โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 189
RC:บทที่ 189 หวังฮ่าวหมิงโทรมา
ชั่วพริบตาก็ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ และเหลืออีกครึ่งเดือนก็จะถึงเวลาประเมินหมู่บ้านแล้ว ช่วงนี้หัวหน้าหมู่บ้านจึงมาขลุกอยู่กับหลินเฟิงเลยทำให้เขายุ่งมาก
ซื้อสนามหญ้าสีเขียว, ซื้อซีเมนต์ปูพื้นถนน และยังคงใช้เงินของพวกเขาเองเพื่อใช้กับงานของพวกเขาเอง
แต่สิ่งที่ทำให้หลินเฟิงมีความสุขก็คือธุรกิจของเขากำลังบูมและออเดอร์ของแต่ละวันก็มีมากเกินไปโดยเฉพาะร้านขายองุ่นและไก่ออนไลน์ เวลานี้จากน้อยกว่าพันกลายเป็นหลายหมื่นรายการต่อวันแล้ว
เงินในบัญชีธนาคารของหลินเฟิงกำลังงอกเงยขึ้นทุกวันด้วยอัตราที่น่ามหัศจรรย์
วันนี้ หลินเฟิงนอนอยู่บนโซฟาเพื่อพักผ่อน เขาดูทีวีขณะที่คุยกับมู่ซินซินทางอินเตอร์เน็ต ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมาหลินเฟิงจึงหยิบขึ้นมาเปิดดูข้อความ
ข้อความนี้มาจากธนาคาร เนื้อความแทบจะทำให้เขาเป็นบ้าเพราะหลินเฟิงเห็นยอดเงินทะลุเกินแปดหลัก สิบล้าน!
“ฉัน พระเจ้า ยอดทะลุเกินสิบล้านแล้ว? นี่ฉันจะกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วเหรอ? ฮ่าฮ่า! ” หลินเฟิงมีความสุขมาก ๆ จนทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนโซฟาแล้วเต้นอยู่หน้าทีวี
ช่วงที่หลินเฟิงบาดเจ็บ เขาเลยไม่ได้เห็นยอดเงินในบัญชี หลินเฟิงรู้แค่ว่าล่าสุดที่เขาดูคือมีเพียง 2.78 ล้านหยวน ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทะลุ 10 ล้านหยวนโดยที่ไม่ได้เข้ามาดูแค่สองถึงสามสัปดาห์มันเลยน่าตื่นเต้นมาก
“อ่า อ่า เสี่ยวเฟิง วันนี้ลูกบ้าไปแล้ว! ทำไมถึงไปเต้นอยู่บนโซฟา? ” แม่เข้ามาเห็นหลินเฟิงที่กำลังปิติยินดี เขากระโดดแล้วตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่งอยู่บนนั้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมมีความสุขสุด ๆ!” หลินเฟิงหัวเราะแล้วบอกกับแม่ของเขา
“วันนี้ลูกมีธุระที่ต้องจัดการนี่ แล้วมีความสุขเรื่องอะไรล่ะ?” แม่ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“ผมหาเงินได้เยอะแยะเลย!” หลินเฟิงพูดอย่างมีความสุข
“เอาน่า อย่ากระโดดบนโซฟาแม้ว่าลูกจะหาเงินได้เยอะแยะสิ วางหมอนอิงลงบนโซฟาซะ!” แม่ตะโกน
ตั้งแต่หลินเฟิงปรับปรุงบ้านใหม่เมื่อนานมาแล้ว พ่อแม่ของเขาก็ได้รู้แล้วว่าหลินเฟิงหาเงินได้ นอกจากนี้หลินเฟิงก็ยังจ้างคนอีกหลายโหลเพื่อมาทำงานให้เขา หากเขาหาเงินมาไม่ได้แล้วจะเอาที่ไหนมาจ้างคนงานพวกนั้น
ดังนั้นแม่จึงไม่ได้ใส่ใจหรือคาดหวังให้ลูกของพวกเขากลายเป็นมหาเศรษฐี
“ลูกจ้างเหล่านี้พึ่งพาได้ โดยเฉพาะน้องของหวังหานและลูกพี่ลูกน้องของเขา หากไม่เป็นอย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสามารถทะลุยอดหลายสิบล้านได้!”
