วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ - ตอนที่ 715 ของขวัญชิ้นใหญ่
เนื่องจากต้วนจิ่งหงต้องพบซ่งซินหลังจากกลับมาถึงเมืองจีน เธอจึงกลับมาเพียงลำพังด้วยเครื่องบินคนละลำกับสมาชิกวงที่เหลือ
ซ่งซินบอกว่าจะมาต้อนรับเธอกลับบ้าน ดังนั้นหญิงสาวจึงรออยู่ที่สนามบินตามสัญญา ทว่าหลังจากที่ต้วนจิ่งหงไปถึง หญิงสาวเดินไปตรงหน้าซ่งซินแต่ซ่งซินกลับจำเธอไม่ได้
ในอดีต ต้วนจิ่งหงใส่แต่เสื้อออกกำลังกายหรือเสื้อผ้าที่สวมได้ทั้งสองเพศเท่านั้น เมื่อไหร่กันล่ะที่เธอเคยสวมกางเกงยีน โค้ตตัวยาวและรองเท้าส้นสูง
ที่สำคัญที่สุด จู่ๆ ต้วนจิ่งหงก็มีออร่าที่โดดเด่นขึ้นมา เมื่อเทียบกันแล้ว ซ่งซินในชุดลำลองนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ช่วยของต้วนจิ่งหงเลยทีเดียว
“ทำไมอยู่ๆ เธอถึงมีสไตล์ขึ้นมาล่ะ” ซ่งซินไม่ได้สังเกต แต่คำพูดของเธอเปี่ยมไปด้วยร่องรอยของความอิจฉาอย่างไม่รู้ตัว
“เมื่อก่อนฉันไม่รู้จักจัดระเบียบตัวเองให้ดี ในเมื่อฉันไปถึงเกาหลีใต้แล้ว ฉันก็คิดว่าฉันจะเอาสิ่งที่ได้เรียนรู้จากที่นั่นกลับมาสักอย่างสองอย่าง ดูไม่แย่ใช่ไหม” ต้วนจิ่งหงเอ่ยถามพลางกลั้นยิ้ม
“ฉันชินกับลุกของเธอเมื่อก่อนมากกว่า” ซ่งซินพูดไม่ได้ว่าต้วนจิ่งหงไม่ได้รับอนุญาตให้สวยกว่าเธอ ดังนั้นหญิงสาวจึงทำได้แค่บอกใบ้ว่าเสื้อพวกนี้ไม่เข้ากับต้วนจิ่งหง
ต้วนจิ่งหงเข้าใจว่าซ่งซินกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เธอแสร้งทำเป็นไม่สนใจพลางเปิดประตูรถและนั่งลงข้างๆ เธอ “ตอนนี้เราจะไปที่ไหนกันเหรอ”
“พักหลังมานี้ฉันไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับถังหนิงเลย เธอได้ยินอะไรมาบ้างไหม” ซ่งซินถามเรื่องถังหนิงจากต้วนจิ่งหงทันทีที่มีโอกาส แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องถามต้วนจิ่งหงก็ตาม เพราะถึงอย่างไร หญิงสาวก็รู้ดีว่าต้วนจิ่งหงไม่มีทางรู้เรื่องอะไรทั้งนั้น บางทีอาจเป็นเพราะหญิงสาวรู้สึกสิ้นหวังกับการหาความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงนี้ของถังหนิง
ในความเป็นจริงแล้ว ต้วนจิ่งหงรู้ แต่เธอบอกซ่งซินไม่ได้
“เธอรู้ดีกว่าฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ ถึงมาถามฉันล่ะ”
“ก็แค่ถามดูน่ะ” แม้แต่ซ่งซินเองก็รู้สึกว่าตัวเองไร้สาระอยู่เล็กน้อย “อีกอย่างหนึ่ง วันนี้ฉันได้รับคำตัดสินของคดีกับไห่รุ่ย ถึงจะสูญเสียไปบ้าง แต่ฉันก็หาทางเป็นอิสระจากพวกเขาได้ กลับไปดื่มฉลองให้กับอิสรภาพของฉันกันเถอะ!”
