เนตรเซียนทะลุสมบัติ - ตอนที่ 306
ตอนที่ 306 โคมไฟมังกรขดตัว
เพราะการหายตัวไปของอวี่เหวิน ทุกคนจึงยิ่งต้องระวังมากขึ้น หยางโปเดินนำหน้าสุด คอยสังเกตุการณ์อยู่รอบด้าน จนถึงขั้นรักษาความปลอดภัยให้เลยทีเดียว เขาใช้ความสามารถพิเศษในการสแกนมองออกไปทั่วทิศทางอยู่ตลอดเวลา
เพียงแต่ด้วยความที่ใช้ไปเป็นปริมาณมาก ไม่ถึง 15 นาที เขาก็สัมผัสได้ว่าร่างกายของเขากำลังจะยืนหยัดเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป จนมีอาการตาลายขึ้นมาทันที
หยางโปทำได้เพียงแค่ต้องปล่อยวางการสแกนลง แต่ก็ยังค่อยๆเปิดทางไปข้างหน้าอยู่เหมือนเดิม หยางโปดับไฟฉายที่มีแสงอ่อนๆลง เพื่อบอกให้ทุกคนใช้เสียงให้เบาลง จากนั้นเขาก็เดินต่อไปข้างหน้า
หลังจากเดินออกมานอกถ้ำ เมื่อส่องเข้าไปยังโพรงถ้ำ ณ สายตาเบื้องหน้า โพรงถ้ำนั้นมีขนาดเท่าสนามฟุตบอลบอลขนาดกลาง หยางโปจึงได้เห็นชาวญี่ปุ่นกำลังล้อมกันอยู่ตรงกลาง และกำลังจุดเทียนไข ราวกับกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง
หยางโปรีบยื่นมือออกไปขวางทุกคนเอาไว้ เขาชำเลืองมองออกไป แล้วก็เห็นว่าด้านหลังของกลุ่มชาวญี่ปุ่นนั้นมีโลงศพอยู่โลงนึง ด้านข้างของโลงศพนั้นก็ยังมีหีบมากกว่า 20 ใบตั้งอยู่ด้วย ในถ้ำแห่งนี้มีรูปปั้นที่ฝังอยู่ในสุสานกระจัดกระจายกันปกป้องโลงศพที่ตั้งอยู่ตรงกลางไม่น้อยเลยทีเดียว
หยางโปรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาในใจ เมื่อเห็นกลุ่มชาวญี่ปุ่นส่งเสียงร้องตะโกนกันออกมา ชาวญี่ปุ่นที่เหลือเพียง 4 คนต่างก็ลงมือกันอย่างแข่งขัน นั้นคือนำสิ่งของที่อยู่รอบตัวพวกเขาออกไปจากที่นี่ ! หยางโปหมุนตัวกลับไปเพื่อบอกตำรวจติดอาวุธที่นำอยู่ข้างหลังเป็นนัยๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำว่า พวกนายเอาออกไปได้ไหม ? ตำรวจติดอาวุธคนนั้นมองไป ณ ที่ไกลๆ จากนั้นก็ประสานตาเข้ากับชาวญี่ปุ่นที่กำลังดับไฟเทียนไขอยู่พอดี จึงได้ทำการเปิดไฟส่องสำรวจ เขาครุ่นคิดอยู่เล็กน้อยก่อนจะพูดออกไปว่า เอามาให้พวกเรา ! เมื่อพูดจบ เขาก็หมุนตัว จากนั้นก็ใช้มือสั่งการคนด้านหลังอีก 3 คนทันที
ภายในถ้ำที่มืดสนิท เขาจึงต้องทำการแสดงอยู่สองรอบ เมื่อมั่นใจว่าทั้งสามคนเข้าใจแล้ว จึงได้หมุนตัวแล้วเดินไปข้างหน้า
หยางโปถอยออกไปด้านหลังเล็กน้อย เมื่อเห็นผู้นำแสดงอากัปกิริยาบางอย่าง ทั้งสี่คนพุ่งตัวไปข้างหน้าราวกับนักล่า ! หยางโปเห็นเงาทั้งสี่คนพุ่งออกไป มีเพียงเสียงฝีเท้าที่ดังขยายออกมาเท่านั้น
ไม่นานชาวญี่ปุ่นที่เป็นหัวหน้าก็มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา จากนั้นก็หมุนตัวกลับมามอง และพูดภาษาจีนด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้างว่า ใคร ?
อย่าขยับ ! ตำรวจติดอาวุธตะโกนออกไป
หัวหน้าคนนั้นหมุนตัวแล้ววิ่งออกไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถ้ำโดยที่ไม่ได้สนใจคนทั้งสี่แม้แต่น้อย ! เมื่อหยางโปเห็นเข้า เขากำลังจะตามออกไปแต่กลับถูกเฉาหยวนเต๋อดึงตัวเอาไว้ อย่าไป ระวังตัวด้วยพวกเขามีปืน ! เมื่อเสียงของเฉาหยวนเต๋อสิ้นสุดลงได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสี่ยง ปัง จากปืนขึ้นมาหนึ่งเสียง ต่อจากนั้น หยางโปก็เห็นตำรวจติดอาวุธนายหนึ่งกอดแขนและล้มลงไปกับพื้น
ปัง ! ปัง ! ปัง !
เสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่อง 3 ครั้ง หยางโปมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดูเหมือนจะมีแค่ฝุ่นที่ตลบอบอวนไปทั่วภายในถ้ำ
จับกุมเอาไว้ได้3 คน หนีไปได้2คน ! หัวหน้าตำรวจติดอาวุธตะโกนเสียงดังออกไป
หยางโปรีบวิ่งออกไปดูทันที แล้วก็เห็นตำรวจติดอาวุธนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ มีผู้ที่ได้บาดเจ็บอีก 2 คนในกลุ่มชาวญี่ปุ่นสามคนล้วนแล้วแต่ถูกใส่กุญแจมือแล้วเรียบร้อย
หยางโปออกคำสั่งออกไปว่า ทิ้งคนคอยดูแลเพื่อนเอาไว้ 1 คน ส่วนอีกสองคนตามฉันมา !
เมื่อพูดจบ หยางโปก็วิ่งไปยังทิศทางของชาวญี่ปุ่นทันที
หยางโปนั้นวิ่งไม่ช้าเลย แต่ตำรวจติดอาวุธนั้นวิ่งเร็วยิ่งกว่า ก่อนหน้านั้นพวกเขาได้รับคำสั่งพิเศษของลัวซือเต๋อมา นั่นคือรับฟังการจัดการของหยางโป และรักษาความปลอดภัยเขา ในเวลานี้พวกเขาจึงได้พุ่งตัวไปข้างหน้า
เมื่อวิ่งไปตามทิศทางที่ชาวญี่ปุ่นแยกตัวออกไป ไม่นานหยางโปก็ได้ยินเสียงซ่าซ่าขึ้น จากนั้นเขาก็หยิบไฟฉายขึ้นมาส่อง แล้วก็เห็นเงาสองกลุ่มพุ่งพรวดออกไปข้างหน้า หนีหายเข้าไปในความมืด !
เมื่อตามมาถึงริมน้ำ หยางโปก็ได้ขวางตำรวจติดอาวุธเอาไว้ ช่างเถอะ ไม่ต้องตามแล้ว มันอันตรายเกินไป พวกเราดูก่อนว่าวิทยุสื่อสารมีสัญญาณรึเปล่า สามารถติดต่อคนข้างบนได้ไหม ให้เขามาล้อมจับพวกนั้น
วิทยุสื่อสารไม่มีสัญญาณนานแล้ว
งั้นก็ช่างมันเถอะ
หยางโปและทั้งสามคนค่อยๆเสาะหาคราบเลือดอยู่ข้างริมน้ำอย่างเงียบๆ เมื่อเวลาผ่านไปราว 15 นาที เมื่อไม่เห็นหัวของชาวญี่ปุ่นสักคนเดียว จึงได้แยกจากไป
เมื่อกลับเข้ามาในถ้ำ หยางโปก็เห็นลัวย่าวหัวและคนอื่น ๆกำลังล้อมอยู่ส่วนกลางของถ้ำ ซึ่งทำแบบเดียวกับที่ชาวญี่ปุ่นเมื่อสักครู่นี้ เขาจึงเดินเข้าไปด้วยความตกใจมาก
โคตรมหัศจรรย์เลย ! ลัวย่าวหัวออกปากชม
หยางโปมองไปแวบหนึ่ง ด้วยแววตาที่เปล่งประกาย เมื่อเห็นโคมไฟหยก 5 ใบถูกมังกรขดตัวขนาด 3 ฟุต ตัวหนึ่งคาบเอาไว้อยู่ในปาก เทียนไขภายในถูกจุด เทียนไขเหล่านี้ไม่มีสีไม่มีกลิ่น น่าจะเป็นของที่ชาวญี่ปุ่นนำเข้ามา
ในตอนที่เทียนไขถูกจุดไฟนั้น เล็บของมังกรขดตัวก็เคลื่อนไหวขึ้นมา เปลวไฟได้ส่องแสงสกาวราวกับกลุ่มดาวบนฟากฟ้าเต็มห้อง !
