(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์ - ตอนที่ 588 อย่าทำให้เขาตกใจ / ตอนที่ 589 ไม่ต้องให้อภัยเขา
- Home
- (Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์
- ตอนที่ 588 อย่าทำให้เขาตกใจ / ตอนที่ 589 ไม่ต้องให้อภัยเขา
ตอนที่ 588 อย่าทำให้เขาตกใจ
มั่วไป๋ตะลึงงัน ไม่ค่อยรู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าไป๋จิ่งจะเอาภาพก่อนหน้านี้ทั้งหมดมาวางไว้ที่นี่ อีกอย่างยังทำห้องสตูดิโอใหม่ให้อีกด้วย
มั่วไป๋เดินจากทางประตูเข้ามา มองดูอย่างละเอียดแล้ว ไม่รู้ว่าสิ่งของพวกนี้ไปทำมาตั้งแต่เมื่อไหร่
คิดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังแม้แต่น้อย
……
ไป๋จิ่งลงไปชั้นล่างอีกครั้ง ไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิม เขารู้ว่าเวลานี้มั่วไป๋คงจะไม่อยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อนข้างกาย
เขาเป็นคนออกแบบสตูดิโอห้องนั้นด้วยตัวเอง มั่วไป๋ชอบวาดรูป เช่นนั้นเขาจึงสร้างห้องสตูดิโอที่มั่วไป๋ชอบให้มั่วไป๋ด้วยตัวเอง
ภาพที่อยู่ข้างในทั้งหมดเป็นภาพที่เขาไปหยิบมาจากคอนโดมิเนียมของมั่วไป๋
ช่วงเวลานั้นที่มั่วไป๋อยู่ในโรงพยาบาล เขาไปหยิบกุญแจห้องจากเหยียนอวี้มา แล้วไปหยิบออกมาจากคอนโดมิเนียมของมั่วไป๋อย่างระมัดระวัง
มั่วไป๋ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาล ก็ถูกไป๋จิ่งพาตัวมาถึงที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าคอนโดมิเนียมของตัวเองได้ถูกไป๋จิ่งย้ายของทั้งหมดออกมาจนโล่งแล้ว
ลี่เจินเห็นไป๋จิ่งลงมาจากชั้นบน เธอก็กวักมือเรียกเขา ทั้งสองคนไปข้างนอก
ไป๋จิ่งเห็นแม่เขาก็ปวดหัวบ้างแล้ว
ไม่รู้ว่าแม่เขาจะมาช่วยหรือว่ามาป่วนกันแน่
ลี่เจินไม่ได้พูดอะไรมากความ แต่เอ่ยไปตรงๆ “คนที่มาส่งแม่ยังไม่ไปไหน ลูกลงไปกับพวกเขา ช่วยแม่ซื้อของกลับมาหน่อย”
พอไป๋จิ่งได้ยินว่าจะต้องออกไป เขาขมวดคิ้วทันที
“จะไปหรือไม่ไป อะไรกัน ตอนนี้แม่เรียกให้ลูกทำอะไรไม่ได้แล้วใช่ไหม”
ไป๋จิ่งเห็นแบบนี้ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับ “ได้ครับ ผมจะไปตอนนี้เลย” ก่อนที่เขาจะไปก็ยังไม่ลืมที่จะพูดกับลี่เจินว่า “มั่วไป๋ชอบความเงียบสงบ แม่อย่าทำให้เขาตกใจ”
มุมปากลี่เจินกระตุกแล้วกระตุกอีก เธอมองบนใส่ นี่เธอมาช่วยนะโอเคไหม
เธอยกเท้าถีบใส่ขาไป๋จิ่ง “รีบไปสิเร็วเข้า แม่รู้ลิมิตตัวเองอยู่”
ด้วยเหตุนี้ไป๋จิ่งจึงถูกลี่เจินถีบออกไปทั้งอย่างนี้
การคมนาคมบนเขาไม่สะดวก ลงเขาไปทีหนึ่งต้องขับรถอย่างน้อยสองชั่วโมง ไปกลับต้องใช้เวลาอย่างน้อยสี่ชั่วโมง
ลี่เจินตาลุกวาว สี่ชั่วโมง เธอจะได้ทำเรื่องอะไรได้มากมายพอดี
ฉวยโอกาสตอนที่ไป๋จิ่งไม่อยู่ มั่วไป๋อยู่ในห้องสตูดิโอ ลี่เจินเดินไปเดินมาอยู่ชั้นล่าง ไปสำรวจดูโดยรอบ ดูว่าจะกระตุ้นพวกเขาอย่างไร
ก่อนหน้านี้ได้เห็นเพียงแค่รูปถ่าย เธอชอบมั่วไป๋ชอบจนไม่ไหวแล้ว
ตอนนี้ได้เจอตัวจริง ยิ่งรู้สึกว่าต้องเป็นมั่วไป๋ให้ได้
