ยอดเซลล์แมนทะลุมิติ - ตอนที่ 600 - 2 ศึกครั้งใหญ่กับอ๋องขวา
ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันยี่สิบกว่าลี้ หมอบกายพุ่งปะทะเข้าหากัน ความเร็วม้าของหลินหว่านหรงไม่ได้ลดทอนลง เมื่อเห็นวงล้อมเพลิงซึ่งลุกโชติช่วง อยู่ใกล้แค่เอื้อมนั้น จู่ๆ ก็ตวาดเสียงต่ำๆ ออกมา “พี่น้องทั้งหลาย จุดไฟ!”
ท่อนไม้ที่มัดอย่างลวกๆ ในมือของเขาถูกโยนเข้ากองไฟอย่างเร็วรี่ ที่จุดไฟถูกจุดสว่างเสียงดังพรึบ คบเพลิงหลายสิบอันลุกแผดเผา
ถูสั่วจั่วยังไม่ทันรู้ตัวว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร ทั้งสองฝ่ายก็ประชิดกันเสียแล้ว
“โยน!” หูปู้กุยตวาดเสียงดังด้วยภาษาทูเจวี๋ย คบเพลิงหลายสิบอันถูกเขวี้ยงออกไปราวกับมีดวงตางอกเงย ทั้งสองฝ่ายอยู่ใกล้กันยิ่งนัก ไม่ทันได้หลบหลีก สะเก็ดเพลิงก็สาดกระจายเสียงดังพรึบๆ คนในเผ่าถูสั่วจั่วปัดคบเพลิงออกเป็นพัลวัน อาชาที่อยู่ใต้ร่างพวกมันถูกแสงเพลิงกระตุ้นจนตกใจ บิดกายพร้อมถีบขาหลัง สะบัดหัวส่งเสียงร้อง กระบวนทัพของชนเผ่านอกด่านเสียกระบวนอย่างยิ่งทันที “อย่าสับสน บุกไปกับข้า!” ถูสั่วจั่วผ่านการรบมาอย่างช่ำชอง ออกแรงดึงบังเ**ยน ทำให้ม้าซึ่งกำลังกระวนกระวายหยุดนิ่งพร้อมตวาดเสียงดัง
ช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้จะปล่อยให้พลาดไปได้อย่างไร! หูปู้กุยคำราม พุ่งปราดเข้าไป จากนั้นจึงใช้ดาบฟันคู่ต่อสู้อย่างหนักหน่วง คู่ต่อสู้ที่เขาเลือกหาใช่ใครอื่น เป็นอ๋องขวาทูเจวี๋ยถูสั่วจั่วนั่นเอง!
ถูสั่วจั่วชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทุ่งหญ้า พละกำลังมิใช่ธรรมดา เมื่อเผชิญกับคมดาบหูปู้กุย มันไม่หลบไม่หนี เงื้อดาบขึ้นรับ เสียง ‘เคร้ง’ ดังลั่น สะเก็ดไฟกระเซ็นไปทั่ว หูปู้กุยรู้สึกข้อมือชา ดาบโค้งแทบกระเด็นหลุดออกไป
อ๋องขวากำดาบโค้งแน่น ดวงตาแฝงความประหลาดใจอยู่หลายส่วนเช่นกัน เยวี่ยซื่อเล็กๆ กลับมีผู้กล้าเช่นนี้อยู่ด้วย!
