โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 685 ช่วยเหลือ (2)
RC:บทที่ 685 ช่วยเหลือ (2)
เสียงแผ่วเบาของหลินเฟิงเต็มไปด้วยความประชดชัน
ที่บนพื้น ชายหน้าหนวดกับคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะหมดเรี่ยวแรงไปจนสิ้น วิญญาณของพวกเขาเสียหายไปในระดับหนึ่ง
นี่คือความน่ากลัวของพลังมังกรซึ่งไม่ทิ้งบาดแผลไว้ที่ร่างกาย เพราะสิ่งที่มันโจมตีนั้นคือสิ่งที่หลบซ่อนอยู่ภายในร่าง เช่น วิญญาณ หรือจิตวิญญาณ
หากไม่เป็นเพราะความแข็งแกร่งภายในตัว พวกเขาคงถูกกลืนกินจนเหลือเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ
“ว้าว…” ไม่ง่ายเลยสำหรับชายหน้าหนวดกับคนอื่น ๆ ที่จะฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในตอนที่มองเห็นหลินเฟิง พวกเขาต่างช็อคจนเกือบจะวิ่งหนีกระจัดกระจาย
หลินเฟิงดูราวกับปีศาจร้ายในชั่วขณะที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำ
พวกเขายังตื่นกลัวมากยิ่งขึ้น เมื่อพบว่าแท้จริงแล้วหลินเฟิงไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ชั้นสามแต่เป็นสวรรค์ขั้นห้าก้าวครึ่ง!
ใช่แล้ว ในตอนที่หลินเฟิงบรรลุถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ชั้นสามร่างสัตว์ของเขาก็ได้บรรลุไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ชั้นสี่เช่นกัน
ในตอนนี้สัตว์วิญญาณจำเป็นต้องได้รับการเลื่อนขั้นให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นพรสวรรค์แห่งสัตว์อสูรจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ
หลินเฟิงขยับปลายหอกไปยังจมูกของชายหน้าหนวดแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ตอนนี้เจ้ายังมีอะไรจะสั่งเสียไหม?”
ชายหนวดหวาดกลัวยิ่งนักจนน้ำตาไหลร่วง เขาร้องไห้ฟูมฟายพร้อมละล่ำละลัก “ท่านบรรพบุรุษ โปรดเมตตาและไว้ชีวิตด้วย!”
“เราไม่ทราบว่าท่านมีทักษะเช่นนี้ วันนี้เราช่างหน้ามืดตาบอดไปล่วงเกินท่าน พูดสิ พูดเร็วเข้า”
ชายหน้าหนวดตบหน้าตนเองแล้วรีบสั่งให้คนด้านหลังทำตาม
ต่อมาเขาจึงถามอย่างระมัดระวัง “ท่านบรรพบุรุษ ท่านพอใจหรือยังขอรับ?”
หลินเฟิงไม่ได้คิดที่จะสังหารอยู่แล้ว อีกอย่างเขาเพียงต้องการช่วยคน และอีกฝั่งก็ยังไม่ได้ทำอันตรายใดแก่เขา
ดังนั้นเขาจึงจ้องมอง: “หากเจ้ายังไม่อยากตาย ก็รีบไปซะ!”
“นี่…” แม้ว่าจะได้รับการไว้ชีวิต แต่ชายหน้าหนวดกับพวกก็ยังคงลังเลใจ ความต้องการของหลินเฟิงคือให้พวกเขาออกไปจากปราสาททองคำ แต่พวกเขาจะล้มเลิกได้อย่างไร?
“นายท่าน พวกเรารู้ดีว่าทำผิด แต่โปรดเหลือเหลือหนทางให้แก่เราเถอะ! ปราสาททองคำแห่งนี้คือโอกาสที่หาได้ยากยิ่งในรอบหลายพันปี แล้วเราจะทิ้งมันไปได้อย่างไร? “
“ได้ หากเจ้าไม่อยากไป งั้นข้าจะช่วยเจ้า” หลินเฟิงกล่าว
สีหน้าของชายหนวดกับคนอื่น ๆ มีความสุข กำลังจะกล่าวขอบคุณแต่กลับได้ยินหลินเฟิงเอ่ยว่า: “เจ้าจงอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตแล้วกัน!”
