ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ - ตอนที่ 706 งานแต่งงาน
ดอกไม้และพรมที่ปูไว้หน้าทางเข้าของโบสถ์มหาวิหารเซนต์พอลได้ถูกเตรียมเอาไว้แล้ว
วันนี้ช่างเป็นวันที่อากาศดีและเหมาะสำหรับงานแต่งงานเสียจริงๆ
ข้างๆ ถนนยังมีคนธรรมดามารวมตัวกันด้วยอย่างกับว่าพวกเขากำลังรออะไรบางอย่าง ทุกคนถือกระดาษสีสำหรับงานรื่นเริงไว้ในมือและพร้อมที่จะโปรยกระดาษพวกนี้ออกมาทุกเมื่อ
เฉิงชิวเฉี่ยวเห็นแบบนั้นก็หน้าแดง “อย่าบอกนะว่าพี่ซู่กำลังจะแต่งงานน่ะ!”
เฉินจู่อานได้ยินแล้วเม้มปาก “โห! เขาอยากจะแต่งงานตอนที่มีคนตั้งหลายคนอยากฆ่าเขาเนี่ยนะ! น่าทึ่งจริงๆ เลย! งานแต่งคนอื่นไม่น่าจะจัดใหญ่ได้เท่านี้เลยล่ะ”
เขาคิดในใจว่ามีแต่หลี่ว์ซู่เท่านั้นแหละที่ควรมีงานแต่งยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้
เฉิงชิวเฉี่ยวมองดูกระดาษสีแล้วทำหน้าเครียด “แต่ฉันกลัวพลุแล้วก็ดอกไม้ไฟมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วอะ ฉันอาจจะร้องกรี๊ดออกมาก็ได้นะ”
“งั้นนายเป็นตัวเหนียน [1]
งั้นเหรอ” เฉินจู่อานเงียบไปแล้วถาม
เฉิงฉิวเฉียวเงียบไปเลย เฉาชิงฉือและหันโหยวก็ไม่พูดอะไรออกมาเหมือนกัน ตัวเหนียนงั้นเหรอ!
บ้าอะไรกัน มุกแป้กได้อีก
เฉิงชิวเฉี่ยวเลยเหน็บกลับ “พี่จู่อ่าน ดีใจด้วยนะที่เริ่มจะเหมือนพี่ซู่ไปได้สักครึ่งหนึ่งแล้ว”
“ขอบใจ” เฉินจู่อานตอบกลับอย่างภูมิใจ
“พี่ซู่น่ะไม่เป็นไรหรอกเพราะพี่เขาแข็งแกร่ง แต่ผมว่าพี่จะโดนอัดเข้าสักวันเพราะพูดอย่างนี้” เฉิงชิวเฉี่ยวหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“พล่ามอะไรของนาย รีบๆ เดินเข้าได้แล้ว ไอ้บ้า!” หน้าเฉินจู่อานเครียดขึ้นมาทันที
“ฮ่าๆๆ” เฉิงชิวเฉี่ยวหัวเราะขึ้นมาอีกที มีแต่หลี่ว์ซู่เท่านั้นจะเข้าข้างเฉินจู่อาน
ตอนนี้ก็มีรถหรูก็ฝ่าฝูงชนมาหยุดตรงหน้าโบสถ์เซนต์พอลแล้ว หลี่ว์ซู่เดินลงมาจากรถและอุ้มคอรัลไว้ในอ้อมแขน คอรัลเปิดตาของเธอขึ้นมาและมองเห็นฝูงชนที่กำลังเริงร่าอยู่
ทันใดนั้นก็มีดอกไม้กระดาษกระดาษสีในงานรื่นเริงก็ลอยอยู่ทุกที่ หลี่ว์ซู่เดินบนพรมแดงเข้าไปขณะที่อุ้มคอรัลไว้ในแขนเหมือนกับความฝัน
พวกคาร์เทลเป็นคนจัดงานนี้ เมื่อหลี่ว์ซู่บอกว่าเขาอยากพาคอรัลไปที่โบสถ์เซนต์พอล ทุกคนก็เข้าใจความหมายของคอรัลหมด ยกเว้นแต่หลี่ว์ซู่เท่านั้น
พวกเขาก็เลยพูดกันว่างานฉลองนี้จัดขึ้นเพื่อยืนหยัดอยู่ข้างความยุติธรรม
เมื่อหลี่ว์ซู่เดินผ่านเฉินจู่อาน เฉิงชิวเฉี่ยวและหันโหยว เขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
