เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 226: ความรักที่มีค่าเพียงเล็กน้อย
อย่าให้พูดเลย หม่าเหลียนไปดักเฉินจง ก็ยังโดนเธอดักได้เจอครั้งหนึ่ง
เธอบอกว่าเธอไม่มีหน้าอยู่ต่อแล้ว เธอยอมเป็นน้อยคอยปรนนิบัติหวางนิว เธอบอกว่ายอมไม่สนใจทุกอย่าง ขอแค่ในใจเฉินจงมีเธอ พาเธอกลับบ้าน เธอก็จะยอมทำทุกอย่างเพื่อเฉินจง
เธอบอกว่าอยากมีลูกให้เฉินจง แล้วเอาให้หวางนิวเลี้ยงดู เรียกหวางนิวเป็นแม่ ขอแค่เฉินจงต้องการเธอ เธอยอมทำงานทุกอย่าง ดูแลหวางนิวด้วย
พูดอย่างที่เรียกได้ว่าน่าสงสาร พูดอย่างจริงใจ พูดอย่างกล้ำกลืนความไม่ยุติธรรม
เฉินจงปฏิเสธเธออย่างชัดเจน บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เขาจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ เขาเรียกให้หม่าเหลียนต่อจากนี้ไปไม่ต้องมาหาเขาอีก
แต่หม่าเหลียนไม่ฟัง หลังจากนั้นยังคงมาหาเฉินจงระหว่างทาง
นี่ทำให้เฉินเยี่ยนโมโหขึ้นมา ตัวตนที่แท้จริงของหม่าเหลียนคนนี้ไม่สนใจอะไรเลย เป็นคนตีสองหน้าจริงๆ
เฉินเยี่ยนเริ่มชี้นำและวิจารณ์ ให้คนไปปล่อยข่าว พอข่าวลือของหม่าเหลียนแพร่กระจายไป ก็มีพวกว่างงานหลายคน ไปเคาะประตูบ้านหม่าเหลียนกลางดึก
ถึงแม้พวกเขาจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่คำพูดก็แพร่งพรายออกไปแล้ว อีกทั้งตอนหม่าเหลียนออกจากบ้านก็มีผู้หญิงไม่น้อยเห็นผู้ชายมาหาแซวหัวเราะกับหม่าเหลียน เลยด่าหม่าเหลียนว่าหน้าไม่อายมาอ่อยผู้ชาย
มีคนด่า บวกกับเฉินเยี่ยนหาคนมาปล่อยข่าว ในช่วงเวลาหนึ่งชื่อเสียงหม่าเหลียนก็ป่นปี้หมดแล้ว
หม่าเหลียนเริ่มไม่กล้าออกจากบ้าน แต่ที่นาปลูกผักไม่มีใครช่วยเธอดูแล เธอเลยต้องไปเอง พอออกไป ก็ออกไปสร้างความลำบากอีก
ตอนที่เธอลากของกลับมาบ้าน รถเข็นเกือบพลิก มีผู้ชายคนหนึ่งเห็นเข้าไปช่วยเธอจับ แล้วยังช่วยเธอลากรถเข็นกลับบ้าน แต่มีคนมาเห็นเข้า เลยด่าหม่าเหลียนว่าอ่อยผู้ชายอีกแล้ว วันนั้นภรรยาของผู้ชายคนนี้บุกไปถึงบ้านหม่าเหลียน ด่าหม่าเหลียนชุดใหญ่ แล้วยังดึงทึ้งผมเธอมาตบอีกด้วย
หม่าเหลียนโดนกระทำ แต่เธอห้ามไม่ให้คนอื่นมาหาเธอไม่ได้ และไม่สามารถห้ามผู้หญิงพวกนั้นที่มาด่าเธอ เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าทำไมพวกเธอถึงด่าได้หยาบคายมาก
พอหม่าเหลียนร้องไห้ ก็มีผู้ชายไม่น้อยสงสารเธอ แบบนี้ยิ่งทำใหญ่บรรดาพวกผู้หญิงโกรธเข้าไปใหญ่ คิดว่าหม่าเหลียนทำลายหมู่บ้านพวกเธอ ดังนั้นผู้หญิงครึ่งหมู่บ้านเลยร่วมมือกัน ลากหม่าเหลียนออกมาจากบ้าน แล้วพาเธอกลับไปบ้านพ่อแม่เธอ
