โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 184
RC:บทที่ 184 นี่คือรักงั้นเหรอ
เมื่อมาถึงประตูก็เห็นว่าห้องของมู่ซินซินปิดอยู่ หลินเฟิงไม่รู้ว่าเธอยังอยู่ในนั้นไหม เขาจึงยกมือขึ้นเคาะประตู
“อ่า เป็นเพราะผู้เฒ่าขาวสร้างเรื่องในวันนี้จริง ๆ ฉันจะไปพบเธอ เธอจะยังอยู่ไหมนะ?” ขณะที่หลินเฟิงกำลังยกมือขึ้นเพื่อจะเคาะประตู เขาก็รีบเก็บมือลงอีกครั้ง
“เอาน่า ไม่มีอะไรระหว่างเราหรอก ไม่เป็นไร ฉันควรต้องไปแล้ว!” หลังจากใคร่ครวญ หลินเฟิงก็เก็บมือลงแล้วหันหลังเพื่อจากไป
“ใครอยู่ด้านนอกน่ะ?” ขณะที่หลินเฟิงหันหลังก็มีเสียงของมู่ซินซินดังออกมาจากด้านใน
เมื่อหลินเฟิงได้ยิน เขาชะงักและไม่รู้ว่าจะไปหรืออยู่ดี
“หลินเฟิงใช่ไหม?” ถึงอย่างนั้นในขณะที่หลินเฟิงกำลังลังเล เสียงของมู่ซินซินก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เวลานี้ หลินเฟิงไม่รู้จริง ๆ ว่าจะตอบและเผชิญหน้ากับมู่ซินซินอย่างไรดี เฮ้! หลินเฟิงถอนหายใจและกำลังจะเดินออกไป
แอ๊ด!
ในขณะที่หลินเฟิงเพิ่งก้าวออกไปได้เพียงสองก้าว ทันใดนั้นประตูห้องของมู่ซินซินก็เปิดออก ดวงตากลมโตทั้งคู่ของเธอจ้องมองมาที่เขา
“นายเองเหรอ หลินเฟิง ทำไมไม่เข้ามาล่ะ?” มู่ซินซินกล่าวพร้อมกับเขินนิด ๆ
“ฉัน ฉันกำลังจะกลับบ้าน ฉันจะมาบอกลาเธอแต่ไม่ได้เข้าไปเพราะประตูปิดอยู่” หลินเฟิงชะงัก
เดิมทีเขานึกว่ามู่ซินซินจะโกรธแต่เธอกลับไม่โกรธและรู้สึกเขินแทน
“โอ้ โอ๋? นายจะไปแล้วเหรอ? ” มู่ซินซินรู้สึกใจหายและหมองหม่นขึ้นมาทันที
“อืม อืม แล้ว…” หลินเฟิงพูดติดอ่าง
“แล้วอะไร?” มู่ซินซินถามอย่างคาดหวัง
“แล้วเธออยากจะไปบ้านฉันไหม?” หลินเฟิงกล่าวพร้อมกับหลับตาปี๋
แต่เมื่อหลินเฟิงพูดจบ เขาก็อยากตบปากตัวเองจริง ๆ ที่พูดออกไป
แค่จากไปโดยที่ไม่ต้องทำอะไร ถ้านายไปแล้ว นายก็จะได้ไม่รู้สึกผิดต่อซูหว่านเอ๋อร์และไม่เสียใจต่อมู่ซินซิน
แต่คำพูดของผู้ชายมักชอบลวงหลอก บางคราวฉันก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรออกไป
“ฉัน ฉันจะไป แต่…” เมื่อหลินเฟิงถามออกมา มู่ซินซินก็ตกลงอย่างมีความสุข
“แต่อะไร?”
“แต่ฉันต้องไปขออนุญาตลุงของฉันก่อนน่ะ!” มู่ซินซินกล่าว
“โอ้ ได้สิ!”
