โปรดเรียกผมว่า วีรบุรุษรีไซเคิล - ตอนที่ 174
RC:บทที่ 174 เคลื่อนย้ายเงา
“ให้เป็นหน้าที่ข้าในการฆ่าชายผู้นี้เถอะ!” ซูจ้านกล่าวอย่างโกรธแค้นที่ถูกหลินเฟิงหลอก
มันไม่ใช่ความผิดของเขา ในตอนนี้แม้แต่มู่ซินซินก็ยังถูกทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมของหลินเฟิงหลอกได้ เธอเกือบจะเชื่อว่าหลินเฟิงต้องการเข้าร่วมองค์กรราตรีขึ้นมาจริง ๆ ด้วยซ้ำ
โชคดีที่หลินเฟิงไม่เคยวางแผนไว้เพราะเขาไม่ต้องการเข้าร่วมองค์กรใด ๆ มาตั้งแต่แรก และแม้ว่านักพรตเต๋าคิ้วขาวจะต้องการให้เขาคารวะเป็นศิษย์ หลินเฟิงก็ไม่ตกลงอยู่ดี
“ค้างคาวเงาเลือด ขึ้นมา! ฉีกไอ้หนอนนั่นแล้วดูดเลือดมันซะ! ” ด้วยคลื่นพลังจากฝ่ามือของซูจ้าน ค้างคาวเงาเลือดก็หายตัวไป
ค้างคาวเงาเลือดเป็นสัตว์วิญญาณขั้นสูงที่มีพลังมืดแข็งแกร่ง ในคืนที่มืดมิดอย่างนี้จึงทำให้มันเป็นดั่งปลาในน้ำ ด้วยความรวดเร็วในการบินและความสามารถในการดักจับที่แปลกประหลาดทำให้เหมือนอย่างกับฝันร้าย
หลินเฟิงไม่รู้ว่ามังกรดำจะหยุดยั้งค้างคาวได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเอาชนะซูจ้านด้วยตัวของเขาเองแต่ในตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่ระดับ C สูงสุดเลยแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะล้มซูจ้านลง
แม้ว่ามังกรดำจะบอกวิธีฟื้นพลังอย่างรวดเร็วแก่เขาแล้ว แม้ว่าจะเป็นวันที่สดใสของเขาก็ตาม เขาก็คงไม่อาจต้านทานพลังระดับ A ได้
“ตายซะ! เจ็ดมีดลม! ” ก่อนที่หลินเฟิงจะคิดหาทางออกได้ ซูจ้านก็เข้ามาประชิดเพื่อโจมตีแล้ว
ซูจ้านควบคุมค้างคาวเงาเลือดให้พุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว ในมือของเขาปรากฏใบมีดลมอันนึงฟันลงมาที่หลินเฟิงอย่างรวดเร็ว
“ทักษะพลังลม?” หลินเฟิงประหลาดใจ เขาเพิ่งนึกถึงคำบอกเล่าของมังกรดำขึ้นมาได้
ค้างคาวเงาเลือดตัวนี้วิวัฒนาการมาจากสายพันธุ์ของค้างคาวผีดูดเลือด เมื่อก่อนค้างคาวผีดูดเลือดเป็นสัตว์วิญญาณที่มีพลังลม ภายหลังมันจึงได้วิวัฒนาการมาเป็นพลังมืด มันมีทั้งพลังมืดในขณะเดียวกันมันก็ยังไม่ทิ้งทักษะพลังก่อนหน้า
นี่จึงกล่าวได้ว่าซูจ้านมีสองพลัง เหมือนกับมังกรแสงของหลินเฟิงที่ก่อนหน้ามีพลังดินและต่อมาวิวัฒนาการไปเป็นพลังแสง ดังนั้นหลินเฟิงจึงมีพลังถึงสองอย่าง
ขณะที่หลินเฟิงคิด ใบมีดของซูจ้านก็มาถึงตัว มันมีถึงหกหรือเจ็ดใบมีดซึ่งแต่ละอันก็ทั้งเร็วและคมเป็นอย่างมาก
“โล่หินยักษ์!”
