โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 175
RC:บทที่ 175 โจมตีครั้งเดียว
“หมัดเพลิง!”
เวลานั้น มังกรดำก็เอ่ยเตือนเขา หลินเฟิงไม่ลังเลเลยที่จะกระหน่ำยิงไปด้านหลัง
“ปัง!” ด้วยเสียงระเบิดอันดัง หลินเฟิงและมังกรดำบินถอยหลังแต่หางของมังกรดำกลับส่ายไปมาเพื่อรักษาสมดุลของตัวมัน
หลินเฟิงอารมณ์เสียมาก เขารู้สึกเหมือนทั้งมือของเขากำลังจะเป็นอัมพาตและมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย
“แข็งแกร่งชะมัด!” หลินเฟิงอุทานในใจ
หลังรับหมัดของซูจ้าน หลินเฟิงกับมังกรดำก็หายไปในบริเวณเดียวกันนี้ในทันที
“นายท่าน โปรดหาหนทาง ข้ารับรู้ได้ว่าเขาจะโจมตีเมื่อไหร่ ข้าจะรีบเตือนท่านในตอนที่ข้าออกไป!” มังกรดำเอ่ย
“โอเค คิดหาทาง คิดหาทาง…” หลินเฟิงกำลังเค้นสมองเพื่อคิดหาทาง
“ชายคนนั้นจะเข้ามาอีกแล้ว คราวนี้ทางซ้าย!” มังกรดำกล่าว แล้วตวัดหางของมันไปทางซ้ายตรงนั้น
“หมัดไฟนรก!” ครานี้หลินเฟิงปล่อยหมัดไฟนรกออกมาเพื่อกระตุ้นพลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้พลังหมัดของหลินเฟิงแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งสองฝ่ายต่างสู้กันด้วยกำปั้นและเกิดพลังปะทะขึ้นอย่างมหาศาล ผู้คนด้านล่างต่างก็รับผลกระทบไม่ไหวจึงวิ่งหนีไป
และหางของมังกรดำก็ปะทะเข้ากับปีกของค้างคาวเงาเลือดจนก่อให้เกิดประกายไฟ หลินเฟิงกับมังกรดำเพิ่งฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อยเช่นเดียวกับซูจ้านและค้างคาวเงาเลือด
นอกจากนี้ พลังวิญญาณของหลินเฟิงยังเหลืออีกเพียงนิดเดียว หมัดไฟนรกกินพลังวิญญาณในการเปลี่ยนรูปแบบจากหมัดไฟ เดิมทีแล้วมันจะถูกปล่อยออกมาจากพลังไฟของพลังวิญญาณตรง ๆ ซึ่งไฟก็จะไปกระตุ้นพลังของตัวมันเอง
อย่างไรก็ตาม หลินเฟิงใช้หมัดไฟนรกจากเสี่ยวเฮยเข้ามากระตุ้นด้วย
ไฟนรกนั้นแข็งแกร่งกว่าไฟดั้งเดิมมาก มันเป็นไฟที่ดับได้ยาก มีอุณหภูมิสูงอย่างน่ากลัว พลังวิญญาณที่ต้องใช้ไปจึงมากมายนับไม่ถ้วน
ในตอนที่หลินเฟิงมีพลังวิญญาณเต็มเปี่ยมนั้นเขาสามารถใช้ได้สูงสุดเพียงสามครั้งทำให้เห็นได้ว่าหมัดไฟนรกนั้นมีพลังมากแค่ไหน แต่มันก็ยังหมายความว่าหลินเฟิงจะสามารถใช้ได้สูงสุดได้เพียงแค่สามครั้งเท่านั้น
ตอนนี้หลินเฟิงเหลือพลังวิญญาณเพียงแค่ 80% ทำให้ใช้งานได้อีกเพียงครั้งเดียว อย่างมากที่สุดในตอนนี้เขาสามารถปล่อยพลังออกมาได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
นี่แปลว่าหลินเฟิงสามารถใช้รับการโจมตีจากซูจ้านได้อีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
“ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี?”
