ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 108 หิ่งห้อยในที่มืด
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ภายในใจของคุณถูถึงได้รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังคงหัวรั้นพูดออกไปว่า “เพื่อความยุติธรรม พวกเราจะเลือกเฉพาะหินหยกขนาดกลางเป็นอย่างไร?” ท่ามกลางหินหยกขนาดกลาง มีอยู่สองสามก้อนที่เพื่อนของเขาทางนั้นส่งเข้ามาแบบไม่ได้ใส่ใจ ลักษณะอาจจะไม่ดี แต่ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถเผยสีเขียวออกมาให้เห็น ขอแค่สามารถเผยให้เห็นสีเขียวภายในหินที่เหลือใช้นี้ ก็ถือว่ามีโอกาสชนะไปกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นแล้ว
ในขณะที่เขาพูดประโยคนี้ ก็เท่ากับเป็นการยอมรับแล้วว่าซีเหมินจินเหลียนไม่ได้มีความตั้งใจที่จะตามลมแย่งซื้อหินหยกที่เขาพึงพอใจตั้งแต่แรก ไม่เช่นนั้นถ้าหากเธอมีความตั้งใจจริง ก็คงจะไม่พูดประโยคเช่นนี้ขึ้น
“ตกลงค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด “เอาตามนั้น” พูดพลางสายตาของเธอก็กวาดมองไปที่ผู้สูงอายุที่พูดขึ้นเมื่อสักครู่ ก่อนกล่าวว่า “คุณคะ หากฉันจะขอให้คุณช่วยเป็นพยานดูเวลาให้จะได้หรือเปล่าคะ”
“แม่หนู เรื่องนี้ก็ปล่อยไปเถอะนะ” ผู้สูงอายุพูดขึ้น “ถึงแม้ว่าหนูจะพอเข้าใจเรื่องเดิมพันหยกอยู่บ้าง แต่หนูก็เอาชนะเขาไม่ได้หรอก จะดันทุรังไปเพื่ออะไรกัน?”
ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าแล้วตอบกลับด้วยเสียงใส “เรื่องหินหยกเป็นแค่เรื่องเล็กค่ะ แต่การที่เขามากล่าวหาว่าฉันตามลมแย่งซื้อหินหยกของเขา ไหนจะทำลายกฎการเดิมพันเล่นหินหยก ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นถึงราชาหยกหลากสี แต่ใช้วิธีบีบบังคับเด็กใหม่แบบนี้ แม้ว่าฉันจะเป็นเด็กผู้หญิง แต่ก็ไม่ยอมถูกเขารังแกง่ายๆ หรอกนะคะ ทุกคนน่าจะรู้ว่าในห้องโถงจัดงานนิทรรศการมีกล้องวงจรปิด ความจริงแล้วใครเป็นคนทำ ขอแค่เรียกเจ้าของของที่นี่เพื่อมาแสดงความชัดเจนก็รู้กันหมดแล้ว”
“ถ้าหากทุกท่านไม่เชื่อ ผมก็สามารถนำภาพของกล้องวงจรปิดออกมาให้ทุกคนดูได้นะครับ!” จ่านมู่ฮวาพูดแทรกขึ้นมาจากข้างๆ
ผู้สูงอายุคนนั้นเมื่อได้ยินเข้าก็มีท่าทีคิดหนักมองไปที่จ่านมู่ฮวาและหันไปทางคุณถู ในใจถอนหายใจออกมาไม่หยุด เกรงว่าคืนนี้คุณถูคงต้องเจอศึกหนักเข้าแล้ว เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ไหนจะผู้ชายที่ยังหนุ่มแน่น หน้าตาไร้ที่เปรียบคนนี้อีก แม้ว่าอายุจะยังน้อยแต่ดูจากคำพูดคำจาที่เฉียบคมชัดเจนแล้วก็ดูจะไม่ธรรมดา
ดังนั้นเขาก็เลยพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ตกลง ผมจะคอยดูเวลาและเป็นพยานให้ ทั้งสองท่านจะเริ่มเลยไหม?”
