ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 254 ข่มขู่
คุณหูลูบคลำศีรษะของตนและถอนหายใจพูดออกมา “ตลอดชีวิตของพ่อคงล้มเหลวไม่เอาไหนเหลือเกิน แม้แต่ลูกยังสงสัยความสามารถของพ่อ เอาอย่างนี้ไหม พวกเรามาลองทดสอบกันดู?”
ซีเหมินจินเหลียนหัวเสียจนต้องหัวเราะออกมา “คุณอยากจะทดสอบอะไรคะ”
“จ่านมู่หรงกับหลินเสวียนหลาน ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงลูกก็เลือกมาหนึ่งคน พ่อจะจัดการเขาเพื่อพิสูจน์ความสามารถของพ่อ ลดความสงสัยของลูกเป็นอย่างไร?” คุณหูพูดสบายๆ อย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ราวกับกำลังสนทนาว่าวันนี้อากาศเป็นอย่างไร
ซีเหมินจินเหลียนโมโหจนไม่ยอมปริปากพูดออกมาสักคำ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาเริ่มฆ่าคนตายเป็นผักเป็นปลา? หรือระยะห่างของกาลเวลาที่ทำให้เธอไม่รู้จักเขา หรือว่าจริงๆ แล้วเนื้อแท้ของเขาเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นที่เขาจากไป เธอก็ยังเด็กเกินไป
“ถ้าคุณย่ายังมีชีวิตอยู่ ท่านคงได้ตบบ้องหูคุณสักฟาดใหญ่!” ซีเหมินจินเหลียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ถึงได้ควบคุมความโกรธให้สงบลงได้ หากไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นพ่อของเธอ เธอก็อยากจะรีบไล่เขาออกไปให้ไว
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คุณหูที่จิตใจแห้งเ**่ยวอยู่ครู่ใหญ่ถึงถอนหายใจพูดขึ้นว่า “ความจริงแล้วโศกนาฏกรรมในวันนี้ หากอยากจะโทษก็ควรต้องโทษคุณย่าของลูก”
“หยุดพูดนะ!” ซีเหมินจินเหลียนโกรธจัด “คุณมีสิทธิ์อะไรมาโทษท่าน?”
“ถ้าไม่ใช่ท่านที่คอยยืนกรานไม่ยอมถอย แล้วจะเกิดเรื่องอย่างในวันนี้หรือ?” คุณหูส่ายศีรษะไปมาก่อนถามขึ้น “ลูกรู้เรื่องในอดีตที่ผ่านมามากแค่ไหนกัน?”
“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น!” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า “และก็ไม่อยากรับรู้ด้วย!”
“ลูกเคยเจอหูหวัง เขาก็ไม่ได้บอกอะไรลูกเลยเหรอ?” คุณหูถามอีกครั้ง
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าลงและพยายามผ่อนคลายอารมณ์โกรธ นั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง “ในเมื่อพวกเขาไม่พูด แล้วคุณพอจะพูดอะไรให้ฉันฟังได้ไหมล่ะคะ?”
“เรื่องนี้พ่อก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากตรงไหนดี” คุณหูคิดๆ ดูแล้วพร้อมถอนหายใจพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ตามลูกก็ห้ามไปหาหินปิดฟ้าเด็ดขาด และห้ามไปเจอกับหูหวังและปีศาจงูนั่น เรื่องนี้ก็แล้วกันไปเถอะ ไม่อย่างนั้นพ่อคงต้องจัดการคิดบัญชีปิดปากพวกเขาให้หมด!”
