เล่ห์รักกลกาล - ตอนที่ 26
ชายผู้นั้นคุ้นตามาก
เขาคือบิดาของเด็กหญิงที่มอบขนมเซาปิ่งให้นางเมื่อคืน
ทั่วร่างเขาเต็มไปด้วยบาดแผล จมูกช้ำหน้าเขียว เสื้อผ้ายังมีรอยเลือด เห็นได้ชัดว่าคนตกอยู่ในสภาพน่าอนาถ เยี่ยเม่ยยังสงสัยว่าตัวเองมองผิดไป
เวลาสั้นๆ เพียงคืนเดียว คนผู้นี้ไฉนเปลี่ยนได้ขนาดนี้
ในห้วงความสงสัยนั้น มีคนอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งกรูเข้ามา กำลังเข้าไปเตะชายผู้นั้น
อาศัยเพียงเรื่องขนมเซาปิ่ง เรื่องนี้นางก็ไม่อาจยืนชมดูเฉยๆ อยู่ด้านข้างแล้ว
นางเห็นสถานการณ์รีบล้วงพัดออกจากเอว โยนใส่คนที่กำลังยื่นเท้าเตะคน!
หลังจากพัดจู่โจมขาคนผู้นั้น หมุนคว้างกลับเข้ามาในมือนางอีกครั้ง
คนผู้นั้นร้อง “อ๊าก!”
เขาก้มหน้ามอง ขากางเกงตัวเองถูกพัดกรีดขาด เลือดสดไหล เนื้อเปิดออก
เขาถลึงตาใส่เยี่ยเม่ย “เจ้า!”
ส่วนจิ่วหุนที่กำลังเล่นแง่ไม่พอใจ เห็นเหตุการณ์ สีหน้าหนักแน่นลง ติดตามเข้ามา
เขายืนอยู่หลังเยี่ยเม่ย แววตาฉายไอสังหาร มองคนผู้นั้น ดวงตาคู่งามมีกลิ่นอายเย็นเยียบ คล้ายมองคนตาย
เขาส่งเสียงต่ำพ่นคำพูดออกมาสี่คำ “ห้ามเจ้ามองนาง”
คนผู้นั้นถูกสายตาจิ่วหุนทำให้แตกตื่นเบื้องลึกในจิตใจปรากฎความหวาดกลัวขึ้นมาหลายส่วน ชายหนุ่มคนนี้…เขาไม่เคยเห็นสายตาน่ากลัวขนาดนี้มากก่อน ราวกับในสายตาของเขาเห็นชีวิตเป็นแค่เศษหญ้า
เขาชักสายตากลับด้วยใจระส่ำหวาดหวั่น ต่อให้โมโหเกินเปรียบ แต่ก็ไม่กล้าจ้องเยี่ยเม่ยอีก
แต่ยังเอ่ยอย่างใจกล้า มองพวกเยี่ยเม่ย เตือนว่า “ข้าขอเตือนไว้ พวกเจ้าอย่าได้ยุ่งเรื่องชาวบ้าน เรื่องนี้พวกเจ้ายุ่งไม่ไหว!”
เขาเอ่ยจบ พวกสมุนหลายคนรีบก้าวออกมา พยุงเขาขึ้นจากพื้น
เยี่ยเม่ยคร้านใส่ใจพวกเขา ก้าวเท้ากว้างไปข้างกายชายผู้นั้น พยุงเขาขึ้น ถามเสียงนิ่งว่า ”ท่านเป็นอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้น”
ชายผู้นั้นถูกต่อยตีจนลมหายใจสะดุด ระหว่างที่เยี่ยเม่ยถามนั้น กระอักเลือดออกมา
เขาหยัดกายยืนอย่างยากลำบาก สองมือจับมือเยี่ยเม่ยไว้ ชายชาตรีหลั่งน้ำตาทะลักออกมา ขอร้องเยี่ยเม่ย “ข้าไม่เป็นไร! ข้า ข้าขอร้องเจ้าล่ะ ช่วยลูกสาวข้าด้วย ช่วยเซียนเซียนด้วย นั่นก็คือแม่นางน้อยที่เจ้าพบเมื่อคืน นาง…”
เยี่ยเม่ยมุ่นคิ้ว ใจกระตุกวาบ
นางมองเขาถามว่า “นางเป็นอะไร”
แม่นางน้อยที่หลงทางกับพ่อแม่แล้วยังไม่ลืมช่วยเหลือคนข้างทาง นางเกิดเรื่องได้อย่างไร เด็กน้อยมีเมตตาขนาดนั้น ใครทำร้ายนางลง
ชายผู้นั้นได้ฟัง หันกลับไปมองคนกลุ่มนั้น ด่าด้วยโทสะ “พวกเดียรัจฉานกลุ่มนี้ เมื่อเช้าแม่ของเซียนเซียนพานางออกไปซื้อของที่ตลาด เซียนเซียนถูกคนกลุ่มนี้ชิงตัวไป บุตรชายนายอำเภอ เจ้านั่นมันเดียรัจฉาน…”
เยี่ยเม่ยไม่เข้าใจความหมาย หันมองคนกลุ่มนั้น แล้วกลับมามองชายผู้นั้นอีก
เยี่ยเม่ยถามเสียงนิ่ง “พวกเขาแย่งตัวนางไปทำไม”
บุตรชายนายอำเภอชิงเด็กไป มีประโยชน์อันใด
ชายผู้นั้นสีหน้าลำบากใจ เจ็บปวดไปถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่อีก เขายากเอ่ยปาก ตอบคำถามเยี่ยเม่ยไม่ได้ เขากัดฟันเอ่ยเสียงโมโหโทโส “เดียรัจฉาน! เดียรัจฉาน! ล้วนเป็นเดียรัจฉาน! เดียรัจฉาน…”
ระหว่างที่เขาด่าทอด้วยความโมโห มือก็ทุบพื้นโดยแรง จนกระทั่งเลือดออก
เยี่ยเม่ยมองปฏิกิริยาของเขา ชั่วขณะนั้นพลันเข้าใจขึ้นมา
นางสีหน้าซีดลง สายตาเย็นชาเปลี่ยนไปเป็นคมกริบ คล้ายไม่อยากเชื่อ “นางเป็นเด็กคนหนึ่งเท่านั้น!”
