เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 356 พุ่งเป้า
เฉินเยี่ยนมองเฉินกุ้ย พี่ชายตัวเองคนนี้ซื่อเกินไป คนอย่างลูกพี่สวี๋ ถ้าคุยเหตุผลกับเขาแล้วรู้เรื่อง ก็คงไม่ทำจนกลายเป็นอย่างวันนี้หรอก
คนแบบนี้จำเป็นต้องโหดยิ่งกว่าเขา ต้องให้เขารับรู้ความลำบาก รู้ว่าต่อกรกับคนบ้านเฉินไม่ได้ รู้ว่าเดินทางนี้ไม่ได้ เขาถึงค่อยยอม
ตอนนั้นตัวเองคิดไว้แล้วว่าลูกพี่สวี๋จะมาแย่งธุรกิจ แต่ไม่คิดว่าเขาจะไร้ยางอายขนาดนี้
ในเมื่อเขาไร้ยางอาย งั้นตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อแล้ว
“แล้วคุณภาพกระดาษล่ะ? กระดาษที่พวกเขาผลิตมีอะไรต่างจากพวกเราไหม?”
เฉินเยี่ยนไม่โกรธแค้น เพราะไม่มีประโยชน์ แก้ปัญหาไม่ได้
“ยังมีส่วนที่ต่างอยู่ กระดาษพวกเขาไม่ละเอียดเท่าของพวกเรา และไม่เสมอกันเหมือนของเรา พวกเขายังแอบสอดไส้กระดาษเสียอยู่ในมัดกระดาษด้วย แต่ถึงแม้จะทำแบบนี้ ราคาพวกเขาก็ยังต่ำมากอยู่ พ่อคำนวณมาแล้ว ไม่ได้กำไรเลย”
เฉินจงไปสืบมาชัดเจนแล้ว
“แบบนี้เอง”
เฉินเยี่ยนพยักหน้า นิ้วมือเคาะบนโต๊ะเบาๆ เธอกำลังไตร่ตรองอยู่ ดูเหมือนลูกพี่สวี๋คนนี้คิดจะล้มโรงงานพวกเขา รอจนเขาได้เป็นเพียงโรงงานเดียว เขาก็สามารถทำอะไรอย่างที่เขาต้องการได้แล้ว
ลูกพี่สวี๋คิดง่ายเกินไปแล้ว บ้านเฉินเปิดโรงงานกระดาษมาถึงวันนี้ คิดว่ารากฐานจะบางกว่าเขา? ถ้าจะทำสงครามราคาจริง ไม่มีทางที่บ้านเฉินเอาชนะเขาไม่ได้ เพียงแต่เธอคิดว่า ทำแบบนั้นมีแต่จะบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย
เฉินกุ้ยมองเฉินเยี่ยนไม่พูดอะไร ในใจร้อนรนมาก เขารู้ว่าสมองเขาไม่ดีเท่าน้องสาว แต่เจอเรื่องแบบนี้น้องสาวก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันสินะ?
“โรงงานพวกเรายังมีคนมาซื้อกระดาษอีกไหม?”
เฉินเยี่ยนถามอีก
“ก็ยังมี ตอนนี้เขตนอกเมืองเขายังแย่งไปไม่ได้ แต่พ่อได้ยินมาว่าครั้งต่อไปที่เถี่ยจู้ออกรถ เขาคิดจะส่งคนไปตาม ดูว่าพวกเราไปส่งสินค้าที่ไหน จากนั้นเขาจะไปหา และจะแย่งลูกค้าเรา ในเมืองก็ยังมีอีกหลายร้านที่ไม่ได้ไปหาพวกเขา ยังยินดีที่จะสั่งกระดาษกับพวกเรา แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วธุรกิจเราต้องโดนพวกเขาทำจนเจ๊งแน่ ตอนนี้มีหลายร้านที่บอกว่าราคาของเราสูง ต้องการราคาเท่าพวกเขา ทำเอาปวดหัว”
เฉินจงก็หนักใจ
“ถ้าพวกเขาจะส่งคนมาตามเรา ผมสามารถจัดการได้ แต่อย่างที่ลุงบอกถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็ทำอะไรไม่ได้”