อีกอย่างเธอยังได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นที่ไป๋จิ่งเล่า ในใจยิ่งรู้สึกทั้งรักทั้งสงสารมั่วไป๋ ตอนนั้นขณะที่เธอฟังไปพลาง เธอก็อดไม่ได้ที่จะด่าลูกชายตัวเอง
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาโง่ เธอก็มีลูกสะใภ้ไปตั้งแต่แรกแล้ว
ลี่เจินตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ครั้งนี้ที่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรจะต้องช่วยไป๋จิ่งตามมั่วไป๋กลับมาใหม่อีกครั้งให้ได้
ทำให้ทั้งสองคนคืนดีกัน
ลี่เจินมองดูโถงใหญ่เห็นว่าไม่มีอะไรจำเป็นต้องทำ เธอจึงขึ้นไปชั้นสองทันที
คฤหาสน์หลังนี้ไม่ถือว่าใหญ่เกินไป มีทั้งหมดสามชั้น เพียงแต่ว่าชั้นที่สามไป๋จิ่งทำเป็นเรือนกระจก ครึ่งหนึ่งอาบแดดได้ ครึ่งหนึ่งบังแดดได้
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ วาดรูปอาบแดด ต่างก็ทำได้ทั้งหมด
ชั้นสองมีหกห้อง ข้างหนึ่งเป็นห้องของไป๋จิ่งกับมั่วไป๋ และยังมีห้องสตูดิโอของมั่วไป๋อีก
ตรงข้ามเป็นห้องรับแขกกับห้องออกกำลังกายพ่วงมากับห้องหนังสือ
ดังนั้นลี่เจินมาครั้งนี้ เธอจึงมีแค่เพียงห้องรับแขกที่พักอยู่ได้เท่านั้น
ห้องที่พักอยู่ได้มีสามห้อง ห้องที่เหลือต่างเป็นห้องที่คนพักอยู่ไม่ได้
เพราะแบบนี้ลี่เจินถึงตาลุกวาว เธอเข้าไปยังห้องรับแขกทันที เธอยื่นมือไปปิดประตูห้องรับแขกเบาๆ คฤหาสน์หลังนี้ ขณะที่เริ่มตกแต่งปรับปรุงอยู่ ตั้งใจทำระบบกันเสียงเป็นพิเศษ ดังนั้นประสิทธิผลของระบบกันเสียงจึงเป็นพิเศษ
พอปิดประตูแล้ว ต่อให้ข้างในทะเลาะกัน ข้างนอกก็ไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น
ลี่เจินมองดูเตียงหลังนั้น เธอก็วิ่งลงไปหยิบเครื่องมือมา
ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ลี่เจินก็พังและรื้อเตียงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตอนที่ 589 ไม่ต้องให้อภัยเขา
เธอมองผลงานชั้นเยี่ยมที่สุดของตัวเองด้วยความพอใจ พลางพยักหน้ารับ ทันทีหลังจากนั้นก็เอาผ้าห่มข้างใน ทั้งหมดไปหาที่เก็บ มั่นใจว่าไป๋จิ่งพวกเขาจะหาไม่เจอ
ทำทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว ลี่เจินฉวยโอกาสตอนที่มั่วไป๋อยู่ในห้องสตูดิโอ แอบย่องเข้าไปห้องของมั่วไป๋เงียบๆ
เธอหาไปรอบๆ นอกจากบนเตียง เธอก็หาผ้าห่มบางๆ ได้อีกผืน
ลี่เจินเอาผ้าห่มวางตำแหน่งเดิม หลังจากนั้นก็แอบย่องเข้าไปห้องของไป๋จิ่ง ห้องของไป๋จิ่งยิ่งหาได้ดี โดยพื้นฐานแล้วไม่มีอะไร
แม้กระทั่งผ้าห่มสำรองสักผืนก็ไม่มี
ลี่เจินมีแผนการในใจเรียบร้อยแล้ว เธอพยักหน้าด้วยความพอใจ ก่อนจะลงไปชั้นล่างทำของอร่อยให้มั่วไป๋กิน
ไป๋จิ่งวนไปวนมาทรมานถึงสี่ชั่วโมงกว่าจะได้กลับมายังคฤหาสน์ ทันทีที่รถจอดเขาก็รีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ไป๋จิ่งกลัวว่าตัวเองไม่อยู่ ลี่เจินจะใช้กรงเล็บมารตะกรุบเขา
เขาร้อนรนรีบวิ่งเข้าไป แต่กลับได้ยินเสียงพูดคุยกันดังมาจากห้องครัว เขาชะงักงันไป
ไม่ค่อยจะเหมือนกับที่เขาจินตนาการไว้เท่าไหร่นัก
