เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก - ตอนที่ 129: เป็นฟืนเป็นไฟ
ในใจเวยหลายชุน เฉินเยี่ยนงดงามมาก เฉินเยี่ยนดูสูงส่ง เธอไม่ชอบผู้ชายคนอื่น ดังนั้นเลยยังไม่ได้หมั้นหมายมาตลอด กำลังหาคนที่ดีอยู่ จนเจอตัวเอง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามีเรื่องแบบนี้ เฉินเยี่ยนเคยหมั้นมาก่อน โดนถอนหมั้น แล้วยังโดนผู้ชายคนอื่นกอด กระทั่ง…
เวยหลายชุนรู้สึกว่าในใจตัวเองมีไฟสุมอยู่ ไฟนี้แผดเผาเขาจนจะระเบิดแล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาไม่เชื่อ! ตอนนี้เขาอยากจะวิ่งไปข้างหน้าเฉินเยี่ยนไปถามเฉินเยี่ยน แต่เขารู้ว่าเขาทำไม่ได้
“ต่อมาล่ะ?”
เสียงเวยหลายชุนแหบแห้งเล็กน้อย
“ต่อมาพี่สาวฉันตื่นแล้ว เธอบอกว่าฉันกับพี่อวี๋เป็นคนวางแผน บอกว่าพี่อวี๋ชอบฉัน ไม่ต้องการพี่แล้ว เลยทำร้ายพี่แบบนี้ ฉันไม่เคยมีความคิดแบบนั้นเลย ฉันไม่รู้ว่าทำไมพี่สาวคิดแบบนั้น ทำไมถึงพูดแบบนั้น ฉันเสียใจมาก แต่ฉันก็พูดอะไรไม่ได้ พ่อฉันตีสั่งสอนพี่อวี๋เป็นชุด พี่สาวถอนหมั้นกับพี่อวี๋ เพื่อจะชดใช้ให้พี่ บ้านอวี๋เลยแลกเปลี่ยนที่ดินกับบ้านฉัน แล้วอวี๋ชุนชานก็ชดใช้ธัญพืชให้บ้านฉัน ถือว่าเป็นการชดเชยให้พี่สาว พี่สะใภ้ด่าว่าพี่สาวทำขายหน้า พี่สาวโกรธมาก เลยบอกว่าฉันเป็นคนทำ พี่เลยตีฉัน ลงโทษให้ฉันคุกเข่า แล้วแยกบ้านกัน แยกให้ฉันมาอยู่กับพี่ชาย พี่สะใภ้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพี่สาวก็เกลียดฉัน ไม่สนใจฉัน หาเงินมาก็ไม่ให้ฉัน พี่พูดแล้ว ถึงแม้ฉันจะป่วยตาย หิวตาย เธอก็จะไม่สนใจฉัน เพราะเธอไม่เห็นฉันเป็นน้องสาว แล้วเธอก็ไม่ให้พ่อแม่มาดูแลฉันด้วย”
เสียงเฉินเวยมีความเสียใจ มีความทุกข์ใจ ฟังแล้วยิ่งรู้สึกสงสาร
“พี่เวย ฉันไม่โทษพี่สาว ฉันไม่ดีเอง ถ้าฉันไม่ได้ไปคุยกับพี่อวี๋ ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนั้น ฉันเป็นคนทำร้ายพี่ ดังนั้นไม่ว่าพี่จะตีฉัน หรือพี่สาวจะทำยังไงกับฉัน ฉันก็ไม่โทษพี่สาว เป็นความผิดของฉัน”
เฉินเวยก้มหน้าลง น้ำตาไหลพรั่งพรูลงมาราวกับสร้อยไข่มุกที่ขาด
เวยหลายชุนมองดูเฉินเวยที่คุกเข่าส่งเสียงร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ด้วยความรู้สึกผิดแต่ไม่สามารถร้องออกมาได้ ไหล่เธอสั่นไม่หยุด แบบนี้เห็นแล้วน่าสงสาร
โทษเฉินเวยได้ไหม?
