วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 986 มาถึงจุดนี้ผมไม่มีมนุษยธรรมเหลือให้แล้วล่ะ
โม่ถิงเอาแต่นิ่งเงียบขณะที่ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ก่อนเอ่ยขึ้นกับประธานฟ่านในจังหวะถัดมา “ประสบการณ์นี้คงประทับใจคุณไม่รู้ลืมเลยสินะครับ”
“พี่ ทำไมพี่ต้องรินชาให้เขาด้วย รู้หรือเปล่าว่าเมื่อกี้เขาทำอะไรกับผมไว้” ประธานฟ่านไม่เข้าใจการกระทำของพี่สาวตัวเอง
ในตอนนั้นเองโม่ถิงพลันถามเธอขึ้นมา “อยู่ไหนล่ะครับ”
เธอมองน้องชายตัวเองด้วยความรู้สึกผิด หากแต่ไม่มีทางเลือกนอกจากส่งข้อมูลทุกอย่างของประธานฟ่านที่มีอยู่ในมือให้โม่ถิง
ดวงตาประธานฟ่านเบิกกว้าง ในจังหวะที่เขาจะโผเข้าไปแย่งข้อมูลมา บอดีการ์ดข้างตัวโม่ถิงก็จับตัวเขาไว้
“พี่ ทำไมถึงให้เขาไปกันล่ะ ผมเชื่อใจพี่นะ ให้ของสำคัญกับโม่ถิงไปได้ยังไง”
“การปกป้องฆาตกรมันก็แย่พอๆ กับการเป็นฆาตกรเสียเองนั่นแหละ แล้วทำไมเธอถึงจะให้มันกับผมไม่ได้ล่ะ” โม่ถิงสวนกลับ
“พี่ครับ…”
“ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อพี่เขยของนาย อย่ามาโทษฉันเลย ยังไงนายก็ทำเรื่องชั่วๆ มาเยอะจนต้องโดนเอาคืนไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว”
“แต่ผมไว้ใจพี่นะครับ” ประธานฟ่านตะโกนอย่างข่มขู่ “หักหลังผมลงได้ยังไงกัน”
“จริงๆ แล้ว เธอหักหลังคุณได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ…” โม่ถิงว่าพลางชูของในมือขึ้นมา “แต่เธอก็หักหลังคุณจริงๆ นั่นแหละ แล้วคุณจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีล่ะ”
“โม่ถิง…”
“ผมแค่เจรจาแลกเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ กับพวกเขาเท่านั้นเองแล้วคุณก็ถูกขายซะแล้ว คิดว่าตัวเองสำคัญขนาดไหนกันล่ะครับ” โม่ถิงท้าทาย
“หึ เพราะผมทำให้คุณใจสลายด้วยการทำให้ถังหนิงเกือบแท้งลูกน่ะเหรอ”
เมื่อโม่ถิงได้ยินดังนั้น เขาจ้องหน้าประธานฟ่านเขม็งอย่างเยือกเย็น “สุดท้ายเธอก็ไม่เป็นไรนี่ครับ ขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวังด้วยแล้วกัน”
“นี่น้องชาย ทำไมนายถึงดื้อด้านแบบนี้ล่ะ ทำไมไม่ยอมรับผิดกับประธานโม่แล้วขอโทษเขาซะ นายน่าจะคุกเข่าขอร้องเขาเผื่อจะติดคุกน้อยลงนะ”
“พี่บ้าไปแล้วเหรอ คุกเข่าเนี่ยนะ” เขาโวยวาย “พวกพี่ทั้งสองคนเสียสติไปแล้ว! ผมบอกได้เลยว่าบ้าไปแล้ว!”
“แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้วเหรอ ผมยังไม่ได้เริ่มเลยนะ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เป็นการการเอาคืนจากภรรยาผมเท่านั้นแหละ”
ประธานฟ่านถูกบอดีการ์ดจับตัวไว้ เขาจึงไม่อาจตอบโต้ได้ “โม่ถิง คุณต้องการอะไร บอกผมมาตรงๆ เดี๋ยวนี้!”