“เดี๋ยวก่อนครับ!” จู่ๆ จ่านมู่ฮวาก็พูดขึ้น “ถ้าเดิมพันแบบนี้ก็คงน่าเบื่อแย่ สู้มาเล่นให้ใหญ่กว่านี้หน่อยดีไหมครับ ไม่ทราบว่าคุณถูท่านนี้จะกล้าหรือเปล่า?”
ดวงตาของคุณถูอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้น กล้าหรือเปล่า? คำถามนี้บีบคั้นเขามากกว่าคำพูดเมื่อสักครู่ของซีเหมินจินเหลียนที่ชักชวนเขาเล่นเดิมพันเสียอีก แถมดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เขาก็หันหลังถอยกลับไม่ได้แล้ว เขาจะยังพูดว่าไม่กล้าได้เหรอ? ถ้าหากเขาพูดว่าไม่กล้า เกรงว่าคนคนนี้คงมีความสามารถในการหาเทปบันทึกของกล้องวงจรปิดมาได้จริงๆ ในอนาคตเขาคงไม่มีที่ยืนในวงการเดิมพันนี้ต่อไปแน่ ไม่เช่นนั้นก็คงต้องถูกผู้คนซ้ำเติม
เดิมทีคิดแค่ว่าจะบีบบังคับแย่งซื้อหินหยกที่มีลักษณะไม่เลวออกมาสักก้อน แต่ตอนนี้กลับยากขึ้นแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อแท้ยากที่จะเปลี่ยน การที่เขาสามารถมีฉายาเรียกว่าราชาหยกหลากสีได้ แน่นอนว่าจะต้องมีความรู้ความสามารถบ้างไม่น้อย เมื่อได้ยินก็พูดขึ้น “คุณอยากจะเดิมพันอย่างไร?”
“เดิมพันทรัพย์สิน!” จ่านมู่ฮวาพูดอย่างราบเรียบ “คุณมีฉายาเป็นถึงราชาหยกหลากสีจากอวิ๋นหนาน ดูแล้วฐานะที่บ้านของคุณคงจะเพียบพร้อมไปเยทั้งหมด คุณเปิดราคาของวางเดิมพัน แล้วผมจะใช้อัตราต่อรองราคาหนึ่งต่อสองมาชดใช้ให้คุณ!”
หนึ่งต่อสอง? พระเจ้า ผู้คนต่างพากันซุบซิบขึ้นมา คนในวงการธุรกิจเดิมพันหินต่างรู้ว่าคุณถูมีโรงงานแปรรูปหยกสองแห่งในเมืองอวิ๋นหนาน และยังส่งออกขายเครื่องประดับจากหยกขนาดเล็ก เกรงว่าทรัพย์สมบัติที่บ้านคงไม่น้อยไปกว่าสี่ห้าร้อยล้าน แม้ว่าอัตราต่อรองจะเป็นหนึ่งต่อหนึ่ง แต่ดูจากชาติกำเนิดของชายรูปงามคนนี้แล้ว ก็คงต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่แล้ว
“ผมมีทรัพย์สินอยู่ห้าร้อยล้าน คุณชดใช้ไหวเหรอ?” ตาของคุณถูกระตุกขึ้นแล้วอีกครั้ง มองไปที่จ่านมู่ฮวาอย่างใจเย็นแล้วพูดต่อหน้าทุกคน ถ้าหากเขาแพ้จริงๆ ให้เขาไปชดใช้ด้วย ถึงเวลานั้นอย่าโกรธที่เขาใจดำอำมหิตเกินไปแล้วกัน
“เงินหยวน?” จ่านมู่ฮวาถาม
“ใช่!” คุณถูขมวดคิ้วขึ้น
