เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 288 บ้าไปแล้ว (1)
“ทำไม? ซูเหม่ยลี่ ถึงแม้ถ้าเธอไม่ได้ก็จะทำลาย ก็ควรจะมาลงมือกับซินห้าวและฉัน ทำไมต้องทำร้ายพ่อด้วย?”
เฉินเยี่ยนถามอีก ในเมื่อซูเหม่ยลี่ยอมบอกความจริงแล้ว เธอก็จะถามให้รู้เรื่อง
“น่าขำ ลงมือแค่เธอและซินห้าวจะสนุกอะไร ต้องทำลายครอบครัวพวกเธอทั้งหมดสิ ถึงจะคลายความแค้นในใจฉันได้”
ซูเหม่ยลี่พูดมาถึงตรงนี้ อยู่ๆ ก็เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไป
“เฉินเยี่ยน เธอรู้ไหมว่าฉันเกลียดเธอแค่ไหน เธอสู้ฉันไม่ได้เลยสักนิด แต่เธอกลับได้ซินห้าวไป ฉันดีกว่าเธอทุกอย่าง แต่กลับโดนซินห้าวรังเกียจ ฉันต้องยอมลดตัวลงไปเอาอกเอาใจซุนหม่านเซียงหน้าโง่นั่น แต่ซินห้าวยังคงไม่ชอบฉัน ก็เพื่อผู้หญิงอย่างเธอ เขาเมินฉัน เขาตาบอดไปแล้ว ดังนั้นเขาก็ต้องได้รับบทลงโทษเหมือนกัน เธอแย่งผู้ชายของฉันไป เธอคิดว่าจะได้อยู่กับเขาอย่างมีความสุขทั้งชีวิต เป็นไปได้หรือ?”
“แต่เธอไม่ใช่คนโง่ เรื่องโรงงานม้วนบุหรี่เธอกลับไม่โดนหลอก ทำให้ฉันคาดไม่ถึง ถือว่าเธอโชคดีไป เดิมทีตอนแรกฉันวางแผนจะเล่นงานเธอครั้งต่อไปให้หนักขึ้น ฉันเจอหลิวอี้ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะคุยกับเขา ยังไม่ทันที่ฉันจะเริ่มลงมือ พ่อฉันก็โดนย้ายไป”
ตอนที่พูดมาถึงตรงนี้สายตาซูเหม่ยลี่มีแววเสียใจและเสียดาย
เฉินเยี่ยนถึงได้รู้ว่าตอนนั้นไม่ใช่ว่าซูเหม่ยลี่ไม่คิดจะเล่นงานเธอ เพียงแต่บังเอิญตอนนั้นพ่อของซูเหม่ยลี่โดนย้ายไป เธอเลยตามไปด้วย ดังนั้นจึงไม่มีโอกาส
“สามปีนี้พวกเธอรู้ไหมว่าฉันผ่านมาได้ยังไง? ไปอยู่กับพ่อในเมืองที่ไม่รู้จัก ฟังคนที่นั่นพูดไม่ออก อาหารการกินก็ไม่คุ้นเคย ไม่เหมือนเดิมสักอย่าง เมืองห่วยๆ นั่น ฉันไม่คุ้นเคยเลย อะไรก็ไม่สะดวกสบาย ที่น่าแค้นที่สุดก็คือมีครั้งหนึ่งฉันออกจากบ้านไปคนเดียว แล้ว แล้ว…”
ซูเหม่ยลี่พูดคำว่าแล้วมาสองครั้ง และไม่ได้พูดต่อ สีหน้าเธอเปลี่ยนเป็นดุร้าย เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นความทรงจำที่ไม่ดีมาก
“ช่วงนั้นพ่อฉันยุ่ง ไม่ได้กลับบ้านหลายวัน เขาไม่รู้ว่าฉันโดนไอ้สัตว์เดรัจฉานนั่นทรมานอยู่หลายวัน ไอ้ผู้ชายที่สกปรกอัปลักษณ์นั่นย่ำยีฉัน ฉันจะไม่แค้นได้ยังไง! ต่อมามันปล่อยฉันไป แล้วยังขู่ฉันว่าไม่ให้บอกคนอื่น ไม่อย่างนั้นถึงแม้พ่อฉันจะเป็นข้าราชการ พวกมันก็ไม่กลัว เพราะพวกมันเป็นคนท้องถิ่น”
“เวลานั้นฉันแค้นมากจนอยากจะฆ่ามัน แต่ฉันไม่ได้ทำ ไม่เพียงแต่ฉันไม่ทำ ตั้งแต่นั้นฉันกลับไปหามันบ่อยๆ ให้มันช่วยฉันจัดการเรื่อง จากนั้นฉันรู้ไส้รู้พุงมันหมดแล้ว หลังจากนั้นหนึ่งปีครึ่ง ฉันจัดการให้คนมีปัญหาขัดแย้งกับมัน แล้วมันก็โดนคนตีจนตาย”
