เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 915 ฝีมือการใช้มีดที่ล้ําลึก
ตอนที่ 915 ฝีมือการใช้มีดที่ล้ําลึก
กงเสี่ยวเจิ้งดูตื่นเต้นมากกับการมาถึงของหยางโป เริ่มแรกเป็นหยางโป ที่พาเธอมาที่ตี้จึง
และก็เป็นหยางโปที่ช่วยเธอให้ได้มาใช้ชีวิตในเส้นทางนี้ บริษัทถึงกับส่งเธอไปให้ทีมงานที่ฮ่องกงเพื่อศึกษาเรียนรู้เป็นเวลาถึงหลายเดือน!
ในใจของกงเสี่ยวเจิ้งเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณหยางโป เธอคิดว่าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหยางโป เกรงว่าเธอจะยังคงอยู่ในเมืองนั้น และอาศัยวิธีการที่ไร้ยางอายเพื่อกลับไปตอบแทนสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าอยู่
“ ประธานหยาง นี่คือห้องทํางานของประธานชุย ฉันต้องไปเรียนแล้ว ตอนเที่ยงคุณพอมีเวลาไหม ? ฉันอยากเลี้ยงข้าวคุณ ! ” กงเสียวเจิ้งกล่าว
หยางโปมองดูหญิงสาวที่มีชีวิตชีวาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ก็รู้สึกอดยิ้มไม่ได้ “ ตอนเที่ยงฉันจะกินข้าวที่โรงอาหาร ถึงเวลานั้นมากินด้วยกันสิ !”
กงเสี่ยวเจิ้งพยักหน้า “ ถ้างั้นก็ได้ !”
เมื่อส่งกงเสี่ยวเจิ้งไปแล้ว หยางโปก็ไปเคาะประตูห้องทํางานของชุยอี้ผิงและเดินเข้าไป
ชุยอี้ผิงกําลังจัดการกับงานอยู่ พอเงยหน้าขึ้นเห็นหยางโปเดินเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดออกมาว่า ” ในที่สุดนายก็มา เมื่อกี้น่าจะเดินดูไปมารอบหนึ่งแล้วใช่ไหม ? ชอบสาวคนไหนของเราหรือเปล่า ?” “ ฉันเป็นสมภารกินไก่วัดหรือไง? ” หยางโปถาม
ชุยอี้ผิงมองสํารวจขึ้นลง “ ก็นายนั่นแหละ”
ในขณะที่พูด ชุยอี้ผิงก็รินน้ําชาให้หยางโปแก้วหนึ่ง และเชิญให้เขานั่งลง จากนั้นถึงได้เอ่ยปากพูดว่า “ อันที่จริงแล้ว ที่เชิญนายมาคือฉันมีเรื่องจะพูดกับนายสักหน่อยน่ะ”
หยางโปนั่งบนโซฟาและมองสํารวจไปรอบๆ ห้องทํางานของชุยอี้ผิงไม่ใหญ่ แต่ดูเป็นระเบียบมาก มีกระถางต้นไม้สีเขียวจัดวางอยู่หน้าโต๊ะทํางานสองสามต้น ทําให้ทั้งห้องเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
หลังจากจิบชาแล้ว หยางโปถึงได้ชายตามองไปที่ชุยอี้ผิงอย่างไม่รีบร้อน” มีเรื่องอะไร?”
ชุยอี้ผิงมีอาการลังเลเล็กน้อย “ ฉันอยากลาออก”
หยางโปนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาเงยหน้าขึ้นมองชุยอี้ผิง “ บอกฉันได้ไหมสาเหตุคืออะไร ? ”
ชุยอี้ผิงครุ่นคิดอยู่สักพัก “ ฉันคิดว่าฉันไม่เหมาะกับการทําธุรกิจ ฉันไม่ชอบการพบปะสังสรรค์และกินเลี้ยง ทุกครั้งที่ต้องมาเผชิญหน้ากับสีหน้าและรอยยิ้มในแต่ละรูปแบบ และกฎเกณฑ์ต่างๆบนโต๊ะกินเลี้ยง ฉันรู้สึกเจ็บปวดมาก!”