เวลานั้น หลินเฟิงไม่รู้ตัวว่าเขาคิดอะไรอยู่ เขาไม่รู้ตัวว่าพูดหรือทำอะไรอยู่เลย
“นายจะไปกับฉันไหม?” มู่ซินซินมองไปที่หลินเฟิงอย่างคาดหวัง
สายตาของมู่ซินซินหลอมละลายหัวใจทั้งดวงของหลินเฟิงซึ่งทำให้เขาละทิ้งอีกความคิดไปอย่างสิ้นเชิง
“ได้สิ…”
ครู่ต่อมา
หลินเฟิงกับมู่ซินซินก็มาถึงที่ห้องของมู่เทียนเฉิง ตอนนี้อาการบาดเจ็บของมู่เทียนเฉิงดีขึ้นมากแล้ว นอกจากนี้เขาก็แข็งแกร่งมาก อาการบาดเจ็บก็ไม่ร้ายแรงและฟื้นตัวได้เร็ว เขาฟื้นขึ้นมาก่อนหลินเฟิง
“อุบ! แค่กแค่ก! ซินซิน, หลินเฟิง? นาย… “ มู่เทียนเฉิงกำลังดื่มชาอยู่ในห้อง เมื่อเห็นหลินเฟิงกับมู่ซินซินเดินตัวติดกันมา ชาในปากของเขาก็ถูกพ่นออกมาทันที
มู่เทียนเฉิงไม่คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างมู่ซินซินกับหลินเฟิงจะพัฒนาได้เร็วขนาดนี้ พวกเขาจับมือกันอย่างเปิดเผยในสถานีตำรวจเลยทำให้เขาพูดอะไรไม่ออกสักพัก
“ลุงคะ หนูขอไปเที่ยวบ้านของหลินเฟิงสักพักได้ไหมคะ ลุง?” มู่ซินซินกล่าวกับมู่เทียนเฉิงด้วยรอยยิ้ม
“พวกเธอ ความสัมพันธ์ของพวกเธอพัฒนาไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? พวกเธอจะไปพบพ่อแม่แล้ว? ” มู่เทียนเฉิงมองอย่างตกตะลึง
“โอ้ ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะลุง หนูแค่จะไปเล่นที่บ้านของเขาเฉย ๆ!” มู่ซินซินก้าวไปคล้องแขนของมู่เทียนเฉิงพร้อมเอ่ย
“โอเคไหมคะ ลุง ลุง…” มู่ซินซินคว้าแขนของมู่เทียนเฉิงมาเขย่าและแกว่งไปมาไม่หยุด
“อ่า อ่า โอเค โอเค! ไปสิ! การให้เด็กสาวอยู่บ้านคงจะรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก! ” มู่เทียนเฉิงถอนหายใจ
“เสี่ยวเฟิง นายออกไปก่อน ฉันขอคุยกับซินซินหน่อย!” มู่เทียนเฉิงเอ่ยกับหลินเฟิง
“โอเค ซินซิน ฉันจะไปรอข้างนอกนะ!” หลินเฟิงกล่าวแล้วเดินออกไป
“ซินซิน หนูต้องการอะไร? ตัดสินใจอยู่กับเขาแล้ว? ” เวลานี้มู่เทียนเฉิงพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“อืม ลุงคะ หนูคิดว่าจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตของหนู!” มู่ซินซินพยักหน้าหงึกหงัก
มู่เทียนเฉิงมองออกว่ามู่ซินซินกำลังเคร่งเครียดอยู่เพราะดวงตาของเธอแดงกล่ำ
“ลุงของหนูมีความสุขมากที่หนูได้เจอกับคนที่ชอบ ลุงก็ประทับใจหลินเฟิงตั้งแต่แรกเห็นมาก ในฐานะลุง ลุงหวังให้หนูมีความสุขนะ แต่… “
