เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 170: ทำยาเส้นสำเร็จ
เห็นคนบ้านหลัวอ่อนลงแล้ว คนบ้านเฉินถึงค่อยแอบโล่งใจ
“ได้ งั้นคุณเลือกจะคุยกันดีๆ พวกเราก็จะคุยกันก่อน”
จุดประสงค์ของเฉินเยี่ยนก็ไม่ได้จะตีคนบ้านหลัวจริงๆ ทำร้ายคนบ้านหลัว แบบนั้นเฉินกุ้ยก็แต่งงานกับหลัวเหมยไม่ได้แล้ว เพียงแค่ต้องการคุมอารมณ์คนบ้านหลัวเท่านั้น
“พี่ ผมหาอันนี้ได้ พี่ว่าใช้ได้ไหม”
ตอนนี้เฉินหู่วิ่งกลับเข้าอีกรอบ ครั้งนี้เขาหยิบพลั่วเหล็กและเสียมมา
“ได้ เธอถือไว้ก่อน ดูอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกเขาไม่มีเหตุผลลงมือพวกเราค่อยลงมือ”
เฉินเยี่ยนพยักหน้ากับเฉินหู่ อันที่จริงเธอไม่อยากให้เฉินหู่มีเรื่อง แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะให้คนบ้านหลัวสงบลง ไม่อย่างนั้นต้องโวยวายกันอีก
เฉินหู่เชื่อฟังเฉินเยี่ยน เขาเอาเสียมให้หวางจวนหนึ่งอัน จากนั้นเฉินหู่หยิบพลั่วเหล็กยืนอยู่ตรงนั้น จ้องมองคนบ้านหลัวหน้าตาเคร่งขรึม ท่าทางเอาจริงเอาจังนั้น ให้ความรู้สึกไม่เป็นมิตรกับคนบ้านหลัวเลย
ในมือคนบ้านเฉินต่างมีอาวุธกันทุกคนสามารถควบคุมบ้านหลัวได้แล้ว ต้องพูดดีแน่นอน
ตั้งแต่กลางดึกคุยกันมาจนฟ้าสว่าง ถึงค่อยคุยกันรู้เรื่อง บ้านหลัวยอมถอนหมั้นกับบ้านจาง ตกลงยกลูกสาวให้บ้านเฉิน แน่นอน สิ่งที่บ้านหลัวขอบ้านเฉินไม่สามารถตอบตกลงได้ทั้งหมด บ้านเฉินยอมให้ค่าสินสอดมากเท่ากับบ้านจาง ส่วนเรื่องบ้าน บ้านเฉินไม่ยอมออกจากบ้านหลังใหญ่นี้ เฉินกุ้ยแต่งงานต้องแต่งไปบ้านโน้น แต่พ่อแม่บ้านเฉินตกลงว่า อีกหน่อยจะช่วยสร้างบ้านที่ฝั่งนั้นให้
สุดท้ายคนบ้านหลัวกลับไปแล้ว หลัวเหมยกลับไปกับพวกเขา หลัวเหมยอยู่บ้านเฉินไม่ได้ ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงเธอจะไม่ดี ผ่านการสั่งสอนครั้งนี้แล้ว บ้านหลัวก็ไม่กล้าให้หลัวเหมยแต่งไปบ้านจางแล้ว หลัวเหมยก็แสดงจุดยืนแล้ว นอกจากบ้านเฉินแล้วเธอไม่แต่ง ถ้าต้องบีบบังคับเธอ เธอจะตาย
ยังไงก็ต้องแต่ง สุดท้ายแม่หลัวคิดว่าแต่งมาบ้านเฉินก็ได้ ยังไงสินสอดพวกเขาก็ไม่เสียเปรียบ ดูท่าแล้วชีวิตที่บ้านเฉินน่าจะไม่แย่ ขอแค่อีกหน่อยช่วยเหลือพวกเขาได้ก็พอแล้ว
ส่วนฝั่งบ้านจาง ยังไงบ้านจางก็ไม่ได้ดีอะไร แม่หลัวคิดว่าพวกเขามีวิธีรับมือกับบ้านจาง ถอนหมั้นไม่ใช่ปัญหา
บ้านหลัวยังตกลงกับบ้านเฉิน ให้ผ่านไปสักพักบ้านเฉินมาสู่ขอ ให้เฉินกุ้ยและหลัวเหมยจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อนปีใหม่ บ้านเฉินสู่ขอลูกสะใภ้ก็ปีใหม่พอดี ส่วนบ้านหลัวจะไปถอนหมั้นกับบ้านจางยังไง บ้านเฉินไม่ยุ่งด้วย