ยุคนี้หากอยากจะปิดปากใครสักคน วิธีที่ดีที่สุดคือทำให้คนคนนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย ซีเหมินจินเหลียนรู้ความหมายที่เขาพูดดี ถ้าสิ่งที่จ่านป๋ายคาดเดาไว้ถูกต้อง หูหวัง…ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นปู่ของเธอ และเป็นพ่อของผู้ชายตรงหน้าเธอ
“ทำไมคุณไม่บอกให้ฉันปิดปากด้วยล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนแค่นเสียงใส่ด้วยใบหน้าเย็นชา
คุณหูไตร่ตรองคำพูดอยู่นาน ก่อนจะพยักหน้าพูดขึ้น “หากลูกดึงดันจะทำตามใจตัวเอง พ่อก็คงต้องเผาให้หมดไม่ว่าจะเป็นหยกหรือหิน!”
“นี่คุณกำลังขู่ฉัน?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วถาม
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้” คุณหูถอนหายใจโคลงศีรษะพูด “จินเหลียน ลูกอย่าบีบบังคับพ่อเลย ความจริงพ่อก็ไม่ได้เป็นคนชอบรังแกคนหรอกนะ”
“คุณกำลังจะบอกว่า…ความจริงแล้วคุณก็เป็นคนดี?” ซีเหมินจินเหลียนไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
“แล้วพ่อไม่ใช่คนดีตรงไหน?” คุณหูขมวดคิ้วเป็นปม “พ่อยอมรับว่าพ่อเป็นคนดีมาตลอด! จินเหลียน ลูกจะคิดว่าพ่อเป็นพวกชั่วช้าต่ำตมไม่ได้นะ!”
“คุณให้เหตุผลฉันมาสักข้อสิคะ แล้วฉันจะกลับประเทศทันที จากนี้จะไม่ก้าวเท้ามาเหยียบพม่าอีก เป็นอย่างไร?” ซีเหมินจินเหลียนโมโห
“ไม่มีเหตุผล!” คุณหูลุกขึ้นยืน เมื่อคุยกันไม่เข้าใจ เขาก็คร้านที่จะพูดต่อ เหตุผลหรือ? เขาจะเอาเหตุผลอะไรมาเกลี้ยกล่อมเธอ? ของประหลาดห่างไกลเกินความจริงถือเป็นเหตุผลหรือเปล่า? “ช่างเถอะ พ่อไปแล้ว จินเหลียน พ่อก็พูดได้เท่านี้ ในเมื่อลูกไม่ฟัง จากนี้ไปลูกก็คิดว่าพ่อตายไปเสีย…พ่อก็จะไม่มาเจอลูกอีก”
พูดจบ คุณหูก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปทางประตู ซีเหมินจินเหลียนสังเกตได้ว่ารองเท้าที่เขาสวมใส่นั้นเป็นรองเท้าผ้าใบ แต่งานฝีมือละเอียดประณีต ไม่ได้ขายตามท้องตลาดธรรมดาทั่วไปแน่ ฝีมือปักเช่นนี้ผสมผสานกับผ้าไหมของแท้ราคาคงมหาศาล
“คุณใส่แบบนี้ ก็ไม่กลัวว่าเดินไปตามท้องถนนแล้วคนจะแห่มุงดูเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถามหยั่งเชิง
คุณหูที่เดินไปถึงประตูหน้าห้องแล้วมีท่าทีไม่เข้าใจอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็เปิดประตูห้องทันที เมื่อเห็นจ่านป๋ายยืนอยู่ที่หน้าประตู ก็ทอดสายตากวาดมองทั่วร่างของเขาอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็เดินจากไปอย่างไม่สนใจ
