ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 287 แจกันดอกบัวทอง
หูชีเยี่ยนยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน “พ่อเคยบอกแล้ว สำหรับครอบครัวที่มั่งคั่งอย่างพวกเขาแล้ว อยากจะให้มีชีวิตอยู่ค้ำฟ้าก็ดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ แต่เมื่อทำยาเสริมความงามก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร อายุของสวี่เซวียนหยวนน่าจะพอๆ กับซีเหมินเหล่าเอ๋อร์ เพียงแต่มองแล้วดูหนุ่มแน่นเท่านั้น”
“พ่อคะ หนูเชื่อว่าลุงงูไม่มีทางทำร้ายพ่อ” ซีเหมินจินเหลียนอดไม่ได้ที่จะพูดแก้ต่างให้ลุงงู
หูชีเยี่ยนไม่ได้กล่าวอะไรออกมา เรื่องแบบนี้เขาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ซีเหมินจินเหลียนเอียงศีรษะ แอบพูดในใจว่า ทำไมจ่านมู่ฮวายังไม่มาอีก?
“เอ่อ…พ่อรู้แจ้งแก่ใจว่าหูหวังเป็นพ่อของตัวเอง แล้วทำไมพ่อถึงได้มีเรื่องกับเขาล่ะคะ” ซีเหมินจินเหลียนถามด้วยความข้องใจ ครั้งก่อนที่เจอหูหวังที่พม่า เพียงแค่หูหวังเจอเขาก็ออกหมัดออกเท้ากระทืบ ไม่พูดจาให้สิ้นเปลืองน้ำลาย อีกทั้งหูหวังยังพูดชัดเจนเลยว่าหูชีเยี่ยนเลี่ยงที่จะไม่เจอเขาอยู่ตลอด
หูชีเยี่ยนลากเก้าอี้มาตัวหนึ่งและนั่งลงตรงข้ามเธอ เมื่อเห็นซีเหมินจินเหลียนฟุบตัวอยู่บนเก้าอี้จึงเอื้อมมือไปบีบจมูกเธอและยิ้มออกมา “ลูกอยากจะฟังเรื่องโชคร้ายของพ่อใช่ไหม?”
ซีเหมินจินเหลียนมองค้อนเขา ส่งผลให้หูชีเยี่ยนปล่อยเสียงหัวเราะออกมา “ลูกไม่ได้สวยเลย แต่ดวงตาของลูกสวยมาก!”
“นี่พ่อชมหนู หรือว่าทำร้ายหนูกันแน่คะ?” ซีเหมินจินเหลียนยู่ปสก “ทำไมถึงคิดอย่างนี้ล่ะคะ หนูไม่สวยเลยเหรอ หนูขี้เหร่กว่าคนอื่นเหรอไง?”
“ยังพอน่ารักบ้าง แต่ยังสวยสดใสไม่พอ” หูชีเยี่ยนวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา
“พ่อ…หนูเป็นลูกพ่อนะคะ!” ซีเหมินจินเหลียนยู่ปาก ส่งเสียงไม่พอใจ
“ก็ได้ๆ พ่อแค่บอกว่าลูกไม่สวย ลูกก็หงุดหงิดเสียแล้ว? ลูกรู้หรือเปล่าตอนนั้นหูหวังพูดยังไงกับพ่อ?” หูชีเยี่ยนส่ายศีรษะพูด “เขาเป็นพ่อของพ่อ เรื่องนี้ก็เป็นความจริง แต่ตอนนั้นเขาโกรธพ่อจนถือมีดเล่นงานพ่อ!”