“อ๊า!” มีเสียงร้องโหยหวนดังมาจากข้างหลัง ถูสั่วจั่วหันกลับไปมองก็เห็นว่าคู่ต่อสู้สิบกว่าคนฉวยโอกาสช่วงที่กระบวนทัพของคนในเผาตนสับสนวุ่นวาย หยิบยืมความได้เปรียบของจำนวนคน ใช้แผนแบ่งแยกแล้วโอบล้อม สองคนที่เป็นผู้นำต่ำช้ายิ่งนัก คนหนึ่งอาศัยเรี่ยวแรงมหาศาลบุกอย่างแข็งกร้าว ส่วนอีกคนกลับแอบแทงข้างหลังโดยเฉพาะ คนในเผ่าหกเจ็ดคนที่เหลือล้มลงไปครึ่งหนึ่งภายในชั่วพริบตา
“อ๊า!” ถูสั่วจั่วส่งเสียงตวาดด้วยโทสะ เงื้อคมดาบ หันกลับไปช่วยคนในเผ่าตนอย่างเดือดดาล หูปู้กุยกลับเหมือนเงาตามตัว แต่ละดาบล้วนถึงจุดตาย ประกบติดพัวพันมัน แต่กลับไม่ได้ปะทะแลกกับมัน
ติดกับแล้ว! อ๋องขวาถึงได้สติกลับมา เมื่อเผชิญหน้ากับคนเผ่าเยวี่ยซื่อซึ่งมาเพื่อพัวพันตนเองโดยเฉพาะ พละกำลังของมันอาจด้อยกว่าตนอยู่หลายส่วน แต่หากต้องการพัวพันตนเองกลับง่ายดายนัก เจ้านี่มันกำลังฉกชิงเวลาให้คนในกลุ่มของมัน หากถึงเวลาจัดการมันได้ คนในเผ่าก็ต้องถูกกลืนกินจนหมดสิ้นแน่นอน
ด้วยความร้อนใจระคนโทสะ ถูสั่วจั่วระเบิดพละกำลังที่มีอยู่ทั้งหมด มันส่งเสียงฮึบคราหนึ่ง ดาบโค้งรวดเร็วประดุจสายฟ้าแลบ ฟันลงตรงหน้าหูปู้กุย เหล่าหูขยับวูบหลบอย่างเร็วรี่ คมดาบของอ๋องขวาทูเจวี๋ยไม่ลดละ ฟันกวัดแกว่งไปมา ประกายเย็นเยียบสายหนึ่งกรีดผ่านหน้าท้องหูปู้กุย ทำให้เขาตกใจจนหลั่งเหงื่อเย็นทั่วร่าง
ถูสั่วจั่วฉวยโอกาสนี้ใช้เท้ากระโดดกระแทกที่พักเท้า คำรามออกมาด้วยโทสะคราหนึ่ง จากนั้นก็หันหน้ากลับมาพร้อมบุกเข้าหาคนเผ่าเยวี่ยซื่อที่รวมตัวอยู่นั้น
ใช้สองสู้หนึ่ง มีข้อได้เปรียบด้านจำนวนคน ทั้งยังมีเหล่าเกาซึ่งมีพรสวรรค์ด้านต่อยตีเช่นนี้อีก เดิมทีนึกว่าจะจัดการอย่าง่ายดาย เพียงแต่ผู้กล้าของถูสั่วจั่วสมดังคำร่ำลือ เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ ถึงกระนั้นกลับไม่ประหวั่นลนลานแม้แต่น้อย แต่ละคนต่างห้าวหาญไม่กลัวตาย การบุกเข่นฆ่านี้ใช้เวลาไปมากมายนัก ทำให้หูปู้กุยแทบถูกถูสั่วจั่วทำร้ายสาหัส
“ระวัง!” เกาฉิวรวมพลังกับหลินหว่านหรงฟันผู้กล้าคนสุดท้ายของถูสั่วจั่วให้ล้มลงไป เมื่อหมุนกายกลับมาก็เห็นอ๋องขวาทูเจวี๋ยควบม้าประดุจโผบิน ดาบประดุจสายฟ้าแลบ ไล่ฟันมาที่แผ่นหลังของน้องหลิน อยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งจั้ง เสียงลมดังอยู่ข้างใบหูเบาๆ
“มารดาเจ้า!” ระหว่างช่วงคับขัน คมดาบใกล้ถึงแผ่นหลัง มองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นข้างหลังไม่ทันแล้ว หลินหว่านหรงกัดฟันกรอด หันหน้ากลับไปทันที ดาบโค้งหลุดออกจากมือ เขวี้ยงออกไปอย่างเร็วรี่ พุ่งไปยังใบหน้าถูสั่วจั่ว
อยู่ห่างกันแค่คืบ ไม่อาจหลบเลี่ยงได้เลยแม้แต่น้อย ดาบนี้แม้จะฟันเจ้าคนเผ่าเยวี่ยซื่อนั่นได้ แต่ตัวเองกลับต้องเสี่ยงชีวิตด้วยเช่นกัน ถูสั่วจั่วลังเลเล็กน้อย เสียง ‘เคร้ง’ คมชัดดังขึ้น ฟันปัดดาบที่ปลิวมาของหลินหว่านหรงออกไป เกาฉิวฉวยโอกาสนี้ฟันดาบเข้ารับหน้า ตัดการบุกโจมตีของถูสั่วจั่ว
ถือว่าเก็บชีวิตกลับมาได้แล้ว ความรู้สึกหวาดกลัวยังไม่ทันบังเกิดแต่กลับจุดเพลิงโทสะที่แท้จริงของเขาขึ้นมา มารดามัน ชาวทูเจวี๋ยแน่นักหรือไง? ข้าเคยกลัวใครที่ไหนกัน?!