หลินเฟิงขี่อยู่บนมังกรดำ เมื่อเห็นใบมีดจำนวนมาก เขาก็รีบเรียกโล่หินยักษ์มาไว้ตรงหน้าอย่างทันที มีเพียงพลังวิญญาณที่มากกว่าสามเท่าจึงจะสามารถทลายโล่ให้แตกลงได้
ปัง ปัง ปัง!
มันปรากฏเสียงดังขึ้นสามครั้งในรวดเดียวเพราะมีใบมีดลมสามอันเข้าตัดมัน แต่กลับทำได้เพียงรอยตัดลึกสามรอยเท่านั้นแต่ไม่แตกหัก
แต่ก่อนที่หลินเฟิงจะทันได้ดีใจ ใบมีดลมอันที่สี่ก็ตัดฉับลงมา โล่หินยักษ์สั่นสะเทือนอย่างน่ากลัวและรอยแตกก็เริ่มเกิดขึ้น
พอใบมีดที่ห้าฟันลงมา รอยแตกก็ใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น
“ไม่นะ มันเป็นการโจมตีที่ทรงพลัง ก็สมควรกับที่เป็นพลังระดับ A ละนะ แค่ใบมีดลมไม่กี่อันก็ทำให้โล่หินยักษ์ของฉันแตกได้ซะแล้ว ” หลินเฟิงรู้สึกช็อค
อันที่หก ปัง!
เมื่อใบมีดลมอันที่หกฟันลงมา หลินเฟิงก็ชะงักเพราะโล่หินยักษ์แตกลงแล้ว แล้วใบมีดอันที่เจ็ดก็กำลังตามมา
ใบมีดลมอันนี้มีพลังมากที่สุด พลังของมันไม่สามารถเทียบกับอันอื่นได้เลย หลินเฟิงรับรู้ถึงพลังที่รุนแรงและรู้สึกว่าเหงื่อกำลังไหลออกจากหนังศีรษะของเขา
“มังกรดำบินลง!” หลินเฟิงรู้ดีว่าเขาคงหยุดมันไม่ได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่หลบ ขณะที่ใบมีดลมฟันลงมา มังกรดำก็บินลงอย่างรวดเร็ว
ใบมีดลมบินผ่านหัวของหลินเฟิงไปอย่างเฉียดฉิว เส้นผมของหลินเฟิงหลายเส้นถูกตัดออกไปแทนแล้วพวกมันก็ค่อย ๆ ลอยตกลงไปในอากาศ
“ฮู้!!! อันตรายเกินไป มันเกือบจะตัดหัวไปแล้ว! แน่นอนแล้วว่าฉันไม่มีทางจัดการชายคนนี้ได้เลย“
“ดีมาก น่าอัศจรรย์ใจที่ตอนแรกสามารถหยุดใบมีดทั้งหกของข้าได้และต่อมาก็หลบใบมีดที่เจ็ดได้!” หลังโจมตี ซูจ้านก็ไม่ลืมที่จะชื่นชมหลินเฟิง
“พลังระดับ C ทั่วไปยังไม่สามารถหยุดใบมีดของข้าได้แม้แต่หนึ่งหรือสองอันเลย เจ้าเป็นคนแรกที่สามารถหยุดใบมีดทั้งเจ็ดของข้าได้ ข้าปลื้มแทบตายแน่ะ! ” เมื่อชมหลินเฟิงจบเขาก็โจมตีต่อเลย
“ฮ่า ฮ่า ค้างคาวเงาเลือด จงเคลื่อนย้ายเงา!” ซูจ้านแสยะยิ้ม จากนั้นเงาของเขาและค้างคาวเลือดก็หายไปจากท้องฟ้า
“คน คนล่ะ? มังกรดำ คนหายไปไหน? ” หลินเฟิงมองไปรอบ ๆ และมองไม่เห็นใครเลย
ซูจ้านดูเหมือนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“นายท่าน ทางซ้าย!” มังกรดำเตือน
“ซ้าย?”
หลินเฟิงรีบหันหัวไปและเห็นเงาดำ ๆ แต่ก่อนที่เขาจะมองเห็นได้ชัดเจนเงานั้นก็หายไปอีกครั้ง
“นายท่าน ด้านบน!”
จากนั้นเสียงของมังกรดำก็ดังขึ้นอีกครั้ง หลินเฟิงมองตามอีกครั้ง เขาเห็นเพียงเงาดำ ๆ และจากนั้นก็หายไป
“นายท่าน ด้านหลัง!”
