โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 622: การทำลายล้างของ ฮั่วหยุนจง
RC:บทที่ 622: การทำลายล้างของ ฮั่วหยุนจง
“สมควรแล้วที่เขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งในสมัยโบราณ พลังของเขาเหนือชั้นมากจนยากที่จะต้านทานได้ เขายืนหยัดมาได้ถึงตรงนี้ก็เกินความสามารถของมนุษย์ไปมากแล้ว!” ผู้นำใหญ่ของสหพันธ์แห่งความมืดกล่าว ในเวลานี้ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บจนเขาอดที่จะยกย่องอีกฝ่ายบ้างไม่ได้
ใบหน้าของผู้นำฮั่วหยุนจงมืดมน ความแข็งแกร่งของทั้งสามคนนั้นสูงกว่าที่ที่เขาประเมินไว้ในคนยุคปัจจุบันด้วยซ้ำ ในตอนนี้เขาสามารถอาศัยความแข็งแกร่งของเขาในการต่อต้านได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อการต่อสู้นั้นยืดเยื้อยาวนาน เขาก็พบว่าเขาไม่สามารถทนต่อความพ่ายแพ้ได้
“แค็ก แค็ก แค็ก!”
ปรมจารย์ฮั่วหยุนจงไอสองสามครั้งและอาเจียนเป็นเลือด
ถ้าเขาไม่ถูกโจมตีโดยหัวหน้าองค์กรนักฆ่าก่อนในตอนแรก เขาจะต่อสู้กับทั้งสามได้สบายๆ แต่เขาจะต้องหนีไปให้ได้ในตอนนี้
อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาถูกโจมตีโดยหัวหน้าองค์กรนักฆ่าและเกือบจะแทงหัวใจของเขาด้วยดาบซึ่งทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเขาเสียหายอย่างมาก
เขาก็ยิ่งต้องทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาพูดด้วยท่าทีสงบ: “ยอมแพ้ซะ ยังไงพวกแกก็ไม่สามารถฆ่าฉันได้!”
“อ๋อเหรอ? ถ้าพวกฉันสามคนไม่พอ แล้วถ้าห้าคนล่ะ”
ทันใดนั้นเสียงของเด็กหนุ่มก็ดังขึ้น และร่างอีกสองร่างก็เดินออกมาจากความมืด พวกเขาเป็นผู้นำคนที่สามและเสี่ยวหยางจากสหพันแห่งความมืด
มีคนสองคนปรากฏขึ้นร่างของพวกเขาส่งสัญญาณแห่งความหวาดกลัวไม่น้อยไปกว่าอีกสามคนในตอนแรกเลย
“ผู้แข็งแกร่งอีกสองคน อยู่ในระดับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 7 ?” ครั้งนี้ผู้นำฮั่วหยุนจงลุกลี้ลุกลนจริงๆ แล้ว
ใครจะคิดว่าพลังสำคัญต่ำกว่าขั้นที่เกือบจะหายไปในสายตาของทุกคนในอดีต จะมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ได้
ในเวลานี้ทั้งห้าคนแต่ละคนต่างก็ปล่อยพลังที่น่ากลัวในแบบของตัวเองออกมา พวกเขาทั้งหมดอยู่เหนือระดับที่เจ็ดไปแล้ว คนที่พลังอ่อนแอที่สุดคือชายหนุ่มที่ดูแปลกประหลาดคนนั้น ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่ ๆ
แต่เขาทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเขาเป็นภัยอันตรายที่สุดจริงๆ แม้แต่ผู้นำใหญ่ของสหพันธ์ที่เป็นผู้แข็งแกร่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับที่แปด ก็ยังไม่น่ากลัวอย่างที่เขาเป็นเลย
“ความแข็งแกร่งระดับเจ็ดมีถึง 5 คนเลยรึ!!” ตาของฮั่วหยุนจงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่จริงจัง เขามองไปที่กลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว
แม้แต่ปรมาจารย์ของสำนักฮั่วหยุนจง ที่มีอำนาจมากที่สุดในสมัยโบราณก็ยังตกใจ
“มาเถอะอย่าเสียเวลาเลย!” ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดออกมาจากกลุ่มคนทั้ง 5 คน
“ใช่แล้ว ๆ ” คนอื่น ๆ พยักหน้าตามกันทันที
