(Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล - ตอนที่ 201 มุกหลิววั่งที่แตกสลาย / ตอนที่ 202 ตราหยกประมุขตระกูล
- Home
- (Yaoi) ใต้ม่านรัตติกาล
- ตอนที่ 201 มุกหลิววั่งที่แตกสลาย / ตอนที่ 202 ตราหยกประมุขตระกูล
ตอนที่ 201 มุกหลิววั่งที่แตกสลาย
“ฉะนั้นจะบอกว่าเจ้าคือใครหรือ” เจียงหลิงมองชังหลานครู่หนึ่ง พูดประโยคที่ทำให้ชังหลานเจ็บปวดออกมา
แต่ก็ไม่อาจโทษเขาได้ นอกจากประมุขตระกูลและจื๋อซือทั้งสาม ในใจของคนที่เหลือชังหลานเป็นสัญลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหาง ชังหลานกลับไม่ได้ด่าเขาจนเจ็บปวดไปยกหนึ่ง ขับเคลื่อนพลังวิญญาณออกมา หางทั้งเก้าส่ายสะบัดอยู่หลังกาย ทำให้เจียงหลิงตกใจจนทรุดคุกเข่าลงไป
“ข้าน้อยตาไม่มีแวว ไม่เคยพบท่านผู้เป็นใหญ่ มองท่านผู้คุ้มกันตระกูลหลานไม่ออก ขอให้ท่านลงโทษด้วยเถิด”
“ลุกขึ้นเถิด เรื่องนี้ก็โทษเจ้าไม่ได้ อย่างไรในสายตาของคนบนโลกนี้ข้าก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เย็นชาอยู่”
“…”
“เจ้าไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ อีกครู่รอหลานเฟิงหลานเยี่ยออกมาจัดการเจ้า เจ้าก็จะเชื่อเอง”
พูดจบชังหลานและชิวจือเว่ยทั้งสองคนก็เดินจากไป เหลือเพียงเจียงหลิงที่ยืนสภาพดูไม่ได้อยู่กลางลม
เมื่อมาถึงในห้องพวกอวี่มั่วกำลังนั่งดื่มชาอยู่หน้าโต๊ะอย่างสงบนิ่ง
“…ชาดี…” หลังจากอวี่มั่วดื่มลงไปอึกหนึ่งก็แสดงความชื่นชมของตนออกมา
“ชาดีอะไรของเจ้า รีบออกไปให้หมด” ชังหลานเข้ามาจัดการเขกศีรษะอวี่มั่วเข้าไปอย่างจังทีหนึ่ง
“ยังไม่ทันดื่มชานี่หมดเลย!” อวี่มั่วกุมศีรษะตะโกนร้องออกมา
“รออีกครู่ให้หลานเยี่ยตื่นขึ้นมาชงชาให้เจ้าด้วยตนเอง ออกไป”
พูดจบอวี่มั่วก็เดินตามพวกหลานเม่ยออกไปช้าๆ ก่อนที่จะออกไปนั้นก็ปิดประตูให้ คิดจะแอบดูอยู่หน้าประตู แต่กลับถูกเขตม่านพลังเขตหนึ่งกั้นเอาไว้
ภายในห้องคนสามคนยืนอยู่ สี่คนนอนอยู่ เป็นภาพที่ไม่น่ามองเท่าไรนัก พวกเขาทั้งสามคนยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกเหมือนจะลงมือทำอะไรสักอย่าง ความรู้สึกเหมือนเป็นหมูบนเขียงอย่างไรอย่างนั้น
ชิวจือเว่ยและหลานเซียวลงมือ นำเอามุกหลิววั่งออกมาจากหน้าอกของหลานเยี่ยและหลานเฟิง มุกหลิววั่งในตอนนี้มีเพียงพลังวิญญาณบริสุทธิ์แต่เดิมเท่านั้น แสงประกายที่พาดผ่านของเจ้านายนั้นไม่มีให้เห็นแล้ว
ชิวจือเว่ยและหลานเซียวเป็นนายเดิมของมุกหลิววั่ง และเป็นคนที่สามารถควบคุมมุหลิววั่งได้อย่างแท้จริง ตอนนี้เมื่อขับมุกหลิววั่งออกมา ไม่มีความสัมพันธ์กับหลานเยี่ยและหลานเฟิงยิ่งทำให้ชำนาญคล่องแคล่วกว่าเดิม
มุกหลิววั่งเป็นภาชนะชิ้นหนึ่ง ภายในอาจจะเป็นวิญญาณ หรืออาจเป็นพลังวิญญาณ แต่ในปัจจุบันนี้ไม่มีวิญญาณอีกแล้ว เหลือเพียงพลังวิญญาณ