เวลานี้ ในหัวของหลินเฟิงเต็มไปด้วยความกังวล ตรงนี้มีคนอยู่เยอะมาก แต่ละครั้งที่หลินเฟิงรับมือ สถานีตำรวจที่ไม่มีเสาค้ำไว้ก็แทบจะถล่มลงมา
หลินเฟิงกำลังเค้นสมองหาทางแต่ซูจ้านกลับไม่ยอมให้เขาหาหนทางได้ ก่อนที่หลินเฟิงจะคิดหาทางออกได้ การโจมตีของซูจ้านก็เข้ามาหาอีกครั้ง
“นายท่าน เหนือหัว!” เสียงของมังกรดำเตือนขึ้นอีกครั้ง
มังกรดำและค้างคาวเงาเลือดต่างก็เป็นสัตว์วิญญาณที่มีพลังมืดแต่เลือดของมังกรดำเป็นเลือดจากมังกรระดับสูงของแท้ แม้จะไม่สมบูรณ์และยังไม่ได้รวมเข้าด้วยกันก็ตาม
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ญาณมืดของมังกรดำก็แข็งแกร่งกว่าค้างคาวเงาเลือดไปไกลโข แต่ความแตกต่างของทั้งสองที่มากเกินไปนั้น แม้มันจะรับรู้ได้แต่ก็ยากที่จะหลบหลีกทันในครั้งแรก
“ตายซะ! เอาไปอีกสักหมัด! ” ครั้งนี้ ซูจ้านไม่ได้เลือกโจมตีที่ด้านหลังแต่กลับมาจากด้านบนของหลินเฟิง
คราวนี้ การโจมตีทั้งรุนแรงและรวดเร็วกว่าครั้งก่อน หลินเฟิงรู้สึกตื้อไปหมด
“ที่จริง ไม่ใช่ความมืดที่ตรงข้ามกับแสงเหรอ? เพื่อหยุดพลังของเขา ต้องใช้พลังแสงเพื่อกลบความมืด! ” ในที่สุดตอนนี้หลินเฟิงก็หาทางแก้ปัญหาได้แล้ว
“มังกรแห่งแสงเป็นสัตว์วิญญาณพลังแสง เสี่ยวกวง จงปล่อยแสงทั้งหมดออกมา!” หลินเฟิงเอ่ยกับมังกรแสงที่กำลังปกป้องมู่ซินซินในระยะไกล
“กรร!”
เมื่อได้ยินเสียง มังกรแสงก็คำรามออกมา ปีกยักษ์ทั้งสองพัดศัตรูที่อยู่รอบ ๆ และจากนั้นก็กระพือปีกเพื่อบินขึ้นมา
มังกรแสงบินขึ้นมาที่ความสูง 100 เมตร จากนั้นมันก็คำรามและดูเหมือนว่ามีบางสิ่งกำลังจะออกมาจากปากของมัน ในนั้นปรากฏจุดแสงเล็ก ๆ ขึ้นมา
จากนั้นแสงสีขาวก็ขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น เพียงไม่กี่ลมหายใจก็กลายเป็นลูกบอลเล็ก ๆ ที่รวมแสงสว่างอยู่ในนั้น
“หมัดไฟนรก!” ขณะที่มังกรแสงปล่อยแสง หลิงเฟิงก็ไม่สามารถรอให้มันปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์ได้เพราะการโจมตีของซูจ้านได้เข้ามาถึงแล้ว
หลินเฟิงใช้พลังทั้งหมดที่เขามีในการปล่อยหมัดไฟคราวนี้ ก่อนหน้าหลินเฟิงใช้พลังของเขาไปเพียง 30% และเหลืออีก 45% ครั้งนี้ หลินเฟิงกระตุ้นพลังที่เขามีทั้งหมดออกมาทำให้พลังในตัวเขาหมดไปอย่างทันที
การมีและใช้ไปเป็นสัดส่วนโดยตรง เห็นได้จากแขนของหลินเฟิงที่ในขณะนี้กำลังถูกเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีดำราวกับพระอาทิตย์ดำที่ส่งพลังอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าไปหาซูจ้าน
ปัง!
