โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 190
RC:บทที่ 190 เถาวัลย์ประหลาด
นอกจากนี้ เมื่อโรงแรมทั่วประเทศหรือแม้แต่ทั่วโลกของเขาเต็มไปด้วยลูกค้า แม้จะมีกำไรเพียงทางเดียวแต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาร่ำรวยแล้ว
“โอเคพี่ชาย ก่อนอื่น! ผมจะขอให้หวังหานหาทนายมาตกลงกับพี่นะครับ! ” หลินเฟิงไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แม้ว่าเขาจะเชื่อใจหวังฮ่าวหมิงแต่เขาก็ยังต้องมีสัญญาและเชิญทนายมา
“โอเค โอเค ไปทำเรื่องนั้นก่อนเลย น้องชาย!” หวังฮ่าวหมิงบอกแล้ววางสายไป
กริ๊ง กริ๊ง!
หลินเฟิงเพิ่งวางสายไป โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เอ๋? บอสเติ้ง? เขาโทรมาทำไมนะ! ” หลินเฟิงสงสัยแต่ก็กดรับ
“ฮัลโหล! พี่เติ้ง! ” หลินเฟิงรับสายแล้วเอ่ยอย่างกันเอง
บอกได้เลยว่าบอสเติ้งคนนี้ถือเป็นพระเจ้าคนแรกของเขา เส้นทางอาชีพของหลินเฟิงมาถูกทางได้เพราะเขาแล้วบอสเติ้งก็ช่วยเหลือเขาไว้มาก
“ฮ่าฮ่าน้องเสี่ยวเฟิง สบายดีไหม? ฉันไม่ได้คุยกับนายนานเลยมีเรื่องอยากคุยนานหน่อย!” ระดับของบอสเติ้งใหญ่กว่าบอสหวังเล็กน้อยและคำพูดของเขาก็มั่นคงและหนักแน่นกว่า
“ฮ่าฮ่า ช่วงนี้ผมยุ่งนิดหน่อยครับเลยลืมไปบ้าง อีกอย่างผมก็ไม่กล้ารบกวนพี่ที่ยุ่งอยู่เสมอหรอกครับ!” หลินเฟิงเอ่ยติดตลก
“อ้อ ช่างเป็นคนที่ยุ่งมากเลย เรามาซื้อขายผลไม้กัน จะว่างหรือไม่ว่างล่ะ!” บอสเติ้งกล่าว
“ฮ่า ฮ่า ถ้าพี่ไม่ยุ่งก็โอเคเลยครับ แต่ผมไม่ทำแค่คุยกับพี่หรอกนะครับ!” หลินเฟิงบอก
“เอ่อ นายรู้ได้อย่างไร? โอ้ ฉันรู้แล้ว หวังฮ่าวหมิงคุยกับนายแล้วใช่ไหม? ” บอสเติ้งชะงักแล้วเอ่ยออกมา
“ฮ่า ฮ่า ผมรู้ว่าเป้าหมายของพี่ทั้งสองคนเหมือนกัน เขาต้องการไก่ฟีนิกซ์เลยอยากให้ผมเลิกขาย ไม่ใช่ว่าพี่ก็ต้องการองุ่นแล้วอยากให้ผมเลิกขายเหรอครับ?” หลินเฟิงคาดเดา
“ฮ่า ฮ่า น้องชายของฉันเก่งจริง ๆ หวังฮ่าวหมิงกับฉันสนุกกับธุรกิจของนายมากในช่วงสองสามเดือนนี้ เราต่างก็หวังจะเปิดร้านค้า, ร้านเครือข่าย, ร้านสาขา และอื่นๆ ให้มากยิ่งขึ้น เราหวังจะเปิดไปทั่วโลกเลย” บอสเติ้งกล่าว
“ฉันรู้ดีว่าองุ่นของน้องชายของฉันจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะหลังจากที่วางขายออนไลน์ องุ่นนับหมื่นถูกขายออกไปในทุก ๆ วันซึ่งเป็นการขายสายสั้น ๆ ! และบางร้านก็ยังซื้อไปจากร้านออนไลน์ของนายมาวางขายหน้าร้านของพวกเขาด้วยราคาสูงแต่ก็ยังขายดีอยู่ดี“
“เพราะอย่างนี้ มันจึงส่งผลต่อแผนที่ฉันจะขยายร้านสาขาและร้านเครือข่ายออกไป ดังนั้นฉันเลยปรึกษากับหวังฮ่าวหมิงว่าจะร่วมธุรกิจกับนาย องุ่นและไก่ฟีนิกซ์ที่นายมีจะต้องขายให้พวกเราเท่านั้น เขาได้ไก่ฟีนิกซ์ของเขาและฉันก็ได้องุ่นของฉัน!”
