เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 978 ไม่ดี
“ นี่คือเหยียนหรูหยู เป็นเพื่อนคนหนึ่ง ” หยางโปอธิบาย
หลินหลินมองสำรวจดูเหยียนหรูหยู และส่งยิ้มให้ “ แม่หนูคนนี้สวยจริงๆ ! ”
เหยียนหรูหยูหยักหน้าให้
หลินหลินก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ หันไปพูดคุยกับฮัวชิงหยุนต่อ ในสายตาของเธอแล้ว ฮัวชิงหยุนก็คือลูกสะใภ้ของเธอ ถึงแม้เหยียนหรูหยูจะสวยแค่ไหน แต่ก็เป็นคนนอก อีกทั้งยังไม่รู้ที่ไปที่มาอีก
ทางด้านลัวย่าวหัวก็ลากหยางโปไปอีกด้าน พูดคุยถึงรายละเอียดข้อสงสัยที่ประสบพบเจอกันมาในช่วงนี้
ในห้องจึงมีเพียงเหยียนหรูหยูที่ดูท่าเหมือนจะเบื่อหน่าย แต่เธอกลับไม่มีสีหน้าท่าทีว่าจะเก็บเอามาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย เธอมองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดูการอออกแบบตกแต่งภายใน ดูภาพวาดที่แขวนอยู่บนผนังของหยางโป
จนถึงเที่ยง อาหารก็ถูกยกมาเสริม ทุกคนถึงได้กลับมานั่งลงใหม่อีกครั้ง หลินหลินคีบอาหารให้
ฮัวชิงหยุน และหันมาช่วยคีบให้เหยียนหรูหยูอยู่ครั้งหนึ่ง “ แม่หนูทำไมไม่กินข้าวเลยล่ะ ? ”
“ ไม่มีอะไร ฉันไม่หิว ” เหยียนหรูหยูตอบกลับมาคำหนึ่ง
หลินหลินรู้สึกแปลกใจมาก เธอมองหน้าเหยียนหรูหยู และหันไปมองหน้าหยางโปอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างที่จะไม่พอใจ เธอคิดว่าเป็นเพราะเธอไม่สนใจเหยียนหรูหยู เลยทำให้อีกฝ่ายโกรธเอา
หยางโปทำอะไรไม่ถูก เขาจึงทำได้เพียงแก้ต่างให้ว่า “ แม่ ไม่มีอะไร คุณเหยียนมีนิสัยเย็นชาไปหน่อย เดี๋ยวถ้าเธอหิว ก็จะกินเอง แม่สบายใจได้ ”
หลินหลินชำเลืองมองเหยียนหรูหยู จากนั้นถึงได้เอ่ยปากพูดออกมาว่า “ แม่หนูเหยียน ไม่ต้องเกรงใจนะ ! ”
เหยียนหรูหยูพยักหน้า แต่ไม่พูดอะไร
หลังจากกินอาหารกลางวันกันแล้ว หลินหลินอยากพาฮัวชิงหยุนไปช้อปปิ้ง หยางโปที่กำลังจะตามไปด้วย แต่กลับถูกลัวย่าวหัวฉุดไว้ ลัวย่าวหัวได้หันไปพูดกับหลินหลินว่า “ คุณป้า ให้ผมยืมตัวหยางโปสักครึ่งวันนะ ผมมีเรื่องอยากให้เขาสอนสักหน่อยน่ะ ”
“ รีบร้อนขาดนั้นเลยเหรอ ? พวกเธอก็อยู่ด้วยกันทั้งวันไม่ใช่หรือไง ? จะสอนกันวันไหนมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ? ” หลินหลินรู้สึกไม่ค่อยพอใจ เพราะเธออยากพาหยางโปออกไปข้างนอกด้วยแต่ลัวย่าวหัวกลับรั้งหยางโปไว้
ลัวย่าวหัวทนหน้าด้านหัวเราะออกมา “ คุณป้า เรื่องด่วนจริงๆ ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รั้งเขาไว้หรอก ”
ฮัวชิงหยุนก็ตามมาว่าให้ หลินหลินไม่รู้จะทำยังไง จึงตอบตกลงและปล่อยให้หยางโปอยู่ต่อด้วย
เดิมทีหยางโปก็ไม่อยากออกไปช้อปปิ้งด้วยอยู่แล้ว อยู่ต่อดีกว่า เขาจึงสั่งให้บอดี้การ์ดตามออกไปด้วย จึงไม่ได้เก็บเอามาคิด