หยางโปมองหน้าชุยอี้ผิง มองใบหน้าที่เผยความเจ็บปวดบางส่วนของเขาออกมา จึงพยักหน้าลงเล็กน้อย “ ฉันเข้าใจ นายไม่ชอบจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างคน นายต้องการเผชิญหน้ากับกระดานวาดภาพทุกวันอย่างเป็นอิสรเสรีใช่ไหม? ”
ชุยอี้ผิงพยักหน้า “ ใช่ ! “
หยางโปมองไปที่ชุยอี้ผิง บริษัทก่อตั้งขึ้นจากความต้องการของชายชราที่อยากจะฝึกฝนชุยอี้ผิง เพื่อไม่ให้เขาหมกมุ่นอยู่แต่กับการวาดภาพไปซะหมด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ผลจริงๆ
ตรงกันข้ามกลับทําให้ชุยอี้ผิงมีความรู้สึกรังเกียจ
หยางโปไม่ได้แปลกใจมากนัก เรื่องราวทั้งหมดที่ชุยอี้ผิงเล่าให้เขาฟัง น่าจะอยากให้เขาเอ่ยปากพูดเรื่องนี้กับชายชรา เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเงยหน้ามองชุยอี้ผิง “ คืนนี้มีงานเลี้ยงไหม? ”
ชุยอี้ผิงพยักหน้า ” คืนนี้มีงานเลี้ยง เป็นการทานข้าวเย็นร่วมกันของผู้กํากับและโปรดิวเซอร์หลายคนในอุตสาหกรรมนี้ “
ใครคือบุคคลที่สําคัญที่สุดในคืนนี้ ? ” หยางโปชายตามองมาทางชุยอี้ผิง
หานเสี่ยวผิง” ชุยอี้ผิงตอบ
หยางโปไม่ค่อยรู้เรื่องวงการภาพยนตร์ในประเทศมากนัก แต่เขารู้ว่าหานเสี่ยวผิงเป็นบุคคคลสําคัญ เขาควบคุมการนําเข้าภาพยนตร์ในประเทศและส่งผลกระทบต่อกําหนดการภาพยนตร์ในประเทศ
“ งานเลี้ยงคืนนี้ฉันจะไปเป็นเพื่อนนายเอง” หยางโปกล่าว
ชุยอี้ผิงหันไปมองหน้าหยางโปด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย จู่ๆก็รู้สึกแปลกใจปนดีใจ
” ดีเลย พวกเราไปด้วยกัน! “
หยางโปไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมชุยอี้ผิง เพราะเขารู้ดีว่าชุยอี้ผิงจะไม่เอ่ยถึงปัญหานี้ออกมาอย่างง่ายดาย เขาต้องคิดไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบแล้ว
ถ้าทําตามข้อตกลงที่ให้ไว้กันก่อนหน้านี้ พอหยางโปมาถึงโรงอาหาร ชุยอี้ผิงได้เตรียมเครื่องปรุงไว้ให้พร้อมแล้ว เขาจึงเหลือบมองไปที่หยางโป” เมื่อวานนี้นายบอกว่าจะแสดงฝีมือ ฉันเลยให้ครัวซื้อส่วนผสมเพิ่มเติมมาให้เป็นการเฉพาะ”
หยางโปพยักหน้า เขาเดินเข้าไปและมองสํารวจอย่างละเอียด
หยางโปรู้วิธีทําอาหาร อีกทั้งยังมีฝีมือการทําอาหารที่ดีมากอีกด้วย แต่มีเคล็ดลับการทําอยู่ไม่เยอะ เขาคิดอยู่นาน จึงคิดที่จะทําผัดมันฝรั่งฝอยแบบง่ายที่สุด!
แต่เมื่อชุยอี้ผิงได้ฟังหยางโปบอกชื่อรายการอาหารก็ถึงกับตกตะลึงไปทันที เขาเบิกตากว้างมองหน้าหยางโป “ ผัดมันฝรั่งฝอย ? นายแน่ใจนะว่าจะทําผัดมันฝรั่งฝอย? ”
หยางโปพยักหน้า “ ทําไม? มีปัญหางั้นเหรอ? ”
ชุยอี้ผิงส่ายหน้า “ ฉันเชิญนายมาอย่างยากลําบาก แต่ตอนนี้นายกลับบอกว่าจะทําผัดมันฝรั่งหั่นฝอย ทําไมฉันรู้สึกว่าเหมือนฉันจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกผิดหวังที่อยู่ในใจของทุกคนได้นะ?”
