ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง - ตอนที่ 338 ต้องกลับมามีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็วที่สุด
หากไม่ได้เห็นกับตาว่าเฉียวเหลียงต้องผ่านอะไรมาบ้างหลังจากสูญเสียเธอไป เธอคงไม่มีวันได้รู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และเธอคือผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด ดังนั้นเธอคิดว่าความเจ็บปวดและยากลำบากทั้งหลายที่ผ่านมาล้วนคุ้มค่า แม้จะต้องตายไปครั้งหนึ่งเธอก็ไม่เสียใจ เพราะเธอได้เฉียวเหลียงกลับคืนมาในที่สุด
ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก เธอก็มั่นใจอย่างยิ่งในความรักที่เขามีต่อเธอ ดังนั้นจึงไม่มีวันที่เธอจะปล่อยมือจากเขา หากว่าเฉียวเหลียงจะทอดทิ้งเธออีกครั้งด้วยเหตุผลใดก็ตาม เธอก็จะยังอยู่ข้างกายเขาไปจนชั่วชีวิต
ถังซีอิงศีรษะซบไหล่เฉียวเหลียง และกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มด้วยเสียงแผ่วเบา “ฉันมีความสุขมากเลยตอนนี้ ฉันมีคุณปู่สองคน คุณพ่อสองคน คุณแม่สองคน มีพี่ชายหลายคนที่รักฉันทุกคน และยังมีคุณคอยอยู่เคียงข้างฉัน ตอนนี้ฉันจึงพอใจมาก คุณอย่าโทษตัวเองอีกเลย ฉันไม่เรียกร้องอะไรอีกแล้ว”
เฉียวเหลียงมองเธออย่างลึกซึ้ง จุมพิตหน้าผากเธอเบาๆ กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องดูแลตัวเองให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็วที่สุดนะ”
ดวงตาเธอฉายแววงุนงงสงสัย และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียงเธอก็ได้เห็นประกายวาบไหวในดวงตาเขา ถังซีแก้มแดงขึ้นมาในทันใดและพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มอย่างอายๆ “ฉันรู้ค่ะ ฉันจะดูแลตัวเองให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็วที่สุด”
อาหกซึ่งเงี่ยหูฟังบทสนทนาอยู่ มองถังซีที่มีใบหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาผ่านกระจกมองหลังอย่างงงๆ รู้สึกสงสัยอยู่คนเดียวว่า ‘การดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง’ นี่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษอย่างนั้นหรือ ทำไมคุณถังถึงต้องหน้าแดงขึ้นมาอย่างนั้น
เฉียวเหลียงและถังซีซึ่งนั่งอยู่ด้วยกันบนเบาะหลังรถ ไม่ได้รู้เลยว่าอาหกคิดอะไรอยู่ เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทาง ทั้งสองก็ก้าวลงจากรถ ที่หมายคืออาคารแห่งหนึ่งในย่านกลางเมือง ถังซีเลิกคิ้วให้เฉียวเหลียง “ที่นี่ใช่…”
เฉียวเหลียงพยักหน้า จับมือเธอไว้ และมองหน้าอาหก อาหกก้มศีรษะรับ รีบหยิบคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปของตนออกมา แล้วพิมพ์ลงบนแป้นพิมพ์ อีกหนึ่งนาทีต่อมา เขาก็เงยหน้ามองเฉียวเหลียงแล้วยิ้ม “เรียบร้อยครับ”
เฉียวเหลียงจูงถังซีเข้าไปภายในตึก ตรงไปที่ลิฟต์ ถังซีมองดูเฉียวเหลียง “เรามาที่นี่กันทำไมคะ”
เฉียวเหลียงตอบ “มาทำบางอย่างให้คุณปู่”