จ่านป๋ายจ้องมองไปที่เงาด้านหลังของเขา ในใจก็มีความคิดฟุ้งซ่านเต็มไปหมด หากใครคิดจะสู่ขอซีเหมินจินเหลียนและมีพ่อตาที่วางมาดน่าเกรงขามแบบนี้ ก็เกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องที่น่ารื่นรมย์ใจสักเท่าไหร่นัก…คนคนนี้ต้องเป็นคนที่เอาใจยากกว่าคนทั่วไปแน่
เมื่อกำลังจะเข้าห้องไปถามซีเหมินจินเหลียน ในเวลานี้ที่สุดทางเดินก็มีเงาสีฟ้าทะเลสาบเคลื่อนตัวบดบังคุณหูอย่างช้าๆ
จ่านป๋ายนิ่งงันชั่วขณะ เพียงไม่นานก็คิดออกว่าเป็นใคร ผู้อาวุโสหูผู้ลึกลับคนนั้นนั่นเอง
“จินเหลียน…คุณรีบออกมาดูเร็วครับ!” จ่านป๋ายส่งเสียงเรียกเธอเข้าไปข้างใน
ซีเหมินจินเหลียนเดิมทีที่กลุ้มใจเป็นอย่างมาด คิดไม่ถึงว่าพ่อแท้ๆ ของตัวเองที่แยกจากกันไปหลายปีจะได้มาเจอกันอีกครั้ง และยังมีสภาพแบบนี้
เมื่อได้ยินเสียงจ่านป๋ายร้องเรียกเธอ อีกทั้งน้ำเสียงมีความลุกลี้ลุกลน ก็รู้สึกแปลกใจอย่างประหลาดจึงรีบเดินออกไปดู
“คุณดูนี่สิ!” จ่านป๋ายชี้ไปที่สิ้นสุดทางเดิน “หูหวังมา!”
“จะให้ฉันลงมือ หรือแกจะตามฉันไปเองดีๆ?” หูหวังใบหน้าแน่นิ่ง
“พวกเราเข้าไปดูกันเถอะ!” จ่านป๋ายรีบพูด ความจริงไม่ต้องให้เขาพูด ซีเหมินจินเหลียนก็ก้าวเท้าเดินไปยังจุดสิ้นสุดของทางเดินนั้น
คุณหูไม่พูดจาสักคำ หูหวังมองไปทางซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายแล้วไม่เปล่งเสียงอะไรออกมา หมุนตัวจูงมือคุณหูให้เดินเข้าไปในห้องของซีเหมินจินเหลียน
ซีเหมินจินเหลียนสงสัยรีบพูด “ท่านผู้อาวุโสหูคะ…”
“เข้าไปคุยในห้องหนู” แม้ว่าหูหวังจะอายุปูนนี้ แต่มือของเขาก็ยังมีพละกำลังมาก ส่วนคุณหูเองก็ไม่ได้ขัดขืน
หูหวังน่าจะกลัวว่าคุณหูจะหนีไปจึงรีบรวบตัวไว้แน่น จนกระทั่งสามารถพูดได้ว่ากระทำการรุนแรง และลากเขาเข้าห้องซีเหมินจินเหลียน จากนั้นก็เหวี่ยงเขาลงบนโซฟาอย่างเ**้ยมโหด เมื่อเห็นซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายเดินเข้ามาแล้วก็ปิดประตูห้องเสียงดังโครม
คุณหูยังคงไม่พูดอะไรออกมา ซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายเองก็เหมือนกัน ทั้งคู่เงียบกริบ เดินไปอีกฝั่งและนั่งลง เหมือนแค่รอดูฉากสนุกอยู่ตรงหน้า
“กว่าจะหาตัวแกได้นี่มันยากจริงๆ! ถ้าฉันเดาไม่ถูกว่าแกจะมาหาจินเหลียน อีกทั้งไม่พาคนมาด้วย ฉันก็คงไม่มีทางหาตัวแกเจอหรอก” หูหวังยิ้มอย่างเย็นชา “ชีเยี่ยน แกมีอะไรจะอธิบายกับฉันไหม?”
