โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 183
RC:บทที่ 183 ใบมีดเงาเลือด
“นาย มันเป็นไปได้อย่างไรที่นายจะมีพลังสี่อย่างเต็ม 100%?” ผู้เฒ่าขาวไม่อยากจะเชื่อ
มันดูสมเหตุสมผลหากจะกล่าวว่าทุกคนสามารถมีพลังทุกรูปแบบได้ แต่ตามจริงแล้วมันจะเกิดความไม่สมดุล คนที่มีพลังสูงมักจะมีพลังเพียงหนึ่งหรือสองแบบเท่านั้น คนทั่วไปมักจะมีพลังต่ำมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะมีพลังสูง
แต่สถานการณ์นี้ของหลินเฟิงกลับดูมากเกินจริงเกินไป พลังทั้งสี่เต็ม 100% เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นแทบจะไม่ได้เลยแต่มันกลับเกิดขึ้นกับหลินเฟิง
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน!” หลินเฟิงกางมือและอธิบาย
“อ่า ใช่แล้ว! นี่ถือเป็นเรื่องที่ดี ดีอย่างมากที่มีพลังทั้งสี่สูงมาก ฉันอยากรู้นักว่าจะทำอย่างไรกับนายต่อไปดี! ” ผู้เฒ่าขาวนึกใคร่ครวญ
“อีกอย่าง นายมีสัตว์สงครามกี่ตัว?” ผู้เฒ่าขาวถามขึ้นมาอย่างทันที
“เอ่อ สามครับ!” หลินเฟิงตอบ
เรื่องที่หลินเฟิงมีสัตว์ต่อสู้สามตัวไม่ถือเป็นความลับเพราะหลินเฟิงใช้พลังหลายแบบคนอื่นเลยรู้อยู่แล้วว่าเขามีเท่าไหร่
อีกอย่าง หลายคนก็ได้เห็นมังกรดำกับมังกรแสงด้วยสายตาของพวกเขาเองแล้วจึงไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังอีก
“อืม หากคนอื่นสร้างพันธะสัญญากับสัตว์วิญญาณมากกว่าหนึ่งตัว ทุกคนคงจะคิดว่าเป็นเรื่องที่โง่เง่าแต่นายนั้นต่างออกไป พลังทั้งสี่แบบของนายเต็ม 100% หากทำพันธะสัญญากับสัตว์คู่หูเพียงตัวเดียวก็น่าเสียดายพลังของนาย” ผู้เฒ่าขาวเอ่ย
“แต่จะเกิดปัญหาใหญ่ในเรื่องยกระดับสัตว์วิญญาณ อืม หากในอนาคตนายสามารถขึ้นไปถึงระดับ a สูงสุดได้ มากับฉัน ฉันจะพาไปหาแก่นวิญญาณที่ทำให้นายทะลุไปถึงระดับ s ได้” ผู้เฒ่าขาวคิดและเอ่ยออกมา
“ขอบคุณครับ ผู้อาวุโส!” หลินเฟิงกอดแล้วขอบคุณ
ที่จริง หลินเฟิงไม่ได้ต้องการไปหากับผู้เฒ่าขาวเลย จึงเพียงแค่กอดแล้วขอบคุณเขา
“อีกอย่าง เอากริชนี่ไป!” ผู้เฒ่าขาวเอ่ยพร้อมโบกมือ กริชเลือดแดงก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา
“นี่คือ?” หลินเฟิงเหมือนจะเคยเห็นกริชอันนี้มาก่อน
“นี่คืออาวุธวิญญาณของคนที่ต่อสู้กับนายเมื่อวันก่อน – ใบมีดเงาเลือด อาวุธวิญญาณระดับต่ำ! แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่วัตถุระดับต่ำแต่ก็ทรงพลังและมีคุณค่า” ชายชราไป๋ยื่นใบมีดเงาเลือดให้แก่หลินเฟิง
หลินเฟิงนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นที่ท้องฟ้าถูกพัดไป พื้นที่ว่างปริแตกออกและมีมือเหี่ยว ๆ ยื่นออกมาจากในนั้นเพื่อบีบซูจ้านจนระเบิด
ภาพนั้นฝังติดอยู่ในใจของหลินเฟิงมาจนถึงตอนนี้ พวกเขารู้สึกราวกับฝันไปและตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