“กริ๊ง กริ๊ง!” ทันใดนั้น มือถือของหลินเฟิงก็ดังขึ้น
หลินเฟิงเอาออกมาดูจึงเห็นว่าเป็นบอสหวังที่โทรมาหา
“ฮัลโหล พี่หวัง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ!” หลินเฟิงรับโทรศัพท์อย่างมีความสุข
“ฮ่า ฮ่า เสี่ยวเฟิง ฉันไม่ได้เจอนายมานาน สบายดีไหม?” บอสหวังทักทายและหัวเราะ เขาดูมีความสุขมาก
“สบายดีมากครับ ทำไมวันนี้พี่หวังคิดถึงผมขึ้นมาครับ?” หลินเฟิงถาม
บอสหวังกับบอสเติ้งมักจะยุ่งมาก พวกเขาจะไม่โทรมาหาหลินเฟิงถ้าไม่มีธุระ แต่เมื่อโทรมาทีไรหลินเฟิงจะรู้ดีว่าต้องทำอย่างไร
แต่ฉันสามารถบอกได้จากน้ำเสียงของบอสหวังว่านี่จะต้องเป็นเรื่องดี
“ฮ่า ฮ่า มีบางอย่างที่อยากจะบอกนาย!” เหล่าหวังยิ้มออกมาตลอดเวลาที่เขากล่าวสองสามคำ หลินเฟิงอยากรู้นักว่าเรื่องอะไรกันที่ทำให้เขามีความสุขแบบนี้
“เสี่ยวเฟิง นายเยี่ยมมาก ธุรกิจของฉันกำลังโตวันโตคืน กำไรของสองสามเดือนที่ผ่านมาเท่ากับกำไรของหนึ่งถึงสองปีที่ผ่านมาเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ฉันจะขยายธุรกิจและเปิดสาขาอื่น ๆ เพิ่ม กำไรของหนึ่งเดือนเท่ากับกำไรของปีที่แล้วทั้งปี ฮ่า ฮ่า ฮ่า !” บอสหวังกล่าวแล้วก็หัวเราะออกมา
“เยี่ยมเลย ถือเป็นข่าวดี ยินดีด้วยครับ!” หลินเฟิงมีความสุขสุด ๆ ที่ได้ยินอย่างนั้นเพราะยิ่งธุรกิจของบอสหวังดีมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องขยายพื้นที่มากขึ้นเท่านั้น
เวลานี้ไก่ฟีนิกซ์ของหลินเฟิงดังมากในเมืองจิ้งเฟิง ไม่เพียงแค่เมืองจิ้งเฟิงเท่านั้นแต่ยังแพร่หลายอยู่ในภัตตาคารของหวังฮ่าวหมิงที่อยู่ในทุก ๆ เมืองของจังหวัด G ดังนั้นไก่ฟีนิกซ์ของหลินเฟิงจึงเป็นที่รู้จักไปทั้งจังหวัด G และมีชื่อเสียงเป็นเลิศ
แม้แต่ในจังหวัดใกล้เคียงก็มีร้านค้าของพวกมันเอง ดังนั้นไก่ฟีนิกซ์ของหลินเฟิงจึงแพร่หลายไปทั่วโลก
พื้นที่ของหลินเฟิงในตอนนี้ก็ใหญ่โตมาก ภูเขาทั้งลูกเต็มไปด้วยไก่ฟีนิกซ์ประมาณอย่างหยาบ ๆ ก็หลายหมื่นตัว สองสามวันที่ผ่านมา หลินเฟิงได้เจือจางน้ำยาวิวัฒนาการของหวังหานออกมาหลาย ๆ ขวด และคาดว่าอีกสักพักจะเพิ่มจำนวนขึ้นอีกหรือไม่ก็เพิ่มขึ้นอีกหลาย ๆ ครั้ง
ตอนนี้หลินเฟิงได้มอบทั้งหมดให้แก่หวังหานไปจึงทำให้ไก่ฟีนิกซ์ในเวลานี้ยังไม่ต้องใช้น้ำยาวิวัฒนาการเพราะเมื่อไก่พวกนี้วางไข่แล้วฟักออกมา วงจรชีวิตของพวกมันก็สั้นเป็นอย่างมากเลยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำอีกต่อไป
แค่ทำให้แน่ใจว่าไก่จะวางไข่และมีชั้นวางไข่ให้มันอย่างเพียงพอต่อตลาดในปัจจุบัน
“ขอบคุณนะ ดังนั้นฉันเลยอยากจะคุยกับนาย ไอ้น้อง?” หวังฮ่าวหมิงเอ่ย