“ตกลง!” จ่านมู่ฮวาทำตัวสบายอกสบายใจหันหน้าเข้ารับมรสุมลม “พวกเราสามารถจดลายลักษณ์อักษรเป็นพยาน ภายในยี่สิบนาทีคุณและคุณซีเหมินต้องเลือกหินหยกขนาดกลางของตัวเองออกมาหนึ่งก้อน จากนั้นเจียระไนต่อหน้าผู้คน คนที่หินหยกมีลักษณะดีกว่าก็ถือว่าเป็นผู้ชนะ แน่นอนว่าผมวางเดิมพันลงที่คุณซีเหมิน ส่วนคุณก็วางเดิมพันไปที่ตัวเอง อัตราหนึ่งต่อสอง พวกคุณมีใครจะวางเดิมพันลงที่เขาไหม?” พูดถึงตอนท้าย เขาก็เพิ่มประโยคนี้เข้ามา
ผู้คนยังไม่ทันได้พูดอะไร คนข้างๆ ก็พูดขึ้นว่า “ถ้าหากในพวกคุณมีใครวางเดิมพันไปที่คุณถู อัตราต่อรองหนึ่งต่อสอง นอกจากตัวคุณถูเองแล้ว คนอื่นๆ ถ้าหากวางเดิมพัน เงินก็จะตกไปเป็นของผม!” ท่ามกลางฝูงชน มีคนพูดแทรกขึ้นมา
จ่านมู่ฮวามองไปที่ฉินเฮ่าแวบหนึ่งแล้วขมวดคิ้วขึ้น เขามาทำอะไรที่นี่? แถมยังฝ่าฝูงชนเดินมาถึงข้างๆ ซีเหมินจินเหลียน
“เสี่ยวป๋ายล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างแปลกใจ เมื่อก่อนตอนที่เธอมีปัญหาก็ล้วนเป็นจ่านป๋ายที่คอยวิ่งมาช่วยเหลือคนแรก ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก
“เขาคงกินยาอะไรผิดไป ตอนนี้เลยกำลังศึกษาการเดิมพันหินใหญ่อยู่ด้านหลังกับหลินเสวียนหลาน” ฉินเฮ่าพูดอธิบาย “ผมเดาว่าแม้แต่เงินมาขอภรรยาแต่งงานเขาก็น่าจะไม่เหลือแล้ว”
“อย่างมากที่สุดก็เหมือนคุณ เข้าเนื้อตัวเอง” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเข้าจึงหัวเราะผ่อนคลายลง จ่านป๋ายถึงขั้นไปศึกษาการเดิมพันหินด้วย ถือว่ามีการพัฒนาแล้ว
เมื่อถูกคุณชายฉินทำให้ตกใจ ทุกอย่างก็เหนือความคาดหมาย เดิมทีผู้คนที่ต่างหันเหใจไปทางราชาหยกหลากสี แต่ตอนนี้ไม่มีใครลงเดิมพันไปสักคน
ภายใต้ข้อเสนอของจ่านมู่ฮวา คุณถูและเขาได้เซ็นสัญญาการเดิมพันร่วมกันไว้ เกรงว่าสัญญาฉบับนี้น่าจะเป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคืนนี้ หนึ่งร้อยล้าน แม้แต่ซีเหมินจินเหลียนคิดแล้วยังรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่บ้าง เธอถึงขนาดอยากจะแกล้งเลือกหินเพื่อที่จะทำให้จ่านมู่ฮวาแพ้ไปหนึ่งร้อยล้าน ดูสิว่าในอนาคตจะยังมีนิสัยใจคอโอ้อวดอยู่อีก หรือเปล่า
แต่ไม่พูดถึงหยกสีเขียวจักรพรรดิก้อนนั้น ในความเหมือนกันแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ยังมีหน้ามีตา การชักชวนเดิมพันหินเป็นสิ่งที่เธอเสนอ ถ้าหากแพ้ ในอนาคตบริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่คงไม่ต้องเปิดต่อไปแล้ว ประกาศปิดกิจการไปเลยดีกว่า