เมื่อเห็นอ๋องขวาชูดาบรับเกาฉิว ถูสั่วจั่วก็อยู่ห่างจากตนไม่ถึงครึ่งจั้ง หลินหว่านหรงพลันกระโดดออกจากหลังม้าไปยังด้านหลังถูสั่วจั่วแล้วรัดคอมันอย่างแรง
“ท่าน ท่านแม่ทัพหลิน…” หูปู้กุยตกใจจนลิ้นพันกัน
ชนเผ่านอกด่านที่อยู่โดยรอบนิ่งอึ้ง! ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าดินแดนเยวี่ยซื่อที่ไม่อยู่ในสายตามากที่สุดกลับมีความมุ่งมั่นในการต่อสู้แรงกล้าเช่นนี้ ไม่เพียงแต่กำจัดผู้กล้าของถูสั่วจั่ว แต่ยังกระโดดขึ้นหลังม้าสู้ประชิดตัวกับอ๋องขวาผู้มีชื่อเสียงเลื่องลืออีกด้วย การต่อสู้รอบสุดท้ายนี้ช่างเหนือความคาดหมายเสียจริง! บรรดาชนเผ่านอกด่านต่างโห่ร้องเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น คราวนี้กลับส่งเสียงชมเชยให้ดินแดนเยวี่ยซื่อผู้อ่อนแอโดยพร้อมเพรียงกัน แม้แต่เยวี่ยหยาเอ๋อร์ก็ยังปรกาฎแววตกใจภายในดวงตาอยู่หลายส่วนพร้อมผงกศีรษะเล็กน้อย
คนเผ่าเยวี่ยซื่อกลับเ**้ยมหาญเยี่ยงนี้ อ๋องขวาทูเจวี๋ยตกใจอย่างยิ่ง มันใช้ดาบขวางการโจมตีของเกาฉิวศอกซ้ายกระแทกไปที่ศีรษะของผู้ลอบโจมตีที่อยู่ด้านหลัง!
“กล้ากระแทกข้า? ข้าจะทิ่มเจ้าให้ตาย!” แม่ทัพหลินส่งเสียงคำรามเดือดดาลอยู่ในใจ สองมือว่องไวดุจสายฟ้าแลบ ออกแรงทิ่มเข้าไปในเบ้าตาถูสั่วจั่วอย่างสุดแรง
“อ๊า!” เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของอ๋องขวาดังไปทั่วทุ่งหญ้า มันส่ายหน้าอย่างแรง อาชาใต้ร่างเชิดหัวขึ้นสูงพร้อมส่งเสียงร้อง คล้ายรับรู้ความเจ็บปวดของผู้เป็นนายได้ ครานี้ชาวทูเจวี๋ยทุกคนต่างนิ่งงัน ส่วนอวี้เจียก็อึ้งเช่นกัน!