หลินเฟิงรับใบมีดเงาเลือดมาแล้วมองดูอย่างระมัดระวัง กริชนี้ยาวประมาณ 35 เซนติเมตรและมีสีแดงเลือด มีค้างคาวตัวหนึ่งสลักอยู่ที่ด้ามจับ
“ผู้เฒ่าขาว นี่คือวัตถุวิญญาณเหรอครับ?” หลินเฟิงถามขึ้นมาขณะที่มองไปยังใบมีดเงาเลือด
“อาวุธวิญญาณคืออาวุธที่สามารถรองรับพลังวิญญาณและปล่อยพลังออกมาได้อย่างมหาศาล อาวุธวิญญาณจะมีรูปร่างแบบใดก็ได้ เช่น ปืน, มีด,ดาบ หรือเป็นใบมีดเงาเลือดในมือของนายก็ได้ นี่เป็นอาวุธวิญญาณพลังมืดระดับต่ำ นายสามารถทดสอบพลังวิญญาณของมันก็ได้หากนายอยากปลุกมันขึ้นมา!” ผู้เฒ่าขาวแนะนำ
“มันสามารถใส่พลังวิญญาณแล้วปล่อยออกมาได้มากกว่าเดิมเหรอครับ?” หลินเฟิงสงสัย ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าขาวว่ามันสูญเสียพลังวิญญาณทั้งหมดไปแล้ว
ทันใดนั้น ใบมีดเงาเลือดก็เปล่งประกายแสงสีแดงออกมา หลินเฟิงรู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ในนั้น เขามองดูหลินเฟิงสลับโต๊ะหินในลานกว้างเบา ๆ แล้วขว้างใบมีดที่เปล่งแสงสีแดงออกไปผ่าโต๊ะหิน
เขาเห็นใบมีดที่เปล่งแสงสีแดงตัดมันราวกับเต้าหู้แล้วทะลุผ่านไป โต๊ะหินถูกแบ่งออกเป็นสองซีก ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ
“ช่างเป็นกริชที่คมมาก!” หลินเฟิงอุทาน
“ฮ่าฮ่า เป็นอย่างไรบ้างล่ะ? ฉันก็ประหลาดใจเช่นกัน เมื่อตอนที่ฉันได้รับอาวุธของตัวเองเป็นครั้งแรก ฉันก็ประหลาดใจเช่นเดียวกับนาย” ผู้เฒ่าขาวนึกถึงอดีต
“ผู้เฒ่าขาว ท่านก็มีวัตถุวิญญาณเหมือนกันเหรอครับ?” หลินเฟิงถาม
“แน่นอน ดูนี่!” ผู้เฒ่าขาวกล่าวพร้อมขยับมือ ทันใดนั้นก็ปรากฏดาบยาวขึ้นตรงหน้าเขา มันหมุนรอบตัวเขาอย่างต่อเนื่อง มันดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“ทำไม! ทำไมผมรู้สึกเหมือนว่าดาบยาวเล่มนี้มีความคิด? มันดูเหมือนกำลังสนุก! ” หลินเฟิงอุทานออกมา
“ใช่แล้ว มันเกิดสติปัญญาขึ้นมาเล็กน้อยจึงถูกเรียกว่าอุปกรณ์วิญญาณ” ผู้เฒ่าขาวมองดูดาบยาวที่กำลังบินอยู่รอบตัวเขา เอามือลูบมันเบา ๆ กล่าวได้ว่ามันคือของรักของหวงของเขาก็ว่าได้
อาวุธวิญญาณของชายชราไป๋คือดาบยาวสีฟ้าแต่เมื่อมองดูรูปร่างของมันแล้ว หลินเฟิงคิดว่ามันดูไม่เหมือนดาบของผู้ชายเพราะมันทั้งบาง, เบาและงดงาม มันควรจะเป็นของผู้หญิงมากกว่า แม้ว่าจะแปลกแต่หลินเฟิงก็ไม่ได้ถามออกไป
“ทำไมผมถึงไม่มีแบบนี้บ้าง?” หลินเฟิงถาม
“ฮ่าฮ่า แน่นอนว่านายจะยังไม่มีหรอกเพราะระดับของนายมันยังต่ำเกินไป มันเป็นเพียงแค่วัตถุวิญญาณระดับต่ำ หากจะสร้างสติปัญญาให้ อย่างน้อยก็ต้องทำให้กลายเป็นวัตถุระดับ s ซะก่อนถึงจะทำได้! ” ผู้เฒ่าขาวยิ้ม
“โอ้ ก็ได้!” หลินเฟิงกล่าวจากนั้นก็เก็บใบมีดเงาเลือดเข้าไปใส่ในแหวนมิติของเขา
“เอ๋ นายมีแหวนมิติด้วยรึ เยี่ยมเลย! ฉันจะทำให้นายอีกสักอัน! ” ผู้เฒ่าขาวเอ่ย
“ทำขึ้นมาสักอัน? ทำอย่างไรครับ? ” หลินเฟิงสงสัย เขาทำมันขึ้นมาได้ด้วยเหรอ?