ในห้องครัว มั่วไป๋ยืนอยู่ข้างลี่เจิน แสงแดดจางๆ ตกกระทบร่างของมั่วไป๋ จากในเสื้อผ้าที่ตัวหลวมโคร่ง แม้เลือนรางแต่ก็เห็นเค้าโครงรอบเอวของเขาได้
ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับลี่เจินอยู่ มุมปากมั่วไป๋แต่งแต้มรอยยิ้มจางๆ คนทั้งคนลดความเย็นชาในยามปกติลงบ้างแล้ว
มั่วไป๋ที่เป็นแบบนี้ ไป๋จิ่งเองก็ไม่ได้เห็นมานานแล้ว
“มั่วไป๋เก่งมาก เก่งกว่าเจ้าทึ่มไป๋จิ่งนั่นเยอะเลย”
มั่วไป๋มองดูเกี๊ยวในมือที่ห่อเสร็จแล้ว เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มหัวเราะออกมา
“ผมห่อครั้งแรก ยังห่างชั้นจากพี่เยอะครับ”
ลี่เจินห่อไปด้วยยิ้มไปด้วย ไม่ละสายตาจากมั่วไป๋แม้เพียงครึ่งนาที จบแล้วๆ หน้าตาหล่อเหลาแล้วยังรู้จักพูดจาอีก เรียกพี่มาที ใจของเธอใกล้จะเด้งออกมาแล้ว
‘ถ้าเธออ่อนกว่านี้สักยี่สิบกว่าปีนะ ตอนนี้ยังมีไป๋จิ่งอยู่ก็เท่านั้น เธอจัดเองไปนานแล้ว’
ไป๋จิ่งยืนมองอยู่ข้างนอกอยู่พักใหญ่ ถึงค่อยเดินเข้ามา “แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว”
ลี่เจินกวาดสายตามองเขาด้วยท่าทีเรียบเฉย “อ่อ”
ไป๋จิ่ง “…”
‘ทีมองมั่วไป๋ ยิ้มเป็นบ้าเป็นหลัง พอมาถึงเขาทำไมถึงพูดแค่ว่าอ่อนะ…
…นี่จะปฏิบัติแตกต่างเกินไปหรือเปล่า’
มือมั่วไป๋ที่ห่อเกี๊ยวแข็งทื่อขึ้นมาเพียงชั่วพริบตาเดียวนั้นที่ไป๋จิ่งปรากฏตัว ไป๋จิ่งอยู่ใกล้มั่วไป๋มาก ยืนอยู่ข้างหลังเขา
มั่วไป๋หันหลังให้ไป๋จิ่ง เขายังรู้สึกว่าดมได้กลิ่นน้ำหอมบนตัวของไป๋จิ่งด้วย
ไป๋จิ่งเบนสายตามายังมั่วไป๋ เขาก็เห็นลำคอระหงขาวผ่องของคนตรงหน้าพอดี ไป๋จิ่งหัวใจเกร็งแน่น เสียงต่ำเอ่ยถาม “มีอะไรที่ผมช่วยพอจะช่วยได้ไหม”
มั่วไป๋ได้ยิน หัวใจก็บีบรัดตัวแน่นโดยไม่ตั้งใจ
ลี่เจินเห็นมั่วไป๋ค่อนข้างมีท่าทีต่อต้าน เธอจึงกวาดสายตามองไป๋จิ่งอย่างไม่แยแส “ไม่มีเรื่องอะไรให้ลูกทำหรอก ออกไปเถอะ”
เครื่องหมายคำถามเต็มหัวไป๋จิ่งไปหมด มาช่วยเขาไม่ใช่เหรอ เวลานี้ควรจะให้เขามาช่วยมั่วไป๋ไม่ใช่เหรอ
ลี่เจินเห็นเขามีเครื่องหมายคำถามเต็มหัวไปหมด เธอก็ส่ายหัวอย่างเสียไม่ได้
‘ลูกชายจอมซื่อบื้อของฉัน ไม่เห็นว่ามั่วไป๋เขาต่อต้านลูกโดยไม่รู้ตัวเหรอ’
เธอเพิ่งจะมา ถ้าตามใจไป๋จิ่ง ถึงเวลานั้นมั่วไป๋จะไม่ต่อต้านแม้แต่เธอไปด้วยหรือไง ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงไล่ลูกชายจอมซื่อบื้อของเธอออกไป
ไป๋จิ่งเดินออกจากห้องครัวไป เวลานี้เองมั่วไป๋ถึงได้โล่งใจไปที ในห้องเล็กขนาดนี้ เขาไม่รู้จริงๆ ว่าจะวางตัวกับไป๋จิ่งอย่างไร
ลี่เจินเห็นใบหน้าของเขาผ่อนคลายลงแล้ว เสียงต่ำเริ่มพูดโน้มน้าว “เรื่องระหว่างเรากับไป๋จิ่ง พี่ได้ฟังไป๋จิ่งพูดแล้ว เจ้าทึ่มนี่ทำเรื่องอะไรก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น แล้วก็ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาด้วย…
…ถ้าเราไม่อยากจะให้อภัยเขา ก็ไม่ต้องให้อภัยเขาหรอก เราดีขนาดนี้ หาใครก็ได้ ทำไมจะต้องมาแขวนอยู่แต่กับเจ้าทึ่มนั่นด้วย”
Related