเปลี่ยนสีเปลี่ยนกลิ่น ใช่หรือไม่?!”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?!” ในที่สุดอวี้เจียก็เอ่ยปากขึ้น ความจริงมาอยู่ตรงหน้า นางไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป
หลินหว่านหรงหัวเราะร่า “อันที่จริงเรื่องนี้ก็เดาได้ไม่ยาก ทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ของเค่อจือเอ่อร์ หากต้องการดึงดูดความสนใจของคนในเผ่าเจ้า วิธีการที่ดีที่สุดก็คือให้ทะเลสาบเปลี่ยนสีเปลี่ยนกลิ่น ส่วนเจ้าเชี่ยวชาญการแพทย์ มีความสามารถนี้อยู่พอดี ขอเพียงมีคนในเผ่าเจ้าพบความผิดปกติที่ริมทะเลสาบ พวกมันต้องนำความผิดปกตินี้ไปรายงาน และต้องมีคนมาตรวจสอบที่นี่แน่…ข้าไม่อาจไม่ยอมรับ เจ้าฉลาดมากจริงๆ คิดวิธีการอันล้ำเลิศเช่นนี้เพื่อส่งข่าวคนในเผ่าของเจ้าได้ มิหนำซ้ำอีกนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว ข้ากับพี่น้องของข้าก่อนจากไปต้องใช้เวลาเก็บถึงหนึ่งชั่วยาม!”
มองดูเส้นผมที่เปียกชุ่มของเขา อวี้เจียก็แค่นเสียงออกมา “เจ้าก็ไม่ได้โง่ น่าเสียดาย ที่ข้าทำไม่สำเร็จอยู่ดี!”
หลินหว่านหรงหัวเราะฮ่าๆ แล้วพูดว่า “ว่าอย่างไรดีล่ะ?! อันที่จริงสิ่งที่เจ้าควรทำก็ทำไปแล้ว บอกว่าเจ้าไม่มีดวง…สมุนไพรเพิ่งปล่อยลงไปในน้ำก็มีคนมาแล้วจริงๆ บอกเจ้าดวงดี เจ้าคนที่มาคนนี้ดันเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเจ้า มันคุ้นเคยกับกลิ่นนี้ ยิ่งคุ้นเคยกับนิสัยใจคอของเจ้าอีก กลับคิดว่าสัญญาณขอความช่วยเหลือนี้เป็นการแกล้งเล่นของเจ้าแทน…ยิ่งคุ้นเคยก็ยิ่งพลาดง่ายนะ!”
“เพื่อนสมัยเด็กอะไร?” เยวี่ยหยาเอ๋อร์ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย “เจ้าพูดถึงใครกันแน่?!”
“ยังจะพูดถึงใครได้?” หลินหว่านหรงหัวเราะฮิฮะคราหนึ่ง “ไม่ใช่คนรักของเจ้า ที่รักของเจ้า ใต้เท้าอ๋องขวาแห่งทูเจวี๋ยหรอกหรือ!”
อวี้เจียเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้นยินดี “เจ้าหมายถึงถูสั่วจั่ว?! เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?! เหอะ เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน เขาเป็นที่รักของข้าตั้งแต่เมื่อใด?!”
“ที่แท้เจ้าก็รู้จักคำว่าที่รักคำนี้ด้วย” หลินหว่านหรงหัวเราะร่วน “เจ้าปฏิเสธก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรถูสั่วจั่วก็สนิทสนมกับเจ้า เรื่องนี้ไม่ผิดแน่ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีคนรักที่บุญหนักศักดิ์ใหญ่เช่นนี้ด้วย ช่างเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยินดีอันเหลือเชื่อเสียจริง!”
“ข้าขอพูดอีกรอบ ถูสั่วจั่วไม่ใช่คนรักของข้า…” อวี้เจียมองเขา ทันใดนั้นก็ยิ้มหยันแล้วพูดว่า “เข้าใจแล้ว ที่แท้เจ้าก็กำลังหวงหึง…”
“หวงหึงอะไรกัน?” หลินหว่านหรงนิ่งอึ้ง พูดพลางหัวเราะเสียงดังออกมาทันที “อ้อ นั่นเขาเรียกว่าหึงหวง! คุณหนูอวี้เจีย ภาษาต้าหัวของเจ้ายังต้องฝึกอีกมากนะ!…นี่ เหอะ ใครหึงหวงกัน?”