หากเอ่ยถึงความสามารถในการเล่นมวยปล้ำ ถูสั่วจั่วถือเป็นอันดับต้นๆ ของทูเจวี๋ย แต่วันนี้มันกลับแบ่งแยกสมาธิ มือหนึ่งต้องต่อกรกับเกาฉิวผู้แข็งแกร่งดุดัน ส่วนอีกข้างกลับต้องรับมือกับผู้ลอบโจมตีทางด้านหลัง ทั้งยังพบกับวิธีการต่ำช้าอย่างการแทงดวงตาคนทั้งสองข้างซึ่งไม่เคยมีผู้ใดใช้บนทุ่งหญ้ามาก่อนอีกด้วย การเสียเปรียบครั้งนี้จึงไม่นับว่าเหนือความคาดหมาย
เกาฉิวเห็นแล้วก็ลอบสาแก่ใจ สิ่งที่สู้กันล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าคาดไม่ถึง และนี่ถึงเป็นฝีมือของน้องหลิน!
ถูสั่วจั่วบาดเจ็บดวงตาครั้งนี้ทำให้การมองเห็นสูญสิ้น แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นอ๋องขวาทูเจวี๋ย ความเ**้ยมหาญแข็งแกร่งหาได้คุยโว มันใช้มือหนึ่งดึงบังเ**ยนม้า อาศัยทักษะการขี่ม้าอันเยี่ยมยอดเชิดหัวม้าขึ้นสูงพร้อมหมุนวนอย่างต่อเนื่อง ต้องการสลัดคนเผ่าเยวี่ยซื่อที่อยู่ข้างหลังออกไป ขณะเดียวกันก็ออกแรงขยับกวัดแกว่งข้อศอกไปข้างหลัง พยายามโจมตี เพียงแต่ด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง กำลังที่ข้อศอกมันจึงลดทอนไปมากกระแทกไปที่ดั้งจมูกหลินหว่านหรงพร้อมเสียงลมหวีดหวิว
เปียกๆ เค็มๆ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเลือดกำเดาออกแล้ว กลิ่นคาวเลือดยิ่งกระตุ้นความป่าเถื่อน ฉวยโอกาสช่วงที่ถูสั่วจั่วเจ็บตามองเห็นไม่ชัด เขาใช้กำปั้นรวดเร็วดั่งสายฟ้า สองอสุนีบาตกรอกใบหู หนึ่งซ้ายหนึ่งขวา ตุบๆ สองครั้ง กระแทกไปที่ขมับถูสั่วจั่วอย่างนักหน่วง
ขณะนี้ทั้งสองคนกลายเป็นเล่นมวยปล้ำบนหลังม้า พัวพันกันอยู่ เกาฉิวถือดาบเล็งอยู่นาน ถึงกระนั้นกลับกลัวว่าจะเล็งผิดจนฟันน้องหลิน
ครานี้ไม่ใช่การล้อเล่นแล้ว หากเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาเกรงว่าคงสลบไปตั้งแต่แรก อ๋องขวาออกแรงสะบัดศีรษะ ดาบโค้งที่อยู่ในมือกุมไม่มั่นแล้ว หล่นลงพื้นเสียงดังแคร้ง แต่ร่างกายมันมีกำลังมหาศาล แล้วจะถูกเขาทำร้ายจนล้มได้อย่างไรกัน มันหันหน้ากลับมาทันที ส่งเสียงขู่คราหนึ่ง จากนั้นก็ใช้ศีรษะกระแทกหน้าอกหลินหว่านหรง
ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ หลินหว่านหรงเงื้อหมัดขึ้น จากนั้นก็กระแทกดั้งจมูกมันไปตรงๆ โลหิตกระเซ็น ถูสั่วจั่วมีคราวบโลหิตเต็มใบหน้า ใบหน้าบิดเบี้ยว ถึงกระนั้นกลับยังคงกระแทกหน้าอกเขาต่อไป
