เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 176: เฉินหู่โดนตี
เฉินเยี่ยนและหวางจวนตักกับข้าวหนึ่งชาม มีคนไม่น้อยยิ้มให้เฉินเยี่ยนและหวางจวน หนึ่งคือดีใจที่เป็นปีใหม่ สองคือบ้านเฉินให้ด้วยความเต็มใจ ในหม้อเหล็กขนาดใหญ่ นอกจากผัก ลูกชิ้นทอด เต้าหู้แผ่นทอดแล้ว ยังมีเนื้อติดมันชิ้นใหญ่ เห็นแล้วรู้สึกหอม พ่อครัวยังพ่ออีกว่า ทำมาหลายปี เป็นครั้งแรกที่เห็นคนยอมให้คนอื่นขนาดนี้ บ้านอื่นเอาแผ่นเนื้อมาวางแปะไว้ก็ถือว่าไม่แย่แล้ว แต่นี่บ้านเฉินมีความจริงใจ
อีกทั้งหมั่นโถวขาวชิ้นใหญ่ คนที่มาช่วยก็กินกันอย่างเต็มที่ คนหมู่บ้านเดียวกันแล้วยังมีเด็กเล็กๆ วิ่งมา พวกเขาไม่ได้ช่วยอะไร แต่อยากจะกิน เล่นไปมาไม่ทำอะไรอยู่ในลานบ้านเฉิน มีเด็กเล็ก ยังไม่รู้เรื่องอะไร ชี้ไปที่ชามบอกว่าอยากจะกินเนื้อ แล้วยังมีหญิงวัยรุ่นไม่กี่ขวบก็ไม่พูดอะไร อมนิ้วจ้องมองไปยังหม้อใบใหญ่ จ้องตาไม่กะพริบ
อันที่จริงพ่อแม่ของเด็กก็รู้ว่าพวกเขามา แต่พวกเขาไม่ได้ห้าม คิดว่าถ้าได้ร่วมกินด้วย ก็ถือเป็นลาภปาก ถ้าไม่ได้ก็ค่อยเรียกกลับ
หวางนิวก็เห็นแล้ว เมื่อก่อนบ้านอื่นมีงานก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน พวกเด็กๆ ก็จะวิ่งมาหาคนจัดงานแล้วจ้องมองอยู่อย่างนี้ อยากจะเข้าไปกินด้วย
หวางนิวจำได้แม่นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในหมู่บ้านชื่อลิ่วจื่อ เด็กกว่าเฉินจงหนึ่งปี เขาแต่งงานกับภรรยาชื่อซิ่วเอ๋อร์ ทุกคนต่างเรียกเธอว่าป้าซิ่วเอ๋อร์ ลูกชายคนโตเขาเล็กกว่าเฉินกุ้ยหนึ่งปี ตอนที่หาภรรยาให้ลูกชายคนโต เฉินหู่ก็นำกลุ่มเด็กวิ่งไปหาพวกเขา ในหม้อนั้นไม่มีเนื้อ เห็นเต้าหู้แผ่นเฉินหู่อยากกินจนทนไม่ไหว อยากกินมาก อยากจนน้ำลายจะไหลลงมาแล้ว แต่เฉินหู่นี่ ถึงแม้อายุน้อยแต่รู้เรื่อง ถึงแม้จะอยากกิน แต่ก็ไม่ได้ไปขอกับคนอื่น แต่พวกพาเพื่อนหลายคนมาจ้องมอง ไม่ยอมไปไหน
หนึ่งในนั้นมีเด็กอายุน้อยคนหนึ่ง ทนไม่ไหวไปหยิบเต้าหู้แผ่นหนึ่งในตะกร้ามากิน ปรากฏว่าโดนป้าซิ่วเอ๋อร์ดึงไว้ ด่าเป็นชุด ด่าจนไปถึงบรรพบุรุษแปดชั่วโคตร
ด่าเด็กคนนั้นยังไม่พอ ยังด่าเฉินหู่อีกด้วย บอกว่าพวกเขาไม่เคยได้กิน เป็นผีหิวโหยมาเกิดอะไรพวกนี้ สุดท้ายด่าได้หยาบคายมาก
ตอนนั้นเฉินหู่เพิ่งหกขวบ เด็กที่ขโมยกินเต้าหู้แผ่นหนึ่งชิ้นเพิ่งสี่ขวบ รู้เรื่องอะไร? เขาก็กินไปแค่คำเดียวเอง แต่กลับมาโดนผู้หญิงคนนั้นผลักลงพื้นแล้วยังถีบอีกด้วย ร้องโอ้ยๆ เฉินหู่โกรธมาก หยิบก้อนดินหลายก้อนปาลงไปในหม้อใหญ่ของบ้านป้าซิ่วเอ๋อร์