“เขาโกรธอะไรพ่อเหรอคะ” ซีเหมินจินเหลียนแคลงใจถาม
“ช่างเถอะ ไม่พูดถึงเรื่องเขาแล้ว พูดถึงทีไรพ่อก็อดโกรธขึ้นมาไม่ได้” หูชีเยี่ยนพูด “อย่างไรเสียเขาก็ขัดหูขัดตาพ่อ พ่อก็มองเขาแล้วอึดอัดใจเหมือนกัน พวกเราเจอหน้ากันมากสุดก็ไม่น่าเกินห้าถึงหกครั้ง เขาตบตีพ่อไปสองครั้ง ลูกว่า…พอพ่อรู้ว่าเขาตามหา จะไม่ให้พ่อหลบซ่อนเหรอ? โชคดีที่ตอนนั้นแม่พาพ่อหนีไป ไม่อย่างนั้นถ้าพ่อโตมากับเขา คงต้องถูกเขาตีตายไม่ช้าหรือเร็วแน่!”
“คงไม่มีทางที่พวกพ่อเจอกันครั้งแรกแล้วเขามาตีแบบไม่ทราบสาเหตุหรอกใช่ไหมคะ?” ซีเหมินจินเหลียนข้องใจ
“เรื่องนี้…” สีหน้าอารมณ์ของหูชีเยี่ยนผิดแปลกไปมาก ไม่นานถึงเอ่ยว่า “เจอกันครั้งแรก พ่อตีเขา!”
ซีเหมินจินเหลียนเบิกตากว้างมองไปยังหูชีเยี่ยน “พ่อบ้าไปแล้วเหรอคะ?”
“พ่อไม่รู้เหมือนกัน! ตอนนั้นพ่อยังเป็นหนุ่มคึกคะนอง เฒ่ามันฝรั่งอย่างเขาเห็นพ่อแล้วขัดหูขัดตาเลย…” หูชีเยี่ยนยิ้มเฝื่อน “อย่างไรก็เถอะ ตอนที่พ่อยังไม่รู้ว่าเฒ่ามันฝรั่งนั่นเป็นพ่อของพ่อ พ่อก็ตีเขา ก็เท่านั้นละ!”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วไม่รู้จะหัวเราะหรือโกรธดี นี่มันเรื่องอะไรกัน? เธอสามารถจินตนาการตามเลยได้ว่าหูชีเยี่ยนในตอนนั้นไม่รู้จักหูหวัง ทั้งคู่น่าจะมีเรื่องต้องปะทะวิวาทกันสักอย่าง หูชีเยี่ยนวัยรุ่นอารมณ์คึกคะนอง ภายใต้ความโกรธอาจจะกวัดแกว่งมือไม้ขึ้นมาปล่อยมัดใส่ชายเฒ่า จากนั้นจู่ๆ เพิ่งมารู้ตัวว่าเฒ่ามันฝรั่งที่ตัวเองตีที่แท้ก็เป็นพ่อแท้ๆ ที่ให้กำเนิดตนมา ดังนั้นเขาเลยเกิดโศกนาฏกรรม
“หลังจากนั้นพ่อก็ไปขอโทษถึงหน้าประตู คุกเข่าต่อหน้าเขาอ้อนวอนให้เขายกโทษให้พ่อ แต่เขาก็ไม่สนใจ ตบหน้าพ่อไปสองครั้ง และไล่พ่อออกไป!” หูชีเยี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึก “จากนั้นเป็นต้นมา พ่อก็ไม่อยากเจอเขาอีกเลย เขาเองก็ไม่อยากเจอพ่อ…แม้ว่าหลังจากนั้นจะเคยเจอกันบ้าง แต่ทุกครั้งก็แยกจบกันไม่สวย พ่อรู้ว่านิสัยพอไม่ได้ดีเลิศเลอ ก็เหมือนลูก ถ้าไม่ใช่ว่าพ่อยอมลดตัวมาขอร้องลูกก่อน ลูกก็คงไม่สนใจพ่อ…”
“หนูคิดว่าพ่อทิ้งหนูไม่สนใจไยดีหนูแล้ว” ซีเหมินจินเหลียนฟังแล้วอยากจะร้องไห้ออกมา
“พ่อจะทิ้งลูกแล้วไม่สนใจได้ยังไง?” หูชีเยี่ยนส่ายศีรษะพูด “จากนั้นไม่นานนี้ที่พม่า พวกเราก็เจอหน้ากันครั้งหนึ่งอย่างกะทันหัน แม้ว่าพ่อจะรีบหลบได้ทัน แต่เขาก็ยังจำพ่อได้ ต่อมาเขาคิดหาวิธีตามหาพ่อ ผ่านทุกช่องทางติดต่อพ่อมา พ่อรู้ว่าเขาต้องการอะไร แต่ของที่เขาต้องการพ่อก็ไม่ให้เขาหรอก ดังนั้นพ่อได้แต่หลบเลี่ยงที่จะไม่เจอเขา จนกระทั่งพ่อไปหาลูกที่โรงแรม แล้วถูกเขาขวางไว้…”
“เขาอยากได้อะไรเหรอคะ” ซีเหมินจินเหลียนถามด้วยความไม่เข้าใจ “หินปิดฟ้า?”