หลินหว่านหรงแค่นเสียงทึบ หัวใจคล้ายมีหนอนหลายสิบตัวไต่ขึ้นไป เลือดลมพลุ่งพล่านไม่หยุด แต่เมื่อเทียบกับถูสั่วจั่ว สิ่งเหล่านี้ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงแม้แต่น้อย เขาเงื้อกำปั้นทั้งสองขึ้นพร้อมกัน กระแทกขมับอ๋องขวาราวกับหยาดฝน
นับตั้งแต่ดวงตาถูกทิ่มแทง ให้เจ้าคนเผ่าเยวี่ยซื่อคนนี้ปีนขึ้นมาบนหลังม้า ถูสั่วจั่วก็เดินผิดพลาด พ่ายแพ้ทั้งกระดาน หากเอ่ยถึงดาบแท้หอกแท้ มันไม่เกรงกลัวผู้ใด แต่หากเอ่ยถึงการต่อสู้ตะลุมบอนถึงตายเช่นนี้ มันมีกำลังมหาศาล ผู้อื่นก็ต่ำช้า ผู้ใดแพ้ผู้ใดชนะก็ยังไม่แน่
พลังในการต้านทานการโจมตีของถูสั่วจั่วกล้าแกร่งยิ่งนัก แม้จะมึนงงใกล้จะสลบ ถึงกระนั้นตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ละทิ้งการต่อต้าน มันจิกเอวหลินหว่านหรงแน่น อ้าปากที่เต็มไปด้วยโลหิตสดๆ แล้วงับไปที่คอเขา
“มารดาเจ้าสิ!” หลินหว่านหรงเอาจนถึงที่สุด ใช้ศีรษะกระแทกไปที่ดั้งจมูกมันตรงๆ ประกายโลหิตกระเซ็นไปทั่ว ถูสั่วจั่วเห็นดวงดาวเต็มไปหมด ปากและจมูกปริแตก โลหิตไหลริน หลินหว่านหรงฉวยโอกาสอัดหมัดหนักๆ คราหนึ่งกระแทกไปที่คางมัน ทำให้จนฟันของมันลอยกระเด็นออกไป
อาชาที่อยู่ใต้ร่างถูสั่วจั่วคล้ายจิตใจเชื่อมประสาน มันรับรู้ถึงอันตรายของเจ้านาย พลันชูคอร้องออกมายาวๆ สองขาชูขึ้นสูง ต้องการสลัดคนเผ่าเยวี่ยซื่อให้หลุดไป
หลินหว่านหรงมีสติแจ่มชัดยิ่ง ฉวยโอกาสนี้คว้าร่างอ๋องขวาแล้วออกแรงเหวี่ยง โยนลงพื้นอย่างแรง ขณะที่ถูสั่วจั่วกำลังจะตกจากหลังม้าจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้นมา ท่ามกลางคราบเลือดอันน่าหวาดกลัว มันตวาดอ๊าออกมาคราหนึ่งแล้วถ่มโลหิตออกมา พร้อมออกแรงจิกเนื้อที่เอวหลินหว่านหรง สองคนร่วงลงไปพร้อมกัน
“อ๊า!” เสียงร้องโหยหวนดังลั่น
“น้องหลิน (ท่านแม่ทัพ)!” เกาฉิวกับหูปู้กุยร้องเรียกพร้อมกัน กรูไปข้างหน้า เห็นว่าหลินหว่านหรงคุกเข่าอยู่กับพื้น หัวเข่าข้างหนึ่งกระแทกหนักๆ ลงบนเป้าถูสั่วจั่ว แม้จะไม่เห็นใบหน้ามัน ถึงกระนั้นกลับรอยยิ้มอันบิดเบี้ยวชั่วร้ายของเขาได้ อ๋องขวาทูเจวี๋ยกุมเป้า กลิ้งไปทั่วพื้น ร้องโหยหวนดังลั่น
โหดเ**้ยมเหลือเกิน! เหล่าเกามองจนตาโตอ้าปากค้าง คราวนี้แม้อ๋องขวาจะเข้าราชวังทูเจวี๋ยได้ แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ไปเป็นสามี แต่ไปเป็นขันที!