“ตอนที่มันตาย ฉันมาปรากฏตัวต่อหน้ามัน ดูมันทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดคลานมาหาฉัน ปากก็ร้องอ้อนวอนให้ฉันช่วยมัน วินาทีนั้นฉันหัวเราะออกมา ฉันกระซิบบอกมัน ว่าฉันเป็นคนหาคนมาทำให้มันตายเอง ฉันเป็นคนให้คนมาลักพาตัวลูกสาวสามขวบของมัน ฉันเป็นคนให้คนเอาลูกชายอายุสองขวบของมันไปข้างบ่อน้ำที่ไม่มีคน เป็นฉันเองที่โยนเด็กคนนั้นลงไปในบ่อน้ำ ให้เด็กนั่นจมน้ำตาย ต่อมาภรรยามันโดนผู้ชายหลายคนทำร้าย ก็เป็นฉันที่จัดหาคนมา วินาทีนั้นมันเบิ่งตาโตทำหน้าอยากจะบีบคอให้ฉันตาย สายตาที่หวาดกลัวและโกรธแค้นนั้น ทำให้ฉันมีความสุขเหลือเกิน”
ซูเหม่ยลี่พูดมาถึงตรงนี้ก็หัวเราะออกมา แต่รอยยิ้มเธอไม่ได้ดูน่ารักอีกต่อไป แต่เป็นความบ้าคลั่ง เธอในเวลานี้เหมือนปีศาจที่ออกมาจากนรก ทำให้รู้สึกสยองในใจ
“เธอ เธอ เธอมันบ้า ถึงแม้เขาจะทำร้ายเธอ เธอก็ไปแก้แค้นกับเขาก็พอ แต่ภรรยาเขา ลูกสาว ลูกชายเขาไม่ได้ทำอะไรเธอเลย เด็กเล็กขนาดนั้น เป็นผู้บริสุทธิ์ ทำไมเธอถึงทำเรื่องโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้!”
เฉินเยี่ยนไม่อยากจะเชื่อเลย คนคนหนึ่งจะสามารถโหดเหี้ยมได้ถึงขั้นนี้
สายตาซินห้าวก็เย็นชา ซูเหม่ยลี่คนนี้เป็นงูพิษที่สวยงาม
“คนในครอบครัวมันไม่ได้ทำอะไรฉัน แต่พวกนั้นดันมีครอบครัวแบบนี้ ก็ถือเป็นโทษของคนพวกนั้น มันทำร้ายฉัน เพราะฉะนั้นคนที่เป็นครอบครัวมันก็ต้องรับผิดชอบแทนมันด้วย”
ซูเหม่ยลี่พูดแล้วเชิดหน้า หน้าตายังดูเย่อหยิ่งแบบไม่สำนึกผิดเลย ไม่รู้เลยว่าจิตใจเธอมันคดไปแล้ว
“เธอทำร้ายคนมากขนาดนี้ แต่ตำรวจกลับจับเธอไม่ได้?”
เฉินเยี่ยนถามซูเหม่ยลี่ ถึงแม้เธอจะรู้สึกสงสารคนพวกนั้น แต่คนพวกนั้นตายไปแล้ว ตอนนี้เธอจึงต้องจับผิดซูเหม่ยลี่ ให้ซูเหม่ยลี่ได้รับผลตอบแทนที่เธอควรได้รับ
“จะบอกว่าเธอฉลาดแต่เธอไร้เดียงสาจริงๆ ฉันต้องวางแผนไว้แต่แรกอยู่แล้ว ทั้งหมดไม่มีทางสาวมาถึงฉันได้ ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน ไม่อย่างนั้นทำไมฉันถึงกลับมายืนอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ?”
ซูเหม่ยลี่เริ่มยิ้มอีก แต่รอยยิ้มนั้นทำให้เฉินเยี่ยนนั้นตัวสั่น
บางทีอาจจะเป็นเพราะตอนนั้นซูเหม่ยลี่โดนผู้ชายทำร้าย เธอน่าสงสาร แต่ซูเหม่ยลี่เหี้ยมเกินไป เธอแก้แค้นโดยทำให้ให้ผู้ชายคนนั้นตายไม่ว่า แต่กลับทำให้ภรรยาเขาโดนชายอื่นทำร้าย โยนลูกชายเขาตาย แล้วยังให้ผู้ชายมาลักพาตัวลูกสาวเขาไปอีก ครอบครัวหนึ่งโดนเธอทำจนเป็นแบบนี้
เฉินเยี่ยนกำหมัดแน่น
“ได้ยินแล้วใช่ไหม?”