“โอ้ นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่องุ่นเท่านั้น ถ้านายปลูกผลไม้อย่างอื่นแล้วมีคุณภาพเหมือนกับองุ่น ฉันก็หวังว่าพวกมันจะถูกขายให้แค่ฉันเท่านั้น แน่นอนว่าเราจะไม่ให้นายเสียเปรียบ กำไรทั้งหมดจากร้านของฉันจะถูกแบ่งให้ฉันกับนายคนละครึ่ง! และฉันเชื่อว่าหวังฮ่าวหมิงก็บอกนายไปแบบนี้เหมือนกัน!” บอสเติ้งกล่าว
“ถูกต้อง เขาก็บอกผมแบบนี้ มันก็โอเคนะที่จะขายให้พี่แต่ผมไม่รู้ว่าจะได้ส่วนแบ่งมากแค่ไหน ดังนั้นผมจะขอให้หวังหานหาทนายไปตกลงรายละเอียดกับพี่นะครับ” หลินเฟิงกล่าว
“เยี่ยม เดี๋ยวฉันจะไปพร้อมกับหวังฮ่าวหมิง เราจะเจอกันเมื่อไหร่และที่ไหนดี?” บอสเติ้งเอ่ยถาม
“เจอกันพรุ่งนี้ที่ร้านพันธมิตรของพี่หวังแล้วกันครับ!” หลินเฟิงบอก
“นั่นโอเคเลย! หลังจากนี้อย่างแรกเลยฉันจะไปหาหวังฮ่าวหมิงเพื่อคุยรายละเอียดเฉพาะ! ” บอสเติ้งวางสายไปอย่างมีความสุข
ที่จริง หลินเฟิงได้ตัดสินใจด้วยตัวเองไปแล้วเพราะเขาสามารถหาเงินได้มากจากการขายออนไลน์และการวางขายหน้าร้านก็ได้กำไรน้อยกว่ามาก แต่หวังฮ่าวหมิงกับบอสเติ้งตั้งใจที่จะเปิดร้านสาขาและร้านเครือข่ายไปทั่วประเทศรวมถึงต่างประเทศ
หลังเหตุการณ์นี้หลินเฟิงกับพวกเขาก็ต้องแบ่งกำไรกันคนละครึ่ง เวลานี้แค่ครึ่งเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้หลินเฟิงเป็นอภิมหาเศรษฐีคนหนึ่งได้
หลังจากวางสายเติ้งเทียนฝูไป หลินเฟิงกำลังจะโทรไปหาหวังหานแต่ก็ยังไม่ทันได้โทรออกหวังหานกลับโทรมาหาเขาเอง
“ทำไมหวังหานถึงฉลาดอย่างนี้ ฉันกำลังจะโทรหานาย นายก็โทรมาเลย!” หลินเฟิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“พี่เฟิง ไม่ ไม่ใช่นะครับ?” เมื่อหลินเฟิงพูดจบ เสียงกังวลของหวังหานก็ดังมาจากปลายสาย
“หวังหาน มีอะไรเหรอ? เกิดอะไรขึ้น? ” หลินเฟิงประหลาดใจและถามออกไป
“พี่เฟิง ผมไม่รู้จะบอกอย่างไร มีเถาวัลย์แปลก ๆ อยู่ตรงนี้ พี่มาดูที่สวนเถอะครับ!” หวังหานกล่าวอย่างกังวล
“ได้ นายอย่าเพิ่งไปไหนนะ รอฉันไปที่สวนก่อน!” หลินเฟิงวางสายแล้ววิ่งไปที่สนาม
เมื่อไปถึงสนามหญ้า หลินเฟิงก็รีบปล่อยมังกรดำออกมา
“มีอะไรเหรอ นายท่าน?” มังกรดำออกมาแล้วถามอย่างสงสัย
“ฉันก็ไม่รู้ รีบไปด้านหน้าเถอะ ดูเหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติกับหวังหาน!” หลินเฟิงบอก
หลังจากนั้นกว่าสิบวินาที หลินเฟิงก็มาถึงตรงที่หวังหานยืนอยู่ เวลานั้นหวังหานกำลังต่อสู้กับบางสิ่งด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่
จากสายตา หลินเฟิงเห็นเถาวัลย์ประหลาดเส้นหนึ่ง มันมีสีม่วงเข้มและมีเถาวัลย์เส้นเล็ก ๆ หลายเส้นเกาะมันอยู่ หวังหานกำลังถูกเถาวัลย์เล็ก ๆ พวกนี้พันตัวอยู่ เขาเลยดึงมันออก
“ช่วยหวังหาน!” หลินเฟิงบอกกับมังกรดำ
โฮก!!!