หยางโปหัวเราะ “ อย่าเพิ่งรีบร้อนพูดแบบนี้ ดูจบแล้วค่อยพูด !” โรงอาหารของบริษัทจ้างแม่บ้านมาสองคน พวกเธอกําลังเตรียมอาหารกลางวันอยู่พอดี เมื่อได้ยินว่าหยางโปกําลังจะเตรียมอาหารกลางวัน ก็รีบเข้ามาลงมือช่วยทันที แม่บ้านคนหนึ่งหยิบมันฝรั่งออกมาและกําลังจะทําการปอกเปลือก
แต่หยางโปรีบห้ามไว้และพูดว่า “ ป้าทั้งสอง พวกคุณไปทํางานเถอะ หากฝีมือทําอาหารของผมไม่ได้เรื่อง ทําอาหารดีๆออกมาไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้น ยังต้องพึ่งพาฝีมือของพวกคุณอยู่นะ”
“ เถ้าแก่ลงมือทําเอง ฝีมือจะแย่ได้ยังไง” ป้าคนหนึ่งพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม
หยางโปยิ้ม เขาหยิบมันฝรั่งขึ้นมาและปอกเปลือกออกทันที การเคลื่อนไหวของเขาดูเชื่องช้ามาก อย่างกับชายแก่คนหนึ่ง
ชุยอี้ผิงที่ยืนอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “ นายเคยเข้าครัวไหมเนี่ย ? นายคงไม่ใช้เวลาสองชั่วโมงในการปอกเปลือกและนั่นมันฝรั่งหรอกนะ ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราคงจะไม่ได้กินผัดมันฝรั่งฝอยของนายแล้วล่ะ! ”
หยางโปถือมีดไว้ในมือโดยที่ไม่พูดอะไร แต่มีดในมือยิ่งนั่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ มีดในมือของเขาทําราวกับบินได้ เปลือกของมันฝรั่งต่างก็บินตามไปพร้อมกับมัน
แค่พริบตาเดียว มันฝรั่งลูกหนึ่งก็ถูกปอกเปลือกจนแล้วเสร็จ
ชุยอี้ผิงถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย “ นายเคยฝึกมาก่อนหรือเปล่า? ”
หยางโปไม่ได้สนใจ ปอกเปลือกมันต่อไป
ไม่นาน หยางโปกปอกเปลือกมันฝรั่งเสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นมองซุยอี้ผิง “ ใช้เวลาไปนานเท่าไหร่ ? จะเสียเวลาไหมตอนนี้ ? ”
ชุยอี้ผิงสังเกตเห็นแล้วว่าหยางโปดูเหมือนจะมีทักษะการทําอาหารอยู่บ้าง เขาพยักหน้าลง
“ ไม่เลว แต่ฉันยังต้องดูทักษะการใช้มีดของนายก่อน !”
หยางโปไม่ได้อธิบายว่ายังไง เขาวางมันฝรั่งลงบนเขียง แล้วนั่นเป็นชิ้นอย่างช้าๆก่อน จากนั้น มีดทําครัวในมือก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ใบมีดตัดมันฝรั่งออกเป็นชิ้นเล็กละเอียด เส้นมันฝรั่งพวกนี้แต่ละเส้นละเอียดมาก อีกทั้งยังได้สัดส่วนดีมาก !
ชุยอี้ผิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ตะลึงอ้าปากค้างไปเลยทีเดียว เขาหยิบมันฝรั่งเส้นหนึ่งฉีกออกดู
ดูเส้นที่บางราวกับเข็ม ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมอยู่ไม่น้อย “ ฉันค้นพบว่านะ คนบางคนเกิดมาก็เก่งมาก ไม่ว่าเรื่องทําครัวก็ทําได้ดีเช่นกัน ! ”
หยางโปเมินเขา สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่มันฝรั่งตรงหน้า ทันใดนั้นก็พบว่า สายตาดี มีประโยชน์มากจริงๆ เขาไม่ได้รับการฝึกฝนมาก่อน เหตุผลที่เขาสามารถตัดออกมาได้สัดส่วนอย่างแม่นยํา นั่นเพราะเขามองเห็นได้อย่างชัดเจน !
แม่บ้านที่ทํางานในโรงอาหารถึงกับตกใจนิ่งอึ้งไปเหมือนกัน พวกเธอยืนดูหยางโปกวัดแกว่งมีดทําครัวไปมา ถึงกับอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า “ นี่มันเร็วเกินไปหรือเปล่า? ”
“ ฉันว่านะ นี่นายไม่ได้อยากทําอาหาร นี่อยากมาอวดทักษะการใช้มีดซะมากกว่าละมั้ง ?” ชุยอี้ผิงหยอกล้อขําๆ
“ ฉันคิดว่า สู้คุณทําเต้าหู้เหวินซือดีกว่านะ ” จู่ๆแม่บ้านคนหนึ่งที่เสนอออกมา