มองดูอ๋องขวาทูเจวี๋ยที่กลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด หลินหว่านหรงก็ขยิบตาให้หูปู้กุย จากนั้นก็เข้าไป ‘พัวพัน’ กับมันต่อไป โอกาสดีที่หาได้ยากนักเช่นนี้เหล่าหูจะพลาดได้อย่างไร? เขาควบม้าไปข้างหน้า ใช้ดาบฟันหนักๆ ไปที่ขาถูสั่วจั่ว หลินหว่านหรงอยู่ใกล้มากที่สุด ได้ยินเสียงกระดูกหักอย่างชัดเจน
“หยุดมือ!” อวี้เจียที่อยู่ทางนั้นนั่งไม่ติดแล้ว รีบร้องเรียกออกมา
หูปู้กุยหมุนร่างกลับมาด้วยท่าทีเคารพนบนอบ ใช้มือเดียวแตะอกแสดงการคารวะข่านใหญ่ อวี้เจียผงกศีรษะ กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เยวี่ยซื่อ พวกเจ้าเป็นดินแดนที่ยอดเยี่ยม!”
ทุ่งหญ้าบังเกิดเสียงโห่ร้องยินดีลั่นฟ้าสะเทือนดิน ถูสั่วจั่วแพ้แล้ว! เยวี่ยซื่อที่อ่อนแอทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้สำเร็จ พวกมันทำให้อ๋องขวาทูเจวี๋ยผู้หยิ่งทระนงพ่ายแพ้ได้ สิ่งที่ทุ่งหญ้าเทิดทูนก็คือวีรบุรุษ เยวี่ยซื่อคือวีรบุรุษของพวกมัน
ด้วยสภาพเช่นนี้ ถูสั่วจั่วปราศจากกำลังที่จะสู้รบอีกต่อไป คนในเผ่าอ๋องขวาหามมันออกไปด้วยท่าทางหน้าละห้อยคอตก อ๋องขวาหลับตา สะกดกลั้นความเจ็บปวด ตวาดเสียงดังออกมาว่า “ดินแดนเยวี่ยซื่อ ความอัปยศในวันนี้ ถูสั่วจั่วจะต้องเอาคืนเป็นสองเท่า! พวกเจ้าจงรอ!”
“ถูสั่วจั่ว” อวี้เจียกล่าวเสียงทุ้มหนัก “เจ้าไม่ต้องสิ้นหวัง ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องกลับมาผงาดอีกครั้งแน่!”
“อวี้เจีย!” อ๋องขวาดวงตาเปียกชื้น พูดหลุดพระนามของข่านใหญ่ออกมา จากนั้นก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องทันที รีบพูดแก้ออกมาว่า “ท่านข่านใหญ่ เชื่อกระหม่อม ถูสั่วจั่วเก่งที่สุดในทุ่งหญ้า! ข้าต้องไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังอย่างแน่นอน!”
อวี้เจียผงกศีรษะเล็กน้อย ถอนหายใจพร้อมโบกมือให้คนในเผ่าหามมันออกไป
ผู้ที่ตื่นเต้นมากที่สุดบนสนามเห็นจะไม่พ้นข่านน้อยแล้ว เขาผุดลุกขึ้นมาพร้อมพูดเสียงดังว่า “คนเผ่าเยวี่ยซื่อ พวกเจ้าเป็นดินแดนที่กล้าหาญชาญชัยมากที่สุดบนทุ่งหญ้า ข้าไม่กล่าววาจาล้อเล่นแน่นอน ต้องประทานม้าเหงื่อโลหิตที่ดีที่สุดให้พวกเจ้าหนึ่งตัวเป็นรางวัลแน่! นอกจากนี้จะประทานลานปศุสัตว์อันอุดมสมบูรณ์ให้พวกเจ้าผื่นหนึ่งอีกด้วย ให้คนในเผ่าของพวกเจ้ามั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ ยิ่งใหญ่เกรียงไกร สร้างผลงานอันยอดเยี่ยมให้ทูเจวี๋ยเราอีก!”