ซีเหมินจินเหลียนมึนงง จู่ๆ เขาก็เรียกชื่อที่แปลกๆ ออกมา ไม่ใช่สิ เธอจำได้ว่าเขาไม่ได้ชื่อนี้? บางทีตอนหลังเขาอาจจะเปลี่ยนเอง? ตอนเด็กๆ เธอจำได้ว่าคุณย่าเรียกเขาว่าสือโท่ว ทำให้เธอคิดเสียว่าชื่อจริงๆ ของเขาก็คือสือโท่ว
หูชีเยี่ยนไม่พูดจา ทำได้แค่จ้องมองหูหวัง
อารมณ์โทสะของหูหวังย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ง้างมือขึ้นมาตบบ้องหูและมองไปทางหูชีเยี่ยนตรงๆ “เป็นอะไรไป หรือว่าเป็นใบ้ไปแล้ว?” ในขณะที่พูดเขาก็พลิกมือมาตบเข้าที่ใบหน้าอีกฝั่งของหูชีเยี่ยน
“ท่านผู้อาวุโสหู!” ซีเหมินจินเหลียนที่สังเกตการณ์อยู่ก็รีบพูดขึ้น จะพูดอย่างไรคนคนนี้ก็คือพ่อของเธอ การที่เธอจะมองดูผู้อาวุโสหูตบตีแลกหมัดกับเขาตรงหน้ามันก็ดูยังไงๆ อยู่
“ใช้ได้นี่ แกรู้ว่าฉันมาตามหาแกที่พม่า แต่แกกลับหลบหน้าฉัน?” หูหวังตบไปที่บ้องหูชีเยี่ยนอีกสองที อารมณ์เดือดพล่านนี้ไม่ได้น้อยลงไปเลยสักนิดเดียว กลับกันมีแต่ยิ่งเพิ่มทวีคูณ
จ่านป๋ายมองซีเหมินจินเหลียน แน่นอนเขาอยากจะถามเธอว่าต้องการที่จะแทรกมือมายุ่งเรื่องพวกนี้ไหม?
แต่ซีเหมินจินเหลียนเองก็กำลังสติแตกอยู่ เธอจะเข้าไปยุ่งดีไหมนะ? ช่างเถอะ ปล่อยพวกเขาไป ถ้าจ่านป๋ายเดาไม่ผิด หูหวังคนนี้ก็คือปู่ของเธอ ในเมื่อพวกเขาไม่พูดอะไร เธอก็ยินดีจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าหากหูหวังเป็นปู่ของเธอ แน่นอนว่าเขาต้องเป็นพ่อของหูชีเยี่ยน พ่อตบตีลูกก็ดูเหมือนจะเป็นสัจธรรมอันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้บนโลกใบนี้
และเมื่อบ่ายวันนี้ตอนที่อยู่ถนนพนันหินหยก จ่านป๋ายเองก็เคยชิงลงมือก่อน และรู้ว่าร่างกายของหูชีเยี่ยนนั้นไม่ได้อ่อนแอ ตอนนี้ที่เขาไม่ลงไม้ลงมือ ไม่หลบหลีกและไม่ขัดขืน ยินยอมที่จะถูกตบตีมันก็เกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?
หูชีเยี่ยนยังคงสงบปากสงบคำ ทำให้หูหวังโกรธจนไม่รู้จะตบตีตรงไหนแล้ว เขายกเท้าขึ้นมาถีบเข้ากลางอกของหูชีเยี่ยน
หูชีเยี่ยนเจ็บจนแค่นเสียงเหอะออกมา เห็นว่าตรงหน้าว่าหูหวังกำลังลงมือตบตีคน จ่านป๋ายที่ทนดูต่อไปไม่ได้ก็รีบพูดขึ้น “ผู้อาวุโสหู ท่านใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
“คุณหลีกไป!” หูหวังผลักจ่านป๋าย จ่านป๋ายหันไปมองซีเหมินจินเหลียนก็เห็นว่าเธอยังคงนิ่งเฉย เลยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
มุมปากของหูชีเยี่ยนมีเลือดสีแดงดำไหลออกมา ซีเหมินจินเหลียนที่เห็นสถานการณ์ตรงหน้าแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วไม่คลาย เลือดของคนปกติไม่ใช่แบบนี้…
หูหวังจับเสื้อตรงหน้าอกเขาไว้แน่น และมองเขาอย่างเกรี้ยวโกรธ “แกดูแกตอนนี้สิ จะเป็นคนก็ไม่ใช่คน ผีก็ไม่ใช่ผี แกมัน…”
“นั่นก็ต้องขอบคุณพระคุณของท่านแล้ว!” หูชีเยี่ยนที่กลัวดอกพิกุลจะร่วงอยู่นาน ตอนนี้เมื่อปริปากได้ก็พูดออกมาอย่างเลือดเย็น “คุณจะตีอีกไหม? ถ้าจะตีก็เชิญตามสบายเลย แต่ถ้าไม่ผมจะได้ไป!”