คนที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรที่สุดในบ้านคือเหยียนหรูหยู หลังจากที่หยางโปจัดห้องให้เธอแล้ว เธอก็ไม่ออกมาง่ายๆ อยู่แต่ในห้องก็ไม่รู้ว่าทำอย่างไรอยู่
เนื่องด้วยลัวย่าวหัวขาดความเข้าใจเกี่ยวกับ ( คัมภีร์มวยไท่เก๊ก ) อยู่มาก หยางโปจึงต้องอธิบายให้เขาฟังอีกครั้ง ลัวย่าวหัวจึงตั้งใจฟังอย่างละเอียดกว่าเดิม
หลังจากอธิบายจบลงไปได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือของหยางโปก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นว่าเป็นสายเรียกเข้าจากบอดี้การ์ด เขารู้สึกค่อนข้างที่จะแปลกใจ จึงกดรับสาย
“ คุณผู้ชาย คุณผู้หญิงหลินเกือบถูกชนบนถนน ดีที่ถูกคนของเรากระชากตัวกลับมา แต่มีเด็กหญิงสองคนถูกชนในที่เกิดเหตุ คุณผู้หญิงหลินกำลังส่งเด็กหญิงสองคนนี้ไปที่โรงพยาบาล ! ”
บอดี้การ์ดรายงานสถานการณ์
หยางโปตกตะลึงทันที “ แม่ของฉันกับชิงหยุนไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ”
“ คุณฮัวก้าวช้าไปสองก้าว ไม่ได้เป็นอะไร คุณผู้หญิงหลินเกือบถูกชน ดีที่ถูกทางเรากระชากตัวกลับมาก่อนเลยล้มลงบนพื้น และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ” บอดี้การ์ดรายงาน
หยางโปตอบกลับอย่างไม่ลังเล “ งั้นก็ดีแล้ว ฉันจะไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ พวกนายต้องดูแลคุณผู้หญิงให้ดีด้วยนะ ”
“ คุณผู้ชายวางใจได้ ! ”.ไอลีนโนเวล.
หยางโปวิ่งออกไปอย่างไม่ลังเล ทำเอาลัวย่าวหัวถึงกับตกใจ “ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมถึงได้วิ่งออกไปเร็วขนาดนั้น ? ”
“ แม่ของฉันเกือบถูกรถชน ตอนนี้ไปโรงพยาบาลแล้ว ” หยางโปพูดเสียงดัง
ลัวย่าวหัวลุกพรวดขึ้นมาทันที “ อะไรนะ ? เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ? แม่งเอ้ย ใครมันช่างกล้าขนาดนี้ กล้าชนแล้วหนีไปแบบนี้ได้ยังไง ? อย่าให้ฉันจับได้นะ จะกระทืบให้ตายคาที่เลย ! ”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ลัวย่าวหัวก็รีบวิ่งตามออกไป
แต่พอวิ่งเข้าไปในลานบ้าน ก็ทำให้หยางโปรู้สึกแปลกใจไม่น้อย คือเหยียนหรูหยูมายืนรออยู่ในลานบ้านแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะรอตัวเองอยู่ และเดินตามตัวเองไปที่รถ
“ คุณรู้เรื่องนี้เหรอ ? ” หยางโปถามด้วยความมึนงง
เหยียนหรูหยูมีอาการสับสน ส่ายหน้าและตอบกลับไปว่า ” รู้สึกนิดหน่อย แต่ไม่แน่ใจ ”
หยางโปตกตะลึง เขาแค่ถามออกไปเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าเหยียนหรูหยูจะรู้สึกแบบนี้จริงๆ
นั่นก็หมายความว่าเธอสามารถทำนายเหตุการณ์และรู้ล่วงหน้าได้ ความสามารถแบบนี้ เขายังไม่เคยสัมผัสกับมันมาก่อน !
