โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 218
RC:บทที่ 218 การประเมินหมู่บ้าน
วันนี้เป็นวันพิเศษเพราะเป็นวันที่หมู่บ้านจะต้องมีการประเมิน มีการแจ้งมาว่าจะมีคนหลายกลุ่มได้รับการส่งตัวมาตรวจสอบและให้คะแนนหมู่บ้านที่สวยที่สุดสิบอันดับแรก
และยังมีรางวัลใหญ่สำหรับหมู่บ้านที่ติดสิบอันดับแรกด้วย หลิน เฟิงเองก็ไม่รู้ว่ารางวัลนั้นจะเป็นเงินหรือของ หรือโครงการที่จะพัฒนาในเรื่องอะไร พูดสั้นๆก็คือ เรื่องดังกล่าวไม่ได้สำคัญอะไรกับหลิน เฟิงเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้านกลับดูมีท่าทีรีบร้อน ก่อนฟ้าจะสาง เขาก็มายังบ้านของหลิน เฟิงด้วยอารามรีบเร่ง ในตอนนั้น หลิน เฟิงกำลังหลับอยู่ ส่วนแม่ของเขานั้นตื่นแล้ว
“โอย นี่มันแค่หกโมงเช้าเองนะครับ แม่ มีอะไรให้ผมทำงั้นหรือครับ” หลิน เฟิงว่าพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า
“หลับไม่ได้แล้วลูก วันนี้เป็นวันประเมินหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านมาที่บ้านของเรา แล้วก็รอลูกอยู่นะจ๊ะ” ผู้เป็นแม่ดึงผ้าห่มนั้นออกก่อนจะว่าขึ้น
“ผู้ใหญ่บ้านหรือครับ ผมก็ทำทุกอย่างที่เขาต้องทำไปแล้วนี่” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“แม่ก็ไม่รู้ แต่ลุกขึ้นได้แล้วล่ะ ถ้าผู้ใหญ่บ้านต้องการให้ลูกช่วยอะไรอีก ลูกก็ต้องช่วยแกไป ถึงแม้แม่จะไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่นี่อาจเป็นสิ่งที่ช่วยเรื่องการพัฒนาของลูกในอนาคตก็ได้นะ” ผู้เป็นแม่เอ่ย
“ครับๆ ตื่นก็ตื่น จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” หลิน เฟิงไม่ได้อยากลุกขึ้นเลยสักนิด และตัวเขาเองปกติจะไม่ลุกก่อน 8 โมงด้วย
“อรุณสวัสดิ์ครับ ผู้ใหญ่บ้าน” หลิน เฟิงเปลี่ยนเป็นใส่ชุดสบายๆ ก่อนจะเดินเข้ามาที่ห้องโถง จากนั้นจึงเอ่ยทักทายผู้ใหญ่บ้าน
“อ้าว เสี่ยว เฟิง นี่ฉันคงไม่รบกวนการนอนของนายหรอกนะ” ผู้ใหญ่บ้านพูดขึ้นอย่างอายๆเล็กน้อย
“นี่คุณพูดว่าไงนะ” หลิน เฟิงว่าขึ้นพลางจ้องเขาตาโพลง
แต่เช้าหลังรุ่งสางเล็กน้อย ผู้ใหญ่บ้านก็เข้ามานั่งในบ้านคนอื่นเรียบร้อยแล้ว แล้วนี่ยังจะมาถามว่ารบกวนไหมอีก เกินไปจริงๆ
“ตายละ เสี่ยว เฟิง พูดอะไรอย่างนั้น” ในตอนนั้นเอง แม่ของเขาก็เดินออกมาก่อนจะว่าขึ้น
“ฉันไม่ถือหรอก” ผู้ใหญ่บ้านรีบว่าขึ้นทันที
“หึ จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะครับ” หลิน เฟิงรู้สึกขี้เกียจ จึงพูดออกไปอย่างเคืองๆ
“งั้นฉันจะพูดล่ะนะ คือวันนี้น่ะเป็นวันประเมินหมู่บ้าน จะมีคนสามกลุ่มส่งมาตรวจสอบและตัดสินว่าหมู่บ้านไหนสวยที่สุด และฉันก็มีความมั่นใจในหมู่บ้านของเราอย่างเต็มเปี่ยม” ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยอย่างพอใจ
นับตั้งแต่ที่หลิน เฟิงกลับบ้านมาสร้างสถานีเก็บขยะ โรงงานบำบัดสิ่งปฏิกูล จัดการขยะตามแม่น้ำ ปลูกดอกไม้ องุ่นและอย่างอื่น หมู่บ้านลั่วหยางจึงกลายเป็นหมู่บ้านที่มีแต่ดอกไม้ที่สวยงามจากเดิมที่เป็นหมู่บ้านสกปรก และเรียกว่าหมู่บ้านดอกไม้ หรือแม้แต่อาณาจักรดอกไม้ก็ว่า