“แต่อะไรคะ? ลุง” มู่ซินซินเห็นใบหน้าของมู่เทียนเฉิงกังวลขึ้นมากระทันหันซึ่งทำให้มู่ซินซินตระหนกขึ้นมา
“แต่หนูก็รู้นิสัยพ่อกับแม่ของหนูดี พวกเขาจะไม่ยอมให้หนูแต่งงานกับคนจนที่ไม่หลักแหล่ง โดยเฉพาะพ่อของหนู แม้ว่าเราจะไม่รู้พื้นเพของหลินเฟิงซึ่งคงจะไม่ดีมากนัก ดังนั้นหนูควรคิดให้ดีก่อน ” มู่เทียนเฉิงกล่าวกับมู่ซินซิน
“อืม อืม ขอบคุณค่ะลุง ซินซินคิดเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ!” มู่ซินซินเอ่ย
“หากหนูอยากไปลุงก็ขอให้หนูได้มีช่วงเวลาที่ดี ๆ เดี๋ยวลุงจะเอาเงินใส่บัตรให้หนูไว้ใช้ จำไว้ว่าเมื่อขายบางอย่างเป็นครั้งแรก อย่าไปบ้านที่ว่างเปล่าของคนอื่น โอเคไหม?” มู่เทียนเฉิงกล่าว
“ค่ะ ขอบคุณที่เตือนค่ะลุง!” มู่ซินซินกอดมู่เทียนเฉิงแล้วจูบแก้ม
“โอ้ หนูโตแล้วแต่ยังสนิทกับลุง หนูไม่กลัวหลินเฟิงอิจฉาหรือ!” มู่เทียนเฉิงยิ้มร่า
“ฮ่า ฮ่า หนูไม่กลัวหรอก หนูไปแล้วนะคะลุง บ๊ายบาย!”
ด้านนอก หลินเฟิงกำลังรออย่างใจจดใจจ่อ เขาไม่รู้ว่ามู่เทียนเฉิงจะเห็นด้วยกับเขาหรือไม่ ขณะเดียวกันเขาก็กังวลอยู่ว่าจะอธิบายอย่างไรหลังกลับไปเจอพ่อกับแม่
“โอ้ เอาน่า ค่อย ๆ ไปทีละขั้นละกัน!” สิ่งที่หลินเฟิงสามารถทำได้ในตอนนี้คือปล่อยให้มันเป็นไป
“หลินเฟิง ไปกันเถอะ!” ทันใดนั้นมู่ซินซินก็ออกมาแล้วแตะหลินเฟิงอย่างกระทันหัน
“โอ้ อื้ม เป็นอย่างไรบ้าง? เธอดูมีความสุข อธิบดีตกลงเหรอ?” หลินเฟิงถาม
“ฮ่าฮ่า แน่นอนสิ ลุงรักฉันที่สุดอยู่แล้ว!” มู่ซินซินตอบ
“อื้ม งั้นก็ดี แล้วลุงพูดอะไรกับเธอเหรอ?” หลินเฟิงอยากรู้
“อ๋อ ไม่มีอะไรมากหรอก ไปกันเถอะ!”
เมื่อเห็นว่าเธอไม่บอก หลินเฟิงเลยไม่ถามต่อเลยทำเพียงแค่พาเธอไปบ้านของเขา
ขณะเดินทาง หลินเฟิงพามู่ซินซินไปบ้านด้วยมอเตอร์ไซต์พัง ๆ เขารู้สึกอึดอัดใจและตัดสินใจเงียบ ๆ ว่าจะซื้อรถสักคัน
“ว้าว มันสบายมากเลย ฉันรู้สึกเย็นในตอนที่ลมเป่าหน้า ฉันไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซต์มาก่อน มันแปลกมาก ๆ!” มู่ซินซินนั่งซ้อนท้ายหลินเฟิงแล้วมองไปรอบ ๆ อย่างมีความสุข
สาวเซ่อคนนี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนนับไม่ถ้วนที่ขับเมอซิเดสเบนซ์และบีเอ็มดับเบิ้ลยูมาตามจีบ แต่เธอกลับเลือกมาซ้อนมอเตอร์ไซต์กับหลินเฟิง หลินเฟิงที่ขี่เพียงมอเตอร์ไซต์คันหนึ่ง ได้ยินเสียงของมู่ซินซินที่ดูมีความสุข เขาอดที่จะมองดูเธอไม่ได้ : “นี่คือรักงั้นเหรอ?”