รอจนลัวย่าวหัวขึ้นรถ หยางโปถึงได้ทำการสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ ถนนยังคงคล่องตัว หยางโปขับรถสลับไปสลับมาตลอดทาง และขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีคำสบถด่าตามหลังมาทันที
ปกติลัวย่าวหัวก็มักจะมาซิงรถเล่น แต่เขามักจะมาซิงรถกับคนอื่นๆนอกถนนวงแหวนที่ห้าและหกในยามวิกาล มีหรือจะมีประสบการณ์ซิงรถแบบนี้ในเมืองในระหว่างวันมาก่อน เขาสัมผัสได้ถึงวิวทิวทัศน์ที่ ถอยร้นห่างออกไปนอกกระจกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนอกหน้าต่าง ที่ห่างกันไม่กี่คืบที่เกือบจะเสียดสีเข้าให้แล้ว ทำเอาลัวย่าวหัวเกิดรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที
ปกติแล้วใช้เวลาขับรถมาครึ่งชั่วโมงกว่า แต่หยางโปขับมาแค่สิบนาทีก็มาถึงหน้าโรงพยาบาล หยางโปนำรถไปจอดไว้ในที่ที่ไม่กระทบต่อการจราจรและเดินลงมาจากรถ
บอดี้การ์ดมารออยู่ที่นั่นแล้ว เมื่อเห็นหยางโปก็รีบวิ่งเข้ามาหา “ คุณผู้ชาย ! ”
หยางโปพยักหน้า “ รีบพาฉันไปเดี๋ยวนี้ ! ”
บอดี้การ์ดรีบหันหลังพาหยางโปเดินเข้าไปด้านใน และพลางอธิบายไปด้วยว่า “ คุณผู้หญิงไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ได้รับบาดเจ็บที่แขน แต่เด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอสองคนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ”
หยางโปขมวดคิ้ว “ จับตัวคนก่อเรื่องได้หรือยัง ? ”
“ จับกุมตัวได้แล้ว ” บอดี้การ์ดรายงาน
หยางโปพยักหน้า และรีบเดินเข้าไปในโรงพยาบาล ทางด้านลัวย่าวหัวเองก็พูดปลอบใจไปว่า
“ คุณป้าไม่เป็นอะไร นายสบายใจได้ ”
ไม่นานหยางโปก็ได้พบกับหลินหลิน เธอกำลังพันแผลอยู่ ฮัวชิงหยุนก็นั่งอยู่ข้างๆ กำลังอยู่เป็นเพื่อนเธอ เมื่อเห็นหยางโปเดินเข้ามา ฮัวชิงหยุนก็ลุกขึ้น น้ำตาไหลนองหน้า ก่อนหน้าที่หลินหลินได้รับบาดเจ็บ เธอก็คอยปลอบโยนอยู่ตลอด ตอนนี้เมื่อเห็นหยางโปกลับมาแล้วเธอก็อดกลั้นมันไว้ไม่อยู่อีกต่อไป
หยางโปเดินเข้ามา โอบกอดฮัวชิงหยุนไว้ และมองไปทางแม่ เมื่อเห็นแขนของแม่ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก แค่บาดแผลถลอก เขาถึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ แม่ไม่เป็นไรใช่ไหม ? ”
หลินหลินส่ายหน้า แต่สีหน้าไม่สู้ดีนัก เธอโบกมือไปมา “ ลูกช่วยแม่ไปดูหนูสองคนนั้นให้หน่อย
ถ้าแม่ไม่หลบ รถคงไม่ชนพวกเธอ ! แม่มันก็แค่หญิงชราคนหนึ่ง อายุมากปูนนี้แล้ว ต่อให้ตายไปก็ไม่เป็นไร แต่แม่หนูสองคนนั้นอายุยังน้อย พวกเธอยังมีอนาคตที่สดใส ยังไม่ได้สัมผัสกับมันเลย ! ”
หยางโปเอ่ยออกมาทันที “ แม่อย่าพูดแบบนี้ เรื่องนี้จะโทษแม่ไม่ได้ ถ้าจะโทษต้องโทษคนที่ก่อเรื่อง ถ้าไม่ใช่คนก่อนเรื่อง ก็คงไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น ! ”
“ ไม่ต้องสนใจแม่ รีบไปดูเร็วเข้า ! ” หลินหลินรีบคะยั้นคะยอ
หยางโปรีบพยักหน้าให้ และตบไปที่ไหล่ฮัวชิงหยุน ให้เธอคลายมือออก จากนั้นถึงได้ออกไปข้างนอก เขารู้ดีว่าแม่รู้สึกเสียใจต่อการกระทำ ถึงแม้เรื่องนี้มันจะไม่เกี่ยวกับเธอเลย
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องผ่าตัด หยางโปก็เห็นว่าไฟหน้าห้องผ่าตัดดับลงไปแล้ว เขาใจเต้นตึกตัก รู้สึกไม่ดีทันที