เพราะในหมู่บ้านลั่วหยางตอนนี้เอง รวมถึงหมู่บ้านข้างเคียงนั้นมีแต่ดอกไม้เต็มไปหมดซึ่งล้วนแต่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วหมู่บ้าน ยิ่งไปกว่านั้น ดอกไม้ของที่นี่ล้วนเป็นดอกไม้คุณภาพสูงซึ่งจะสวยกว่าดอกไม้ที่จัดโชว์ในงานนิทรรศการดอกไม้แน่นอน
ที่นี่มีดอกไม้อยู่ทุกชนิด และที่ยิ่งน่าตกใจกว่าก็คือดอกไม้จากฤดูกาลอื่นก็อยู่ที่นี่ด้วย ดอกไม้จากฤดูต่างๆมีอยู่มากมายหลายชนิด โดยส่วนใหญ่จะเรียกว่าดอกไม้หลิน เฟิง
เมื่อก่อน ชาวบ้านที่ยากจนในหมู่บ้านลั่วหยางนั้นมีบ้านที่ทำจากไม้และบางบ้านก็เป็นปูน แต่ไม่ได้ทาสี พอมาอยู่ในหมู่บ้านดอกไม้ที่งดงาม พวกเขาต่างก็รู้สึกละลานตาไปหมด หลิน เฟิงจึงจ่ายเงินให้พวกเขาไปสร้างบ้าน ถนนและหางาน นอกจากนี้ หลิน เฟิงก็โทรหาตู๋ กังมาสร้างสวนสนุก สระว่ายน้ำ สนามบาสเกตบอลและสิ่งอื่นๆอย่างที่เมืองใหญ่ๆเขามีกัน
ดังนั้น หมู่บ้านลั่วหยางในตอนนี้อาจกล่าวได้ว่ามีหลิน เฟิงเป็นผู้สร้าง ทุกๆคนมักจะนำเรื่องทุกเรื่องมาให้เขาพิจารณาอยู่เสมอ ตอนนี้ หลิน เฟิงกลายเป็นคนดังในหมู่บ้านไปแล้ว โดยทั่วไปแล้ว เมื่อมีเรื่องใหญ่อะไรในหมู่บ้านก็มักจะถามหลิน เฟิงก่อนเป็นอย่างแรก ถ้าหลิน เฟิงตอบใช่ ทุกคนก็จะทำตามนั้น แต่ถ้าหลิน เฟิงตอบไม่ ทุกคนก็จะบอกไม่
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ใหญ่บ้านจึงมาที่นี่แต่เช้าตรู่ เพราะตอนนี้ทุกๆคนล้วนแต่ต้องมาฟังหลิน เฟิงก่อนเป็นอย่างแรก
ผู้ใหญ่บ้านเองก็ทำอะไรเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดตำหนิเช่นกัน และกลับมีความสุขแทน
เพราะยิ่งหลิน เฟิงสร้างหมู่บ้านให้ออกมาดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าเขาจะได้ย้ายเข้าไปทำงานในเมืองมากขึ้นเท่านั้น
เขาเป็นผู้ใหญ่บ้านที่หมู่บ้านนี้มาแล้วหลายปี แต่ก็ไม่ได้สร้างผลงานหรือความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่อะไรมากนัก ผู้คนที่ทำงานอย่างเขาเป็นเวลามากกว่าสิบปีนั้นได้เข้าไปทำงานในเมืองในตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสแล้ว ถ้าการประเมินหมู่บ้านได้รับการจัดอันดับต้นๆแล้วล่ะก็ เขาก็จะได้ย้ายเข้าไปในเมือง
“เอ่อ ก็ดีครับ แล้ว” หลิน เฟิงยังคงพูดออกมาอย่างไม่พอใจนัก
“ถ้างั้น ฉันขอพูดกับเธอตรงๆเลยนะ ไปที่หมู่บ้านแล้วพูดแทนฉันที สิ่งที่เธอพูดมันได้ผลมากกว่าที่ฉันพูด” ผู้ใหญ่บ้านกล่าว
“เฮ้อ ก็ได้ครับ” แม้ว่าหลิน เฟิงจะไม่ได้เต็มใจนัก แต่นี่ก็เพื่อคนในหมู่บ้าน หลิน เฟิงจึงตกปากรับคำ
จากนั้นผู้ใหญ่บ้านจึงพูดให้หลิน เฟิงฟังถึงเรื่องต่างๆเป็นชุดๆ จากนั้นจึงเรียกคนทั้งหมู่บ้านมารวมตัวที่จัตุรัสใหญ่ซึ่งเป็นทีมของหลิน เฟิงเองที่สร้างไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในที่สุด ผู้ใหญ่บ้านก็ได้บอกหลิน เฟิงถึงเรื่องต่างๆและหลิน เฟิงก็ได้บอกเรื่องพวกนี้กับชาวบ้านอีกที
เป็นไปตามคาด คำพูดของเขาได้ผลดีมาก ทันทีที่หลิน เฟิงพูดออกไป ทุกคนในหมู่บ้านก็มีทั้งต่อต้านและเห็นด้วยกับเรื่องนั้น