หูหวังโกรธจัดจนมือไม้สั่นเทา ง้างมือขึ้นอย่างโหดเ**้ยมตบลงบนใบหน้าของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เดิมทีซีเหมินจินเหลียนอยากจะนั่งมองดูอยู่เฉยๆ ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของเขา แต่เมื่อเห็นว่าหูหวังเหมือนจะมีแนวโน้มชอบใช้ความรุนแรง ส่วนทางด้านหูชีเยี่ยนก็เหมือนคนตาย ยินยอมให้ตีต่อยถีบกระทืบของเขา จึงทนมองต่อไปไม่ได้…
“ผู้อาวุโสหูคะ ไม่ต้องตีแล้วค่ะ…” ซีเหมินจินเหลียนรีบห้ามปรามหูหวัง มองไปยังหูชีเยี่ยนที่นอนขดตัวอยู่ตรงโซฟา ใบหน้าช้ำเลือดช้ำหนองไปหมด
“จินเหลียน หนูอย่ามาขวาง วันนี้ฉันจะตีมันให้ตาย และมันก็เป็นบัญชาของสวรรค์ หนูลองถามมันดูสิว่าหลายปีมานี้มันทำเรื่องอะไรไว้บ้าง?” หูหวังโกรธจัด “ให้มันมีชีวิตอยู่ก็แค่ทำร้ายคนเปล่าๆ!”
“อย่างที่จินเหลียนบอก ผมจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ!” หูชีเยี่ยนลุกขึ้นจากโซฟาและเดินออกไปข้างนอก
“แกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” หูหวังเดือด “แกอธิบายกับฉันมาให้ชัด เกิดอะไรขึ้นกับปีศาจงู? แกทำอะไรเขา?”
“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณมาเพราะเขา!” หูชีเยี่ยนแค่นเสียงใส่ ส่ายศีรษะพูด “เขายังไม่ตาย ท่านไปถามเขาก็รู้แล้ว!”
“หลายปีมานี้แกทำอะไรกันแน่?” หูหวังถามอีกครั้ง
ครั้งนี้หูชีเยี่ยนไม่ได้ตอบกลับ เพียงแต่หันกายเดินออกไปทางประตู หูหวังส่งเสียงเรียกขึ้นทันทีว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะ แกกล้าเดินอีกก้าวสิ!” ในระหว่างที่พูด ในมือของเขาก็มีของเล่นชนิดหนึ่งคล้ายกับไฟฉายพกพา
หูชีเยี่ยนมีทีท่าหวาดกลัวของที่อยู่ในมือ เมื่อได้ยินแล้วหยุดฝีเท้าลงหันไปถามเขาว่า “คุณจะเอายังไงกันแน่?”
“ฉันถามแกแค่ประโยคเดียว หลายปีมานี้แกไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมฉันถึงหาแกไม่เจอ?” หูหวังเค้นเสียงใส่
ซีเหมินจินเหลียนกระซิบถามจ่านป๋าย “ในมือของผู้อาวุโสหูคืออะไร” ทำไมถึงทำให้หูชีเยี่ยนหวาดกลัวได้ถึงขนาดนี้?