ป้าซิ่วเอ๋อร์โมโหจัด ตีเฉินหู่เป็นชุด แล้วยังดึงลากเสื้อเฉินหู่ไปหาบ้านเฉิน ให้บ้านเฉินพูดอธิบายเธอให้รู้เรื่อง
หวางนิวเห็นลูกชายโดนตีก็สงสาร ตอนแรกเธอฟังป้าซิ่วเอ๋อร์นั่นคิดว่าเฉินหู่ขโมยของกินเขา เธอลงมือตีเฉินหู่ เธอบอกว่าลูกของเธอไม่ได้เรื่องยังไง ถึงแม้จะหิวแค่ไหน ก็ไม่มีทางไปขโมยของคนอื่นกิน แบบนี้ไม่ได้เรื่อง โดนคนอื่นตีก็สมควรแล้ว
เฉินหู่เด็กขนาดนั้นแค่กลับไม่ร้องไห้เลย ยังปากแข็งตาแดงก่ำบอกว่าเขาไม่ผิด เขาไม่ได้ขโมยกิน เป็นน้องที่หิวทนไม่ไหวเลยกินเต้าหู่แผ่นไปหนึ่งคำ แต่ป้าซิ่วเอ๋อร์กลับมาตีเขา แล้วยังด่าบรรพบุรุษบ้านเขาไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ด่าพ่อแม่เขา เขาโกรธจนทนไม่ไหวถึงได้ทำกับป้าซิ่วเอ๋อร์ โยนก้อนดินลงไป
หวางนิวจำได้ว่าวันนั้นเธอกับป้าซิ่วเอ๋อร์ทะเลาะกัน เฉินหู่ลูกเธอผิด แต่สาเหตุไปโทษเฉินหู่ไม่ได้ เป็นซิ่วเอ๋อร์ที่ทำเกินไป สุดท้ายเฉินจงเลยออกหน้า ถามว่าอีกหน่อยบ้านไหนมีงานก็ไม่ต้องให้เด็กเล็กเข้ามาในลานบ้านเลยไหม? ถ้าเป็นแบบนี้ อีกหน่อยหมู่บ้านต้องตั้งกฎ ทุกบ้านก็ต้องเคารพ ถ้าไม่มีกฎแบบนี้ ป้าซิ่วเอ๋อร์ก็ถือว่าแกล้งคน เฉินหู่ไปบ้านเธอดูจะเป็นไรหรือ? ไม่ได้กินของเธอแม้แต่น้อย กลับโดนเธอด่าเธอตี นี่มันเรื่องอะไร!
สุดท้ายหวางต้าหมินออกหน้ามาไกล่เกลี่ย บอกว่าไม่มีกฎแบบนี้ ลิ่วจื่อก็ออกมาว่าป้าซิ่วเอ๋อร์ภรรยาของเขาเหมือนกัน ป้าซิ่วเอ๋อร์ยังไม่ยอม แต่เธอเห็นท่าทีแข็งกร้าวของบ้านเฉิน สุดท้ายจึงยอมไป
ถึงแม้ว่าคนจะไปแล้ว แต่หลังจากนั้นคำพูดเธอก็หยาบคาย บอกว่าบ้านเฉินจน ชีวิตนี้ไม่มีปัญญาจัดงาน หาภรรยาไม่ได้ ลูกก็ไม่มีหน้ามีตา
กลางดึกหวางนิวร้องไห้ทั้งคืน คิดว่าลูกอยู่กับพวกเขาแล้วโชคร้าย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าบ้านไหนจัดงาน เฉินหู่ก็ไม่เคยไปลานบ้านคนอื่นอีกเลย ไม่ว่าจะหิวแค่ไหน เขาก็ไม่มอง
ป้าซิ่วเอ๋อร์และบ้านเฉินเป็นศัตรูกันแล้ว ทุกครั้งที่เจอหวางนิวก็จะไม่พูดสักคำ
หวางนิวเห็นพวกเด็กในสนาม เธอก็คิดถึงเรื่องครั้งนั้น คิดถึงที่ลูกชายตัวเองโดน เธออดไม่ได้ที่จะไล่เด็กพวกนั้นไป แต่ในเด็กพวกนั้นมีสองคนที่เป็นเด็กบ้านป้าซิ่วเอ๋อร์ คนหนึ่งเก้าขวบ อีกคนเจ็ดขวบ สายตาพวกเขาที่มองเนื้อชิ้นใหญ่ ฟุดฟิดจมูกไม่หยุด ทำให้หวางนิวไม่ชอบใจ
เธอเจิ้งซิ่วเอ๋อร์ดียังไง เธอไปคุมลูกตัวเองไม่ให้มาบ้านฉันสิ ฉันไม่เชื่อว่าเธอไม่รู้ว่าลูกสองคนของพวกเธอมาบ้านฉัน แล้วยังไม่ยอมเรียกกลับ หน้าด้านจริงๆ
“หู่จื่อ ลูกว่าทำยังไงดี?”
