ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 199 สินค้าริมทาง
เถ้าแก่เนี้ยครุ่นคิดก่อนจะส่ายหน้าพูดขึ้นว่า “ความต้องการของคุณผู้ชายก็สูงเกินไป ฉันว่าในเมืองเจียหยางนี้ อย่าพูดแต่ว่าเจ็ดสีเลย ถึงจะหากำไลห้าสีมาได้ก็นับว่าเป็นเรื่องยากแล้ว แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไรครับ?” จ่านป๋ายพูด
“ถ้าคุณผู้ชายต้องการจริงๆ คุณก็ลองไปดูที่เซี่ยงไฮ้ได้นะ” เถ้าแก่เนี้ยพูด
“เซี่ยงไฮ้?” จ่านป๋ายขมวดคิ้ว “ร้านไหนหรือครับ”
“ได้ยินมาว่าบริษัทใหม่ที่กำลังมาแรงอย่างบริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่มีสินค้าหยกมากมายหลายแบบ คุณก็ลองไปดูที่นั่น ไม่แน่ว่าบางทีอาจจะเจอสินค้าที่ต้องการก็ได้นะคะ” เถ้าแก้เนี้ยยิ้มกริ่ม
ซีเหมินจินเหลียนออกมาพอดี เมื่อได้ยินประโยคนี้เข้าก็ได้แต่ขมวดคิ้ว นี่เขาอยากจะซื้อหยกแบบไหนกัน?
จ่านป๋ายบ่นพึมพำในใจ ถ้าเธอมี ผมก็ไม่ต้องซื้อแล้วล่ะครับ!
ซีเหมินจินเหลียนเจตนาถามออกกไปว่า “เสี่ยวป๋าย คุณเลือกของได้แล้วหรือยัง?”
“คุณผู้หญิง คุณผู้ชายท่านนี้ต้องการที่จะซื้อกำไลหยกเจ็ดสี นี่ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจจะแกล้งพวกเราหรือว่าเขาอยากจะซื้อจริงๆ” เถ้าแก่เนี้ยยิ้ม “กำไลแบบนี้ทางร้านเราไม่มีหรอกค่ะ คุณผู้ชาย ฉันว่าคุณมาเจียหยางก็คงไม่ง่ายเหมือนกัน ไม่สู้คุณไม่ลองเลือกเครื่องประดับให้แฟนติดตัวกลับไปสักชิ้นไม่ดีกว่าเหรอคะ เครื่องประดับราคาหลักสิบล้านพวกนั้นก็ใส่ในชีวิตประจำวันไม่ได้หรอกนะ” เถ้าแก่เนี้ยพูด
อย่าพูดถึงกำไลเจ็ดสีเลย ถึงจะเป็นสีเขียวอ่อนเนื้อแก้วโบราณ กำไลสีเขียวเข้มสดก็ราคาทะลุฟ้าแล้ว มีไว้สักชิ้นก็สามารถเป็นสมบัติล้ำค่าของบ้าน ใครจะนำของพรรค์นั้นใส่ติดตัวกัน? ไม่ต้องพูดถึงจะตกเป็นเป้าสายตาของพวกโจรเลย เกิดอยู่ดีๆ ไม่ระวังเข้ากระแทกแตกขึ้นมา เสียใจก็คงไม่ทันแล้ว
จ่านป๋ายบ่นพึมพำในใจ ซีเหมินจินเหลียนมีจี้แหวนหลากหลายสีที่หลินเสวียนหลานเป็นคนจัดการเลือกทองคำขาวกับเศษเพชรชั้นดีช่วยเธอทำเป็นแหวนให้ แต่เธอก็ใส่ไว้ในมือไปไหนมาไหน ก็ไม่เห็นจะมีอะไร ส่วนพวกปิ่นหยก พู่หยก จี้หยก กำไลหยก เข็มกัดหยก สร้อยข้อมือหยกต่างๆ บางครั้งที่เธอขี้เกียจจะเก็บของก็วางไว้บนโต๊ะสะเปะสะปะ…
“มีงานฝีมือที่มาใหม่ไหมครับ” จ่านป๋ายถาม
“คุณผู้ชายรอสักครู่นะคะ” เถ้าแก่เนี้ยไขกุญแจเปิดตู้ด้านหลังของตนและหยิบกล่องผ้าไหมกล่องหนึ่งยื่นไปให้และยิ้ม “ฉันดูแล้วว่าพวกคุณไม่ใช่คนจำพวกมาดูของเล่นๆ ของสิ่งนี้ไม่บ่อยนักที่ฉันจะยอมตัดใจเอาออกมาให้ดู”
“ของอะไรเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนรับมาก่อนและเปิดกล่องดู สร้อยข้อมือชนิดเนื้อน้ำแข็ง เป็นสีเขียวอมเหลือง เม็ดงามกระจ่างใส
“เป็นอย่างไรคะ?” เถ้าแก่เนี้ยรีบถาม “คุณผู้หญิงอยากจะลองดูไหมคะว่าสวยหรือเปล่า”
“ไม่เลวครับ” จ่านป๋ายพยักหน้า “อันนี้เท่าไหร่ครับ”
“สามแสนค่ะ ราคานี้ต่อไม่ได้แล้วนะ!” เถ้าแก่เนี้ยยิ้ม
“นี่มันก็แพงเกินไป” ซีเหมินจินเหลียนรีบปิดฝากล่องและส่งไปให้เถ้าแก่เนี้ยพร้อมยิ้ม “พวกเราคงไม่ซื้อดีกว่าค่ะ” ในระหว่างที่พูดก็ลากมือจ่านป๋ายให้ออกไปพร้อมกัน
“แต่ผมอยากซื้อ” จ่านป๋ายมองไปทางซีเหมินจินเหลียน
เถ้าแก่เนี้ยได้ยินแล้วก็รู้สึกไม่มีทางเลือก ในระหว่างที่จ่านป๋ายและซีเหมินจินเหลียนกำลังคุยกันอยู่นั้นจึงพูดแทรกขึ้นว่า “สายตาของคุณผู้ชายท่านนี้เฉียบแหลมมากเลยนะ นี่ก็คือชนิดเนื้อน้ำแข็ง รับประกันว่ามีมูลค่ามหาศาล เหมาะแก่การเก็บสะสม”
ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างสงสัยขึ้นมา “คุณจะซื้อมันไปทำอะไรกัน จะให้ใครเหรอ?” เธอไม่เคยใจร้ายใจดำกับจ่านป๋าย เครื่องประดับหยกก็ให้เขาไปไม่น้อยแล้วนี่นา
“ให้คุณไงครับ” จ่านป๋ายฝืนยิ้มออกมา
“คุณจะบ้าหรือยังไงกัน?” ซีเหมินจินเหลียนหมดอารมณ์จะพูด ในระหว่างนั้นก็ไม่สนใจว่าเถ้าแก่เนี้ยจะคิดยังไง ลากจ่านป๋ายออกมา
เมื่อออกจากร้าน จ่านป๋ายก็แค่นยิ้มพูดขึ้นว่า “ผมไม่ได้บ้านะ ผมก็แค่อยากซื้อของให้คุณบ้าง แต่แค่ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี”
“ทำไม?” ซีเหมินจินเหลียนไม่เข้าใจ “ทำไมต้องซื้อของให้ฉันด้วย”
“ก็คุณมักจะให้หยกแบบนั้นแบบนี้กับผม ผมก็เลยอยากซื้อให้คุณบ้าง แต่ผมก็ไม่รู้จะซื้ออะไรให้คุณดี” จ่านป๋ายส่ายหน้า “ก็คุณมีหยก มีเพชรที่ตามตลาดไม่ได้พบเจอกันได้ง่ายๆ”
“เพราะอย่างนั้นฉันถึงบอกว่าคุณมันบ้าไง!” ซีเหมินจินเหลียนด่า
“แล้วถ้าคุณไม่ซื้อเครื่องประดับหยก คุณจะมาที่ถนนหยกโบราณทำไม?” จ่านป๋ายเพิ่งรู้ว่าตนเองไม่เข้าใจจิตใจของผู้หญิงจริงๆ ถึงว่าตอนที่เขายังไม่รู้จักซีเหมินจินเหลียน เขาก็ยังไม่มีแฟน
“ฉันแค่อยากจะเดินเล่นเฉยๆ ฉันไม่ได้บอกว่าจะซื้อสักหน่อยนี่?” ซีเหมินจินเหลียนพูด “จะได้ถือโอกาสมาดูงานฝีมือหยกที่นี่ด้วย จะได้แอบดูวิชา! อีกอย่างถ้าคุณอยากจะให้ของฉันจริงๆ แล้วถ้าเกิดฉันอยากได้ขึ้นมาก็ไม่รู้ว่าคุณยอมตัดใจให้ได้หรือเปล่า?”