“ถ้าหากทั้งสองท่านเตรียมตัวพร้อมแล้ว ตอนนี้ผมก็จะเริ่มนับเวลา เวลายี่สิบนาทีจะเริ่มขึ้น!” ผู้สูงอายุที่เป็นพยานมองดูนาฬิกาและพูดขึ้น
“ตกลงค่ะ ต้องรบกวนคุณแล้ว!” ซีเหมินจินเหลียนกล่าวขอบคุณ
“เริ่มได้!” พยานผู้สูงอายุพูดขึ้น
คุณถูเดินไปทางหินหยกขนาดกลาง ในใจได้แต่กระวนกระวายไม่หยุด เดิมทีถ้าแพ้ ก็แค่เสียหน้า และเพิ่มการมีสิทธิ์ซื้อครอบครองหินหยกที่ไม่ได้ดูดีอะไรก้อนหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาจะแพ้ไม่ได้ เพราะถ้าแพ้ก็เท่ากับว่าตนอาจจะต้องล้มละลาย ในตระกูลยังมีลูกเมียรออยู่…
ซีเหมินจินเหลียนก็เดินไปทางโซนหินหยกขนาดกลาง เตรียมที่จะเลือกหินหยก แต่คิดไม่ถึงว่าตรงหน้ากลับมืดสนิท นิทรรศการที่เดิมทีมีแสงไฟคอยส่องสว่างก็กลับมืดมิดลง
“นี่เกิดอะไรขึ้น?” ท่ามกลางผู้คนมีคนร้องโวยวายขึ้น
แต่ไม่นานไฟก็กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง เวลาสั้นๆ ไม่ถึงสิบวินาที คงจะแค่ไฟตกก็แค่นั้น ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลขนาดไหน แต่เรื่องนี้บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในระยะเวลาสั้นๆ แค่สิบวินาที แน่นอนว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออะไร คุณถูเริ่มหยิบแว่นขยายขนาดใหญ่และไฟฉายพกพาเพื่อเริ่มเลือกหินหยก เขาไม่กล้าสะเพร่าสักนิด
ส่วนซีเหมินจินเหลียนยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ในระหว่างที่ความมืดครอบงำอยู่นั้น เธอกลับเห็นแหล่งกำเนิดแสงจางๆ ถ้าเธอไม่ได้ดูผิด นี่น่าจะเป็นหยกกำเนิดแสงอ่อนๆ
ขอแค่เปลือกของหินหยกมีแหล่งกำเนิดแสงทะลุออกมา ก็ถือว่าเป็นของชั้นดีในของชั้นดี ซีเหมินจินเหลียนเข้าใจดี ไม่อย่างนั้นหยกธรรมดาคงจะไม่มีแสงในตัวได้
แน่นอนภายใต้แสงไฟที่มืดสนิท สายตาของคนก็มักจะมีความหลอกตัวเอง เวลานี้มองเห็นแสง บางครั้งอาจจะเป็นเพราะสายตายังไม่คุ้นเคยในการปรับตัวจากแสงหรือความมืดที่แตกต่าง ทำให้กลายเป็นการเข้าใจผิด ขนาดถึงขั้นมีคนอยู่ภายใต้แสงไฟและปิดตาลง ยังสามารถเห็นดอกไม้สีขาวหรือหลากสีได้
ซีเหมินจินเหลียนครุ่นคิดอยู่นาน ถึงได้เดินไปที่หินหยกขนาดกลาง ไม่สนว่าเป็นเพราะสายตาที่ผิดพลาดของเธอหรือเปล่า เธอยังคงคิดจะดูว่าหินหยกก้อนนี้แท้จริงแล้ว ทำให้เธอมีความเข้าใจผิดหรือไม่กันแน่?