“พ่อจะมีหินปิดฟ้าได้ยังไง เขาต้องการแจกันดอกบัวทอง!” หูชีเยี่ยนพูด ในระหว่างที่พูดเขาก็มองไปยังมือขวาของซีเหมินจินเหลียนที่กำลังลูบไล้คางอยู่
“แจกันดอกบัวทอง?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว หรือว่าจะเป็นขวดใบเล็กสีทองที่เธอแขวนใส่อยู่บนข้อมือตั้งแต่เด็ก?
“จินเหลียน อย่าไปตามหาหินปิดฟ้านั่นเลยนะลูก” หูชีเยี่ยนย้ำเตือนอีกครั้ง
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มมุมปาก “พ่อคอยจับตามองหนูอยู่แบบนี้ทุกวัน แล้วหนูจะไปตามหาได้ยังไงล่ะคะ”
หูชีเยี่ยนถอนหายใจ เขาจะจับตามองดูเธอตลอดไปแบบนี้ได้อย่างไร ความหมายแฝงที่เธอเอ่ยออกมาก็คือในอนาคตยังต้องตามหา…ตำนานเทพนั่นมีแรงดึงดูดยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเชียวหรือ? แต่ตอนที่ตนยังหนุ่มยังแน่นอารมณ์พุ่งพล่านก็ชอบลองไม่ใช่เหรอ? ไม่สนใจอะไรและตามหาของที่เคยสูญหาย อารยะธรรมที่ถูกกลบฝัง…
“แจกันดอกบัวทองเป็นของอะไรกันแน่คะ” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“พ่อเองก็ไม่รู้” หูชีเยี่ยนโคลงศีระษะ “ตอนนั้นซีเหมินเหล่าเอ๋อร์ยุยงให้ย่าของลูกหนีตามไปด้วยกัน เป้าหมายก็น่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้…แต่หลายปีมานี้เขาก็ดูแลพ่อไม่ขาดตกบกพร่อง แถมยังสอนพ่อหลายๆ เรื่อง เรียกได้ว่าถ้าไม่มีเขา ก็ไม่มีหูชีเยี่ยนในวันนี้”
“เขา…ดูแลหนูดีเหมือนกันค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจเบาๆ
“บรรพบุรุษของตระกูลหูมีคำพูดสืบต่อกันว่า ยามเมื่อดอกบัวสีทองเบ่งบาน ตำนานหินปิดฟ้าจะปรากฏตัวขึ้น แต่ดอกบัวสีทองเบ่งบานหมายถึงอะไร นั่นก็ไม่มีใครรู้” หูชีเยี่ยนพูด “และไม่รู้ว่าคำพูดตกทอดของบรรพบุรุษเริ่มถ่ายทอดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครกันที่เป็นคนถ่ายทอด…เรื่องพวกนี้เป็นปริศนาลี้ลับทั้งนั้น แต่ทุกคนในตระกูลหูเชื่อกันทั้งหมด…จนกระทั่งคิดว่าหินปิดฟ้าเป็นมรดกส่วนตัวของตระกูลหู เป้าหมายเดียวในชีวิตก็คือตามหาหินปิดฟ้า และไม่สนใจว่าหินปิดฟ้ามีอยู่จริงหรือเปล่า ถึงจะมีจริงแล้วจะเป็นยังไง หาเจอแล้วจะเป็นยังไง?”