พอพูดจบ หลินเฟิงจึงก้าวออกมาแล้วยิงทะลุผ่านที่อันว่างเปล่า ทันใดนั้น ลำแสงสีดำจากปลายหอกก็พุ่งออกไปยังคนทั้งสาม
เมื่อรู้สึกได้ถึงพลังจากลำแสงสีดำ สีหน้าของชายหน้าหนวดทั้งสามก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ในเวลานี้ที่ไม่เหลือแม้แต่โอกาส คนทั้งสามต่างกรีดร้องแล้วรีบส่งตัวเองออกไปทันที
ผลจากลำแสงทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ตรงจุดที่คนทั้งสามเคยอยู่ นึกออกได้ว่าหากพวกเขาไม่เลือกที่จะจากไป สถานะในตอนนี้คงต้องตายอย่างแน่นอน
หลินเฟิงเพียงคาดเดาว่า พวกเขาจะต้องเลือกหนีไปเพราะกลัวตายแน่ ๆ
“มีมืดจ่อคออยู่แท้ ๆ ใยต้องให้บังคับอีก?” หลินเฟิงถอนหายใจแล้วรีบเดินไปหาเด็กสาว
แต่ร่างของเด็กสาวปรากฏขึ้นในครรลอง หลินเฟิงก็ชะงักทันที เขารีบเร่งฝีเท้าวิ่งเหยาะ ๆ ไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อกี้เขามัวแต่สนใจการต่อสู้จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าเด็กสาวหมดสติมาสักพักแล้ว
“นี่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เขารีบยกหัวของเธอขึ้นมาแล้วถาม
ใบหน้าของหญิงสาวไร้สีเลือด ริมฝีปากแห้งและขาวซีด พอปลุกก็ไม่ฟื้น ดูเหมือนเธอจะหมดสติไปแล้ว
หลินเฟิงไม่รู้ทักษะทางการรักษาจึงทำอะไรไม่ถูกและไม่กล้าผลีผลามในสถานการณ์เช่นนี้
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงหลุมดำขึ้นมา ดังนั้นจึงรีบหยิบมือถือออกมา
ในพื้นที่แปลกประหลาดนี้ เป็นธรรมดาที่จะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ แต่การทำงานของหลุมดำไม่จำเป็นต้องใช้สัญญาณเลย
เขาเรียกหลุมดำ บอกความต้องการ แล้วหน้าจอจึงปรากฏแสงสีแดงสว่างขึ้นมาในทันที
“โปรดสแกนเป้าหมายด้วย” หลุมดำแนะนำ
“ง่ายอย่างนั้นเลย?” หลินเฟิงประหลาดใจจนเปรยออกมา แค่ใช้มือถือสแกนเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าเนี่ยนะ
เดิมที หลินเฟิงมักเฉยเมยต่อหญิงสาว แต่พอเขามองตามแสงสแกนสีแดงที่ค่อย ๆ เคลื่อนไปตามร่างของเด็กสาว จึงอดไม่ได้ที่จะมองดูใบหน้าของเธอ
เด็กสาวสวย, เย็นชา และมีใบหน้าที่งดงามมากเกินไปจริง ๆ ตอนนี้ยิ่งมีอาการป่วยก็ยิ่งละสายตาไม่ได้เลย
ทั้งร่างปกคลุมด้วยชุดสีขาวที่ช่างสวยและสง่างามตั้งหัวจรดเท้า ขาเล็กที่อยู่ภายใต้กระโปรงทั้งสมส่วนและเรียวงามราวกับรากบัวสีขาว
หญิงสาวเช่นนี้ไม่ควรมีอยู่บนโลก เธอควรจะเป็นนางฟ้าที่อยู่บนฟ้า สูงส่งจนยากจะเอื้อมถึง
การสแกนกำลังดำเนินไป ดวงตาของหลินเฟิงยิ่งจ้องมองมากยิ่งขึ้น ในตอนนี้ปากของเขาแห้งผากและอดกลืนน้ำลายไม่ได้ นักสู้ผู้ประมาท เขาเกือบจะทำมือถือร่วงหล่นจากมือ
เมื่อการสแกนเสร็จสิ้น หลุมดำจึงเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์
และแม้หลินเฟิงจะคอยท่อง “สีสันคือความว่างเปล่า ความว่างเปล่าคือสีสัน” ในใจ สุดท้ายสายตาของเขาก็ยังจดจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเด็กสาว
แสงอาทิตย์ส่องลงมา โครงร่างบางส่วนของเด็กสาวกลายเป็นสีทอง ผมยาวสีดำของเธอม้วนขึ้น คอที่เรียวและบอบบางดูสง่างามและขาวผ่องราวกับคอหงส์
ในตอนนี้ หลินเฟิงรู้สึกเข้าใจถึงสิ่งที่พวกเขาทำขึ้นมาเล็กน้อย เด็กสาวที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ ชายคนใดในโลกจะไม่ใจสั่น?