ผู้ใหญ่บ้านมองภาพตรงหน้าด้วยความชื่นชม แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ใหญ่บ้านและเขาเคยพูดไปแล้ว หนึ่งในสามของ 200 ครอบครัวต่างเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด ก็น่าจะเป็นเหมือนตอนนี้ ทันทีที่หลิน เฟิงพูดออกไป ขั้นตอนต่อไปก็ได้รับการดำเนินการในทันที
ในตอนนี้ ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว รอแค่คนเข้ามาตรวจสอบ
ผู้ตรวจสอบนั้นว่ากันว่าจะมาตอนสิบโมงเช้า อีกคนจะมาตอนเที่ยง และสี่คนจะมาในตอนบ่าย
มีกลุ่มคนอยู่สามกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีคนมากถึง 100 คน
หลิน เฟิงเองก็รู้สึกแปลกใจว่าพวกเขาไปหาคนมากมายพวกนี้ได้จากที่ไหน จริงๆแล้ว หลิน เฟิงก็ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นจะเป็นแค่จิตอาสา ผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่หรือคนหนุ่มสาว แต่จะต้องเป็นคนที่แต่เดิมนั้นไม่เคยเห็นผู้ใหญ่บ้านในเมืองใหญ่ต่างๆและมีความอยากรู้เรื่องราวในแถบชนบท
หลังจากที่หลิน เฟิงทำตามที่ผู้ใหญ่บ้านสั่งเสร็จสมบูรณ์ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรต่ออีกแล้ว เขากลับไปทำงานของเขาแทน หลิน เฟิงเดินตรงไปยังหลังบ้าน ความมั่งคั่งที่แท้จริงของหลิน เฟิงอยู่ข้างหลังนี้เอง
ในตอนนี้ มีสัตว์วิญญาณจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆบริเวณหลังบ้าน และยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่หลิน เฟิงไม่เคยเห็นและไม่เข้าใจ เพราะเขาได้มอบเรื่องการดูแลพวกสัตว์วิญญาณตรงนี้ให้กับราชาหมาป่าขาวไปแล้ว
ในตอนนี้ มีสัตว์วิญญาณมากกว่า 20 ตัวอยู่ที่หลังบ้านของหลิน เฟิง โดยที่สัตว์พวกนี้เพิ่งจะมากันได้ไม่นาน พวกมันส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นสัตว์วิญญาณระดับต่ำและบางส่วนเป็นกึ่งสัตว์วิญญาณ ส่วนสัตว์วิญญาณระดับกลางนั้นมีอยู่น้อยนิด
ส่วนสัตว์วิญญาณระดับสูงนั้นมีอยู่ไม่กี่ตัว นอกจากนี้ พวกมันยังมีประสาทสัมผัสด้านอาณาเขตที่แข็งแกร่ง เมื่อใดที่สัตว์พวกนี้สัมผัสได้ถึงลมหายใจของราชาหมาป่าขาว พวกมันก็แทบจะยืนไม่ได้เลย
“เสี่ยวเฟิง เจ้าอยู่ที่นี่ใช่ไหม” ราชาหมาป่าขาวสัมผัสได้ถึงการมาของหลิน เฟิงก่อนจะรีบปรากฏตัวออกมา ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ตรงข้างหลังราชาหมาป่าก็ปรากฏกลุ่มของพวกสัตว์วิญญาณขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่ง
“เอ่อ ราชาหมาป่า ผมไม่ได้มาตรงหลังบ้านเสียนาน ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างครับ” หลิน เฟิงถามขึ้น
“ก็ปกติดี แต่เพราะว่าออร่าที่นี่น่ะมันแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยดึงดูดสัตว์วิญญาณเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ หลังบ้านเล็กๆของเจ้าคงรับพวกนี้ต่อไปอีกไม่ไหวแล้วล่ะ” ราชาหมาป่าขาวมองไปที่สัตว์ตรงหน้าหลายตัวก่อนจะพูดขึ้น
“ผมคิดถึงปัญหาตรงนี้มาโดยตลอด แล้วผมก็คิดออกแล้วด้วย ผมจะใช้ภูเขาหูชานเก็บพวกสัตว์วิญญาณไว้ในภายภาคหน้า และจะใช้เป็นที่ปลูกผลไม้และเลี้ยงสัตว์ด้วย” หลิน เฟิงว่าขึ้น
“ถ้าแบบนั้น ข้าเองก็มีเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ต้องบอกเจ้า…”