ผู้หญิงพวกนี้เล่าเรื่องที่หม่าเหลียนทำให้ฟัง บอกว่าให้หม่าเหลียนอยู่บ้านพ่อแม่ ไม่ให้กลับมาที่หมู่บ้านอีก ไม่อย่างนั้นเธอจะทำให้หม่าเหลียนขายหน้า
คนในครอบครัวหม่าเหลียนรู้สึกขายหน้า เลยขังหม่าเหลียนไว้ในบ้าน ไม่ให้เธอออกไปข้างนอก ส่วนตอนหลัง เฉินเยี่ยนไม่ได้ข่าวแล้ว คิดว่าหม่าเหลียนคงไม่ได้ลงเอยด้วยดี
ถ้าเธอฉลาด ควบคุมอารมณ์จิตใจตัวเอง ไม่มาหาเฉินจงอีก ไม่แน่ครอบครัวเธออาจจะช่วยเธอหาสามีให้อีกคน หน้าตาหม่าเหลียนไม่แย่ ไม่แน่อีกหน่อยอาจจะหาสามีได้ เธอยังเอาใจฝ่ายตรงข้ามเก่ง อีกฝ่ายก็จะทำดีกับเธอ
รอดูว่าหม่าเหลียนจะทำยังไงต่อไป ถ้าเธอจะฆ่าตัวตายจริง งั้นก็โทษใครไม่ได้
แต่เฉินเยี่ยนไม่เล่าเรื่องพวกนี้ให้เฉินหู่ฟัง สกปรกเกินไป ส่วนเธอก็แค่ทำเรื่องปล่อยข่าวอย่างเดียว เรื่องอื่นเธอไม่ได้ทำ
“เธอสมควรจะได้รับผลตอบแทนแบบนี้ จำไว้ พวกเราทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้ เจอเรื่องอะไรก็อย่าวู่วาม ดูสิตอนนั้นเธอจะไปมีเรื่อง เธอสู้เขาไหวไหม? เธอไม่สนใจเขา เขาก็มีจุดจบไม่ดีไม่ใช่หรือ? เพราะเขาทำเรื่องไม่ดีไว้ ทุกคนก็คิดว่าเขาไม่ดี ดังนั้นเลยอยู่ไม่ได้”
เฉินเยี่ยนสอนเฉินหู่ ให้เฉินหู่แก้นิสัยวู่วามเสีย
“ผมรู้แล้วพี่ใหญ่”
เฉินหู่พยักหน้า
“พี่ พอพี่กับพี่ห้าวแต่งงานกันแล้ว ผมไปบ้านพี่บ่อยๆ ได้ไหม? พี่ห้าวบอกว่าจะสอนผมหลายกระบวนฝ่ามือ แต่เขาไม่มีเวลาเลย พอพวกพี่แต่งงานกันแล้ว ถ้าอยู่ที่หมู่บ้าน เขาก็จะมีเวลาแล้ว ให้เขาสอนผมได้ไหม?”
เฉินหู่สนใจเรียนศิลปะการต่อสู้มาก ซินห้าวเคยสอนเขาหนึ่งฝ่ามือ เขารู้สึกว่าซินห้าวเก่งกาจมาก
“ได้สิ จะมาทุกวันก็ได้ ไม่อยากกลับบ้านจะมาอยู่ที่นั่นก็ได้”
เฉินเยี่ยนไม่คัดค้านเลย ถึงแม้เธอจะแต่งงานกับซินห้าวแล้ว เธอก็ยังจะสนิทกับกับที่บ้านอยู่
“พี่ใหญ่ดีที่สุดเลย”
เฉินหู่เห็นเฉินเยี่ยนตอบตกลงเขา ก็ยิ้มออกมา ทำเอาเฉินเยี่ยนเหม่อลอย ยีนส์พ่อเฉินคนนี้นี่แข็งแกร่งจริง ในบรรดาพวกเขา นอกจากเฉินกุ้ยที่เหมือนหวางนิว หน้าตาธรรมดาแล้ว เธอ เฉินเวย และเฉินหู่ต่างหน้าตาดีกันหมด
“พี่ใหญ่ ป้าเฉินซุ่ยนั่นหาภรรยาให้อวี๋เหวยหมินแล้วนะ ไปคุยตั้งหลายคน เขารังเกียจพวกผู้หญิงที่ไม่สวยทั้งนั้นเลย พี่ว่าแบบเขานี่ยังคิดจะหาแบบไหนอีก มีผู้หญิงยอมแต่งกับเขาก็ไม่แย่แล้ว ทางที่ดีให้ชาตินี้เขาหาภรรยาไม่ได้เลย”
เฉินหู่พูดถึงอวี๋เหวยหมินอีก
หมู่บ้านนี้เล็ก ดังนั้นมีเรื่องนินทาอะไรก็จะกระจายไปเร็วมาก ส่วนเฉินหู่ไปโรงเรียนทุกวัน พวกเพื่อนเขาเวลามีเรื่องอะไรก็ชอบมาเล่าให้เขาฟัง ดังนั้นพอมีเรื่องนินทา เขาย่อมรู้แน่นอน รู้แล้ว เขาก็ชอบมาเล่าให้เฉินเยี่ยนฟัง