สีหน้าเถี่ยจู้มีแววความโกรธ เขาดูถูกคนอย่างลูกพี่สวี๋ และเขาก็ไม่กลัวคนตาม นอกเมืองที่ห่างไกลและไร้ผู้คน คนพวกนั้นที่ตามเขาเตรียมตัวลำบากไว้ได้เลย
“ไม่เป็นไร พ่อคะ พวกที่มาต่อราคา พ่อบอกพวกเขาไป คิดราคาตามพวกเขาได้ แต่จะได้คุณภาพกระดาษเท่ากับฝั่งของลูกพี่สวี๋ แน่นอนกระดาษที่ราคาไม่ถูก ถ้าพวกเขาต้องการ ก็คิดราคาตามนั้นกับพวกเขา”
เฉินเยี่ยนไม่กลัวลูกพี่สวี๋มีลูกเล่น ขอแค่รู้จุดประสงค์ของอีกฝ่าย ก็พอมีวิธีรับมืออยู่
“แต่ราคานั้นพวกเราจะขาดทุน”
เฉินจงคิดว่านี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา
“ไม่ขาดทุนค่ะ พ่อวางใจได้”
เฉินเยี่ยนยิ้มอย่างเย็นชา สายตามีประกายความเยือกเย็นอยู่ ในเมื่อหัวหน้าสวี๋ทำแบบนี้มาก่อน ก็อย่ามาโทษที่เธอทำแบบนี้เช่นกัน
เธอไม่คัดค้านที่มีคนสร้างโรงงานกระดาษ ยังไงโรงงานเดียวก็ทำธุรกิจไม่หมด แต่คุณไม่ทำธุรกิจดีๆ ก็อย่ามาหาว่าเธอไม่เกรงใจ
“เยี่ยนจื่อ เธอมีวิธียังไง?”
เฉินกุ้ยถามอย่างร้อนรน
เฉินเยี่ยนไปดูที่หน้าประตู นอกประตูไม่มีใครแอบฟังอยู่ เธอเลยหันกลับมา จากนั้นเล่าความคิดเธอให้ทั้งสามคนฟัง
“จะใช้ได้เหรอ?”
เฉินจงรู้สึกสงสัย
“ผมว่าได้ ถ้าทำดีๆ พวกเราไม่เพียงไม่ขาดทุน ไม่แน่ยังได้กำไรด้วย อย่าว่าแต่ไม่ได้สักสตางค์เลย ขอแค่หัวหน้าสวี๋ไม่ได้มีจุดจบที่ดี นั่นก็ใช้ได้แล้ว”
เฉินกุ้ยกลับเห็นด้วยกับความเห็นเฉินเยี่ยน
เฉินจงเห็นทุกคนเห็นด้วย เขาก็พยักหน้า
“ปลอบขวัญคนในโรงงานหน่อย บอกทุกคน ให้ตั้งใจทำงาน อย่าไปมีเรื่องกับคนฝั่งลูกพี่สวี๋ อย่าทะเลาะกัน ถ้าพวกเขามาหาเรื่อง ก็ยอมพวกเขาไป ถ้าพวกเขาทำเกินไปจริงๆ ก็ค่อยมาว่ากันอีกที คนที่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ก็แจกของให้มากหน่อย อย่าแล้งน้ำใจกับพวกเขาที่ทะเลาะกันเพื่อโรงงาน พี่เถี่ยจู้ ต้องรบกวนพี่แล้ว ถ้าคนฝั่งนั้นมาหาเรื่อง พี่ช่วยไกล่เกลี่ยหน่อย อย่าปล่อยให้พวกนั้นมาทำร้ายคนพวกเราได้
เฉินเยี่ยนไม่กลัวคนที่โรงงานลูกพี่สวี๋ เพราะทุกคนรู้จักกัน ไม่ถึงกับลงมือหนัก เธอกลัวลูกพี่สวี๋เรียกคนข้างนอกมา
“วางใจได้”
เถี่ยจู้พยักหน้า เขาไม่กลัวเรื่องทะเลาะกันเลย
หลังคุยกันเสร็จแล้ว ที่นี่ไม่จำเป็นต้องให้เฉินเยี่ยนจัดการแล้ว เห็นเฉินจง เฉินกุ้ยและเถี่ยจู้ต่างยุ่งกัน เฉินเยี่ยนก็ออกไปจากห้องทำงาน
เธอไปเดินดูในโรงงาน คนงานยังทำงานกันอย่างกระตือรือร้นอยู่ ขอแค่บ้านเฉินยังไม่ล้ม กระดาษยังขายได้อยู่ มีเงินให้คนงาน คนงานก็ยินดีที่จะทำงานให้บ้านเฉิน