ซีเหมินจินเหลียนเบ้ปาก คิดถึงคำที่เขาพูดก็มีเหตุผล แต่เธอก็สงสัยเรื่องหินปิดฟ้าจริงๆ
ติงต่อง ติงต่อง เสียงกริ่งประตูดังขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนลุกขึ้นยืน ลองคำนวณเวลาว่าจ่านมู่ฮวาน่าจะถึงแล้ว ตอนนั้นจึงรีบพูดขึ้น “เมื่อวานพ่อทำอะไรกับจ่านอิ๋นเหรอคะ หนูก็นั่งอยู่ข้างพ่อตลอด?”
หูชีเยี่ยนยิ้มออกมา แต่ไม่ได้พูดอะไรและเดินออกไปทางปากประตู…
จ่านมู่ฮวาประคองจ่านอิ๋นยืนอยู่หน้าประตู เพียงในระยะเวลาสั้นๆ ก็ทำให้ใบหน้าของจ่านอิ๋นเปลี่ยนสีเป็นเทาอมขาว ดูไม่มีชีวิตชีวาแล้ว เมื่ออาการปวดท้องกำเริบ ลำไส้ราวกับม้วนพันเข้าด้วยกัน แต่ทุกครั้งแค่ประมาณสิบกว่านาที และหนึ่งชั่วโมงต่อครั้ง จะมีแบบแผนตามหลักการทุกอย่าง
คนที่เดินไปเปิดประตูเป็นหูชีเยี่ยน ทำให้จ่านมู่ฮวาค่อนข้างแปลกใจ นี่จ่านป๋ายไม่อยู่เหรอ?
“คุณหู!” ตอนนี้จ่านมู่ฮวาไม่กล้าพูดพล่อยเรียกเขาว่าเฒ่ามันฝรั่งแล้ว
“มาหาจินเหลียนเหรอ?” หูชีเยี่ยนแกล้งทำเป็นไม่รู้ มองไปทางจ่านอิ๋นและโคลงศีรษะ “คงไม่ใช่ว่านายไม่รู้จะตามจีบสาวอย่างไร เลยพาพ่อมาด้วยใช่ไหม?”
“คุณหู ผมไม่ได้ตั้งใจมาหาคุณซีเหมินครับ แต่มีเรื่องต้องขอร้องคุณนิดหน่อย พวกเราสามารถเข้าไปคุยกันข้างในได้ไหมครับ?” จ่านมู่ฮวาขมวดคิ้ว สีหน้าเทาขาวของจ่านอิ๋น ริมฝีปากที่แห้งเผือด ไร้เรี่ยวแรงจะเปล่งเสียง
“แน่นอนสิ แขกมาหาก็ต้องต้อนรับอยู่แล้ว!” หูชีเยี่ยนพยักหน้า ระหว่างพูดก็หลีกทางให้
ซีเหมินจินเหลียนเห็นจ่านมู่ฮวากับจ่านอิ๋นเข้ามาก็ยิ้มทักทาย ส่วนเรื่องที่หูชีเยี่ยนจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรมันก็เป็นเรื่องของเขา จากสิ่งที่หูชีเยี่ยนเล่ามาซีเหมินจินเหลียนจึงรู้สึกไม่ดีกับจ่านอิ๋น ตอนนั้นเขาเป็นคนทำร้ายพ่อของเธอ ทำให้เธอโดดเดี่ยว และต้องมาเป็นลูกกำพร้ามาตั้งหลายปี
แม้หูชีเยี่ยนจะยังไม่ตาย แต่ความแค้นนี้ก็ถือว่ายุติลงแล้ว
ที่หูชีเยี่ยนพูดไม่ผิดเลย เป็นหนี้ต้องจ่าย เป็นคนร้ายก็ต้องชดใช้กรรม ในเรื่องนี้จ่านอิ๋นทำมากสุดก็แค่ช่วยเหลือนักฆ่า แถมหูชีเยี่ยนยังไม่ได้ตาย เธอเลยไม่ได้เกลียดแค้นคนคนนี้เท่าไหร่ แต่จะให้เธอรู้สึกดีด้วยมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้…คิดเสียว่าเห็นแก่จ่านป๋ายแล้วกัน
จ่านมู่ฮวาพยุงจ่านอิ๋นไปนั่งลงบนโซฟา มองไปที่ซีเหมินจินเหลียนและลังเลใจพูดอยู่นาน
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มออกมา “ไม่เคยเห็นคุณมาหาฉันแล้วมีท่าทางเกรงใจเท่านี้มาก่อน จะดื่มชาหรือน้ำก็จัดการเองตามสบายเลยนะคะ”
“จินเหลียน น้ำเต้าหู้ใกล้เย็นชืดแล้ว ลูกไม่กินมื้อเช้าเหรอ?” หูชีเยี่ยนเจตนาถาม
“ยังไม่หิวค่ะ อีกเดี๋ยวค่อยไปกินก็ได้ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มกริ่ม
แถมหูชีเยี่ยนแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องและพูดกับจ่านอิ๋นและจ่านมู่ฮวา “ทั้งสองท่านกินมื้อเช้าแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นดื่มน้ำเต้าหู้ด้วยกันไหมครับ?”
