โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 205
RC:บทที่ 205 รถยนต์สี่ล้าน
“ทำไมล่ะ ผมจ่ายเพิ่มให้แสนนึงเลยนะเอา” จ้าว หลงโกรธขึ้นมาจริงๆแล้ว เขาไม่สามารถเอาชนะหลิน เฟิงได้เลยตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ ไม่ว่าใครๆก็ช่วยหลิน เฟิงทั้งนั้น
“คุณหลิน เฟิงซื้อถึงสี่คัน ประเมินคร่าวๆก็น่าจะประมาณห้าล้าน แต่คุณซื้อแค่คันเดียว หนึ่งล้านห้าแสน นอกจากนี้ รถของคุณหลิน ก็เป็นพวกเขาที่เลือกก่อน มันก็ต้องเป็นของคุณหลินครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ” ผู้จัดการจางว่า
“แต่ถ้าคุณจะซื้อรถเพิ่มอีกซักคันราคา 5-6 ล้านล่ะก็ ผมจะคิดเรื่องนี้อีกที” ผู้จัดการจางกล่าวเสริม
จ้าว หลงเป็นใครมาจากไหนล่ะ จะหนึ่งหรือสองล้าน แม้ว่ากลุ่มเฟิงไห่จะร่ำรวยมาก แต่เขาก็ไม่สามารถยุ่งอะไรกับเงินจำนวนนั้นได้ก่อนที่พ่อเขาจะเกษียณไป
“คือผม ผม เฮ้ย ทำไมพวกคุณทุกคนถึงต้องเอาแต่ช่วยหลิน เฟิงกันนะ ทำไม”
จ้าว หลงก็หยุดพูดอะไรไปชั่วครู่ ก่อนจะโวยวายลั่น เกา รั่วหานที่ยืนอยู่ข้างๆเขานั้นถูกผลักออกมาจนเกือบล้ม
เพียงแค่แวบเดียว ร่างของหลิน เฟิงก็มาถึงข้างหลังตัวเกา รั่วหาน ก่อนจะประคองเธอขึ้นไม่ให้ล้มลงไป
“ ผู้จัดการคะ คือนายน้อยจ้าว หลงหรอกค่ะที่ขอให้ฉันพูดแบบนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจเลยนะคะ ผู้จัดการ ได้โปรดอย่าไล่ฉันออกเลยนะคะ” เมื่อนั้น พนักงานสาวก็เดินเข้ามาอ้อนวอน
“อืม เข้าใจแล้วล่ะ คุณจ้าว หลง คุณสมรู้ร่วมคิดกับพนักงานของเราอย่างลับๆเพื่อทำลายชื่อเสียงบริษัทของเรา มาถึงตอนนี้ผมคงต้องบอกว่าต่อไปนี้ทางบริษัทเราจะไม่ขายรถให้กับคุณอีก รวมถึงบริการหลังการขายของรถยนต์ที่คุณซื้อจากเราไปด้วย กรุณาออกไปจากร้าน 4S ของเราเดี๋ยวนี้เลยครับ” ผู้จัดการจางกล่าว
“คุณว่าไงนะ จะชั่วจะดี คุณน่ะก็เป็นแค่ผู้จัดการกระจอกๆ หวู่ เย่วจัดการฆ่าพวกมันให้ฉันที” จ้าว หลงโกรธจัดมากเสียจนจ้องไปที่หลิน เฟิงก่อนจะว่าขึ้น
และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น จ้าว หลงผลุนผลันเข้าไปต่อยหลิน เฟิงในทันที
“เหอะ” หลิน เฟิงสบถอออกมา เตรียมพร้อมลงมือ
“ระวังครับ นายน้อย” ในตอนนั้นเอง หวู่ เย่วจึงเริ่มเคลื่อนไหวพลางสะบัดมือออกไป พร้อมกับใบเลื่อยลมสามอันปลิวออกมาเพื่อเตรียมจะหั่นหลิน เฟิง
“อ่อนน่า” หลิน เฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงดูหมิ่นก่อนจะใช้มือปัดใบเลื่อยพวกนั้นออกไป
“อะไรกัน นี่นายแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้แล้วหรือเนี่ย” หวู่ เย่วถึงกับตกตะลึงก่อนจะรีบไปหาจ้าว หลง แล้วคว้าตัวออกไปจากร้าน 4S
ในตอนนั้นเอง ทั้งหวัง หานและจื้อเฉิงต่างรวมตัวกันจะออกไปตามจับ
“พอเถอะ ซื้อรถกันก่อน” หลิน เฟิงว่าขึ้น