สายตาของทุกคนต่างตกไปอยู่ที่เธอและคุณถูท่านนั้น
ซีเหมินจินเหลียนยืนอยู่บนพื้น แสงสว่างเมื่อครู่ก็คือตรงนี้สินะ? ไม่ผิดใช่ไหม? แต่ดูจากหินหยกที่กองไว้บนพื้นแล้วสภาพย่ำแย่มาก แม้ว่าจะเป็นหินหยกขนาดกลาง แต่ก็มีข้อแตกต่างระหว่างเล็กใหญ่ ส่วนหินหยกก้อนนี้ขนาดเล็กมาก เมื่อดูแล้วไม่ได้เป็นจุดดึงดูดความสนใจมาก
แน่นอนว่าถ้าหากหินหยกดึงดูดคนขึ้นมา ก็คงจะไม่นำมาส่งที่งานเปลี่ยนหินให้เป็นทองหรอก ถ้าอยากจะเลือกหินหยกที่สามารถเผยมีเขียวมรกตได้ท่ามกลางหินพวกนี้ คงจะต้องใช้หินขนาดเท่าไหร่ถึงจะพอเปลี่ยนเป็นทองได้บ้าง
ดูทีละก้อนแล้วกัน! ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจออกมา แต่ทว่าถึงหินพวกนี้จะย่ำแย่ไปหน่อย แต่ถ้าต้องการหาหินหยกที่พอจะปรากฏสีเขียวได้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเสมอไป เพราะอย่างไรเธอก็ไม่เชื่อว่าดูแค่ผิวและโชคจะทำให้คุณถูคนนั้นชนะเธอ
ในเวลาไม่นานเธอก็ดูไปถึงห้าก้อน ซีเหมินจินเหลียนเกือบสงสัยไปหมดแล้ว เธอตาลายไปหมด เธอคงดูผิดแล้วสินะ! แถมภายในหินหยกทั้งห้านั้น มีอยู่ก้อนหนึ่งที่เป็นคนทำขึ้นมาปลอมแปลง เธอไม่รู้จะยิ้มหรือจะร้องไห้ออกมาดี
แต่หินหยกก้อนที่หกที่เธอกำลังดูอยู่นี้ ในใจของซีเหมินจินเหลียนก็เริ่มจะเต้นแรงขึ้นมาแล้ว… เธอดวงดีเกินไปแล้ว ตอนที่เจอหยกจักรพรรดิก็ช่างเถอะ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าท่ามกลางหินหยกขนาดกลางจะมีสิ่งของล้ำค่าแบบนี้อยู่
หินหยกก้อนนี้ขนาดไม่ใหญ่ น้ำหนักไม่น่าจะเกินห้ากิโลกรัมแน่ ลักษณะกลมรี ผิวที่ปรากฏเป็นสีเทาแกมเหลืองธรรมดามากในเวลานั้นซีเหมินจินเหลียนไม่มีวิธีที่จะแยกแยะว่ามีแหล่งกำเนิดมาจากที่ไหน เพราะในทางนี้ถือว่าเธอเป็นคนใหม่อย่างสิ้นเชิง
เธอยกหินหยกขึ้นมา เดินไปข้างนอกเพื่อเรียกเจ้าหน้าที่ดูแลมาแล้วจ่ายเงินไปห้าพันหยวนเพื่อซื้อหินหยกก้อนนี้
“คุณผู้หญิงก็รวดเร็วจริงๆ” พยานผู้สูงอายุพูด “เลือกเสร็จแล้วเหรอครับ?”
“อืม ใช่แล้วค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าลง ถ้าหากคุณถูสามารถเลือกหินหยกที่ดีกว่าเธอได้ เธอก็แพ้ในรอบนี้ ถือว่าเป็นลิขิตจากฟ้า
“ยังเหลืออีกแปดนาที คุณไม่ไปดูอีกสักหน่อยหรือครับ?” พยานผู้สูงอายุช่วยกล่าวเตือน