ฉากนี้สร้างความสับสนให้กับอาจารย์ฮั่วหยุนจงอย่างมาก เพราะการฝึกฝนของชายหนุ่มไม่ได้แข็งแกร่งนักเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ แต่แรงผลักดันของเขานั้นน่ากลัวจนแทบไม่มีใครเทียบได้ แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าคนอีกสี่คน จะให้ความเคารพนับถือต่อเขาที่อ่อนแอสุดได้
แต่แน่นอนว่าปรมจารย์ฮั่วหยุนจงไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้ จึงหันหลังแล้วเริ่มวิ่งหนี
“หยุดมันซะ!” สัตว์ประหลาดตัวน้อยคำราม ความโล่งใจเกิดขึ้นเล็กน้อย ชายหนุ่มหน้าละอ่อนคนนั้นเข้ามาปะทะกับเขาแทน
ในเวลานี้ดวงตาของสัตว์ประหลาดตัวน้อยเป็นประกายสีแดงสด เส้นสีเขียวที่เหมือนหมึกเพ้นท์บนใบหน้า ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องและพลังอันน่ากลัวก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นกว่าที่ควรจะเป็นเรื่อย ๆ
จากนั้นด้านหลัง มังกรทั้งแปดตัวก็เติบโตขึ้น ปีกเนื้อสีแดงเลือดคู่หนึ่งปรากฏขึ้นที่หลังของเด็กหนุ่ม
ปีกเนื้อสด ๆ นั้น งอกออกมาพร้อมกับเสียงมังกรคำรามที่พุ่งตรงเข้าไปหาปรมาจารย์ฮัวหยุนจง
นอกจากนี้แล้วคนอื่น ๆ ก็ทำการปิดล้อมเข้าู่โจมด้วย การโจมตีที่ทรงพลังและเข้มข้น ทำให้ผู้ปกครองฮั่วหยุนจงไม่สามารถหลบหลีกได้แต่ตั้งรับการโจมตีของพวกเขาทีละคน
ในที่สุดเขาก็ต่อต้านการโจมตีของผู้คนหลายคนได้ และฝ่าออกไปอย่างกะทันหัน ผู้นำทั้งสามของสหพันธ์แห่งความมืด ถูกการโจมตีสวนกลับด้วยพลังอันรุนแรง และพร้อมที่จะหลบหนีออกไปอีกครั้ง
“ไอ้พวกเศษขยะ!” เมื่อเห็นว่าพวกเดียวกันเองเสียท่า คนประหลาดตัวน้อยก็ตะโกนใส่พวกเขาจากนั้นก็ใช้กำลังทั้งหมดที่มีในการกู้สถานะการณ์กลับมา
ทันใดนั้นวิญญาณมังกรที่น่ากลัวทั้งแปดตัวก็คำรามออกมา และเข้าไปพัวพันกับปรมจารย์ฮัวหยุนจงทันทีจากนั้นทำให้ปรมจารย์เสียหลักและต้องกลับมาตั้งรับอีกครั้ง
“แกหนีไม่พ้นหรอก!”
ชายหนุ่มพูดอย่างเย็นชา ท่าทางนั้นไม่ใช่การแสดงออกของมนุษย์เลยมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาดูเป็นสัตว์ร้ายที่ไม่มีอารมณ์ใด ๆ กับเหยื่อที่กำลังจะล่า
ผู้นำฮัวหยุนจงถูกปิดล้อมอีกครั้ง เขาบาดเจ็บสาหัสมาตั้งนานและชีวิตของเขาอาจจะกำลังจบลงก็ได้ กำลังที่เหลือเพียงเล็กน้อยนี้ ด้วยเวลาเท่านี้ เขาคงถูกมังกรทั้งแปดตัวดักเอาไว้และโอกาสหลบหนีเดียวของเขาก็จะหายไป
“ก็ได้! ข้ายอมแล้ว!” อาจารย์ฮั่วหยุนจงรู้ว่าภายใต้การร่วมมือของชายทั้งห้าคนนี้ เขาไม่สามารถหลบหนีได้จริงๆแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้น
เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะยอมอ่อนข้อให้เพราะกำลังที่มหาศาลของเขา
โดยทั่วไปแล้วนี่เป็นเรื่องจริง เพราะดินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับแปด ใครจะกำจัดทรัพยากรอย่างล่ำค่าได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น
แต่ชายหนุ่มแปลกหน้านั้นเลยคำว่าตรรกและเหตุผลไปแล้ว
ชายหนุ่มมองไปที่มังกรทั้งแปดตัวบนร่างของเขา พวกมันคำรามออกมาและตรงไปที่ร่างกายของผู้เฒ่าฮัวหยุนจง เสียงร้องอย่างสุดใจก็ดังขึ้น
มังกรทั้งแปดกำลังกัดและกลืนกินกายเนื้อและดวงวิญญาณของปรมจารย์ฮั่วหยุนจง หลังจากนั้นไม่นานร่างของผู้นำฮัวหยุนจงก็หายไปเหลือเพียงซากเนื้อและเศษกระดูกเท่านั้น
“อึก… ” ฝูงชนที่กำลังมองฉากนี้ต่างก็มีเหงื่อท่วมหัว พวกเขาพูดไม่ออกแม้แต่จะส่งเสียงอื่นใดออกมา
มันเป็นฉากที่ชวนขนหัวลุก.