“เอาสิ” ต้วนจิ่งหงตอบอย่างสบายๆ
แต่ในช่วงเวลาเดือนหรือสองเดือนสั้นๆ นี้ โลกได้เปลี่ยนไปมาก ต้วนจิ่งหงไม่ใช่ผู้จัดการตัวเล็กๆ ที่ต้องคอยสนองความต้องการของซ่งซินอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอได้เดบิวต์ในฐานะสมาชิกวงเกิร์ลกรุปของไห่รุ่ยที่สะดุดตาที่สุด
บางทีอาจเป็นเพราะเครื่องแต่งกายของต้วนจิ่งหงหรืออาจเป็นเพราะออร่าของเธอ ทันทีที่หญิงสาวทั้งสองก้าวเข้าไปในบาร์ร้านประจำที่ปลอดภัย ผู้ชายจำนวนมากพบว่าตัวเองมองไปทางเธอและไม่สนใจซ่งซิน
“เธอจะเด่นเกินไปแล้วนะ ทำไมถึงไม่เปลี่ยนไปแต่งลุกเดิมล่ะ ถ้าผู้คนรู้ว่าฉันมาที่บาร์นี้ ฉันอาจจะได้ขึ้นพาดหัวข่าวอีกก็ได้” ซ่งซินไม่พอใจเลย เธอรู้สึกไม่สบายใจกับสถานการณ์ในตอนนี้ โดยเฉพาะเมื่อจู่ๆ ผู้ติดตามคนเดิมของเธอกลายเป็นคนที่น่าดึงดูดกว่าตัวเธอเอง ความไม่พอใจนั้นรู้สึกเหมือนกับมีมดเป็นพันๆ ตัวกำลังกัดแผ่นหลังของเธออยู่
แต่เธอคิดว่าต้วนจิ่งหงเป็นใครกัน กี่ปีมาแล้วที่หญิงสาวติดตามเธอ ต้วนจิ่งหงจะไม่รู้หรือว่าจริงๆ แล้วเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ดังนั้นต้วนจิ่งหงจึงแอบยิ้ม “นี่คือชุดที่ธรรมดาที่สุดของฉันแล้วนะ งั้นเราไปดื่มกันที่บ้านของเธอแทนไหมล่ะ”
ซ่งซินไม่ต้องการถูกเปรียบเทียบกับต้วนจิ่งหงไปมากกว่านี้ ดังนั้นหญิงสาวจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ตกลง คุณปู่ของฉันไม่ได้เจอเธอมานานแล้วด้วย”
จากนั้นหญิงสาวทั้งสองก็ออกจากบาร์แห่งนั้นและมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลซ่ง
ขณะที่พวกเขากำลังเข้าไปในบ้าน รอยยิ้มอันมั่นใจของซ่งซินก็กลับมาปรากฏบนใบหน้าของเธออีกครั้ง แม้ต้วนจิ่งหงจะหน้าตาสะสวยกว่าเธอ แต่ต้วนจิ่งหงก็ยังไม่มีคุณปู่ที่เล่นการเมืองหรือมีพื้นหลังครอบครัวที่น่าประทับใจ
สองสาวก้าวไปในห้องนอนของซ่งซินดังปกติและซ่งซินก็รีบตรงไปที่ตู้เก็บของเพื่อหยิบไวน์แดงออกมาหนึ่งขวด ขณะที่หญิงสาวรินไวน์ให้ต้วนจิ่งหง เธอก็ร้องออกมาว่า “ฉันดีใจจริงๆ นะที่เรากลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อน!”
ต้วนจิ่งหงรับแก้วไวน์มาจากซ่งซินแล้วชนแก้วกับเธอ ทว่าหลังจากที่ดื่มกันไปสักพัก ซ่งซินก็พลันลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ฉันซื้อเสื้อผ้าใหม่มาเยอะเลย แถมพวกแฟนคลับก็ส่งมาให้เพิ่มอีก ฉันใส่คนเดียวไม่หมดแน่ งั้นเธอเอากลับบ้านไปบางส่วนซะนะ”
ต้วนจิ่งหงมองซ่งซินที่ค้นห้องของเธออย่างขวักไขว่ ตอนนั้นเองที่ต้วนจิ่งหงตระหนักว่าตลอดหลายปีมานี้ซ่งซินทำให้ตัวเองรู้สึกเหนือกว่าอย่างไร ผู้หญิงคนนี้ทำเหมือนเธอเป็นกิจการกุศล
ต้วนจิ่งหงไม่ตอบโต้ในทันที หญิงสาวเพียงแต่เชิดหน้าขึ้นแล้วพูดกับซ่งซินว่า “วางไว้อย่างนั้นแหละ ฉันจะเอาไปด้วยตอนฉันกลับ”
เมื่อเห็นว่าท่าทางของต้วนจิ่งหงยังคงเหมือนในอดีต ซ่งซินก็ผ่อนคลายลงในที่สุดแล้วกลับไปอยู่ข้างๆ เธอ “เซียวอวี่เหอกำลังจะเปิดสตูดิโอให้ฉัน เราจะมีอิสระกันเยอะขึ้นมากเลยล่ะหลังจากนั้น”
“นั่นก็ไม่เลวนะ” ต้วนจิ่งหงพยักหน้า