นี่….นี่เป็นของล้ำค่าภายในพระราชวังเสียนหยาง ! เฉาหยวนเต๋อพูดขึ้นด้วยความตื่นตกใจ
หยางโปไม่รู้ที่มาที่ไป จึงหมุนตัวแล้วหันไปมองเฉาหยวนเต๋อ จากนั้นเฉาหยวนเต๋อก็ได้อธิบายว่า ” บันทึกยอดกตัญญูขององค์จักรพรรดิได้กล่าวเอาไว้ว่า ในปีที่จักรพรรดิฮั่นเกาจู่เข้าพระราชวังเสียนหยาง ทรงเสด็จไปยังท้องพระคลังทั้งหมดรอบหนึ่ง สมบัติพัสถานในท้องพระคลังมีจำนวนมากนับไม่ถ้วน องค์จักรพรรดิฮันเกาจู่ทรงพอพระทัยอย่างสุดซึ้งที่สุดก็คือโคมไฟมังกรขดตัวชิ้นนี้ นึกไม่ถึงว่าในสมัยนี้จะยังมีของล้ำค่าแบบนี้อยู่จริงๆ ! “
ในขณะที่หยางโปจ้องมองไปยังโคมไฟหยกมังกรขดตัวอยู่นั้น แสงก็ได้มารวมตัวกันอยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นว่าตรงหน้าไม่ใช่แสงที่หนาแน่นมากพอ หยางโปก็ได้ถอนหายใจออกมา ” โคมไฟมังกรขดตัวชิ้นนี้น่าจะสร้างขึ้นในช่วงสมัยราชวงศ์ชิง ดูเหมือนว่า จะเป็นของจักรพรรดิสักพระองค์หนึ่งในราชวงศ์ชิงอย่างแน่นอน “
เฉาหยวนเต๋ออ้าปากเล็กน้อย เมื่อนึกถึงตัวอักษรฮั่นสองประเภทตรงปากทางเข้าถ้ำ และก็คิดได้ว่าถ้าของล้ำค่าเป็นของที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยนั้นจริง ๆ ก็ต้องมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วหล้าแล้ว ไม่มีทางจะซ่อนตัวปิดบังมายาวนานกว่า 2000 ปีได้หรอก !
หยางโปจ้องมองอยู่สักพัก จากนั้นก็เดินไปด้านข้าง เขาเปิดหีบใบหนึ่งออก ก่อนจะเห็นสมบัติมากมายก่ายกองอยู่ในนั้น ในใจก็อดที่จะรู้สึกเสียดายขึ้นมาไม่ได้ ที่ของเหล่านี้จะต้องส่งกลับคืน !
โคมไฟขดตัวเป็นเพียงแค่ของหายากเท่านั้น สิ่งที่คนมากมายเหล่านี้กำลังจ้องมองก็คือของที่เขาไม่สามารถนำออกไปได้ !
เมื่อเป็นแบบนี้ หยางโปก็นึกถึงอวี่เหวินที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยขึ้นมาทันที อีกฝ่ายต้องค้นพบอะไรบางอย่าง แล้วเดินเข้าไปคนเดียวอย่างแน่นอน ?
เมื่อนึกถึงคำสั่งที่ออกมาจากปากของอวี่เหวิน สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันก็ปรากฏขึ้นมาแล้ว พูดได้ว่าบางทีเขาอาจจะไม่เห็นอย่างที่ทุกคนเห็นก็ได้ ?
หยางโปรีบทำการสำรวจค้นหารอบทิศทาง ซึ่งทั้งสี่ทิศทางก็ไม่มีห้องอื่นอย่างแน่นอน ที่นี่เป็นถ้ำธรรมชาติ ยังสามารถหาที่ฝังศพเหล่านี้เจอ คนในโลงศพนั้นก็เก่งมากจริงๆ !
ตำรวจติดอาวุธที่เหลืออยู่แค่ 2 นาย ลัวย่าวหัวและเฉาหยวนเต๋อก็เดินตามมา หยางโปพาคนอื่นๆกลับไปยังจุดเดิม
เมื่อกลับไปข้างบน ก็พบกับตำรวจติดอาวุธที่ได้รับบาดเจ็บนายหนึ่ง ลัวซือเต๋อก็พลันตกใจทันที จากนั้นก็รีบมองไปทางหยางโปทันที ” พวกนายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ลัวย่าวหัวก็ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม ? “
คุณวางใจเถอะ ย่าวหัวยังรักษาการณ์อยู่ข้างล่าง ผมขึ้นมาข้างบนเพื่อพาคนเข้าไป หยางโปพูด
ลัวซือเต๋อไม่รอให้หยางโปอธิบายให้มากความ เขาก็พูดขึ้นว่า ไปเถอะ เราเดินไปพูดไปก็ได้ ฉันได้เตรียมบันไดเอาไว้พร้อมแล้ว แค่เพียงนำไม้กระดานที่เจอเสริมขึ้นไปข้างบนก็ใช้การได้แล้ว
หยางโปตื่นตกใจเล็กน้อย คุณรู้ได้ยังไงว่าต้องเตรียมบันได ?
อวี่เหวินบอกฉันเอาไว้ เขานำหน้าพวกเรา 1 ก้าว และล่วงหน้าไปแล้ว ก่อนไปเขาก็เสนอความคิดเห็นของเขาให้ฉันฟัง ลัวซือเต๋ออธิบาย
เขาไปแล้วเหรอครับ ? หยางโปตื่นตกใจ
เขาขับรถออกไปแล้ว ทำไมเหรอ หรือว่าเขามีปัญหาอะไร ?
หยางโปส่ายหน้า ไม่ ไม่มีอะไร เรารีบลงไปข้างล่างกันเถอะ เมื่อถึงข้างล่าง พวกคุณจะต้องตะลึงอย่างแน่นอน หลังจากนี้ที่นี่จะต้องถูกสร้างขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์ และเก็บค่าตั๋วได้ไม่น้อยเลยแหละ