เฉินเวยผิดจริง แต่ความผิดจริงๆ แล้วไม่ได้อยู่ที่เฉินเวย เฉินเวยและอวี๋เหวยหมินพูดคุยกันแล้วทำไม? ก็เหมือนที่เฉินเวยคุยกับตัวเอง ขอแค่ในใจไม่ได้คิดอกุศล แล้วจะมีอะไรที่พูดคุยกันไม่ได้! เรื่องนี้เฉินเยี่ยนใจแคบเอง เฉินเยี่ยนทำตัวไม่เหมาะสมเลยโดนถอนหมั้น เธอโทษเฉินเวยทั้งหมดไม่ได้ ทะเลาะกันจนแยกบ้าน แล้วเธอก็ไม่สนใจเฉินเวย ให้คนที่บ้านไม่สนใจอีกด้วย แบบนี้เฉินเยี่ยนทำเกินไป
ถึงแม้เฉินเยี่ยนจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่คนแบบนี้เยือกเย็นเกินไปเห็นแก่ตัวเกินไป ไม่ใช่คนที่เขาอยากได้
เวยหลายชุนคิดถึงครั้งแรกที่เขาเจอเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนทำให้เอ้อเฟิ่งลำบาก ด่าเอ้อเฟิ่ง ทำให้เอ้อเฟิ่งขอโทษทุกคนได้ แล้วยังโดนบันทึกความผิดด้วย แสดงว่าเฉินเยี่ยนมีความคิดมาก มีความสามารถ ขณะเดียวกันก็หมายความว่าเฉินเยี่ยนเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เธอโทษเฉินเวย ต้องไม่ทำดีกับเฉินเวยแน่นอน มิน่าเฉินเวยป่วยยังต้องไปส่งผักเพื่อเอาเงินมาซื้อยา ตอนกลางคืนเท้าแพลงตกอยู่ในหลุม ไม่มีคนสนใจ ตอนนี้ร้องไห้จนเป็นแบบนี้ น่าสงสารเหลือเกิน แต่ยังไม่ยอมว่าเฉินเยี่ยนสักคำ กลับกลายเป็นเธอแบกรับความผิดไว้ที่ตัวเอง ผู้หญิงแบบนี้ ทำไมเฉินเยี่ยนถึงได้ใจร้ายต่อเธอได้
“ไม่ต้องร้องได้แล้ว ไม่โทษเธอหรอก ไปเถอะ ฉันไปส่งเธอกลับบ้าน”
เวยหลายชุนอดทนระบายอารมณ์กับเฉินเวย ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมากแล้ว แล้วก็โทษตัวเองด้วย เขาจะพูดอะไรได้อีก? ส่วนเฉินเยี่ยน เรื่องนี้เขาไม่อาจสรุปแบบนี้ได้ เขาต้องไปสืบ เขาต้องรู้ความจริงเรื่องนี้ให้ได้ เขาไม่อาจฟังคำข้างเดียวจากเฉินเวยได้
“พี่เวย พี่อย่าโทษพี่สาวเลย พี่ไม่โทษพี่สาวได้ไหมคะ? ฉันขอร้อง”
เฉินเวยกลับไม่ยอมลุกขึ้น เหมือนรีบเลยไม่ทันคิดคว้ามือเวยหลายชุนไว้ เงยหน้าขึ้นอ้อนวอน
“ได้ ฉันไม่โทษพี่สาวเธอหรอก รีบลุกขึ้นมาเถอะ”
เวยหลายชุนพยักหน้าตกลง พูดขึ้นมาแล้วเฉินเยี่ยนก็เป็นคนที่ได้รับความเสียหาย เขาต้องสืบให่แน่ชัด
เห็นเวยหลายชุนตอบตกลง เฉินเวยเลยถอนหายใจ เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองจับมือเวยหลายชุนอยู่ เลยรีบปล่อยมือออก ก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเวยหลายชุน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวยหลายชุนรู้สึกได้ว่าเฉินเวยรู้สึกเขิน เหมือนเห็นใบหน้าเฉินเวยแดงก่ำท่าทีเขินอาย เหมือนได้ยินเสียงหัวใจของเฉินเวยเต้นระรัวราวกับกวางน้อยกำลังหวาดกลัว
เวยหลายชุนขำ เป็นหญิงสาวที่เขินอายจริงๆ เขาดึงเฉินเวยขึ้นมา ก้มตัวลงแล้วแบกเฉินเยี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เวยหลายชุนรู้สึกว่ามีบางอย่าไม่เหมือนเดิม แต่ตรงนั้นไม่เหมือนเดิมแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่รู้
เวยหลายชุนแบกเฉินเวยมาถึงหน้าประตูบ้านเฉินที่ฝั่งตะวันตก เฉินเวยให้เวยหลายชุนหยุด บอกว่าเธอเข้าไปเองได้
เฉินเวยเดินกะเผลกเข้าไปในบ้าน ภายใต้แสงจันทร์ เวยหลายชุนเห็นแค่เงาดำค่อยๆ เคลื่อนตัวไป ในบ้านไม่มีแสงไฟ และไม่มีเสียง ทั้งหมู่บ้านไม่มีแสงไฟเลย บางทีอาจจะมืดแล้ว ทุกคนเข้านอนกันหมด นานๆ ทีจะมีเสียงหมาเห่าดังขึ้นมาสองครั้ง ทำให้เขารู้สึกทั้งเศร้าใจและวังเวง
เวยหลายชุนรู้สึกถึงไฟในอก ไม่เพียงแค่เรื่องที่เฉินเยี่ยนและคนบ้านเฉินปิดบังเขาเรื่องที่เฉินเยี่ยนโดนถอนหมั้น แต่เพราะดึกขนาดนี้แล้ว เฉินเวยมาเจอเรื่องแบบนี้แต่คนบ้านเฉินไม่มีใครรู้เรื่องเลย ไม่มีใครสนใจ ถ้าเฉินเวยเจอคนร้าย โดนรังแก บ้านเฉินจะอับอายไหม!
เฉินเวยเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอจิตใจดีทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้? เดิมทีในใจเขารู้สึกไม่ค่อยเชื่อ แต่ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าประตูบ้านเฉิน ไม่ได้ยินเสียงอะไรในบ้านเฉินเลย เฉินกุ้ยเป็นพี่ชาย ไม่ห่วงว่าน้องสาวตัวเองจะกลับมาบ้านหรือยังเลย ไม่เป็นห่วงเฉินเวยเลยสักนิด นี่ยังเป็นคนในครอบครัวอยู่ไหม? ดูเหมือนเรื่องจริงของบ้านเฉินกับสิ่งที่ตัวเองเห็นจะไม่เหมือนกัน
แต่เวยหลายชุนไม่รู้เลย เฉินเวยไม่อยู่บ้านออกไปกับอวี๋เหวยหมินบ่อยๆ เธออยากกลับกี่โมงก็กลับ เธอไม่ให้เฉินกุ้ยมาสนใจเธอ เพราะเรื่องนี้ยังเคยทะเลาะกับเฉินกุ้ยด้วย ดังนั้นเฉินกุ้ยก็ไม่สนใจแล้วว่าเฉิยเวยจะกลับกี่โมง
รอจนในบ้านไม่มีความเคลื่อนไหน เวยหลายชุนถึงเดินออกไป ตอนที่เขาเดินออกมาฝีเท้าเขาหนักอึ้ง จนมาเจอจักรยานเขา ประกอบโซ่กลับเข้าไปได้แล้วเวยหลายชุนก็ขี่กลับ ชื่อเสียงเฉินเยี่ยนยังคงอยู่ในใจเขา เหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ หนักจนทำให้เขาหายใจไม่ออก
ตอนที่เวยหลายชุนกลับมาบ้านเวยก็เป็นเวลาดึกแล้ว อีกครึ่งคืนที่เหลือเขานอนไม่หลับ พลิกตัวไปมานอนคิด เขาคิดมาตลอดว่าเฉินเยี่ยนเป็นดอกบัวที่บริสุทธิ์และสวยงาม แต่ตอนที่เขารู้ว่าใต้ดอกบัวมีโคลนตม เขากลับรู้สึกว่าดอกบัวนี้อัปลักษณ์ เขาคิดว่าความงามของดอกบัวนี้ลวงตาเขา ทำให้เขาคับอกคับใจ
วันรุ่งขึ้นเวยหลายชุนตื่นแต่เช้าตรู่ แม้แต่ข้าวเขาก็ไม่กิน ขี่จักรยานไปสหกรณ์
รอจนลุงป่าวเอินมาถึง เขาดึงลุงป่าวเอินมาข้างๆ
“ต้าชุน วันนี้ทำไมมาเช้าขนาดนี้? ตกลงกับเยี่ยนจื่อหรือยัง? ถึงเวลานั้นแล้วอย่าลืมข้าพ่อสื่อคนนี้”
ลุงป่าวเอินแซวเวยหลายชุนเล่น เขารู้ว่าเมื่อวานเวยหลายชุนไปบ้านเฉินมา คิดว่าทั้งสองฝ่ายนี้น่าจะใกล้ตกลงกันแล้ว เฉินเยี่ยนไปบ้านเวยดู เรื่องนี้ก็น่าจะตกลงกันได้
———–