“เจ้าว่าใครหึงหวงล่ะ?!” อวี้เจียมองเขา กล่าวไม่เร็วไม่ช้า
“เจ้าบอกว่าข้าหึงหวง?! คุณหนูอวี้เจีย เป็นคนก็ต้องพูดด้วยมโนธรรมนะ” หลินหว่านหรงเบิกตากว้าง แทบไม่เชื่อหูของตัวเอง แม่เอ๊ย! ความหลงตัวเองของนังหนูนี่เหนือกว่าข้าเป็นร้อยเท่าเลยนะนี่!
“เจ้าไม่หึงหวงจริงหรือ?!” อวี้เจียสองตาเบิกกว้าง มองเขาอย่างดุร้าย ภายในดวงตามีน้ำตาคลอให้เห็นอยู่รำไร
ไม่ถูกนะ เห็นๆ อยู่ว่าข้ามาจัดการนังหนูคนนี้ แล้วทำไมถึงลากไปถึงเรื่องหึงกันได้ล่ะ? หลินหว่านหรงโบกมือด้วยความหงุดหงิด ยังไม่ทันพูดอวี้เจียกลับระเบิดโทสะแล้ว “อัวเหล่ากง เจ้ารีบตอบข้า!”
“ตอบอะไร?!” หลินหว่านหรงตอบกลับไปอย่างอารมณ์เสีย
อวี้เจียมองเขาอย่างเหม่อลอย เจ้าโจรนี่กลับสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตากลอกไปมา
สาวน้อยหลับตาลงเล็กน้อย น้ำตากระจ่างใสสองสายเอ่อท้นออกมาจากเบ้าตา นางกัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “ดี เจ้ามีหลักการดีมาก อัวเหล่ากง เจ้าจำไว้ให้ดี เรื่องที่ตัดสินใจออกไปแล้วห้ามเสียใจเป็นอันขาด!”
คำพูดนี้เหมือนข้าตัดสินใจอะไรไปแล้วอย่างนั้น?! แล้วข้าจะเสียใจอะไร?! หลินหว่านหรงส่ายหน้า เห็นอวี้เจียหลับตา คล้ายไม่ยอมพูดอะไรอีก ส่วนเขาก็หมดอารมณ์เช่นกัน
เกาฉิวเอ่ยอย่างระมัดระวัง “น้องหลิน ตอนนี้จะทำเช่นไร? แม่สาวคนนี้เจ้าเล่ห์มากนัก!”
มัดนางจนมีสภาพเช่นนี้แล้ว ต่อให้นางเจ้าเล่ห์อีกสักเท่าใดแล้วจะทำอะไรได้? หากยังให้นางเล่นตุกติกออกมาได้อีก ไม่สู้ให้ข้าเอาหัวโขกเต้าหู้ให้ตายไปเลยจะดีกว่า หลินหว่านหรงตบบ่าเหล่าเกา ถอนหายใจแล้วตอบว่า “พี่เกา นิสัยอันแสนจะอันตรายของอวี้เจียคิดว่าท่านรู้กระจ่างแจ้งเช่นกัน หากปราศจากคำสั่งของข้า ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามปลดเชือกนาง ต่อจากนี้นางยังใช้ประโยชน์ครั้งใหญ่ได้อีก!”
“เข้าใจแล้ว งานชิงคนรักใช่หรือไม่ อ๋องขวาทูเจวี๋ยยังรอนางอยู่นา” เหล่าเกาหัวเราะร่วนหน้าบาน
ชิงคนรัก? คำพูดนี้ใช้ถูกต้องจริงๆ! หลินหว่านหรงมองอวี้เจียที่ขดตัวอยู่บนพื้น ส่ายหน้าพลางยิ้มขื่น