แล้วถังซีก็นึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้จัดการอะไรกับฉินเปิ่นหยวนเลย นอกจากเอาเงินแปดสิบล้านหยวนมาจากเขา แม้ว่าเธอจะขู่ฉินซินหยิ่งไว้ก็ตาม เธอมองหน้าเฉียวเหลียง กะพริบตาปริบๆ “แล้วฉินเปิ่นหยวนจะไม่รู้เหรอคะ ว่าเป็นเรา”
เฉียวเหลียงยิ้ม “อีกเดี๋ยวไฟฟ้าจะดับ เขามองไม่เห็นเราหรอก เขาจะรู้แค่ว่าตัวเองโดนซ้อม”
“เราสองคนจะซ้อมเขาเองเลยเหรอคะ” ถังซีรู้สึกตื่นเต้น ก่อนหน้านี้เธอเคยอยากจะทำร้ายสมาชิกตระกูลฉินด้วยตัวเธอเอง แต่ไม่เคยมีโอกาส แม้เธอจะมีระบบก็ตาม แต่ระบบนี่ช่วงหลังๆ มานี้ก็ชักจะหยิ่งๆ ออกจะหยิ่งกว่าตัวเธอเองด้วยซ้ำไป! แล้วยัง…
[ระบบแจ้งเตือน : ถ้าหากโฮสต์ไม่ต้องการใช้ระบบนี้แล้ว กรุณากดปุ่ม ‘ออกจากระบบ’ คุณต้องการออกจากระบบเดี๋ยวนี้เลยหรือไม่]
ถังซีอึ้ง ‘…’ เฮ้ อย่าเป็นแบบนี้สิ!
008 ซึ่งหายหน้าไปนานมาก กล่าวขึ้น [ฉันรู้สึกเศร้าใจที่โดนเจ้านายรังเกียจ!]
ถังซีคำรามออกทางจมูก ‘…ฉันก็เศร้าใจเหมือนกัน ที่โดนระบบของตัวเองหลอก คุณรู้ไหม คุณจำไม่ได้หรือว่าทำอะไรไว้กับฉัน ก็เพราะใบประกาศนียบัตรมัธยมต้นที่คุณให้มา ฉันเลยต้องไปเรียนต่อมัธยมปลาย แม้ว่าฉันจะอายุตั้งยี่สิบกว่าแล้ว รู้ไหมว่าใครๆ ก็หัวเราะเยาะฉันกันทั้งนั้น’
008 คำรามออกทางจมูกบ้าง และกล่าวด้วยเสียงหุ่นยนต์ [อย่าไปสนใจคำพูดคนอื่น การเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมตี้อี ในเมือง A เป็นหนึ่งในภารกิจของคุณ คุณไม่รู้หรือ]
ถังซีขมวดคิ้ว ภารกิจอะไร เธอมีภารกิจนี้ด้วยหรือ
008 ทำเสียงหัวเราะขึ้นจมูก [ถ้าคุณไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมตี้อี เหตุการณ์ต่างๆ ที่จะต้องเกิดขึ้นตามมาก็จะไม่เกิดขึ้น มีเหตุผลสมควรที่ต้องมอบประกาศนียบัตรมัธยมต้นให้คุณ ถ้าคุณไม่เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนั้น คนพวกนั้นจะแสดงธาตุแท้ออกมาอย่างรวดเร็วถึงขนาดนี้ได้ยังไง ดังนั้น อย่าได้กล่าวโทษกัน ฉันเก่งกว่า 007 เสียอีก จริงไหม]
“007 เลยเหรอ” ถังซีทำเสียงขึ้นจมูกออกมาดังๆ
เฉียวเหลียงมองหน้าถังซีอย่างงุนงง ถังซีจึงรีบเงียบเสียง แล้วกล่าวขึ้นยิ้มๆ กับเขาว่า “ฉันรู้สึกว่ากำลังแสดงหนังเรื่องเจมส์บอนด์”
เฉียวเหลียงนิ่ง “…” เขาขมวดคิ้วนิ่วหน้า “คุณคิดว่าเขาหล่อเหรอ”
ถังซียิ้มอย่างอ่อนใจ เขาช่างประสาทไวเหลือเกินในเรื่องหึง! เธอพยักหน้า “ใช่สิ คุณไม่คิดเหรอว่าเขาเท่มาก เวลาออกปฏิบัติภารกิจ”
เฉียวเหลียงแยกเขี้ยว ก้มมองถังซี แล้วกล่าวว่า “อยากเห็นดูหนัง 007 ของจริงไหมล่ะ”
ดวงตาของถังซีเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “คุณจะเล่นเป็นเจมส์บอนด์เหรอ”
เฉียวเหลียงหรี่ตาลง ถังซีรู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาทันที รีบเร่งอธิบายว่า “ฉันรู้ๆ คุณเก่งที่สุด คุณหล่อกว่าเจมส์บอนด์อีก พอใจหรือยัง”
“น้ำเสียงไม่จริงใจ!” เฉียวเหลียงจ้องถังซี
ถังซียักไหล่อย่างอดไม่ได้ “พระเจ้าก็รู้ว่าฉันไม่ได้โกหก เฉียวเหลียงเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดสำหรับฉัน!”