ไม่ว่าจะพูดยังไง ผลลัพธ์ถือว่าดี เฉินจง เฉินกุ้ย หวางนิวก็พอใจ
“เฮ้อ คืนนี้ช่างทรมาน ไม่ว่าจะยังไงก็ถือว่าจบด้วยดี ใจฉันนี่ ตื่นเต้นมาทั้งคืน กว่าจะสงบลงได้”
หวางนิวพูดแล้วเอาไม้จุดไฟในมือโยนลงไปบนพื้น เธอถือไม้จุดไฟนี่ทั้งคืนเลย จนเธอลืมวางลง
เฉินเยี่ยนหัวเราะ และวางไม้นวดแป้งในมือลงเหมือนกัน ส่วนเฉินจงและเฉินกุ้ยวางมีดลงนานแล้ว เฉินหู่ เธอให้เฉินหู่ไปนอนก่อนแล้ว ตอนเช้าเฉินหู่ยังต้องไปโรงเรียน
“หนูไปทำกับข้าวนะคะ”
เฉินเยี่ยนเริ่มง่วง แต่ตอนนี้เช้าแล้ว ยังไงก็ต้องกินข้าวก่อนค่อยไปนอน
“แม่ไปเอง ลูกไปพักผ่อนเถอะ ทรมานมาทั้งคืน กับข้าวทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”
หวางนิวสงสารลูกสาว ให้ทุกคนไปนอน แล้วเธอไปทำอาหารเช้า
เฉินกุ้ยไม่ได้ไปนอน เขายืนอยู่ในลานบ้าน มองฟ้าที่ค่อยๆ สว่างแล้วยิ้มเขินออกมา ในที่สุดเขาก็มีภรรยาแล้ว หลัวเหมยเป็นผู้หญิงที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยอย่างสบายใจได้ อีกหน่อยเขาจะได้มีภรรยาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันแล้ว
รอยยิ้มไปโดนแผลที่มุมปากเฉินกุ้ย แต่เขากลับไม่รู้สึกว่าเจ็บเลย ที่แท้สวรรค์ก็ยังสนใจเขาอยู่
บ้านเฉินและบ้านหลัวตกลงเรื่องแต่งงานกันได้ เรื่องงานแต่งเฉินกุ้ยถือว่าจบลงแล้ว เฉินเยี่ยนค่อยสบายใจลง รอถึงวันนั้น เธอจะมาดูใบยาสูบที่หมักไว้
ยาเส้นมีกลิ่นหอม ความหอมแบบนี้เฉินเยี่ยนอธิบายไม่ถูก มีกลิ่นหอมเหล้า และกลิ่นของใบยาสูบที่มีอยู่แล้ว ให้คนดมแล้วรู้สึกสบาย
“หอมขนาดนี้ ไม่น่าจะแย่นะ”
เฉินจงเป็นคนสูบบุหรี่ เขามีความสามารถบอกได้มากกว่าเฉินเยี่ยน
พูดไปไม่เท่ากับได้ลอง เฉินเยี่ยนหยิบยาเส้นขึ้นมาเล็กน้อย ม้วนบุหรี่ให้เฉินจงลองสูบ
“สูบดี ไม่เหมือนบุหรี่ที่สูบเมื่อก่อน ความหอมนี้ สูบแล้วมีความรู้สึกดีค้างอยู่ในปาก”
เฉินจงพยักหน้าติดต่อกัน
เฉินเยี่ยนยิ้มออกมา เมื่อก่อนพวกเขาห่อเป็นบุหรี่ที่เก็บมาจากไปป์บุหรี่ เป็นของที่คนอื่นสูบแล้วเหลือทิ้งไว้ ไม่มีทางเทียบกับยาเส้นที่ดีนี้ได้แน่นอน ดูเหมือนยาเส้นนี้ทำสำเร็จแล้ว! นี่เป็นยาเส้นที่ใช้เหล้าธรรมดาหมักตั้งหนึ่งเดือนเลยนะ ถ้าเป็นยาเส้นที่ใช้เหล้าเหมาไถหมักจะเป็นยังไง?
จะต้องเป็นของดีที่หอมมากๆ แน่นอน นัยน์ตาเฉินเยี่ยนมีประกายความคิดขึ้นมา และไม่รู้ว่าซินห้าวสูบบุหรี่หรือไม่ แต่หลายครั้งที่เจอเขา เหมือนเขาไม่ได้สูบ ถ้าเขาสูบ ตัวเองจะได้ทำยาเส้นแบบหมักสามปีดีไหม เอาให้พ่อและซินห้าวสูบ?