“คุณหู…” จ่านมู่ฮวาลังเลที่จะปริปากพูด
ในเวลานี้จ่านอิ๋นก็ส่งเสียงร้องโอ๊ยขึ้นมาฉับพลัน ส่งเสียงโอดครวญ ทันใดนั้นสองมือของเขาก็กอดแน่นไปที่ท้องน้อย…
“พ่อ…” จ่านมู่ฮวาตกใจ วันนี้ตั้งแต่เช้าก็เป็นแบบนี้มาตลอด เขาเห็นกับตาตัวเองถึงสองครั้ง ได้ยินว่าอาการเริ่มกำเริบตั้งแต่กลางดึกเมื่อวาน ทุกครั้งที่มีอาการจะใช้เวลาไม่นาน แต่ก็ทำให้จ่านอิ๋นเจ็บจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่
ทั้งร่างของจ่านอิ๋นอ่อนปวกเปียกเหนื่อยล้าจนไหลลงไปกับพื้น สองมือออกแรงกุมท้องไว้ เจ็บร้าวจนต้องงอตัว เพราะว่ามีซีเหมินจินเหลียนกับหูชีเยี่ยนอยู่ เขาจึงพยายามที่จะอดทนแสร้งว่ายังไหว แต่ไม่ทันได้ถึงหนึ่งนาทีเขาก็อดกลั้นต่อไม่ไหว ส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวด น้ำเสียงแหบแห้ง ไม่เหมือนอากัปกิริยาที่สงบเสงี่ยมเหมือนปกติ…
ซีเหมินจินเหลียนไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ทันใดนั้นวุ่นวายสับสนจนทำอะไรไม่ถูก มองไปทางหูชีเยี่ยนขอร้องให้ช่วย
หูชีเยี่ยนใบหน้าหมางเมิน มองไปทางจ่านมู่ฮวา “คุณจ่าน เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมไม่รีบนำตัวไปส่งที่โรงพยาบาล…ดูแล้วน่าจะปวดไม่น้อยเลย!”
ซีเหมินจินเหลียนเห็นจ่านอิ๋นเจ็บปวดจนถึงขั้นขดตัวชักดิ้นชักงออยู่บนพื้น เจ็บจนส่งเสียงครวญคราง ในใจทนไม่ไหวและมองไปยังหูชีเยี่ยน หูชีเยี่ยนกลับขยิบตาให้เธอบอกเป็นนัยอย่าให้เธอเข้ามายุ่ง
“คุณหูครับ!” จ่านมู่ฮวากัดฟันกรอด คุกเข่าลงต่อหน้าหูชีเยี่ยน “ผมรู้ว่าเมื่อวานพ่อไปหาเรื่องคุณไว้ แต่คุณก็เป็นคนมีจิตใจเมตตา ปล่อยเขาไปเถอะนะครับ…ขอร้องล่ะ…”