แม่นางน้อยผู้นั้น…
เพิ่งสูงเท่าเอวนาง เป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้จักโลก คนพวกนี้….
นางเบือนหน้ากลับไป สายตาเย็นเฉียบมองคนกลุ่มนั้น แววตาคมกริบคล้ายใบมีด มองจนคนเหล่านั้นตัวสั่นร่นถอยหลัง
ชายผู้นั้นร้องไห้ กดเสียงต่ำเล่า “บุตรชายนายอำเภอ รวมไปถึงสหายกลุ่มนั้นของมัน พวกมันอยู่ร่วมกัน พวกมันล้วนชอบเด็ก…ข้าคิดไม่ถึงว่า พวกมันถึงกับกล้าชิงคนกลางถนน แม่ของเซียนเซียนไม่ยอมปล่อยมือ พวกมันลงมือตีคนจนลมหายใจรวยริน เหลือเพียงเฮือกสุดท้าย! ข้า…นี่มันไม่ไร้กฎหมายไปแล้ว โลกนี้ไม่มีความยุติธรรม ข้าตายไปเสียดีกว่า…”
ชายผู้นั้นเอ่ยไป สีหน้ายิ่งเจ็บปวด ถึงขั้นสะอื้นไม่มีเสียง
เยี่ยเม่ยรับรู้แล้ว โมโหจนตัวสั่น ถึงกับเกิดเรื่องเช่นนี้กับมารดาของแม่นางน้อย
เขายังบอกว่าอะไรนะ บุตรชายนายอำเภอ? ยังมีสหายของพวกมัน? ความหมายก็คือไม่ใช่มีคนแค่คนเดียว?
นางปล่อยชายผู้นั้น มองเขา เอ่ยคำปลอบโยนไม่ออก นางสีหน้าเย็นชา สาวเท้าก้าวไปหน้าพวกสมุนทั้งหลาย กัดฟันเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “พวกเจ้าจับนางไปสินะ ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน รีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้!”
คนทั้งหมดมองเยี่ยเม่ยด้วยความตื่นตระหนก
สมุนคนหนึ่งเห็นสีหน้าเยี่ยเม่ย ในใจเกิดความหวาดกลัว
ทว่าเขายังเอ่ยอย่างกล้าหาญ “คุณชายของพวกเราเป็นบุตรโทนของนายอำเภอ อาศัยเจ้า…”
เยี่ยเม่ยล้วงมีดสั้นออกมาทันที ปาใส่คนผู้นั้น!
มีดเสียบทะลุดวงตาเขา
ลูกตาแหวกออก เลือดไหลออกจากนัยน์ตา สถานที่นี้คละคลุ้งด้วยกลิ่นคาวเลือด
ชาวบ้านบนถนนล้วนตกใจจนร้องออกมา คนจำนวนไม่น้อยหวาดกลัวจนหนีไป
คนผู้นั้นร้องโหยหวนล้มลงพื้น กลิ้งไปกลิ้งมา สายตาที่มองเยี่ยเม่ยอีกครั้งหนึ่ง เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เยี่ยเม่ยกวาดตามองคนอื่นๆ แววตาคมกริบราวใบมีด นัยน์ตาเต็มไปด้วยไอสังหาร “พาข้าไป! อย่าให้ข้าต้องพูดเป็นรอบที่สาม! พาข้าไปตอนนี้ ข้ายังให้โอกาสพวกเจ้ามีชีวิตอยู่อีกหลายชั่วยาม!”