เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 257: เงินหายไปไหน?
ครั้งนี้หวางชุนฮวาล้มลงไปแรงมาก
เฉินเยี่ยนอยู่ข้างๆ เห็นแล้วยังเจ็บเลย ถึงแม้จะเป็นฤดูหนาว เธอสวมเสื้อนวมผ้าฝ้าย แต่ข้อศอกกระทบกับพื้นเกิดเสียงดัง แล้วยังมีเสียงคางที่กระแทกไปกับพื้น ทำให้คนคิดว่าฟันร้าวแน่เลย
“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
น้าเฉินเยี่ยน ซึ่งก็คือไป๋จ่าวแม่ของหวางชุนฮวาเข้าไปประคองลูกสาว
ซินห้าวมาข้างหน้าเฉินเยี่ยน มองอย่างเย็นชา
“เจ็บ แม่ คางหนูหลุดแล้วหรือเปล่า ฮือๆ”
หวางชุนฮวาร้องไห้ คางเธอกระแทกจนเขียวช้ำไปหมด ครั้งนี้คือกระแทกของจริง
“สมน้ำหน้า ใครใช้ให้เธอเดินไม่ดี โตขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่รู้จักอายคนอื่นบ้าง”
ไป๋จ่าวตีหลังลูกสาว แต่เห็นลูกสาวสภาพนี้แล้ว เธอก็สงสาร
“แม่พูดอะไรน่ะ เมื่อกี้หนูแค่เท้าแพลงเอง หนูไม่ได้ตั้งใจ พี่เขยก็ใช่ เขาประคองหนูหน่อยจะเป็นอะไรไป ถ้าไม่ใช่เพราะเขา หนูจะล้มแบบนี้ไหม?”
หวางชุนฮวาไม่เข้าใจว่าตัวเองทำผิดตรงไหน เธอโทษซินห้าว
“พี่เขยเธอไม่โยนเธอทิ้งก็ดีแค่ไหนแล้ว เขาไม่ชอบให้มีคนอยู่ใกล้ตัวเขา ต่อจากนี้ก็อยู่ห่างเขาหน่อยแล้วกัน จะได้ไม่เข้าใจผิด”
เฉินเยี่ยนไม่ให้หวางนิวพูด เธอดูออกว่าหวางนิวก็โกรธ แต่หวางชุนฮวาเป็นหลานสาวหวางนิว หวางนิวพูดแรงไปก็ไม่ดี แต่ตัวเองไม่เหมือนกัน
“เยี่ยนจื่อ เรื่องนี้ชุนฮวาทำไม่ถูกต้อง ซินห้าว พวกเธออย่าถือสาเธอเลยนะ”
ไป๋จ่าวรู้ว่าลูกสาวตัวเองเป็นฝ่ายผิด เลยรีบพูดกับเฉินเยี่ยนและซินห้าว
เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดอะไรต่อ
“แม่ ใครเป็นลูกสาวแม่กันแน่ แม่อยู่ข้างใคร”
หวางชุนฮวาไม่สนใจแล้ว
ไป๋จ่าวตีลูกสาวตัวเองอีก แล้วประคองเธอขึ้นมา
เดิมทีไป๋จ่าวยังอยากจะอยู่ต่ออีกหน่อย แต่เกิดเรื่องนี้ขึ้นเธอไม่มีหน้าจะอยู่ต่อแล้ว ให้หวางตงฮวาที่ดูเด็กอยู่ในบ้านไปเรียกลุงเฉินเยี่ยน พวกเธอเก็บข้าวของแล้วกลับไป
“ชุนฮวานี่จริงๆ เลย สมองเธอคิดอะไรอยู่นะ มิน่าทาบทามหาสามีให้เธอตั้งหลายบ้าน เธอก็ไม่ชอบ ใจกล้าขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเหมือนใคร โดนป้าของลูกเลี้ยงจนเสียนิสัย แม่เห็นเธอเป็นอย่างนี้ถ้าได้สามีดีนี่สิจะแปลกใจ”
หวางนิวโกรธมาก หลานสาวถึงกับคิดอะไรกับลูกเขยของเธอ แล้วยังทำต่อหน้าเธอที่เป็นแม่ยายด้วย เธอไม่โกรธสิแปลก
ตอนเฉินเวยก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ไม่เห็นแม่จะโกรธเท่านี้เลย
แต่คำพูดนี้เฉินเยี่ยนไม่ได้พูดออกไป ได้แต่ปลอบหวางนิว
“ครั้งหน้าแม่จะไปพูดกับป้าลูก ให้เธอรีบให้ชุนฮวาแต่งงาน จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลใจเรื่องเธอ”
หวางนิวกลับไม่ยอมปล่อยวาง
“ได้ แล้วแต่แม่เลย”
เฉินเยี่ยนคล้อยตาม
ระหว่างที่หวางนิวบ่นอยู่ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบกันไป
วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยงเฉินเยี่ยนไปบ้านเจ้าอ้วน เธอไปหาหวางจวน
ตอที่เธอไปหวางจวนกำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดจมูกอยู่เลย ปลายจมูกแดง ดูท่าทางแล้วเธอทรมานจริงๆ
“เธอรีบนั่งเถอะอย่าขยับ เดี๋ยวฉันทำเอง”
เห็นหวางจวนจะทักทายเธอ เฉินเยี่ยนไม่ให้เธอขยับ จากนั้นเธอเทน้ำร้อนให้หวางจวน
“ดื่มน้ำร้อนเยอะหน่อย จมูกจะได้โล่ง”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าเป็นหวัดนั้นทรมาน โดยเฉพาะหวางจวนที่กำลังตั้งท้องอยู่อย่างนี้ กินยาไม่ได้ เลยหายช้า นั่นยิ่งทรมาน
หวางจวนดื่มไม่ลง แต่เฉินเยี่ยนบอกว่าแบบนี้จะหายเร็ว เธอบังคับให้ตัวเองดื่มไปหน่อย ปรากฏว่าสบายขึ้นมาจริงด้วย
“พี่ พี่ว่าลูกจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
หวางจวนกังวลใจมาก
“ไม่หรอก อย่าคิดมาก ตอนพี่สะใภ้ท้องก็เคยเป็นหวัดมาก่อน ดูสิตอนนี้ฉือหลิวคลอดออกมาก็แข็งแรงดีไม่ใช่หรือ”
เฉินเยี่ยนปลอบหวางจวน
“งั้นก็ดี หลายวันนี้ฉันกลัวมาตลอด”
หวางจวนลูบท้อง เธอค่อยสบายใจหน่อย ในความรู้สึกเธอเฉินเยี่ยนรู้ดีทุกอย่าง เฉินเยี่ยนบอกไม่เป็นไร ก็ไม่เป็นไร
“ดื่มไปเถอะ ก่อนคลอดก็ไม่ต้องไปโรงงานแล้ว เธอไม่มีแม่สามี ไม่มีใครช่วยเลี้ยงเด็ก ต้องดูแลลูกเอง ถ้าลำบากอะไรก็บอกฉันได้”
เฉินเยี่ยนรู้ว่าในปีสองปีนี้หวางจวนไม่สามารถไปทำงานที่โรงงานม้วนบุหรี่ได้อีกแล้ว
“พี่ไม่ต้องเป็นห่วง เงินกับตั๋วฉันยังมีอยู่ ไม่ขาดหรอก ฉันเก็บเงินที่หามาได้ไว้ สามีพี่ก็ยังให้เจ้าอ้วนอยู่ มีพอใช้”
หวางจวนเข้าใจความหมายเฉินเยี่ยน เธอมีคิดถึงสถานการณ์นี้มาก่อน ดังนั้นเธอเลยเก็บเงินกับตั๋วที่หามาได้ไว้ เพื่อไว้ใช้หลังจากลูกเกิดมา
ฝั่งเฉินเยี่ยนก็ยังเป็นห่วงหวางจวน โดนเฉพาะฝั่งนี้ไม่มีญาติผู้ใหญ่คอยดูแลหวางจวนเลย
หวางจวนตาแดงพยักหน้า หลังเธอท้อง แม่เธอมาเยี่ยมหนึ่งครั้ง แล้วไม่ได้เอาอะไรมาเยี่ยมด้วย
ตอนที่ไปยังพูดว่าพี่สะใภ้เธอท้องแล้ว น่าจะคลอดหลานชายให้กับบ้านหวางอีกคน แล้วเอาของที่เจ้าอ้วนซื้อมาไว้บำรุงเธอไป
ส่วนคนอื่นไม่มีใครมาเยี่ยมเธอ มีแค่คนบ้านเฉิน หวางนิวเตรียมเสื้อผ้าเด็กให้เธอ เตรียมรองเท้าเด็กหัวสิงโตไว้ให้ลูกเธอ ตอนเฉินจงว่างก็จะถามเธอว่าเป็นยังไงบ้าง
เฉินเยี่ยนยิ่งเตรียมของให้เธอมากมาย เอามาเทียบไม่ได้เลย
“พักผ่อนเถอะ ถ้าว่างฉันจะมาเยี่ยมเธออีก”
เฉินเยี่ยนอยู่เป็นเพื่อนหวางจวนพักผ่อนอีกพักหนึ่ง รอเจ้าอ้วนกลับมา เธอจึงกลับไป
จนมาถึงสิ้นเดือน แผนกบัญชีคำนวณกำไรเดือนนี้ออกมาแล้ว เอาบัญชีมาโชว์ตรงหน้าเฉินเยี่ยนและเฉินจง
เห็นสมุดบัญชีแล้ว เฉินเยี่ยนขมวดคิ้ว เดือนนี้ทำงานแค่สิบกว่าวันเอง กำไรไม่ได้เยอะมาก ดูบัญชีแล้ว ยอดแบ่งจ่ายสุดท้ายของเธอควรจะเป็นสามร้อยเจ็ดสิบแปดเหรียญสามสิบสองสตางค์ แต่ตอนนี้เป็นศูนย์หมายความว่ายังไง?