การรับรู้ของมังกรดำนั้นแข็งแกร่งกว่าหลินเฟิง มันเห็นซูจ้านปรากฏขึ้นทุกครั้งแต่เมื่อหลินเฟิงหันตาม ซูจ้านก็หายไปอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้น เขาหายไปไหนแล้ว?” หลินเฟิงถาม
“นายท่าน ค้างคาวเงาเลือดตัวนี้มีระดับที่สูงมากแม้ข้าจะสามารถรับรู้ตัวตนของมันได้ แต่ข้ากลับตามความเร็วมันไม่ทัน” มังกรดำกล่าว
เวลานั้น หลินเฟิงและมังกรดำไม่มีหนทางที่จะจัดการกับชายคนนี้ได้เลย เพราะค้างคาวเงาเลือดทั้งแข็งแกร่งและรวดเร็วจนหายตัวได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นอะไรไปล่ะ? หาข้าไม่เจอเหรอ? ทักษะและพลังของค้างคาวเงาเลือดของข้า การปิดเงาทำให้ข้าเคลื่อนย้ายเงาในความมืดได้อย่างอิสระในชั่วพริบตา ไม่มีใครจับข้าได้ นี่ถือเป็นทักษะที่ข้าภูมิใจมากที่สุดเลยล่ะ” เสียงหัวเราะของซูจ้านดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิด
“ทักษะของข้าไม่เคยถูกใช้กับคนที่ต่ำกว่าระดับ A มาก่อน แกจงดีใจที่ได้ตายด้วยทักษะของข้าซะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงของซูจ้านดังอยู่ภายในหูของหลินเฟิงแต่ตัวของเขากลับไม่ได้อยู่ตรงนี้
“เพียงชั่วพริบตาเหรอ?” หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจที่ซูจ้านมีทักษะที่ทรงพลังขนาดนี้ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงได้เป็นผู้นำในการต่อสู้ที่นี่
“ทำอย่างไรดี?” หลินเฟิงเอ่ยถามมังกรดำโดยไม่รู้ตัว
“นายท่าน ข้าไม่รู้ ท่านต้องคิดด้วยตัวของท่านเองเพราะท่านเป็นผู้นำ! นอกจากนี้ ความฉลาดของมนุษย์นั้นไร้ขีดจำกัด ท่านต้องพัฒนาให้มากขึ้น! ” ในสถานการณ์คับขัน มังกรดำยังกล่าวแบบนี้
เมื่อหลินเฟิงได้ยิน เขาก็ชะงักไป
“ใช่! ฉันเป็นผู้นำ ฉันเป็นเจ้านายของสัตว์วิญญาณและสัตว์วิญญาณก็เชื่อฟังคำสั่งของฉัน” หลินเฟิงเอ่ยกับตัวเองอย่างโง่งม
ตั้งแต่ทำพันธะสัญญาสัตว์วิญญาณ มีหลายอย่างที่ถามออกไปตรง ๆ และแม้แต่เรื่องง่าย ๆ ก็ขี้เกียจเกินไปที่จะคิดเอง
เวลานี้ เมื่อเขาเผชิญกับปัญหา หลินเฟิงรู้แค่เพียงถามกับผู้อื่นแต่เขากลับไม่คิดเองตั้งแต่แรก
“ใช่ ฉันสามารถคิดหาทางได้ ฉันสามารถคิดหาทางได้!” หลินเฟิงเอ่ยในใจ
“อีกอย่าง เขาเพียงพูดว่าการเคลื่อนย้ายเงาทำให้เขาเคลื่อนที่ในความมืดได้ ในความมืด ในความมืด…”
“ไม่ใช่ว่า ตราบใดที่เขาไม่ได้อยู่ในความมืด เขาก็ไม่สามารถเคลื่อนที่ตามต้องการได้ใช่ไหม? ดูเหมือนจะเป็นอย่างนี้ แต่จะแก้ทางเขาได้อย่างไร? ” หลินเฟิงกำลังเค้นสมอง
“เอาไปกินซะ!” ทันใดนั้น ซูจ้านก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของหลินเฟิง
“นายท่าน หลัง…”