เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 351 เฉินหู่ลาออกจากโรงเรียน
จนเด็กสองคนเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้ว ก็ป้อนนมไปหนึ่งรอบ พวกเขาจึงหลับ
พวกเขาไม่ร้องไห้ เฉินเยี่ยนก็ได้พักผ่อนด้วย
หวางนิวยิ้มถามเฉินเฟย “ทำไมร้องไห้ล่ะ?
“น้องสาว น้องชายร้องไห้ ผมก็เลยร้อง”
คำตอบเฉินเฟยทำให้คนอารมณ์ดีและขำด้วย
เด็กหลับแล้ว ไม่ต้องให้คนดูแล ทุกคนเลยพูดคุยกันอย่างออกรส
ตอนกลางวันอาหารเพียบเต็มโต๊ะ เฉินเยี่ยนออกเดือน สามารถกินของได้หลายอย่างเลย แค่ไม่สามารถกินเผ็ดได้ เพราะไม่ดีต่อเด็ก
กำลังกินข้าวกันอยู่ ในลานบ้านก็มีเสียงกริ่งรถจักรยานดังมา เฉินหู่และซินเหวยกลับมา
เห็นพวกเขา ทุกคนต่างอึ้งไป เพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์
“ทำไมพวกเธอกลับมากัน? วันนี้ไม่มีเรียนหรือ?”
หวางนิวประหลาดใจมาก
“อย่าพูดเลย ผมไม่อยากเรียนแล้ว”
เฉินหู่โมโหขึ้นมา ซินเหวยอยู่ข้างๆ อยากจะพูดแต่ไม่ได้พูด
“หมายความว่ายังไงไม่อยากเรียนแล้ว? ปีนี้ไม่ได้ให้เจ้าทำงานอะไรเลย ให้เรียนหนังสืออย่างเดียวยังคิดอะไรอีก”
หวางนิวร้อนรนขึ้นมา ผลการเรียนม.ต้นสามปีของเฉินหู่ไม่นับว่าดีมาก แต่ก็ไม่ถือว่าแย่ สอบเข้าม.ปลายโรงเรียนดังไม่ติด แต่โรงเรียนม.ปลายที่เขาเรียนก็ไม่แย่ เธอยังคิดว่าที่บ้านจะสามารถส่งให้เรียนมหาวิทยาลัยต่อด้วยซ้ำ ใครจะรู้ว่าตอนนี้เฉินหู่หนีกลับมาบอกว่าเขาไม่อยากเรียนแล้ว จะไม่ให้เธอโกรธได้อย่างไร
“ยังไงผมก็ไม่เรียนแล้ว อีกอย่างผมไม่ไปแล้วด้วย ผมบอกโรงเรียนไปแล้ว”
เฉินหู่เป็นคนมีความคิดมาก ที่จริงตั้งแต่เด็กเขาก็ไม่ชอบเรียนหนังสือมากอยู่แล้ว ตอนนั้นเฉินเยี่ยนคุยกับเขาครั้งหนึ่งให้เขาขยันเรียน ภายหลังเขาเลยเรียนม.ต้น, ม.ปลาย แต่ลึกๆ แล้วเรื่องการเรียนนี้เขาไม่ได้สนใจมากมาย ที่เขาต้องการไม่ใช่การตั้งใจเรียน สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ มีอาชีพการงานที่มั่นคงในอนาคต
ที่เขาต้องการคือชีวิตที่ตื่นเต้นโลดโผน ไม่ใช่อยู่ในโรงเรียนทั้งวัน
“เจ้ามีความคิดอีกแล้ว เจ้าบอกว่าไม่เรียนก็ไม่เรียนงั้นหรือ? เจ้าคิดต่อต้านหรือ ไป กลับไปเลย กลับไปบอกกับโรงเรียนว่าเจ้าจะเรียนต่อ”
หวางนิวโมโห ชี้ไปที่เฉินหู่ จะบังคับให้เฉินหู่กลับไป
“พอแล้ว แม่ อย่าเพิ่งใจร้อน หู่จื่อเขาไม่อยากเรียนต้องมีสาเหตุ รอหนูถามเหตุผลก่อน”
เฉินเยี่ยนดึงหวางนิวไว้ ให้เธอนั่งลง
“เขาจะมีเหตุผลอะไร?”
หวางนิวอารมณ์เสีย แล้วบ่นขึ้นมาอีกประโยค “ไม่ใช่ว่าเจ้าจะหาคู่แล้วหรอกนะ? บอกมาเจ้าไปหาคู่ แล้วทำอะไรเด็กผู้หญิงจนโดนโรงเรียนไล่ออกใช่ไหม?”