เฉินจงก็คำนวณเสร็จแล้ว เขาก็รู้สึกว่าผิดปกติ เดือนนี้เขาก็ไม่มีเงินเดือน มีแค่ของเฉินกุ้ย
“นี่คือ?”
เฉินเยี่ยนชี้ไปที่สมุดบัญชี ถามนักบัญชี
สีหน้านักบัญชีดูไม่ดีเลย
“พูดมาเถอะ เงินนี่หายไปไหน”
เฉินเยี่ยนดูเคร่งขรึมลง
“หัวหน้าเอาเงินไป”
นักบัญชีรู้ว่าไม่พูดก็ไม่ได้
“หัวหน้าเอาไป? ส่วนนี้ก็แบ่งให้คอมมูนแล้วไม่ใช่หรือ? ฉันกับพ่อยังมีอีกส่วนที่ต้องแบ่งให้คนงานนะ? นี่ขาดไปตั้งหนึ่งพันสี่ร้อยกว่าเหรียญ”
เฉินเยี่ยนถามนักบัญชี
นักบัญชีไม่ตอบ
“ถ้าเป็นแบบนี้คุณไปเถอะ ตั้งแต่นี้ต่อไปโรงงานไม่ต้องการนักบัญชีแบบคุณ”
เฉินเยี่ยนโกรธจริงแล้ว ถึงกับกล้าเอาเงินส่วนแบ่งของเธอและเฉินจงไปให้หัวหน้า นี่คืออะไร!
“ผมเป็นคนที่คอมมูนส่งมา คุณไม่มีสิทธิ์ไล่ผมไป ผมฟังหัวหน้า”
นักบัญชีพูด
“หึหึ ฉันไม่มีสิทธิ์ให้คุณไป ตอนนี้ฉันจะออกไปบอกทุกคน คุณเอาค่าแรงของพวกเขาไปไม่แบ่ง ดูสิว่าคนงานไม่ได้เงินจะตีคุณไหม”
เฉินเยี่ยนหัวเราะเย็นชา
“ผมหมายความว่า เรื่องนี้โทษผมไม่ได้ ก่อนปีใหม่หัวหน้าไปในเมืองมาใช่ไหม? หัวหน้าอยากจะให้พวกเราได้รางวัล เขาไปหาคน ก็เลยต้องเลี้ยงข้าวมื้อหนึ่ง แล้วต้องให้ของเขา ไปกินข้าวที่ภัตตาคารใหญ่ในเมือง มื้อนั้นเสียเงินกับตั๋วไปไม่น้อยเลย พวกเราในอำเภออยากจะพัฒนา ไม่ใช่ว่าเมืองมีอำนาจอยู่ฝ่ายเดียวใช่ไหม? หัวหน้าเลยไปหาคนแล้วคนเล่า อยู่เป็นเพื่อนทุกวัน ไม่มีเวลากลับบ้านเลย ต้องทำหน้าหนาเพื่อขอร้องคนเขา หัวหน้าดื่มจนล้มไปกลางทางกลับไม่ได้ หัวหน้าคิดอะไรอยู่? ไม่ได้ทำเพื่อคนในอำเภอ ทำเพื่อพวกเราหรือ? ตอนนี้ในอำเภอไม่มีเงินแล้ว โรงงานม้วนบุหรี่ทำเงินได้ หัวหน้าเอาไปหน่อยจะเป็นไรไป? หัวหน้าก็ทำเพื่อโรงงานบุหรี่ ทำไมคุณไม่รู้สำนึกบ้าง”
นักบัญชีพูดจนน้ำลายพ่นออกมา สุดท้ายยังมาโทษเฉินเยี่ยนอีก