ชิวจือเว่ยและหลานเซียวยกมือยกขึ้นชี้นำทางให้มุกหลิววั่ง มุกหลิววั่งค่อยๆ ขยายโตขึ้น ผ่านไปไม่นาน ช่องว่างขนาดเล็กช่องหนึ่งค่อยๆ เปิดออก ภายในมีพลังวิญญาณสีฟ้าและสีม่วงสองชนิดไหลออกมา อีกทั้งยังสว่างเป็นอย่างมาก
แต่เดิมที่อยู่ในร่างกายของหลานเยี่ยและหลานเฟิงมีประโยชน์เพียงช่วยเหลือเท่านั้น พลังวิญญาณเป็นรูปแบบไหลเวียน ไม่ได้ถูกใช้จนหมดในความเป็นจริง และในวันนี้สิ่งที่ต้องทำคือใช้พวกมันให้หมดเพื่อช่วยพวกเขาทั้งสอง
พลังวิญญาณสองสายค่อยๆ ไหลเวียน ทางฝั่งพวกชิวจือเว่ยทั้งสองคนชักนำพลังไปยังร่างมู่หลีและชิวลั่ว บนร่างของชิวลั่วเต็มไปด้วยพลังวิญญาณสีฟ้า บนร่างมู่หลีก็เต็มไปด้วยพลังวิญญาณสีม่วง
วิชาลับที่ถูกทำลายลงไปเมื่อพันปีก่อนที่จริงแล้วยังมีวิธีการใช้อีกวิธีหนึ่ง ใช้พลังวิญญาณของคนต่างตระกูลมอบให้กับอีกคนหนึ่ง หลังจากที่พลังวิญญาณถึงระดับที่กำหนดแล้วก็จะก่อให้เกิดการแปลงสภาพที่ระดับหนึ่ง
พลังวิญญาณที่แปลงสภาพจะทำการไหลย้อนกลับของชีวิตต่อมนุษย์ ชิวจือเว่ยในตอนนั้นเพราะเพิ่มพลังวิญญาณของคนที่สามเข้าไป ฉะนั้นถึงได้ทำให้การไหลย้อนล้มเหลว ไม่ใช่เพราะปัญหาจากยา
พลังวิญญาณค่อยๆ เปลี่ยนสี สุดท้ายแล้วก็กลายเป็นสีที่คาดคิดไม่ถึงอย่างสีขาว ร่างกายของชิวลั่วและมู่หลีเกิดการเปลี่ยนแปลง บาดแผลทั้งหมดสมานตัวกัน ไม่นานพลังวิญญาณทั้งหมดในมุกหลิววั่งก็ถูกใช้จนหมด เสียงดัง ปัง เกิดขึ้น มุกหลิววั่งสลายกลายเป็นผุยผงในเสี้ยววินาที
เมื่อมองดูร่างกายของมู่หลีและชิวลั่ว หน้าตาเช่นนี้น่าจะอายุเพียงสิบแปดสิบเก้าปีเท่านั้น อายุน้อยกว่าในชีวิตจริงกว่าห้าปี
ตอนที่ 202 ตราหยกประมุขตระกูล
“เอาล่ะ จบลงแล้ว ตามจากที่เจ้าพูด ทั้งสองคนหลังจากนี้หนึ่งวันจะฟื้นขึ้นมา” ชิวจือเว่ยพูดกับชังหลาน
“อืม ต่อจากนี้ก็อีกสองคน” ชังหลานพูดขึ้น ชิวจือเว่ยและหลานเซียวไม่ได้พูดอะไร เดินออกไปอย่างรู้ตัวพลางปิดประตูลง ยืนอยู่หน้าประตูรอทุกอย่างจบ เพราะเรื่องราวต่อจากนี้ชังหลานต้องทำให้สำเร็จเพียงลำพัง
ชังหลานปลดเอาตราหยกประมุขตระกูลลงมาจากกายหลานเยี่ย วางไว้บนโต๊ะ มองอยู่ครู่หนึ่งถึงได้ยกมือกดลงไปบยนั้น จากนั้นก็ค่อยๆ ใส่พลังวิญญาณที่ถือเป็นของเขาเองลงไปช้าๆ เชื่อมต่อพลังวิญญาณระหว่างเขาและหลานเจ๋อ
ความทรงจำบางส่วนค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา ชังหลานกระตุกริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว
“อาหลาน หลังจากนี้ข้าแก่ตัวลง เจ้าจะประคองข้าไปดูพระอาทิตย์ตกหรือไม่”
“ข้าจะทำให้เจ้าลงจากเตียงไม่ได้เลยทั้งวัน”
“อาหลาน ใช้ใจหน่อยได้หรือไม่ บรรยากาศที่ข้าสร้างขึ้นมาเมื่อครู่หายไปหมดแล้ว”
“อาหลาน เจ้าดูซิข้ามีผมขาวแล้ว ทำเช่นไรดี จะแก่ชราแล้ว แต่เจ้ายังคงเป็นเช่นเดิม”
“ไม่ต้องเป็นกังวล เจ้าดูซิว่าตอนนี้ข้าเองก็มีผมขาวแล้วใช่หรือไม่”