แตกต่างตรงที่ชายบางคนเป็นมนุษย์และชายบางคนเป็นสัตว์
จากนั้นสักพัก หลุมดำจึงตอบออกมา
เดิมที หลินเฟิงเพียงอยากตรวจสอบผลของยาที่มีต่อเด็กสาว แต่ไม่คิดว่าหลุมดำจะซื่อนัก มันรายงานแม้กระทั่งสภาพทั่วทั้งร่างกายที่ละเอียดซะยิ่งกว่าไปตรวจที่โรงพยาบาล
และข่าวที่สำคัญที่สุดก็คือร่างกายของเด็กสาวไม่มีปัญหา เพียงแค่อ่อนล้าเกินไป ให้รักษาด้วยการส่งพลังวิญญาณเข้าไปในร่าง
เป็นสิ่งดีที่บอกได้ว่า จากการช่วยเหลือของลูกแก้วมังกร หลินเฟิงสามารถส่งออร่าแห่งสวรรค์และโลกเข้าไปในร่างของเด็กสาวได้โดยที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังวิญญาณของเขาแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะส่งให้ด้วยวิธีใดก็ไม่ถูกปิดกั้น
หลินเฟิงลังเลอยู่ชั่วขณะ เมื่อคิดว่าการช่วยคนเป็นสิ่งสำคัญ เขาจึงกัดฟันและปลดเงื่อนกระโปรงของเด็กสาว
เอวเล็กที่ไม่ถูกเกาะเกี่ยวหายไปเมื่อเงื่อนตรงกลางกระโปรงที่ถูกคลายออก หลินเฟิงเปิดซิปของเด็กสาว หลังที่เนียนเรียบไร้ริ้วรอยราวกับหยกได้ปรากฏสู่สายตาของเขา
หลินเฟิงรู้สึกว่าดวงตาของเขาถูกทิ่มแทงจนแทบจะบอดและรีบปิดตาลงอย่างรวดเร็ว
“น่าชังนัก!” เขาเอ่ยพร้อมเอามือปิดตาไว้
อย่างไรก็ตาม ฝามือไม่ได้ปิดสนิทเพียงแต่บังเอาไว้ใกล้ ๆ
ด้วยการใส่ออร่าอย่างต่อเนื่อง หลินเฟิงกลั้นหายใจและไม่กล้าเปิดตาขึ้น
ผ่านไปสักพัก เขารู้สึกได้ว่าใกล้เสร็จ จึงรูดซิปและผูกกระโปรงให้เด็กสาว
“ฟู่ว” เขาผ่อนลมหายใจเมื่อคิดได้ว่าประสบการณ์อันแสนทรหดได้จบสิ้นไปสักที
แต่ในวินาทีที่เขาลืมตาก็รู้สึกได้ถึงความอาฆาตที่อยากจะแทงทะลุตัวเขาด้วยลูกศรนับพัน
ต่อมา แสงเย็นยะเยือกในมือของเด็กสาวก็ได้โบกเข้ามาแล้ว