ซูเหม่ยลี่เลิกคิ้วถามเฉินเยี่ยน สีหน้ายังคงดูไม่ยี่หระ เหมือนว่านี่เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง
“คิดว่าฉันน่ารังเกียจมาก?”
ซูเหม่ยลี่ถามเฉินเยี่ยนอีก
“หึหึ เฉินเยี่ยน อย่าคิดว่าเธอสูงส่งนักเลย เธอรู้ไหมว่าแม่สามีตัวเองว่าเธอให้ฉันฟังยังไงบ้าง?”
ซูเหม่ยลี่พูดอีก เธอไม่สนใจว่าเฉินเยี่ยนจะดูถูกเธอ เธอสนใจแค่ผลลัพธ์
“เธอจะว่าฉันยังไงก็ได้ เธอเป็นแม่สามีฉัน”
เฉินเยี่ยนตอบกลับ หมายความว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนเธอยังไงก็เป็นคนนอก
สีหน้าซูเหม่ยลี่เปลี่ยนไป
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์ เดิมทีฉันอยากจะให้ลุงซินเกิดเรื่อง ตำแหน่งหัวหน้าโรงงานของซินห้าวก็ทำไม่ได้แล้ว ส่วนคุณป้านั่น ไม่มีสามี แค่ตัวเธอคนเดียว ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตยังไง ซินเหลยที่เอาแต่เล่นสนุกนั่น ถ้าฉันส่งคนไปหลอกล่อหน่อย เขาต้องไม่มีจุดจบที่ดีแน่ โรงงานม้วนบุหรี่ของบ้านเฉินย่อมเปิดไม่ได้แน่นอน เฉินเยี่ยนเธอก็อย่าคิดจะมีความสุขเลย คุณย่าน่ะหรือ เดิมทีร่างกายก็ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว กับคุณปู่ที่ร้อนใจก็โมโหขึ้นมา ไม่แน่อาจจะตายไปเลยก็ได้ ทางที่ดีให้บ้านเฉินกับบ้านซินทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ไปเลย”
“เฉินเยี่ยนเธอมีลูกไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วยังไงเธอสองคนต้องหย่ากันอยู่ดี เฉินหู่กับซินเหวยฉันจะให้คนไปจัดการพวกเขา เดิมทีคิดว่าพวกเขาหลายคนนี้จะสามารถตัดแขนตัดขาซินห้าวได้ แล้วย่ำยีเธอต่อหน้าเขา ถึงตอนนั้นดูสิว่าเขาจะยังต้องการเธออยู่ไหม? ถึงเวลาฉันจะทำให้เธอกลายเป็นดินโคลนชั้นที่ต่ำที่สุด ซินห้าวเขานอนหมดแรงอยู่บนเตียง ฉันจะดูแลเขาอย่างดีทุกวัน ป้อนข้าวป้อนน้ำให้เขา ปรนนิบัติเขาอย่างดี ให้เขาเห็นฉันทุกวัน จากนั้นฉันจะเล่าเรื่องให้เขาฟังทุกวัน สำหรับเขาแล้ว ฉันอยากจะทำยังไงก็ได้ เขาไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน เธอว่าดีมากแค่ไหนกัน”
ซูเหม่ยลี่พูดมาถึงตอนสุดท้ายกลับดูอ่อนโยนขึ้นมา สายตาที่มองซินห้าวเหมือนมองคนรักอยู่
เฉินเยี่ยนอดตัวสั่นไม่ได้ นี่มันผู้หญิงแบบไหนกัน เธอบอกว่าเธอชอบซินห้าว แต่กลับให้คนมาตัดแขนตัดขาซินห้าว จากนั้นก็คิดจะเลี้ยงดูซินห้าวอีก เจอหน้าเธอทุกวัน แล้วเธอยังจะเล่าเรื่องให้ซินห้าวฟังด้วย เล่าเรื่องอะไร?
ถ้าซินห้าวตกอยู่ในสภาพนั้นจริง ต้องทรมานเจียนตายแน่นอน?
ผู้หญิงแบบนี้ เธอน่ากลัวจริงๆ