“เจ้าทำให้ตัวเองแก่ชราเสียแล้ว ฮ่าๆๆ เจ้าผมขาวน่ารักเสียจริง”
“อาหลาน รอข้าตายไป อย่าได้ตามหาข้า หลังจากนี้หนึ่งพันปี ข้าจะปรากฏตัวเอง”
“อาหลาน ข้าขอโทษ”
การแทรกซึมของพลังวิญญาณทำให้ตราหยกประมุขตระกูลปรากฏเขตม่านพลังหนึ่งชั้น น้ำตาของชังหลานก็ไหลลงมาเพราะความทรงจำที่ถูกปิดผนึกมากว่าพันปี
เขตม่านพลังอบอุ่นอย่างมาก ไม่ได้ไปจัดการอย่างไรก็เปิดออก หรืออาจจะพูดว่าหลอมละลายลงเพราะพลังวิญญาณของชังหลาน ความรู้สึกที่คุ้นเคยพัดเข้ามาในทันใด ชังหลานสัมผัสได้ถึงหลานเจ๋อ
ชังหลานปลดเอาเชือกแดงบนตราหยกประมุขตระกูลออกมา แบ่งออกเป็นครึ่งจากบนลงล่าง ภายในเป็นโลกขนาดเล็ก เช่นเดียวกับมุกหลิววั่ง ของทั้งสองอย่างเป็นผลพวงจากก้อนหินหนึ่งหนึ่งก้อน
วิญญาณของหลานเจ๋อค่อยๆ กลายเป็นรูปร่าง ยังคงมีสภาพมึนงง เห็นหลานเจ๋อที่มีสภาพเช่นนี้ ชังหลานเช็ดน้ำตาจนแห้ง ตั้งใจดำเนินพิธีการต่อไป
ตั้งแต่ตอนที่ตราหยกประมุขตระกูลถูกเปิดออก ตอนนี้วิญญาณของหลานเยี่ยออกมา ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับหลานเยี่ยแล้ว แต่เดิมพลังวิญญาณธรรมดาที่ไม่เหลือแล้วปรากฏขึ้นมาบนร่าง ไหลเวียนไปมาไม่หยุด
ชังหลานมองหลานเจ๋อที่อยู่เบื้องหน้า มือทั้งสองข้างขับเคลื่อนพลังวิญญาณ รวมถึงตบะบำเพ็ญทั้งหมดที่มีเพื่อกายหยาบของหลานเจ๋อ พันปีก่อนหน้านี้หลานเซียวพูดไว้ไม่ผิด ชังหลานมีความสามารถทำให้หลานเยี่ยมีกายหยาบ ซึ่งนั่นคือตบะบำเพ็ญทั้งหมดและพลังวิญญาณทั้งหมด
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเป็นการละทิ้งสถานะจิ้งจอกเก้าหาง กลายเป็นมนุษย์ที่มีช่วงชีวิตได้เพียงหนึ่งร้อยปีเท่านั้น แต่ชังหลานกลับไม่ลังเลแม้แต่น้อย ดำเนินการต่อไป
สุดท้ายแล้วหลานเจ๋อก็มีร่างกายที่สมบูรณ์เต็มร่าง แต่ยังคงไม่ฟื้นได้สติ หลังจากที่ดำเนินพิธีการเสร็จสิ้นแล้วชังหลานก็ล้มลงไป ระหว่างช่วงการเปลี่ยนแปลงนั้นเจ็บปวดอย่างมาก เมื่อเห็นว่าหลานเจ๋อไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ชังหลานก็หลับตาลง
เมื่อได้ยินว่าข้างในไม่มีเสียงแล้ว ชิวจือเว่ยและหลานเซียวก็เข้าไป พาชังหลานและหลานเจ๋อเข้าไปในอีกห้องหนึ่ง จากนั้นก็พามู่หลีและชิวลั่วเข้าไปอีกห้อง
หลังจากที่จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เรียกพวกคนที่แต่เดิมถูกไล่ออกไปให้กลับมา แบ่งให้เฝ้ายามเป็นสามคู่ เจียงหลิงยืนหยัดอย่างแรงกล้าที่จะไปดูหลานเฟิงและหลานเยี่ย ฉะนั้นอวี่มั่วและเทียนซีจึงเข้าไปในห้องหลานมู่และชิวลั่ว หลานเม่ยและอวิ๋นหรูเข้าไปในห้องชังหลานและหลานเจ๋อ
ชิวจือเว่ยและหลานเซียวกลับไปห้องลับ ตราหยกประมุขตระกูลถูกเปิดออกแล้ว เขตม่านพลังในห้องลับนั้นก็น่าจะหายไปแล้วเช่นกัน หลานชิงควรจะออกมาดื่มเหล้ามงคลได้แล้ว น่ายินดีปรีดายิ่งนัก