หวางนิวเรียกหู่จื่อมา ชี้ไปที่เด็กพวกนั้นที่อยู่ในลานบ้าน ที่ถามหู่จื่อ เธออยากรู้ว่าลูกชายจะทำยังไง อีกอย่างเฉินหู่เป็นหัวหน้าเด็กในหมู่บ้าน มีเด็กไม่น้อยที่เป็นมิตรกับเขา ถามเขาดีที่สุด
“แม่ ผมอยากให้พวกเขากินหน่อย ไม่ต้องให้เยอะ เพราะถ้าให้พวกเขากินเต็มที่ ก็จะไม่พอกิน คนหนึ่งให้เนื้อสองชิ้น ให้ลูกชิ้นกับเต้าหู้แผ่นหน่อยกับน้ำแกง ได้ไหมครับ?”
เฉินหู่ก็อดไม่ได้ที่จะไล่พวกเพื่อนเขาไป แต่เขาก็รู้ ถ้าให้กินหมด ก็ไม่ได้
เฉินเยี่ยนแอบพยักหน้า เธอพอใจกับความคิดของเฉินหู่
“แล้วเด็กสองคนนั้นล่ะ?”
หวางนิวชี้ไปที่ลูกบ้านป้าซิ่วเอ๋อร์
เฉินหู่เงียบไปพักหนึ่ง แล้วค่อยพูด “ก็ให้เหมือนกันเถอะ ผมไม่ชอบป้าซิ่วเอ๋อร์ ถ้าป้าซิ่วเอ๋อร์มา ผมต้องไม่ให้เธอกินแน่ แต่ซานพ้างกับซื่อจู้ต่างดีกับผม ถ้าผมไม่ให้พวกเขา อีกหน่อยก็จะไม่มีใครเล่นกับเขา พวกเขาต้องเสียใจมากแน่
เฉินหู่บอกความคิดเขา เฉินเยี่ยนตบบ่าเขา นี่เป็นสาเหตุที่เธอชอบเฉินหู่ ถึงแม้เฉินหู่จะใจร้อน บางครั้งหุนหันพลันแล่น แต่เขาไม่ได้ไม่มีสมองเสียเลย อีกทั้งเขายังจิตใจดี คิดถึงคนอื่น แต่ก็ไม่ได้ไม่มีหลักการเลย นี่ถึงเป็นสาเหตุที่เธอชอบเฉินหู่
หวางนิวก็ไม่ได้ว่าอะไร ให้เฉินหู่ทำไป
พอได้ยินว่าให้พวกเขากิน เด็กพวกนั้นก็ดีใจกันยกใหญ่ แต่ละคนแย่งกันกรูมาข้างหน้า เฉินหู่ตะโกนบอก ให้ต่อแถวดีๆ มีทุกคน ถ้าใครไม่ฟัง ใครมาแซงข้างหน้า ก็ให้คนนั้นออกไปเลย
เขาพูดแบบนี้ แต่ละคนต่างสงบลง ต่อแถวตามที่เฉินหู่บอก แล้วรับของกิน
เห็นหน้าตาแต่ละคนดีใจ เด็กกินกันจนปากมัน เฉินเยี่ยนโล่งใจ เฉินหู่พัฒนาความเป็นผู้นำของเขาแล้ว อีกหน่อยเด็กคนนี้ถ้าเป็นหัวหน้า ไม่ดีไปเลย ก็ร้ายไปเลย แต่เธอเชื่อว่าเฉินหู่ไม่มีทางเป็นคนไม่ดี
เด็กพวกนั้นกินเสร็จก็วิ่งออกไป เอาเรื่องนี้ไปบอกกับคนที่บ้านหรือไม่ก็คนในหมู่บ้าน ต่างรู้กันว่าบ้านเฉินให้ของกินเด็กๆ แต่ละคนต่างก็ชื่นชมบ้านเฉิน เมื่อก่อนไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน ของบ้านใครจะยอมเอามาให้คนอื่นกิน
คิดถึงครั้งที่แล้วที่ป้าซิ่วเอ๋อร์และบ้านเฉินทะเลาะกัน แล้วมาดูว่าบ้านเฉินทำแบบนี้ คนในหมู่บ้านต่างให้คะแนนบ้านเฉินดีขึ้นมาเลย ส่วนป้าซิ่วเอ๋อร์เธอไม่ได้พูดอะไร เธอรู้แค่ว่าลูกสองคนไปกินฟรี เธอกำลังคิดว่าพรุ่งนี้เธอจะพาคนทั้งบ้านไปกินฟรีสักมื้อ