จากนั้นสัตว์ประหลาดตัวน้อยก็นั่งลงบนพื้นโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผิดกลับแรงอันทรงพลังในร่างกายของเขาที่ส่งออกมา
ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาทุกอย่างในที่นี้ก็สะอาดหมดจด จนมีเพียงชายหนุ่มแปลกหน้าแปลกตาคนนี้เท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่ที่นั่น
จากนั้นทั้งร่างของปีศาจหนุ่มก็ตกตะลึง พร้อมกับพลังที่น่ากลัวก็แผ่กระจายออกไปกวาดอีกครั้ง
หลายคนตกใจกับพลังที่หาที่เปรียบมิได้นี้ แม้แต่คนที่อ่อนแอบางคนก็ถูกบังคับให้นอนลงไปบนพื้นพร้อมกับร่างที่สั่นกลัว
ฟิ้ว ฟิ้ว!
เสียงดังทะลุอากาศดังออกมา ร่างของชายทั้งสี่ปรากฏต่อหน้าชายหนุ่มแปลกหน้า แรงผลักดันที่หาที่เปรียบมิได้นี้ทำให้ชายที่แข็งแกร่งอีกสี่คนต้องคุกเข่าลงทีละคน
ถ้าฮั่วหยุนจงยังสามารถเห็นฉากนี้ เขาคงจะกลัวจนหมดสติไปเลยทีเดียว
“พระผู้เป็นเจ้า!”
หลังจากนั้นไม่นานร่างสัตว์ประหลาดตัวน้อยก็เปร่งแสงสีแดงในดวงตาออกมา ไม่นานนั้นแสงนั้นก็หายไปเส้นสีเขียวเข้มบนใบหน้าของเขาก็ค่อย ๆ ถอยออกไป
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาลืมตาขึ้นและมองไปที่สาวกตรงหน้า เขากล่าวสั้น ๆ ว่า “ลุกขึ้น!”
“ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า!”
จากนั้นทั้งสี่ก็ยืนขึ้น
พลังของสัตว์ประหลาดตัวน้อยก็เบ่งบาน ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยไฟ เขามองไปรอบ ๆ และเห็นเห็นความผิดปกติบางอย่าง ทันใดนั้นก็มีเสียงบางอย่างออกมา
“นั้นใคร!?” หัวหน้าใหญ่ของสหพันธ์ร้องขึ้นด้วยความโกรธและกำลังจะไล่สิ่งแปลกปลอมนั้นออกไป
“ไม่ต้องตามไป! พวกนายจะไปไหนก็ไป” สัตว์ประหลาดตัวน้อยกล่าว สิ้นแสงแฟลชร่างของเขาก็หายไปจากที่นั้น
เมื่อปีศาจผู้มากด้วยอำนาจจากไปทั้งคนสี่ก็ผ่อนคลายลงใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“นี่มันเป็นแรงผลักดันอะไร พี่ใหญ่ถึงเวลาที่พวกเราต้องฝึกฝนให้มากกว่านี่แล้วสินะ” ชายหนึ่งในสี่ถาม
หัวหน้าใหญ่ของสหพันธ์พยักหน้าและกล่าวว่า “อืม! พลังของเขาก้าวหน้าที่แข็งแกร่งกว่าฉันไปมาก … “
ในเวลานี้ทั้งประเทศกลับมาเดือดดาลอีกครั้งเพราะฮั่วหยุนจง หนึ่งในยักษ์ใหญ่ในกองกำลัง ฐานทัพหลายแห่งของพวกเขาถูกทำลายโดยสหพันธ์แห่งความมืด
ไม่รู้ข่าวมาจากไหน แต่ทันทีที่มีข่าวออกมาทั้งประเทศก็อยู่ในอาการกระสับกระส่ายอย่างหนักอีกครั้ง