มังกรดำคำรามออกมาครั้งหนึ่ง และพ่นลมออกมาเผาเถาวัลย์สีม่วง
ขณะนั้นเถาวัลย์ก็ส่งเสียงกรีดร้องราวกับกำลังเจ็บปวดและหวาดกลัว จากนั้นเถาวัลย์ทั้งหมดก็ปล่อยหวังหานแล้วหนีไป
หลินเฟิงรีบเข้าไปหาหวังหานแล้วพาเขากลับมาอย่างไว!
“นี่มันพวกปีศาจไม่ใช่เหรอ!” หวังหานเห็นมังกรดำบินฉวัดเฉวียนไปกลางอากาศจากนั้นเขาก็กลัวจนตัวแข็ง
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ มันไม่ทำร้ายนาย มันเรียกว่าสัตว์วิญญาณน่ะ! แต่ตอนนี้ฉันยังไม่มีเวลามาอธิบายให้นายฟัง เดี๋ยวกลับมาบอกทีหลัง ไปกันเถอะ ไปตามหาเถาวัลย์ประหลาดนั่น! ” จากนั้นหลินเฟิงก็รีบตามไป
“มาเร็ว ทุกคน!” หลินเฟิงตะโกนไปในอากาศ
ทันใดนั้น เสี่ยวเฮย, ราชาหมาป่า, มังกรแสง, หมาป่าขาวตัวน้อยและสัตว์วิญญาณทั้งหกที่ถูกจับมาล่าสุดก็ออกมาแล้วตามหลินเฟิงที่ชวนพวกมันไป
“นี่ พวกนี้คืออะไร?” หวังหานร้องออกมา
เดิมทีก็ไม่มีอะไรยกเว้นแค่เถาวัลย์ประหลาดหนึ่งเส้น แต่ตอนนี้กลับมีสิ่งประหลาดออกมาเป็นโหลจึงทำให้เขาสั่นกลัว
เวลานี้ก็ปรากฏชายคนหนึ่งยืนห่างออกไปก็คือลูกพี่ลูกน้องที่เขานับถือ
“จื้อเฉิง ดีจังที่ได้เจอนาย เมื่อกี้มีต้นหวายแปลก ๆ ออกมามันเกือบจะกินฉันแล้ว จากนั้นพี่เฟิงก็ตะโกนออกมาแล้วมีสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่มากกว่าสิบตัวปรากฏขึ้นมา มันน่ากลัวจริง ๆ ! ” หวังหานกล่าวด้วยตัวสั่น
“ฮ่า ฮ่า ที่จริงพวกมันคือสัตว์วิญญาณน่ะ ไม่ใช่ปีศาจหรอกแต่ฉันไม่รู้จักต้นหวายประหลาดที่นายบอกหรอกนะ เดี๋ยวฉันขอตามไปดูก่อน!” หลังจากนั้น จื้อเฉิงก็รีบตามไปเช่นกัน
“เฮ้ อย่าไปนะ ปีศาจพวกนั้นน่ากลัวมาก!” หวังหานดึงจื้อเฉิงไว้
“ไม่ต้องห่วง พวกมันไม่ใช่ปีศาจ พวกมันถูกเรียกว่าสัตว์วิญญาณ! แมงป่องน้ำแข็ง ออกมา! ดูสิ! นี่คือสัตว์วิญญาณของฉันเอง“
“อะไรนะ? นายก็เรียกปีศาจออกมาด้วยเหรอ? ” เมื่อเห็นแมงป่องน้ำแข็งสีฟ้า หวังหานก็ตกตะลึงอีกครั้ง
“เอ่อ ถ้านายไม่ไป งั้นฉันไปก่อนนะ!” จื้อเฉิงบอก
“ไปสิ รอฉันด้วย อย่าทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียว…”