เพียงครู่เดียวลิฟต์ก็ขึ้นมาถึงชั้นที่เป็นห้องทำงานของฉินเปิ่นหยวน
ฉินเปิ่นหยวนไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะโดนลักพาตัวในห้องทำงานของตัวเอง ในเวลากลางวันแสกๆ! โจรพวกนี้กล้ามาก! ทำไมถึงไม่มีใครมาช่วยเขาเลย!
เมื่อเห็นท้องฟ้าเริ่มจะมืดลง ฉินเปิ่นหยวนก็แทบจะร้องไห้ออกมา! นี่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยหรือว่าเขาหายไป ถ้ามีใครสักคนมาพบว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาละก็ พรุ่งนี้เขาจะตบเงินรางวัลให้อย่างามเลยทีเดียว!
“อย่าขยับ!” ขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นจากพื้น ชายที่กำลังจ้องปืนอยู่ที่หลังเขา ก็ตะโกนสั่ง
ฉินเปิ่นหยวนรีบทรุดกายคุกเข่าลง มือวางบนศีรษะ อ้อนวอนว่า “นี่คุณ ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ ใจเย็นนะ ระวังปืนด้วย!”
ขณะนั้นนั่นเองประตูก็ผลักเปิดออก ฉินเปิ่นหยวนกำลังจะเงยหน้าขึ้นมองว่าใครเข้ามา ไฟฟ้าก็ดับพรึบลงทันที ภายในห้องทำงานมืดสนิท ฉินเปิ่นหยวนยังไม่ทันเห็นว่าผู้ที่เข้ามาเป็นใคร เขาเห็นแค่ว่าเป็นร่างคนสองคนยืนอยู่ ทั้งคู่มีรัศมีน่าเกรงขามเหนือกว่าคนทั่วไป แล้วเขาก็ได้ยินชายฉกรรจ์ท่าทางโหดที่ยืนอยู่ข้างหลังเรียกคนทั้งสองว่านายน้อย และคุณผู้หญิง
ฉินเปิ่นหยวนมั่นใจว่าสองคนนี้คือคนที่สั่งให้จับตัวเขา!
“ฉินเปิ่นหยวน รู้ตัวไหมว่าทำอะไรผิด”
“ได้โปรดบอกผมด้วยครับ” ฉินเปิ่นหยวนตอบอย่างมีสัมมาคารวะ ตอนนี้เขาเพียงต้องการหลุดพ้นจากหายนะครั้งนี้ ขอเพียงคนพวกนี้ปล่อยเขาไป
ฉินเปิ่นหยวนหันไปมองกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหลัง สายตาเขาเริ่มจะปรับเข้ากับความมืด ชายที่เป็นหัวหน้ากลุ่มเตะฉินเปิ่นหยวนทันที และตะโกนเสียงเข้มว่า “นายน้อยของเราถามคำถามแก! คิดให้ดีก่อนจะตอบ!”
“นายน้อย คุณจับผิดคนหรือเปล่าครับ” ฉินเปิ่นหยวนม้วนตัวกองอยู่บนพื้น อยากจะร้องไห้ออกมาเต็มที “จับตัวผมไว้ทำไมกัน ทำไมไม่บอกมาเลยว่าต้องการเงินหรือจะเอาชีวิต!”
“แกคือฉินเปิ่นหยวนไม่ใช่เหรอ” เสียงนั้นเย็นเยียบราวน้ำแข็ง