“ขอแค่ผมมี ผมก็พร้อมที่จะให้!” จ่านป๋ายรีบพูด
“อืม…” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินดังนั้นก็หยุดเดินและยกมุมปาก แต่ไม่ได้พูดอะไร
“อะไรเหรอ?” จ่านป๋ายถามแล้วถามเล่า
“คุณว่าไงล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนกัดริมฝีปากพูด
“ตัวของผมก็เป็นของคุณแล้ว คุณอยากจะให้ผมทำยังไงก็ได้ทั้งนั้น!” จ่านป๋ายขี้เกียจจะคาดเดา เพราะยังไงเขาก็ไม่มีทางหยั่งรู้จิตใจของผู้หญิงได้
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มแย้มออกมา หลังจากนั้นเธอกับเขาก็ไปดูสินค้าหลายร้านต่อหลายร้านด้วยกัน ครั้งนี้จ่านป๋ายยอมสงบปากอย่างเชื่อฟัง ไม่กล้าถามราคาและไม่กล้าบอกว่าจะซื้ออีก เมื่อทั้งคู่เดินเที่ยวในถนนหยกโบราณเสร็จก็เตรียมตัวจะเรียกรถกลับโรงแรม แต่ในขณะนั้นซีเหมินจินเหลียนก็เห็นข้างร้านมีหินหยกวางกองขายริมทาง ด้านข้างมีธนบัตรหนึ่งหยวนและใช้ปากกาแดงเขียนว่า ‘หินหยก ก้อนละหนึ่งพันหยวน เลือกซื้อได้ตามสบาย เล็กใหญ่ราคาเท่ากัน’
ข้างๆ กันนั้นมีชายชรานั่งพิงเก้าอี้พร้อมหลับตานอนกรน
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกตื่นเต้นอีกทั้งแปลกใจ บนถนนหยกโบราณร้านที่ขายหินหยกไม่มีร้านไหนดีเลย แต่พอมาวางโจ่งแจ้งแบบนี้ มันก็เหมือนกับขายผักกาดขาวยังไงไม่รู้ ให้คนเลือกได้ตามสบาย หาพบเจอได้น้อย
เหมือนจะรู้ว่ามีคนกำลังมองอยู่ ชายชราก็เลยลืมตาขึ้นซักถามไปว่า “ทั้งสองท่านอยากลองวัดดวงกันไหม” พูดพลางเขาก็ชี้ไปที่เครื่องเจียระไนแบบโบราณที่อยู่ข้างๆ
“เสี่ยวป๋าย นี่กี่โมงแล้ว” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“ยังไม่ดึกเท่าไหร่ครับ” จ่านป๋ายพูด
ซีเหมินจินเหลียนพูด “เรามีเงินสดติดตัวมาเท่าไหร่” นี่น่าจะต้องใช้เงินสด หากไม่ได้จ่ายเงินสด เกรงว่าชายชราคนนี้คงไม่ให้เธอเลือกหินหยกแน่
“น่าจะสักสองสามหมื่นหยวนได้” จ่านป๋ายพูด “ทำไมเหรอครับ หรือว่าร้านแบบนี้คุณก็ยังจะไม่พลาดอีก? คุณอย่าลืมนะว่าที่นี่คือเจียหยาง หากมีสินค้าดีจริงๆ เขาจะมาตั้งวางขายริมทางเหรอ?”
ซีเหมินจินเหลียนกดเสียงพูดกับจ่านป๋ายว่า “เมื่อครู่ท่านผู้อาวุโสท่านนี้ก็บอกว่าให้ลองวัดดวงดู คุณก็ไปเลือกสิ!”
“ผม?” จ่านป๋ายชี้ไปที่จมูกของตัวเองและพูด “แต่ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ”
“ใครจะไปรู้ล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม “ถือเสียว่าเอาเงินไปเสพความสุขแล้วกัน เพราะยังไงเมื่อกี้คุณก็คิดจะซื้อเครื่องประดับให้ฉันไม่ใช่เหรอ สู้เป็นซื้อหินหยกดีกว่า นี่…คุณอย่าดูถูกหินหยกพวกนี้เชียวนะ ไม่แน่อาจจะช่วยให้คุณหาสินค้าดีๆ เจอก็ได้ ซื้อสักยี่สิบก้อน และพวกเราเปิดชำแหละที่นี่เลย ฉันจะไม่ดู คุณซื้อเองทั้งหมดเป็นอย่างไร?”