“ก็ไม่ง่ายนัก ขโมย, ปล้น, ทำทุกทางให้ได้มา!เฮ้ เฮ้! ” ผู้เฒ่าขาวยิ้ม
“เอิ่ม หุบปากซะ!” หลินเฟิงคิดว่าเขาจะทำอะไร? ใคร ๆ ก็รู้ว่าคน ๆ นี้มักจะไร้เหตุผลและคาดเดาได้ยาก
“เอ่อ งั้นเลิกพูดเรื่องนี้เถอะ ฉันมีศิลปะการต่อสู้ระดับต่ำและระดับกลางจำนวนหนึ่ง นายเอาของพวกนี้ไปเรียนรู้เองนะ นายเรียนรู้ไปมากเท่าไหร่แล้ว? อีกอย่าง ให้ฉันเก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์อีก!” ผู้เฒ่าขาวกล่าว เขาโบกมือครั้งหนึ่งก็มีคัมภีร์ต่อสู้ออกมามากกว่าเจ็ดแปดเล่ม
“โอ้พระเจ้า มีคัมภีร์ต่อสู้เยอะแยะไปหมด พวกนี้ไม่ได้ถูกขโมยมาใช่ไหมครับ?” หลินเฟิงถาม
“อ่า อ่า อ่า นายไม่อยากเอาก็ เอาคืนละนะ!” เขากำลังจะเอาคืนกลับไป
“เอา, ไม่เอา, ไม่เอาก็โง่แล้ว!” หลินเฟิงไม่ได้มองดูสิ่งใดเลย เขาเก็บมันเข้าไปไว้ในแหวนมิติทั้งหมด
“เอ่อ ถึงเวลาแล้ว ฉันต้องไปก่อน หวังว่าคราวหน้าจะได้พบนายอีกครั้ง นายเป็นคนที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง!” ผู้เฒ่าขาวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“แข็งแกร่ง? หวังให้เป็นอย่างนั้น! ” หลินเฟิงกล่าวพอเป็นพิธี
“ลาล่ะ!” ผู้เฒ่าขาวโบกมือลาหลินเฟิง จากนั้นก็แหวกอากาศแล้วจากไป
“เขาสามารถแยกอากาศได้ตามปรารถนา ผู้เฒ่าขาวคงจะบรรลุแล้ว เมื่อไหร่ฉันจะทำอย่างนี้ได้บ้างนะ?” เมื่อมองไปที่รอยแยกอากาศ หลินเฟิงก็รู้สึกประหลาดใจและอิจฉา
“อ่า ฉันเองก็ออกมานานมากแล้ว ถึงเวลาต้องกลับสักที! แต่ว่า… “ ทันใดนั้นหลินเฟิงก็นึกถึงมู่ซินซินและลังเลที่จะเลิกคิด
“โอ้ เอาน่า แค่กล่าวลาเธอเอง!” หลินเฟิงคิดจากนั้นก็เดินไปที่ห้องของมู่ซินซิน