“ทำไมคุณรีบร้อนนักล่ะ อีกสักพักกว่าตำรวจจะมาถึงนะครับ…” โม่ถิงเอ่ยขณะนั่งอยู่ จากนั้นจึงหันไปทางพี่สาวประธานฟ่านก่อนบอก “พวกคุณสองคนออกไปก่อนก็ได้ครับ”
เธอปรายตามองน้องชายตัวเอง และรีบออกไปจากบ้านพร้อมสามีตัวเอง
เหลือเพียงโม่ถิง บอดีการ์ดของเขา กับประธานฟ่าน
“ด้วยข้อมูลที่อยู่ในมือผม น่าจะพอให้คุณถูกตัดสินโทษประหารได้เลยนะครับ” โม่ถิงพูดพร้อมชูหลักฐานในมือขึ้นมา
“โม่ถิง อย่างที่ภรรยาของคุณพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าต่อให้ผมตายในมือของคุณวันนี้ ผมก็ยังมีลูกชายและลูกคนอื่นๆ อีกหลายคน”
“พูดถึงลูกของคุณแล้ว…” โม่ถิงนิ่งไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยต่อ “คุณไม่ได้สังเกตบ้างเหรอว่าลูกหกในเจ็ดคนของคุณหน้าตาไม่เหมือนคุณเลยน่ะ ดูเหมือนว่าคนรักของคุณอาจจะมีชู้ซะแล้วล่ะครับ
“หลังจากส่งคุณเข้าคุก ผมจะไปตรวจสอบทีละคนให้แล้วกันนะ” โม่ถิงหัวเราะ
“ฮึ่ม” ประธานฟ่านโมโหฮึดฮัดอย่างไม่ยอมแพ้ “คุณทำได้แค่นี้เหรอ”
โม่ถิงไม่ได้ปริปากออกมาสักคำขณะที่ทำท่าทางสั่งบอดีการ์ดคนหนึ่ง ก่อนเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของประธานฟ่านจะดังขึ้นในจังหวะถัดมา
“แขนขวาของเขาน่าจะหักแล้วครับ” บอดีการ์ดคนหนึ่งบอก
“หักอีกข้างด้วยก็ได้นะ ยังไงเขาก็ต้องรักษาอยู่แล้ว”
ประธานฟ่านเจ็บปวดแทบทนไม่ไหว เดิมทีเขาคิดว่าโม่ถิงคงไม่ใช่วิธีแบบที่คนในวงการใต้ดินใช้กัน ที่ไหนได้ เขาโหดเ**้ยมเหลือเกิน
“ผมรู้ว่าคุณเกี่ยวพันกับคนในวงการใต้ดินเลยมีเส้นสายเยอะ แต่ข้อมูลที่มีอยู่ในมือผมก็เพียงพอที่เปิดโปงทุกคนที่คุณมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหมายความว่าบรรดาลูกสมุนและพี่น้องผู้สมคบคิดของคุณจะย่อยยับในเร็วๆ นี้นี่แหละครับ”
“ผมยังมีเงินอยู่ ผมจ้างทนายความได้ คุณทำอะไรผมไม่ได้หรอก…”
“คุณหมายถึงตงอิ่งเหรอ แต่ว่าเมื่อบ่ายนี้ผู้ถือหุ้นของคุณทั้งหมดถอนหุ้นไปหมดแล้วนะ” โม่ถิงจ้องหน้าประธานฟ่านอย่างถือดี ท่าทีที่ไม่ค่อยได้เห็นบนใบหน้าของเขานัก “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพี่สาวของคุณนะครับ ทันทีที่เธอบอกผู้ถือหุ้นว่าน้องชายของตัวเองเป็นฆาตกร พวกเขาก็พากันถอนหุ้นออกกันไปหมด
“ผมได้ซื้อหุ้นที่ไม่มีใครต้องการเอาไว้แล้วล่ะ แล้วยังมีส่วนของพี่สาวของคุณอีกด้วย ตอนนี้ผมเลยมีหุ้นมากกว่าคุณเสียอีก ฉะนั้น