พูดประโยคนี้จบเหมือนเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ จ้องเฉินหู่ตาเขม็ง
เฉินหู่ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเขามุ่งมั่น ดูท่าทางแล้วใครโน้มน้าวก็ไม่ได้ผล
เฉินเยี่ยนมองซินเหวย ส่งสายตาให้ซินเหวย บางครั้งเฉินหู่ดื้อรั้น เขาไม่อยากพูด ต่อให้บังคับเขาก็ไม่มีประโยชน์ ซินเหวยจะเชื่อฟังมากกว่า อีกอย่างซินเหวยเป็นผู้สังเกตการณ์ เวลานี้ให้ซินเหวยบอกสาเหตุมาจะดีกว่า
“คุณลุง คุณป้า พี่ชาย พี่สะใภ้ ที่จริงเรื่องนี้โทษหู่จื่อไม่ได้”
ซินเหวยจั่วหัวขึ้นมา จากนั้นจากที่เขาเล่า คนบ้านเฉินรู้เหตุผลที่เฉินหู่ไม่ไปเรียนแล้ว
เฉินหู่มีเรื่องผู้หญิงที่โรงเรียนจริง
ปีนี้เขาอายุสิบเจ็ด เลยตรุษจีนไปก็อายุสิบแปด สูง 178 เซนติเมตร โตเป็นหนุ่มแล้ว หน้าตาก็หล่อ นอกจากผิวจะคล้ำไปหน่อย แต่หลายปีนี้เขาไม่ได้ทำงาน เลยขาวขึ้นมาไม่น้อยเลย สีผิวถือว่าปกติ แต่เทียบกับเฉินเยี่ยนและซินห้าวแล้ว เขายังคล้ำกว่าหน่อย
แต่ผิวคล้ำไม่ใช่เรื่องผิดปกติ รูปร่างหน้าตาเฉินหู่ถือว่าดีมาก
อายุเท่านี้ย่อมมีหญิงสาวมาชอบ ที่โรงเรียนเฉินหู่ก็เป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจ
เพราะเขากระตือรือร้น มีน้ำใจกับเพื่อนฝูง ฐานะก็ไม่แย่ คนรอบตัวเขาไม่น้อยเลย
ในนั้นมีผู้หญิงสองคนชอบเขามาก
ส่วนเฉินหู่ เขาต่างดีกับผู้หญิงทั้งสองคนนี้ ไม่ใช่ว่าเขาเจ้าชู้ แต่เขาไม่เคยมีความรักมาก่อน เพียงแต่รู้สึกว่าผู้หญิงสองคนนี้ดีกับเขา เขาก็เลยดีกับเธอ ส่วนใช่ความชอบไหม เขาไม่รู้จริงๆ
ระหว่างเขากับผู้หญิงทั้งสองคนก็ไม่ได้มีอะไรกันด้วย อย่างมากก็กินข้าวด้วยกัน พูดคุยกัน จับมือกัน มากกว่านี้ไม่มี
ผู้หญิงสองคนนี้คนหนึ่งเป็นคนในตัวเมืองชื่อหลิวเยี่ยนหง อีกคนอยู่ในหมู่บ้านเกษตรกรชื่อช่างหยุน หน้าตาไม่แย่ คนที่อยู่หมู่บ้านเกษตรกรฐานะยากจน แต่เรียนดี นิสัยก็อ่อนโยน
คนในตัวเมืองที่บ้านฐานะไม่แย่เลย เรียนปานกลาง บุคลิกสดใส
ทั้งสองคนต่างชอบเฉินหู่ ต่างคิดว่าตัวเองเป็นแฟนเฉินหุ่ แต่เฉินหู่กลับปฏิบัติกับทั้งคู่เหมือนกัน ทั้งสองคนเลยแอบทะเลาะกันลับหลัง
ข้างกายช่างหยุนมีเด็กผู้หญิงชื่อช่างเสวี่ย พวกเธออยู่หมู่บ้านเดียวกัน ในใจช่างเสวี่ยก็ชอบเฉินหู่เช่นกัน แต่เฉินหู่ไม่รู้สึกอะไรกับเธอ เธอเลยออกความเห็นในช่างหยุน มีเรื่องลับหลังกันกับหลิวเยี่ยนหง
หลิวเยี่ยนหงก็ตอบกลับพวกเธอ แต่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรมาก
แต่ช่วงก่อนหน้านี้ระหว่างทางกลับบ้าน หลิวเยี่ยนหงโดนคนไม่ดีหลายคนดัก แล้วพวกนั้นทำร้ายย่ำยีหลิวเยี่ยนหง