การโจมตีนั้นทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ หลินเฟิงกับมังกรดำแทบจะไม่ขยับเขยื้อนเลยแต่ซูจ้านกับค้างคาวเลือดมืดนั้นกระเด็นไปไกล
การต่อสู้ของชายทั้งสองก่อให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่จนก่อเป็นรูปคลื่นพลังงานและแสงอย่างมหาศาลกลางอากาศ แผ่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง และทำให้ตัวของผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงลอยขึ้น
มันเป็นผลภายหลังจากการต่อสู้ ผู้คนมากมายล้มตายและบางคนก็บาดเจ็บ มันเป็นพลังที่น่าเหลือเชื่อและเป็นพลังของระดับ C
สิ่งที่เหลือเชื่อมากที่สุดก็คือซูจ้าน ตอนนี้แขนของเขาเคล็ดไปหมด มือสั่นไม่หยุด มีเลือดไหลลงมาตามแขนเป็นทางราวกับงู เขาเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งแขน
ซูจ้านจ้องมองหลินเฟิงอย่างงุนงง เขาอึ้งอยู่นานจนรู้สึกตัวเมื่อรู้สึกเจ็บที่แขนมากขึ้นอย่างชัดเจน
“ทำไมพลังระดับ C ถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?” ซูจ้านอดทนกับความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้น เขาหักมือขวาด้วยมือซ้ายของเขาจนเกิดเสียงดังคลิ๊กขึ้นหนึ่งครั้ง มันจึงสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ในอีกด้าน หลินเฟิงกลับรู้สึกเจ็บปวดมากกว่า ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเอาชนะคนที่ระดับสูงกว่าด้วยการโจมตีซูจ้านเพียงครั้งเดียว ที่จริงเขาน่าจะเสียเปรียบมากกว่า แต่เหตุผลที่เขาสามารถเอาชนะซูจ้านได้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียวก็เพราะเขาทุ่มพลังวิญญาณไปในครั้งเดียวจนหมดตัว
เวลานี้ ไม่มีพลังวิญญาณเหลืออยู่ในตัวของหลินเฟิงเลย ความรู้สึกอ่อนล้าพุ่งออกมาทั่วตัวจนเขาแทบจะหมดสติ
ที่แย่ไปกว่านั้น มือขวาของหลินเฟิงขยับไม่ได้อีกต่อไปอย่างกับมันถูกแขวนเอาไว้เฉยๆ และชโลมไปด้วยเลือดที่มากกว่าของซูจ้าน
“บ้าชิบ ไอ้หัวขโมยระดับ C สูงสุดบังอาจมาทำร้ายข้า! ยกโทษให้ไม่ได้! ” ตอนนี้ซูจ้านได้รับบาดเจ็บอย่างมากและแผลก็ไม่ใช่เบา ๆ
ก่อนหน้าที่เขาเล่นแมวไล่จับหนูกับหลินเฟิงเพราะเขาไม่คิดว่าหลินเฟิงจะทำให้เขาบาดเจ็บได้ แต่เวลานี้เขากลับโกรธขึ้นมาจริง ๆ
เป็นเพราะหมัดของหลินเฟิงในครั้งนี้ทำให้ซูจ้านเกือบจะสูญเสียทั้งมือของเขาไป โชคดีที่เขาหยุดมือไปชั่วขณะแล้วรีบดึงกลับ ไม่อย่างนั้นมือของเขาจะต้องหายไปแน่ ๆ
แต่แม้ว่ามือของเขาจะเร็วแล้ว แต่มันก็ยังคงเคล็ดอยู่ จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร
“เจ้าหนุ่ม แกยั่วโมโหข้าได้สำเร็จแล้ว ข้าคิดว่าแกน่าจะมีทักษะและความแข็งแกร่งอยู่บ้างเลยอยากรับแกเป็นลูกศิษย์ แต่ตอนนี้ข้าคิดว่าแกไม่คู่ควรกับความเมตตานี้แล้ว! อาวุธวิญญาณ ใบมีดเงาเลือด… “