อย่างไรก็ตาม จ้าว หลงเองกลับไม่พาเกา รั่วหานไปด้วยตอนกลับไป แต่กลับทิ้งเธอไว้ให้ยืนอยู่ตัวคนเดียวตรงนั้น
“หลิน หลิน เฟิง” เกา รั่วหานมองไปที่หลิน เฟิง ร่องรอยของความเสียใจปรากฏขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจเธอ
ตอนแรก เธอเลือกที่จะทิ้งเขาเพื่อไปหาชีวิตที่เธอต้องการ แต่เมื่อเธอมาคบกับจ้าว หลง เธอก็ได้รู้ว่าจ้าว หลงนั้นเป็นคนต่ำช้า อีกทั้งยังมีผู้หญิงมากหน้าหลายตา เธอน่ะเป็นเพียงแค่ของควงเล่นชิ้นหนึ่งของจ้าว หลงเท่านั้น
หลังจากเกิดเรื่อง เธอก็เริ่มรู้สึกเสียใจ พลางนึกถึงความอบอุ่นตอนที่คบกับหลิน เฟิงตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่ตอนนั้นเธอกลับรู้สึกมีความสุขมากจริงๆ
แต่ทว่าเกา รั่วหานไม่สามารถถอยกลับไปได้อีกแล้ว และที่คาดไม่ถึงก็คือ เธอกลับได้มาเจอหลิน เฟิงตอนมาที่นี่ ในตอนนี้ หลิน เฟิงไม่ใช่แค่หล่อขึ้น แต่ยังสามารถซื้อรถในราคาสี่ล้านได้สบายๆอีกด้วย
อีกอย่าง หลิน เฟิงในตอนนี้ไม่ใช่หลิน เฟิงคนเดิมอีกต่อไปแล้ว เขาทั้งหล่อ รวยและยังมีแฟนแล้วด้วย ไม่ว่าจะมองยังไง เขาก็ดีกว่าเธอโขเลย
ตอนนี้ ทุกนาทีที่เธอได้มองหลิน เฟิง เธอก็ยิ่งรู้สึกผิดและนี่ก็เป็นสิ่งที่ทรมานใจเธอด้วย
“เธอก็ไปเถอะ” เมื่อหลิน เฟิงได้ยินเสียงเธอร้องไห้ เขาจึงหันไปมองเธออีกครั้งด้วยดวงตาราบเรียบ ปราศจากอารมณ์หวั่นไหว
“หลิน เฟิง เรื่องของเรายังจะพอเป็นไปได้อยู่ไหม” เกา รั่วหานรู้สึกเสียใจจริงๆแล้วในตอนนี้และรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆด้วย
“นับตั้งแต่วันที่เธอเดินจากไปจากฉัน เรื่องของเราก็ไม่มีวันเป็นไปได้อีกต่อไปแล้วล่ะ” หลังจากพูดจบ หลิน เฟิงจึงพามู่ ซินซิน หวัง หานและคนอื่นๆไปที่รถ ทิ้งเธอให้ยืนมองอยู่แบบนั้นคนเดียว
พวกเขาเลือกรถและผ่านขั้นตอนมากมายโดยใช้เวลาไม่นานนัก ในตอนนี้ หลิน เฟิงต้องไปรับรถ ส่วนขั้นตอนมากมายก็มีขึ้นเพียงชั่วคราว
“คุณหลิน คุณจะกลับไปก่อนก็ได้นะครับ ไว้เดี๋ยวผมจะให้ใครส่งขั้นตอนต่างๆและอย่างอื่นไปให้นะครับ” ผู้จัดการคนดังกล่าวว่าขึ้น
“ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ก็โทรมาหาผมก็แล้วกันครับ แล้วเดี๋ยวผมจะส่งคนไปรับเอง” หลิน เฟิงว่า
“อย่างงั้นก็ได้ครับ”
“คุณผู้หญิง ผมน่ะไม่ได้แค่หาเงินเป็นล้านได้นะ แต่ยังซื้อไปถึงสี่ล้านในคราวเดียว…” หลิน เฟิงพูดขึ้นพลางจ้องไปที่พนักงานสาวคนนั้น
อีกฟากหนึ่ง หลังจากที่จ้าว หลงออกไปแล้วนั้น เขาทั้งโกรธจัดก่อนจะขว้างปาสิ่งของต่างๆในบ้านไปมาด้วยอารมณ์โกรธ
ทั้งทีวีจอ LCD ทั้งหลายเอย เก้าอี้ไม้มะฮอกกานีเอย โต๊ะกระจกเอยและอื่นๆถูกทำลายเป็นชิ้นๆด้วยฝีมือของเขาเอง
“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้วะ” จ้าว หลงตะโกนลั่น
“เจ้านาย ใจเย็นๆก่อนเถอะครับ” หวู่ เยว่ว่าขึ้น