หลิวเยี่ยนหงลาออก ตอนแรกเฉินหู่ยังไม่รู้เรื่อง จนหลังเขารู้เรื่องก็ไปหาหลิวเยี่ยนหง หลิวเยี่ยนหงผอมกะหร่อง ขังตัวเองไว้ในห้องไม่ยอมออกมา และไม่พูดจา หลังเจอเฉินหู่ก็ร้องไห้
ครอบครัวหลิวเยี่ยนหงยังบอกเฉินหู่ว่า หลิวเยี่ยนหงฝันร้ายทุกคืน แล้วยังจะฆ่าตัวตายด้วย พวกเขาเลยต้องเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นเกรงว่าหลิวเยี่ยนหงจะไม่อยู่แล้ว
พวกเขาก็เสียใจมาก คิดว่าผ่านไประยะหนึ่งแล้วให้หลิวเยี่ยนหงแต่งงานไปที่ไกลๆ แต่งไปอยู่ที่ที่ไม่มีคนรู้เรื่องนี้
หลังเฉินหู่ฟังจบก็เสียใจ แต่เขาปลอบหลิวเยี่ยนหงไม่ได้
เขากลับมาที่โรงเรียนพาซินเหวยและเพื่อนนักเรียนอีกยี่สิบกว่าคนมา พวกเขาไปหาพวกคนร้ายหลายคนนั้น แล้วตีคนพวกนั้น
มีคนไปแจ้งตำรวจ ตำรวจจับพวกเขาไป
เพราะพวกเฉินหู่เป็นนักเรียน และอายุยังไม่ถึงสิบแปด ตำรวจจึงติดต่อโรงเรียน ให้โรงเรียนมารับ
หลังรู้สาเหตุที่ชัดเจน พวกเฉินหู่ทำร้ายพวกเขานั้นมีเหตุผล ทำเพื่อระบายความโกรธแทนเพื่อนนักเรียนหญิง คนพวกนั้นฉุดหลิวเยี่ยนหงไป มีความผิด
ดังนั้นคนพวกนั้นจึงถูกขัง พวกเฉินหู่โดนสั่งสอนเป็นชุด สุดท้ายโดนโรงเรียนพาตัวไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก นักเรียนยี่สิบกว่าคนมีเรื่องทะเลาะ ผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการ หัวหน้าอาจารย์ต่างตกใจกัน พวกเขาต้องการให้พวกเฉินหู่บันทึกความผิด ให้พวกเขาเรียกผู้ปกครองมา แล้วยังต้องแถลงการณ์
เฉินหู่เถียงกับหัวหน้าอาจารย์ บอกว่าหลิวยี่ยนหงเกิดเรื่องแบบนั้น เขาช่วยแก้แค้นให้หลิวเยี่ยนหง ถึงได้ไปตีคนพวกนั้น
แต่หัวหน้าอาจารย์ไม่ฟัง จากนั้นให้เฉินหู่ไปเรียกผู้ปกครอง
เฉินหู่บอกว่าควรสอบสวนเรื่องนี้ก่อน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่หลิวเยี่ยนหงจะโดนคนเลวพวกนั้นมาดักไว้โดยไม่มีสาเหตุ ต้องสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน ต้องตอบคำถามให้หลิวเยี่ยนหง
หาสาเหตุได้แล้วเขาจะยอมรับลงบันทึกความผิด แต่เขาเป็นหัวโจทก์ นักเรียนคนอื่นแค่ฟังคำสั่งเขา หวังว่าโงเรียนจะไม่บันทึกว่านักเรียนคนอื่นทำผิด เขาจะรับผิดชอบคนเดียว
เฉินหู่ยินดีรับความผิดทั้งหมด นักเรียนพวกนั้นต่างขอร้องแทนเฉินหู่ แต่โรงเรียนไม่เห็นด้วยกับคำพูดเฉินหู่ บอกว่าเรื่องของหลิวเยี่ยนหงไม่เกี่ยวอะไรกับโรงเรียน เป็นตัวเธอเองที่มีเรื่องกับคนไม่ดีพวกนั้น บอกว่าหลิวเยี่ยนหงโดนโรงเรียนไล่ออกแล้ว ให้เฉินหู่ไม่ต้องพูดเรื่องหลิวเยี่ยนหงอีก
เฉินหู่โกรธมากทะเลาะกับหัวหน้าอาจารย์
หัวหน้าอาจารย์โกรธมาก คิดว่าเฉินหู่ไม่เชื่อฟัง ให้นักเรียนคนอื่นไปให้หมด แล้วเหลือแค่เฉินหู่คนเดียว แล้วยังบอกให้วันรุ่งขึ้นเขาไปเรียกครอบครัวเฉินมาที่โรงเรียน