เฉินจู่อานไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย “ถึงผมจะไม่ได้คาดหวังมาเห็นอะไรแบบนี้ แต่โลกของผมก็กลับมาสั่นไหวอีกครั้งเมื่อผมได้มาเจอพี่ซู่อีกรอบกับตาตัวเอง…”
“พี่ซู่ครับ พี่เป็นไอดอลของผมเลย!” เฉิงชิวเฉี่ยวร้อง
งานแต่งงานนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายอย่างยิ่งใหญ่ไปทั้งเมืองโอลเบีย และนี่เป็นเพราะหลี่ว์ซู่คนเดียว
ผู้มีพลังหลายๆ คนเริ่มจะออกไปข้างนอกเพื่อล้อมโบสถ์เซนต์พอลเอาไว้อย่างอุกอาจ แต่พวกคนธรรมดายังยืนอยู่เฉยๆ กัน
หลี่ว์ซู่เดินเข้าไปในโบสถ์ต่ออย่างมั่นคง ที่นั่งทั้งสองข้างทางนั้นว่างเปล่า เขาได้ยินเสียงความวุ่นวายจากข้างนอกแต่เขาไม่คิดจะสนใจ
เขาเดินฝ่าความวุ่นวายไปทางที่บาทหลวงอยู่พร้อมกับอุ้มคอรัลไว้ในอ้อมแขน
ไม่มีเด็กถือดอกไม้ หรือเด็กถือแหวนและเทียนที่จุดสว่างรออยู่อะไรทั้งนั้น
ทำให้งานแต่งงานนี้ทั้งยิ่งใหญ่และเรียบง่ายในเวลาเดียวกัน
หลี่ว์ซู่ไม่มีแหวน เขาเลยเอากระป๋องโค้กปลอมสองกระป๋องที่เขาเก็บในตราแผ่นดินออกมา เขาได้มาจากร้านของจ้าวหย่งเฉิน เขายิ้มแล้วดึงแผ่นเหล็กบนกระป๋องออก อย่างที่คิดไว้เลยว่ากระป๋องยังจะถูกปิดผนึกไว้อยู่
หลี่ว์ซู่ยิ้มอย่างขมขื่น “มีคนบอกว่าถ้าดึงแผ่นเหล็กออกมาจากกระป๋องได้โดยที่กระป๋องไม่ถูกเปิดออกจะโชคดีล่ะ งั้นถ้าใส่เจ้านี้ก็คงจะโชคดีล่ะนะ”
คอรัลที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของหลี่ว์ซู่ยิ้มตอบ ใบหน้าของเธอซีดเซียว เธอรู้ทันทีเมื่อได้เดินทางออกมากับหลี่ว์ซู่ว่าหลี่ว์ซู่จะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอหมายถึงหรอก แต่ก็ไม่เป็นไร
สุดท้ายแล้วเขาก็พาเธอมาที่นี่จนได้ ถึงแม้ว่าจะมีความตึงเครียดอยู่ข้างนอกก็ตาม
บาทหลวงผมสีเทาถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“มีปัจจัยทางกฎหมายอะไรที่จะยุติงานแต่งงานนี้ไว้หรือเปล่า”
ไม่มีเสียงใครตอบอะไรออกไป
“แล้วมีคนคัดค้านงานแต่งงานนี้ไหม”
ไม่มีเสียงตอบอีกรอบหนึ่ง
…
ผู้มีพลังของคาร์เทลข้างนอกเริ่มต่อสู้กับพวกดังเคอร์แล้ว
ขณะนั้นเองเฉินจู่อาน เฉิงชิวเฉี่ยว และหันโหยวก็ช่วยกันกันทางเข้าของโบสถ์ไว้อย่างสุดกำลัง พวกเขาหยุดคนที่พยายามจะเข้าไป
แต่คนพวกนั้นก็มีจำนวนมากกว่าอยู่ดี หลังจากผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีพวกเขาก็บาดเจ็บไปหลายแผล
เฉินจู่อานหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น “ไม่ยุติธรรมเลย! เราต้องมาเฝ้าประตูไว้ให้พี่ซู่แต่งงานอยู่ข้างในเนี่ยนะ”
มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทางข้างนอกโบสถ์เซนต์พอลอย่างสง่างาม ซาตานนั่นเอง
เขามองมาที่พวกเขาสามคน และซาตานก็ถามเป็นภาษาอังกฤษด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “จะสู้จนถึงตายเพื่อคนอื่นทำไม คิดเหรอว่าจะหยุดรถม้าของฉันได้” เฉินจู่อานได้ยินอย่างนั้นก็เกาหัวด้วยความงุนงง
“เขาพูดว่าอะไรอะ” เฉิงชิวเฉี่ยวกลอกตาแล้วแปลให้เขาฟัง แต่เฉินจู่อานก็ยังงงอยู่ดี
“รถม้างั้นเหรอ ทำไมฉันไม่เห็นสักคันเลย”
“ผมจะต้องแปลให้อีกรอบไหมเนี่ย” เฉิงชิวเฉี่ยวถามกลับ
“แน่สิ! รีบแปลมาเลย!” เฉินจู่อานเริ่มจะทนไม่ไหว เฉิงชิวเฉี่ยวเลยถามซาตานเป็นภาษาอังกฤษว่ารถม้าของเขาอยู่ที่ไหน ซาตานเลยหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“ถามไปก็ไร้ประโยชน์ เดี๋ยวก็เข้าใจเองว่าทำไมพวกแกถึงเป็นได้แค่มดตัวเล็กๆ เท่านั้น”
ทันใดนั้นพวกสมาชิกจากดังเคอร์สิบคนก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขา เหมือนกับไม่ยี่หระคนระดับ C ทั้งสามคนเลย ซาตานหลบไปยืนอยู่ข้างๆ แล้วมองดูด้วยสายตาเย็นชา
ทั้งสามคนต่อสู้อยู่ภายใต้การโจมตีนั้นเหมือนเป็นใบไม้ในพายุหนัก แต่ไม่มีใครยอมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกสมาชิกของดังเคอร์ล้มลงไปเลือดอาบ เฉินจู่อานและคนอื่นๆ ก็มีเลือดเต็มตัวเหมือนกัน
เมื่อเฉินจู่อานเตรียมตัวจะสู้ในการโจมตีต่อไป เขาก็มาเห็นว่าสมาชิกของดังเคอร์คนอื่นๆ ตายไปหมดแล้ว เขาก็เลยระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดัง “มีใครจะกล้ามาสู้กับเฉินจู่อานคนนี้อีกหรือเปล่า!”
ซาตานเดินขึ้นมาหยุดหน้าเขา และใบหน้าของเขาก็เย็นชาเป็นน้ำแข็ง เขาเป็นเหมือนยักษ์ที่พร้อมจะบดขยี้เด็กทารกคนหนึ่งแล้ว
ในเวลาที่สำคัญตอนนี้นี่เองก็มีหอกบินโฉบฝ่าฝูงชนมา เธอทำตัวเงียบๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในที่สุดเฉาชิงฉือก็เคลื่อนไหวสักที!
เนี่ยถิงเคยบอกว่าความเยือกเย็นและความสามารถในการปลอมตัวของเฉาชิงฉือทำให้เธอเหมาะกับการเป็นนักลอบฆ่าที่แข็งแกร่งแต่จะเป็นหัวหน้าไม่ได้
แต่อย่างไรเขาก็บอกล่ะนะว่าเฉาชิงฉือจะเป็นนักฆ่าที่เก่งกาจที่สุด!
เธอเคลื่อนไหวได้ถูกเวลามาก และซาตานก็ไม่ทันระวังตัว
ทันใดนั้นซาตานที่เป็นยอดฝีมือที่ใกล้จะเลื่อนเป็นระดับ A อยู่รอมร่อก็รีบวิ่งไปซ่อนตัวโดยใช้สมาชิกของดังเคอร์คนหนึ่งเป็นเกราะป้องกันตัว!
——
[1] เป็นสัตว์ร้ายที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลหรือในภูเขา ชื่อเหนียนหมายถึง “ปี” หรือ “ปีใหม่”