“โอ้ มีอะไรเหรอ? พี่ใหญ่บอกมาได้เลย พวกเรารู้จักกันมานาน พี่อยากได้อะไรขอแค่บอกมาได้เลยครับ! ” หลินเฟิงกล่าวอย่างบุ่มบ่าม
“งั้นฉันจะพูดละนะ เสี่ยวเฟิง ฉันรู้ว่าตอนนี้นายขายไก่ฟีนิกซ์กับองุ่นทางอินเตอร์เน็ตด้วย! ฉันต้องการให้นายหยุดขาย! ” หวังฮ่าวหมิงกล่าว
“หยุดขายออนไลน์?” หลินเฟิงตกตะลึง คำขอของหวังฮ่าวหมิงมันมากเกินไป
“ฟังฉันก่อนนะ!” เมื่อหวังฮ่าวหมิงได้ยินน้ำเสียงของหลินเฟิง ก็รู้ได้เลยว่าโกรธหน่อย ๆ เขาเลยรีบอธิบายออกมาอย่างไว
“โอเค พี่ชาย ว่ามา!” หลินเฟิงคิดจะวางแผนหลังจากที่ได้ฟัง
“มันเป็นอย่างนี้ ฉันคิดมานานแล้วว่าที่เป็นอย่างนี้ได้เพราะฉันซื้อไก่ฟีนิกซ์มาจากนาย ถ้าไม่มีไก่ฟีนิกซ์ของนายแล้วฉันก็จะไม่เหลือภัตตาคารที่เป็นพันธมิตรในตอนนี้เลย“
“ฉันต้องการจะร่วมธุรกิจกับนาย ในอนาคตไก่ฟีนิกซ์ทั้งหมดของนายจะต้องขายให้ฉัน ตอนนี้โรงแรมของฉันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันคิดว่าจะเปิดให้ทั่วประเทศจีนและขยายไปต่างประเทศจนทั่วทั้งโลก” หวังฮ่าวหมิงกล่าว
เมื่อได้ยินเขาพูดออกมา หลินเฟิงก็รับรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นเป้าหมายที่ดูทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก แต่หลินเฟิงก็เชื่อว่าจะสามารถเป็นไปได้เพราะไก่ฟีนิกซ์ของเขามีศักยภาพเพียงพอ
“แต่จะแบ่งกันอย่างไรล่ะ?” หลินเฟิงถามออกมา
ที่จริง ไม่ว่าจะเป็นหวังฮ่าวหมิงทำหรือใครทำ ตราบใดที่หลินเฟิงได้กำไรอย่างเพียงพอก็ไม่ถือเป็นปัญหาอะไร
“นายรับผิดชอบแค่เลี้ยงไก่ฟีนิกซ์ก็พอ ที่เหลือฉันจัดการเอง รายได้จากภัตตาคารพันธมิตรทั้งหมด 50% เป็นของนายและอีก 50% ก็เป็นของฉัน ไม่ว่ารายได้ในอนาคตจะเปลี่ยนไปอย่างไร หุ้นของนายก็จะไม่เปลี่ยนแปลงแค่เพียงสัญญาว่าไก่ฟีนิกซ์ทั้งหมดของนายจะต้องขายให้ฉันเท่านั้น นายชอบไหม!” หวังฮ่าวหมิงกล่าว
“เรื่องนี้เดี๋ยวเราค่อยตกลงกัน อีกอย่างผมก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้มากนักแต่ผมจะขอให้หวังหานหาทนายมาตกลงกับพี่ทีหลัง! ผมแน่ใจว่าพี่ชายของผมจะไม่โกงผมหรอก ตราบใดที่เรายังสนิทกันไก่ฟีนิกซ์ก็จะขายให้กับพี่เท่านั้นครับ” หลินเฟิงกล่าว
“โอเค ขอบคุณล่วงหน้าเลย!” หวังฮ่าวหมิงเอ่ยอย่างมีความสุข
หากหลินเฟิงตกลงขายไก่ฟีนิกซ์ให้แก่เขา แม้ส่วนแบ่งจะน้อยแต่เขามั่นใจว่าจะสามารถเปิดภัตตาคารพันธมิตรไปทั่วประเทศหรือแม้แต่ทั่วโลกได้
เป้าหมายของเขา, แนวคิดของเขา จะมีกำไรเพียงเล็กน้อยได้อย่างไร? เมื่อเงินที่เข้ามาอยู่ในระดับหนึ่งมันก็เป็นแค่เพียงตัวเลขไปแล้ว