ฝั่งซินห้าวนั้นช่างเถอะ ถ้าไม่สูบก็อย่าให้เขาหัดสูบเลย สูบบุหรี่ทำลายสุขภาพ ส่วนพ่อเธอนี่เลิกไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ให้สูบเหมือนกัน
“เยี่ยนจื่อ เราทำยาเส้น ใบยาสูบ เหล้าของตัวเอง เอามาเทียบกับไปป์บุหรี่ที่เก็บมาไม่ได้อยู่แล้ว ต้นทุนสูงขึ้น ราคาก็ต้องแพงขึ้น ไม่รู้ว่าจะมีคนติงเรื่องราคาสูงไหม”
เฉินจงบอกความกังวลของเขา
“ต้องมีอยู่แล้วค่ะ แต่รสชาติบุหรี่แบบนี้จะไปหาได้ที่ไหน รสชาติดี ต้องมีคนยอมสูบแน่นอน เรื่องโถงประชุมนั่นยังไม่ได้ตกลงเรียบร้อย หนูคิดว่าจะห่อหลายอันเอาไปลองดู ยาเส้นที่พวกเราทำเองแบบนี้ หนูคิดว่าเราทำแบบมีตัวกรองและไม่มีตัวกรอง ให้คนที่พอมีฐานะสูบ ส่วนอันก่อนที่พวกเราทำก็ยังทำอยู่ ยังไงราคาก็ถูกกว่า คนส่วนใหญ่มีปัญญาสูบ ทำให้บนกล่องแตกต่างก็ได้แล้ว ถ้าทุกคนรับได้ ฝั่งโถงประชุมนั่นคุยกับคอมมูนเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็จะได้ทำตราสินค้าจะขายได้ง่ายขึ้น”
เฉินเยี่ยนคิดหาวิธีไว้แล้ว ถึงแม้ว่าจะคุยเรื่องซื้อโถงห้องประชุมเรียบร้อย เซ็นสัญญากัน แล้วค่อยซ่อมแซมจนเริ่มใช้งานได้ ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ช่วงเวลานี้เธอก็ไม่ได้คิดจะอยู่เฉยๆ ยังไงก็ยังหาเงินได้ไม่น้อย
เฉินจงพยักหน้า ลูกสาวคิดมาแล้ว งั้นเขาแค่ทำตามก็พอ
เฉินเยี่ยนเอาบุหรี่ที่ห่อเสร็จไปให้เฉินจงส่งไปที่จุดกระจายสินค้า พอได้ยินว่าบุหรี่นี้จะราคาแพงขึ้น ร้านขายส่วนใหญ่ย่อมมีความคิดเห็น แต่ก็ได้ยินว่าแบบเก่าที่บ้านเฉินทำก็ยังมีอยู่ เพียงแต่กล่องไม่เหมือนกัน บุหรี่ข้างในก็ไม่เหมือนกัน ราคาก็ไม่เหมือนกัน
เฉินจงและเฉินเยี่ยนเอายาเส้นที่ตัวเองทำให้แต่ละร้านลองชิม รสชาติถูกปากคนพวกนั้น พวกเขาคิดว่ารสชาติแบบนี้เหมาะสมกับราคานั้นจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการหมักเหล้ามาแล้ว นี่เป็นของชั้นดี และไม่มียี่ห้อ ไม่อย่างนั้นจะต้องแพงแน่นอน
แต่ละร้านก็ยอมรับบุหรี่ใหม่ แน่นอน บุหรี่นี้พวกเขาต้องการจำนวนน้อย แต่ละจุดต้องการหนึ่งแถว ถึงแม้จะต้องการมากกว่านี้ก็ไม่มีแล้ว ยาเส้นของเฉินเยี่ยนทำมาแค่นี้ เป็นของทดลอง ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่มีปัญหา เธอก็สามารถทำต่อได้แล้ว
ซื้อเหล้ามาแล้ว ก็ซื้อพวกเนื้อและของกินมาด้วย ได้เงินและตั๋วที่มาแล้ว เฉินเยี่ยนและเฉินจงกลับไป เฉินเยี่ยนก็ดีใจมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ถึงแม้ไม่เปิดโรงงานม้วนบุหรี่ เงินก็หาได้ไม่น้อยเลย
——————