ฝั่งที่เก็บของกระดาษก็กำลังคุยกันเรื่องนี้อยู่ เฉินเยี่ยนเดินไป คุณยายสองคนแล้วยังมีพี่สะใภ้เจิ้งอวี๋ต่างถามเฉินเยี่ยนว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างเป็นห่วง แล้วยังบอกว่าถ้าโรงงานลำบาก สามารถค้างจ่ายค่าแรงของพวกเธอได้ก่อน
ถึงแม้ค่าจ้างพวกเธอจะไม่เท่าไร แต่เฉินเยี่ยนรู้สึกได้ถึงความใจดีและความเป็นห่วงของพวกเธอ
เฉินเยี่ยนรู้สึกสบายใจมาก เธอปฏิบัติกับทุกคนอย่างมีเมตตา คนอื่นรับรู้ได้ ย่อมต้องตอบแทนอยู่แล้ว
เฉินเยี่ยนขอบคุณถึงเจตนาดีของทุกคน ให้ทุกคนทำงานอย่างสบายใจ บอกว่าโรงงานจะไม่ล้ม และจะไม่ติดค้างจ่ายค่าแรง
เห็นในโรงงานเป็นปกติสุข เฉินเยี่ยนก็ขี่รถกลับไป ลูกยังอยู่ที่บ้าน เธอไม่วางใจ
กลับมาถึงบ้านซิน เด็กสองคนยังดีอยู่ ไป๋ซิ่วเหมยอยู่เป็นเพื่อน ก็ไม่ร้องไห้
จนเห็นเฉินเยี่ยน พวกเขาก็งึมงำยื่นมือออกมาจะให้เฉินเยี่ยนอุ้ม
เฉินเยี่ยนอุ้มเยว่เยว่ ซินเช่อมองมือตัวเองที่ยื่นออกมาโดนแม่ปฏิเสธ แม่อุ้มเยว่เยว่ ไม่อุ้มเขา ปากเล็กก็เบะออก ร้องไห้ขึ้นมา
ไป๋ซิ่วเหมยรีบโอ๋เขา แต่เขาไม่สนใจ ออกแรงจะพุ่งไปหาเฉินเยี่ยน เหมือนว่าถ้าเฉินเยี่ยนไม่อุ้มเขา เขาจะไม่ยอมเลิกรา
เฉินเยี่ยนโอ๋ ซินเช่อค่อยดีขึ้น โดนไป๋ซิ่วเหมยอุ้มแล้วเล่นแกว่งไปมา
เฉินเยี่ยนรู้ว่าไป๋ซิ่วเหมยเป็นห่วง เลยเล่าเรื่องที่โรงงานให้ฟังคร่าวๆ
“คนพวกนี้นิสัยไม่ดีจริงๆ มีคนทำธุรกิจแบบเขาที่ไหนกัน! เธอว่าจะไปบอกพ่อสามีเธอไหม?”
ไป๋ซิ่วเหมยก็โมโหมาก คิดจะไปหาซินชาน
เฉินเยี่ยนกลับไม่คิดจะไปหาซินชาน ถึงแม้ซินชานจะมีอำนาจ แต่เธอไม่อยากพึ่งพาซินชานไปทุกเรื่อง อีกอย่างถึงแม้ซินชานจะออกหน้า ลูกพี่สวี๋นั่นก็รู้จักคนในอำเภอเช่นกัน เขาสามารถพูดได้ว่า เขาแข่งขันอย่างสมเหตุสมผล เขากำไรน้อยหน่อย ไม่เหมือนบ้านเฉินที่เขี้ยว
ราคานี้ไม่มีมาตรฐาน ขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นคนตั้งราคา ดังนั้นถึงแม้ซินชานจะออกหน้า ก็ไม่สามารถว่าลูกพี่สวี๋ได้ คนเขายอมขาดทุน คุณจะทำอะไรได้?
“ป้ารองคะ ป้าวางใจได้ โรงงานสามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยไปหาพ่อ”
เฉินเยี่ยนคิดไว้ก่อนแล้ว
“ก็ได้ ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็บอกนะ ถ้าอยากจะกลับไป ป้าช่วยดูลูกให้”
ไป๋ซิ่วเหมยพยักหน้า
เฉินเยี่ยนตกลง ตอนนี้ไป๋ซิ่วเหมยจะช่วยเธอดูลูกให้ตอนกลางวัน หลังซุนหม่านเซียงกลับไปในเมืองหลังครบเดือน ทุกอาทิตย์ก็จะมาอยู่สองวัน มาดูหลาน แต่ไม่เหมือนตอนครบเดือนที่มาอยู่ที่นี่ทุกวันแล้ว