“ขอบพระทัยท่านข่าน!” หูปู้กุยค้อมกายคารวะด้วยความ ‘ซาบซึ้งน้ำหูน้ำตาไหล’
เกาฉิวขยับวูบมาข้างกายหลินหว่านหรง พูดอย่างร้อนรนว่า “น้องหลิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
หลินหว่านหรงหัวเราะฮิ “ไม่เป็นไร เลือดกำเดาออกสองสายเท่านั้นเอง กลับไปกินโสมพันปีสักร้อยต้นก็หายแล้ว! สิ่งสำคัญที่สุดก็คือวันนี้สู้ได้สะใจ! ถุย ผู้กล้าแห่งทุ่งหญ้าอะไรกัน อาจมสุนัข! ไม่ถูกชะตาไอ้เจ้านี่มาตั้งนานแล้ว!”
เหล่าเกาหัวเราะร่วนแล้วพูดว่า “เพราะมันเล็งเยวี่ยหยาเอ๋อร์กระมัง…ทุกคนต่างเป็นผู้ชาย ข้าเข้าใจได้!”
เจ้าเข้าใจผายลมน่ะสิ! หลินหว่านหรงหัวเราะพลางส่ายศีรษะ
อ๋องขวาแพ้แล้ว นาฬิกาทรายนั้นเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง ข่านใหญ่กับม้าสุดที่รักของนางยังไม่ขยับแม้แต่น้อย ดูท่าการชิงข่านคงไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว!
“คนเผ่าเยวี่ยซื่อ แม้พวกเจ้าจะกล้าหาญที่สุดในทุ่งหญ้า แต่พวกเจ้าทำร้ายอ๋องขวาถูสั่วจั่วผู้สูงศักดิ์ที่สุดของทูเจวี๋ยเรา” ดวงตาของข่านใหญ่ค่อยๆ เย็นชา ทันใดนั้นก็กัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “พวกเจ้าที่ลงสนามในวันนี้ ทุกคนหักขาหนึ่งข้างเพื่อขอขมาอ๋องขวา! วันหน้าข้าจะประทานรางวัลให้ดินแดนของพวกเจ้า ให้พวกเจ้าได้มีเกียรติมั่งมีศรีสุข ไม่ถูกดูหมิ่นตลอดกาล!”
อะไรนะ?! เหล่าเกาเป็นบื้อใบ้ทันที รีบกุมดาบโค้งแน่น
อวี้เจียสายตาเย็นเยียบ รอบด้านมีทหารม้าทูเจวี๋ยกรูเข้ามาแล้ว
หลินหว่านหรงเข้าใจในทันที นี่คืออวี้เจียกำลังเล่นลูกไม้อยู่ แม้ถูสั่วจั่วจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่กำลังอันกล้าแกร่งภายในดินแดนของมันยังคงอยู่ หากต้องการปลอบขวัญพวกมันก็ต้องมีคนเสียสละ และเยวี่ยซื่อที่ได้รับชัยชนะ เมื่อเทียบกับตระกูลของอ๋องขวาน้ำหนักก็น้อยจนแทบไม่ต้องนับ ดังนั้นพวกเขาย่อมเป็นแพะรับบาปชั้นดีที่สุดแล้ว!
อ๋องขวาแม้จะพ่ายแพ้ แต่เยวี่ยซื่อกลับไม่ชนะเช่นกัน ผู้ชนะที่แท้จริงก็คือแม่สาวอวี้เจียคนนี้!
ทหารต้าหัวทั้งหมดต่างกำดาบโค้งแน่น สถานการณ์ภายในสนามตึงเครียดจนไม่อาจหายใจ หลินหว่านหรงกัดฟันกรอด พูดข้างใบหูหูปู้กุยไปหลายประโยค
เหล่าหูรีบควบม้าไปข้างหน้าอย่างเร็วรี่ กล่าวด้วยความหยิ่งผยองว่า “ทูลข่านใหญ่ การแข่งขันชิงแพะในวันนี้ยังไม่จบสิ้น ภายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ เยวี่ยซื่อเราต้องพาข่านใหญ่บุกทะลวงเส้นชัยพ่ะย่ะค่ะ!”