“นายจะให้ฉันใจเย็นลงได้ยังไง ทำไม ไม่ว่าใครต่อใครก็ไปช่วยไอ้หลิน เฟิงกันหมด แถมฉันยังถูกเจ้านั่นกลั่นแกล้งด้วย” จ้าว หลงไม่อยากจะพูดอะไรแบบนั้นออกมาเลย
“นายน้อยครับ ผมคิดอะไรได้แล้วล่ะครับ”
“อะไรล่ะ” จ้าว หลงถามขึ้น
“นายน้อยจำนายท่านตงฟางเซียงได้ไหมครับ เขาไม่…”
ไม่นาน พวกเขาต่างก็เดินออกมาจากร้าน 4S พร้อมกับรถสามคัน โดยอีกคันหนึ่งเอาไว้ให้หวัง ซื่อขับ แล้วอีกอย่าง เขาจะขอให้หวัง ซื่อเป็นคนมาเอาขั้นตอนต่างๆนี้ด้วย
ราคารถทั้งสี่คันหลังจากลดราคาแล้วนั้น รวมกันแล้วอยู่ที่ 5.08 ล้าน โดยอีก 80000 นั้นผู้จัดการจางไม่เอา ดังนั้นหลิน เฟิงจึงจ่ายไปทั้งหมดห้าล้านถ้วน
หลังจากออกไปแล้ว พวกเขาก็จะไปร้านอาหารมิตรภาพอีกครั้ง
“คุณเจียง ถ้านายมีอะไรอยากจะพูด ก็พูดมาเถอะ” หลิน เฟิงกล่าว
เป็นไปไม่ได้ที่เจียง เสี่ยวไป๋จะช่วยเขาโดยที่ไม่มีเหตุผล ถึงแม้จะเคยเจอกันมาก่อนก็เถอะ ด้วยเหตุนั้นหลิน เฟิงจึงถามออกไปตรงๆ
“พี่เฟิงเล่นถามมาตรงๆแบบนี้ งั้นผมก็จะขอพูดตรงๆเลยก็แล้วกันนะครับ ผมรู้มาว่าองุ่นรสชาติเลิศจากร้านผลไม้แสนอร่อยนั่นมาจากสวนของพี่เฟิง ใช่ไหม” เจียง เสี่ยวไป๋ถามขึ้น
“ใช่ มาจากสวนฉันเอง” หลิน เฟิงยกเครื่องดื่มขึ้นจิบก่อนจะตอบออกไป
“องุ่นของพี่น่ะส่งผลมาได้น่าทึ่งจริงๆเลยนะครับ พี่รู้ไหมว่าบริษัทของเราเชี่ยวชาญด้านการผลิตไวน์เป็นพิเศษ ผมได้ซื้อองุ่นของพี่มามากมายเลยจากที่ร้านผลไม้แสนอร่อยเพื่อเอามาทำไวน์เลยเชียวนะ แล้วผลตอบรับก็ดีสุดๆไปเลยด้วย ไวน์ที่ออกมานั้นได้รสไวน์แท้ๆและออกหวาน ไม่นานก็คงเทียบได้กับไวน์ที่เก่าแก่เป็นสิบๆปีได้เลย”
“และสิ่งที่น่าทึ่งกว่าก็คือว่าผลลัพธ์อันแสนมหัศจรรย์นี้มันมีมากมายจริงๆจนไม่สามารถบอกได้เป๊ะๆ แต่ที่บอกได้ก็คือวงการอุตสาหกรรมไวน์จะต้องเริ่มสั่นสะเทือนแน่ๆ” เจียง เสี่ยวไป๋เอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“ใช่เลย เราเองก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเลย นั่นเป็นเส้นทางการพัฒนาอย่างดีเยี่ยมจริงๆนะ” หลิน เฟิงคิดในใจ
“ดังนั้น ผมเลยอยากจะซื้อองุ่นจากพี่อีกเยอะเลยครับ และอยากจะอุดหนุนระยะยาวเลยด้วย ผมเองก็คิดอยู่ว่าจะตามหาตัวพี่มาสักพักแล้ว แต่คาดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะได้เจอ นี่สินะคือโชคชะตาลิขิต” เจียง เสี่ยวไป๋กล่าว
“ก็ได้ แต่ว่าพวกเราเนี่ยกำลังจะสร้างกลุ่มบริษัทขึ้นมาอยู่ เรื่องธุรกิจที่นายว่าอาจจะช้าออกไปนะ แต่เดี๋ยวฉันจะให้พี่เติ้งติดต่อนายไปก็แล้วกัน” หลิน เฟิงคิดได้จึงพูดออกไป
“หัวหน้าเติ้งงั้นหรือ ก็ได้” หลังจากได้ฟังในสิ่งที่หลิน เฟิงพูด เจียง เสี่ยวไป๋ก็รู้สึกพอใจมาก ตราบใดที่หลิน เฟิงจะยังเห็นด้วยกับเรื่องนี้ในตอนหลัง
ไม่นาน หลังจากที่คุยเรื่องราวต่างๆกันก็ดึกแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋จึงขอตัวกลับ
“พี่เฟิง ตอนกลับก็ระวังตัวด้วยล่ะ โดยเฉพาะจ้าว หลง…”