เฉินเยี่ยนเบะปาก ครั้งที่แล้วอวี๋เหวยหมินยังพูดว่าจะช่วยเฉินเวยอยู่เลย ไม่ให้เฉินเวยติดคุก บอกว่าเขารักเฉินเวย ตอนนี้ดูเหมือนรักของเขาเป็นสิ่งไม่มีค่าแล้ว นี่แค่ไม่กี่วัน โทษของเฉินเวยก็ยังไม่ได้ประกาศเลย เขาก็เริ่มหาภรรยาแล้ว
ผู้ชายแบบนี้ เธอควรจะขอบคุณเฉินเวยจริงๆ ไม่อย่างนั้นในยุคปัจจุบัน ตอนเธอแก่ไม่มีใครเลี้ยงดู ไม่รู้ว่าอวี๋เหวยหมินจะปฏิบัติกับเธอยังไงนะ
“เอาล่ะ เราไม่ยุ่งเรื่องคนอื่นเขา ช่วงนี้เธอสอบได้คะแนนดี เทียบกับแต่ก่อนเยอะเลย ตัวอักษรนี่ก็ไม่บิดเบี้ยวเหมือนเดิม จำไว้ทุกวันต้องฝึกหัดเขียน ตัวอักษรพวกนี้เป็นหน้าตาของตัวเอง ดูพ่อสิเขียนตัวอักษรสวยมาก มีแต่คนมาให้พ่อเขียนป้ายอวยพร”
เฉินเยี่ยนใช้คำชื่นชมมากระตุ้นเฉินหู่
“ผมรู้ อาจารย์ก็ชมผมอยู่นะ อันที่จริงสมองผมก็ไม่ใช่ท่อนไม้นะ ผมแค่ไม่ตั้งใจ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าถ้าตั้งใจ ก็ทำได้อยู่แล้ว”
เฉินหู่ฉลาดมาก ดังนั้นเขาเลยพัฒนาได้ไว
“ดี งั้นพี่จะรอเธอสอบมหาวิทยาลัยกลับมานะ”
เฉินเยี่ยนหัวเราะ รู้สึกว่าวันเวลาแบบนี้นี่ดีจริงๆ
“พี่รอหลานผมคลอดแล้วพี่ค่อยให้หลานไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีกว่า อย่างมากผมจะเรียนอีกไม่กี่ปี ผมไม่อยากเข้ามหาวิทยาลัย เหนื่อยเกินไป”
ถึงแม้เฉินหู่จะขยันมากกว่าเดิม แต่เรื่องเรียนนี่เขาไม่ชอบจริงๆ
“มีหลานด้วย หลานเธออยู่ไหน”
เฉินเยี่ยนจ้องเฉินหู่ แต่หน้ากลับแดงขึ้นมา เธอจะแต่งงานกับซินห้าวแล้ว และไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีลูกน้อย รอสักปีสองปีก็ดี เธอกับซินห้าวใช้ชีวิตอยู่กันสองคนแล้วค่อยมีลูก
เฉินหู่ก็ยิ้มขำ เขาก็รู้สึกว่าตอนนี้ดีมาก ไม่มีพี่รอง บ้านเขารักใคร่กลมเกลียวกันดี
“ใช่แล้ว พี่ สองวันก่อนแม่พูดกับผมว่า รอพี่แต่งงานแล้ว จะให้พี่ชายกับพี่สะใภ้ย้ายเข้ามา ไม่อย่างนั้นเธอไม่วางใจเรื่องพี่สะใภ้ ที่นี่ก็เหลือแค่พ่อกับผมอยู่กันสามคน ไม่มีอะไร รออยู่อีกสองปี ให้พี่ชายสร้างบ้านฝั่งนั้น พวกเขาค่อยย้ายกลับไป แม่ถามผมว่าได้ไหม?”
เฉินหู่พูดเสียงเบากับเฉินเยี่ยน
“แล้วเธอว่าไง?”
“ผมบอกว่าได้สิ ยังไงพี่สะใภ้คนนี้ไม่เหมือนกับพี่สะใภ้คนเก่า พี่สะใภ้คนนี้นิสัยดี ดีกับผมมากเลย ผมไม่ติดอะไร แต่ผมบอกแม่ไปว่า ไม่ให้พี่ชายกับพี่สะใภ้นอนห้องของพี่ ต้องเก็บห้องของพี่ไว้ รอพี่กลับมาอยู่ ไม่ว่าพี่จะกลับมาเมื่อไร นั่นก็ยังคงเป็นห้องของพี่”
เฉินหู่พูดอย่างแน่วแน่