“เดือนหน้าผมก็จะกำจัดตงอิ่งได้ ทุบตึกและเปลี่ยนให้เป็นสุสานซะ…”
ประธานฟ่านจ้องโม่ถิงและว่าเย้ยหยัน “นี่เป็นธาตุแท้ของคุณสินะ ต่อหน้าถังหนิงคุณก็แค่ทำเป็นคนดี…”
“ผิดแล้วครับ…ผมจะทำตัวเลือดเย็นต่อสัตว์เดรัจฉานเท่านั้นแหละ”
หลังพูดจบ โม่ถิงก็มองนาฬิกาบนข้อมือ “ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อยก่อนตำรวจจะมาถึง ทำไมเราไม่พาเขาขึ้นไปชั้นบนแล้วเล่นกับเขาสักหน่อยล่ะ”
เมื่อนึกถึงความน่ากลัวในตอนที่ร่วงลงมาจากตึก รอยเปียกก็พลันปรากฏขึ้นบนกางเกงของประธานฟ่าน
เมื่อโม่ถิงเห็นเช่นนั้น เขาเหยียดยิ้ม แต่ไม่มีพูดอะไร กลับพลิกเปิดข้อมูลในมือและเริ่มอ่านออกมาเสียงดัง
“ลัวชี…”
ทันทีที่ประธานฟ่านได้ยินชื่อนี้ เขาพยายามพุ่งเข้ามาด้วยความโกรธ
“อย่ามายุ่งกับคนของผมนะ”
“แล้วคุณยุ่งกับผู้หญิงของคนอื่นได้เหรอ” โม่ถิงถามอย่างเย็นชา
เขาอ่อนเสียงลงในท้ายที่สุดเมื่อเห็นว่าโม่ถิงไม่ยอมรามือ “ถ้าคุณปล่อยเขาไป ผมจะขอโทษและคุกเข่าต่อหน้าคุณก็ได้”
“ดูเหมือนว่าการแตะต้องคนคนนี้จะทำให้คุณไม่พอใจมากเลยสินะครับ”
“โม่ถิง ถ้าคุณกล้าทำอะไรเขา ผมจะไม่ปล่อยคุณไปแน่”
“ผมไม่เคยคิดจะทำให้เรื่องในวงการบันเทิงใหญ่โตขนาดนี้เลยนะ แต่ดูท่าคุณจะชอบอย่างนี้” โม่ถิงกดเสียงขู่ “ทั้งเรื่องของหลินเฉี่ยน ซย่าหันโม่ และภรรยาของผมที่เกือบแท้งลูก คุณคิดว่าผมจะทำให้คุณต้องชดใช้ทั้งหมดในคราวเดียวไหมล่ะ”
“ประธานโม่ ได้โปรดปล่อยลัวชีไปเถอะ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่ผมทำ เขาไม่ได้เกี่ยวข้องเลยสักนิด!”
โม่ถิงนั่งตัวตรงขณะที่มองประธานฟ่าน ก่อนฉีกข้อมูลของผู้ชายคนนั้นต่อหน้าเขา “เพราะคุณเขาเลยต้องทุกข์ทรมาน
“แค่เพราะว่าผมไม่ได้ลงมือ คุณคิดว่าจะมาทำร้ายผมได้ง่ายๆ เหรอ
“ที่ผมไม่ได้โจมตีเพราะกำลังปล่อยให้คุณได้ใจ…
“ประธานฟ่าน ไม่มีประโยชน์อะไรจะมาอ้อนวอนผมหรอก มาถึงจุดนี้ผมไม่มีมนุษยธรรมเหลือให้แล้วล่ะ”
พูดจบโม่ถิงก็เอนตัวพิงเก้าอี้พร้อมใบหน้าหล่อเหลาที่ซ่อนอยู่ภายใต้เงามืด
ประธานฟ่านจ้องมองโม่ถิงอย่างจนปัญญา เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทรุดเข่าลงกับพื้น “คุณอยากให้ผมคุกเข่าไม่ใช่เหรอ
“ผมจะยอมคุกเข่าให้เดี๋ยวนี้ แค่คุณปล่อยคนของผมไป”
“ทีนี้รู้สึกกลัวขึ้นมาแล้วเหรอครับ ทำไมคุณไม่กลัวตอนที่ทำร้ายหลินเฉี่ยน ซย่าหันโม่ รวมถึงภรรยาของผมบ้างล่ะ”