“ยังไงก็เถอะ ยินดีต้อนรับกลับมานะต้วนจิ่งหง!” ซ่งซินดึงต้วนจิ่งหงเข้าไปกอด “ฉันต้องการเธอมากจริงๆ หวังว่าเราสองคนจะต่อต้านไห่รุ่ยไปด้วยกันและมิตรภาพของเราจะคงอยู่ตลอดไปนะ น่าเสียดายที่เราไม่ได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับถังหนิงเลย นังสารเลวนั่นคงจะคลอดลูกในเร็วๆ นี้แหละ”
“ท้ายที่สุดแล้วเธอจะได้รู้เรื่องเขาเองนั่นละ” ต้วนจิ่งหงจิบไวน์ แววตาหนึ่งที่ซ่งซินไม่เข้าใจได้วาบผ่านดวงตาของต้วนจิ่งหงไป
“ไม่สำคัญหรอก นังโสเภณีนั่นถูกกดขี่อยู่และไม่นานก็จะตกยุคไปเอง เธอรู้หรือยังว่าเมื่อเร็วๆ นี้ไห่รุ่ยเพิ่งตั้งวงเกิร์ลกรุปใหม่ขึ้นมา…”
รู้หรือยัง
ต้วนจิ่งหงแอบเยาะเย้ยในใจ เธอไม่ได้แค่รู้เรื่องเพียงอย่างเดียวหรอกนะ แต่เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเลยละ!
ซ่งซินพูดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ในปักกิ่งต่อ ทว่าต้วนจิ่งหงรู้ทุกอย่างหมดแล้ว
ด้วยเหตุนี้ หญิงสาวทั้งสองจึงนั่งคุยกันตั้งแต่เช้าจนบ่าย เดิมทีซ่งซินวางแผนจะขับรถไปส่งต้วนจิ่งหงที่บ้านหลังจากเสร็จธุระกันแล้ว ทว่าต้วนจิ่งหงปฏิเสธข้อเสนอนั้น “ฉันลืมบอกเธอไปน่ะว่าฉันย้ายที่อยู่แล้ว ขอฉันจัดบ้านก่อนสักหน่อยแล้วฉันจะบอกที่อยู่เธออีกทีนะ”
แม้ซ่งซินจะค่อนข้างสับสน หญิงสาวก็ไม่ได้คัดค้านอะไร เธอเพียงแต่ยื่นเสื้อผ้าที่ตัวเองไม่ต้องการให้ต้วนจิ่งหงและมองเพื่อนสาวออกจากบ้านไป…
ทว่าต้วนจิ่งหงกลับโยนเสื้อผ้าอันหรูหราเหล่านั้นลงถังขยะที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของซ่งซินก่อนจะโทรหาเอเจนซี่ของเธอ ครู่ต่อมารถตู้ของบริษัทก็มาถึงและพาต้วนจิ่งหงกลับไปยังอะพาร์ตเม้นต์ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้เธอ
ทันทีที่ถึงบ้าน สมาชิกวงคนอื่นๆ ก็พากันล้อมเข้ามาหาหญิงสาวอย่างรวดเร็วแล้วเอ่ยถามว่า “นังนั่นพูดว่าไงบ้าง”
“ทำไมฉันถึงไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อนเลยว่าหล่อนน่ารังเกียจแค่ไหน”
“เมื่อก่อนใครใช้ให้เธอทำตัวน่ารังเกียจแบบมันล่ะ ดีแล้วที่เธอเปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น มาเตรียมมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้นังสารเลวนั่นกันเถอะ!”
ต้วนจิ่งหงพยักหน้าและรู้สึกตลกเล็กน้อย “พวกเธอรู้ไหม แค่เพราะฉันเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปนิดหน่อย ซ่งซินถึงกับรู้สึกว่าฉันขโมยความโดดเด่นไปจากหล่อน และขอให้ฉันกลับไปใส่เสื้อผ้าเหมือนเดิมเลยนะ และเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าใครใหญ่ หล่อนเอาเสื้อผ้าที่ตัวเองไม่อยากได้มาให้ฉันเพียบเลย!”
“อย่าใส่ใจหล่อนเลย ตอนนี้อนาคตของเธอเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดนะ! หล่อนไม่มีทางเทียบติดหรอก!”
“เตรียมตัวเอาไว้ได้เลย การแสดงในปักกิ่งไม่หวานหมูแน่ๆ เพื่อทำให้คุณซ่งต้องกระอักเลือดด้วยความโกรธ พวกเราต้องทำออกมาให้ดีที่สุด!” กัปตันวงพูดปลุกใจ
“เธอพูดถูก มาซ้อมกันเถอะ…!”